ในปี 2021 นี้ ประเทศไทย ก็ได้เริ่มก้าวเข้าสู่ยุค 5G เต็มตัวกันแล้ว แน่นอนว่ามีมือถือ 5G หลากหลายยี่ห้อ และหลายรุ่น ที่ได้เปิดตัวกันมาเรื่อยๆ รวมไปถึงค่ายโอเปอร์เรเตอร์เจ้าใหญ่ ที่ได้ให้การบริการมือถือ 5G อย่างเป็นทางการแล้วด้วย ก็ยิ่งน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ไวขึ้น และการเชื่อมต่อเร็วแรงขึ้นด้วย
ทุกวันนี้ ต้องบอกเลยจริงๆ ว่าอินเทอร์เน็ตนั้น ได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตไปแล้ว และยิ่งในตอนนี้ ที่การใช้งาน 5G ได้เข้ามาในประเทศไทย อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งถ้าถามว่ามือถือ 5G เหนือกว่าแบบเก่า อย่าง 4G ยังไงบ้าง จะพูดสั้นๆ ก็คือมีการตอบสนอง และรับ – ส่งข้อมูล ที่ไว และส่งได้มากกว่าแต่ก่อน นอกจากนี้ยังให้ความถี่ ที่กระจายตัวกว้างกว่า ที่สำคัญก็คือ สามารถรองรับการใช้งานกับมือถือ ได้มากกว่าแต่ก่อนเยอะ และด้วยความเร็วนี้ จึงทำให้เราใช้งานทั้งแบบปกติ จะดูหนังก็โหลดไวขึ้น หรือจะเล่นเกมก็ไวปรื้ด (อ่านต่อ..5G คืออะไร รวมข้อมูลเกี่ยวกับ 5G) วันนี้เราเลยจะมาบอกกันว่า มีมือถือ 5G รุ่นไหนบ้างที่เปิดตัวมาแล้ว และสามารถใช้ 5G ได้ มาดูกันเลย
สัญญาณ 5G ตอนนี้ใครเปิดให้ใช้บริการบ้าง?
สำหรับคลื่น 5G ในตอนนี้นั้น จากข้อมูลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่ได้ประมูลคลื่นกันไป โดยนับจากเจ้าใหญ่ๆ ทั้ง 2 ค่าย คือ AIS และ TrueMove H ที่มีการประมูลคลื่น 5G ที่ความเร็ว 2600 MHz ก็ได้มีการเปิดให้บริการแล้ว โดยช่วงความเร็วจะอยู่ที่ 100 MHz (60/80 MHz) และของ TrueMove H จะมีช่วงความเร็วอยู่ที่ 90 MHz (50/90 MHz) ซึ่งความเร็วทั้งหมด ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ให้บริการด้วย บางพื้นที่ก็อาจจะส่งไปไม่พอ ในส่วนของค่าย Dtac จะใช้เป็น 26 GHz แทน และต้องอยู่ในพื้นที่ของ Dtac Hall เท่านั้นด้วย เนื่องจากมีการส่งคลื่นความถี่ ที่ไม่ได้ไกลนัก จึงใช้ได้แค่ในบริเวณใกล้ๆ
มือถือ 5G ที่เปิดตัวแล้วสามารถใช้งานได้ในปี 2021
สำหรับมือถือ 5G ที่ใช้งานได้ในตอนนี้ จะมีอยู่ในเกือบทุกยี่ห้อ ตั้งแต่ยี่ห้อเรือธงใหญ่ๆ ไล่ลงมาเรื่อยๆ ได้เลย ส่วนรุ่นต่างๆ ก็จะมีรุ่นที่เป็นมือถือ 5G ตั้งแต่ราคาเริ่มต้น ที่ไม่แพง ไปจนถึงมือถือรุ่นสเปคแรงๆ ระดับเรือธง ก็มีเข้ามาให้เลือกหลายรุ่นแล้ว มาดูกันเลยดีกว่า ว่ามีมือถือ 5G ยี่ห้อ และรุ่นไหนที่รองรับ สามารถใช้งานได้บ้าง เราจะมาบอกสเปคคร่าวๆ กันด้วย ลุย
มือถือ 5G ของ Samsung
Samsung Galaxy S21 Series
มาเริ่มกันที่มือถือ 5G รุ่นแรกกันก่อนเลย กับซีรีส์ของ Samsung S21 ที่สามารถใช้งาน 5G ได้หมดทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy S21, Samsung Galaxy S21 Plus และรุ่นท็อปสุดคือ Samsung Galaxy S21 Ultra ซึ่งทุกรุ่นนั้นจะใช้หน้าจอเป็นกระจกแข็ง Gorilla Glass Victus ที่มีความแข็งแรงสูง พร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X แสดงผลได้ถึงระดับ HDR 10+ ส่วนความกว้างนั้นจะต่างกัน โดยมีความกว้าง 6.2, 6.7 และ 6.8 นิ้วตามลำดับ แต่ใส่ชิปเป็นตัวเดียวกันคือ Exynos 2100 ให้เครื่องเร็วแรงใช้ได้ทุกรูปแบบแน่นอน ส่วนกล้องหลังในรุ่น S21 และ S21+ นั้นจะใช้เป็นกล้อง 3 ตัวคือ 12MP+ 64M+ 12MP และกล้องหน้า 10MP เหมือนกัน แต่รุ่น S21 Ultra จะเป็นกล้อง 4 ตัวคือ 108MP+ 10MP+ 10MP+ 12MP และกล้องหน้า 40MP โดยรวมแล้วคือเป็นตัวเทพตัวนึง และเพิ่งเปิดตัวออกมาให้ใช้งานเมื่อต้นปีนี้เอง ดีไซน์สวยหล่อแถมราคาก็ถูกใจคนใช้งานมากๆ
- Samsung Galaxy S21 ราคา 27,900 บาท
- Samsung Galaxy S21 ราคา 33,900 บาท
- Samsung Galaxy S21 Ultra ราคา 39,900 บาท
Samsung Galaxy M42 5G
มือถือรุ่นนี้จะเปิดตัวในวันที่ 28 เมษายนที่กำลังจะถึงนี้ เลยขอเอาข้อมูลบางส่วนจากต่างประเทศมาฝากกันก่อน ซึ่งน่าจะเป็นอีกรุ่นที่ราคาไม่ถึงหมื่น แต่ได้สเปคเทพมาใช้งานกันเลย โดยหน้าจอนั้นจะเป็นแบบ AMOLED กับความกว้าง 6.6 นิ้ว มาพร้อมกับชิปตัวแรงอีกเช่นเคยคือ Snapdragon 750G พร้อมกล้องหลัง 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP (หรืออาจสูงสุด 64MP) + อัลตร้าไวลด์ 8MP + มาโคร 5MP และชัดลึก 5MP ส่วนแบตนั้นได้มากถึง 6,000 mAh กันเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็ต้องรอวันเปิดตัวอีกทีแล้วเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้ง ส่วนราคาถ้าลองคำนวณดูแล้วอาจอยู่ที่ 9,000 กลางๆ และไม่น่าเกิน 10,000 บาท
Samsung Galaxy A52 5G
มือถือ 5G ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กับรุ่น A52 5G ที่มีสเปคมาให้โหดมาก แถมราคายังไม่แพงมาก เหมาะกับการสร้างคอนเทนต์ต่างๆ ที่ต้องใช้กล้องจากมือถือถ่ายเป็นอย่างมาก ด้วยหน้าจอแบบ AMOLED ที่มีความกว้าง 6.5 นิ้ว และยังมี Refresh Rate มากถึง 120Hz พร้อมกับชิปเซ็ตตัวแรงของ Snapdragon 750G ช่วยให้ใช้งาน หรือจะเล่นเกมก็ไหลลื่นไปหมด กล้องหลังก็ดีไซน์มาอย่างสวยงามถึง 4 กล้องมีความละเอียดที่ 64MP + อัลตร้าไวลด์ 12MP + มาโคร 5MP และชัดลึกอีก 5MP กับ Super AI Camera Pro+ ที่เข้ามาช่วยประมวลผลภาพให้สวยงามยิ่งขึ้น ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดที่ 32MP ถ่ายเซลฟี่ได้สบายๆ แบตเตอรี่ก็ไม่ต้องกลัวจะหมดไว เพราะมีความจุมาให้ 4,500 mAh รองรับ Fast Charging อีก 25W และมี 4 สีให้เลือกคือ Black, White, Blue และ Purple อ่านรีวิวได้ที่นี่
- ราคาเปิดตัวรุ่น Samsung Galaxy A52 5G มีราคาเพียง 13,499 บาท
Samsung Galaxy A32 5G
มือถือ 5G รุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวมาใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เอง และแถมยังน่าใช้มากๆ ด้วย เพราะมีราคาที่ไม่แพง แต่ว่าการใช้งานนั้นคุ้มอยู่พอสมควรเลย ด้วยหน้าจอที่เป็นแบบ IPS-LCD ให้ภาพคมชัดดี กับความความกว้างขนาด 6.5 นิ้ว ขนาดกำลังพอเหมาะพอดี และได้ชิปมาเป็นตัว Dimensity 720 ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม กล้องหลังของรุ่นนี้จะมีอยู่ 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + มาโคร 5MP และชัดลึกอีก 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ 13MP พอดีต่อการใช้งานทั่วไปมาก แบตเตอรี่นั้นก็ยังคงความยิ่งใหญ่เหมือนเดิม โดยมีความจุถึง 5,000 mAh รองรับ Fast Charging สูงสุด 15W ใช้กันได้ยาวๆ ทั้งวันไปเลย มี 4 สีให้เลือกคือ Black, White, Purple และ Bluelight
- ราคาเปิดตัวรุ่น Samsung Galaxy A32 5G มีราคาอยู่ที่ 9,999 บาทเท่านั้น
Samsung Galaxy A42 5G
มือถือ 5G รุ่นต่อมานี้เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงเป็นรุ่นที่น่าสนใจอยู่ โดยหน้าจอนั้นจะเป็นกระจกแข็ง และเป็นแบบ Super AMOLED ความกว้างขนาด 6.6 นิ้วกำลังดี มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 750G ตัวแรงที่สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลแน่นอน กล้องหลังของตัวนี้จะมีอยู่ 4 ตัวเป็น 48MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + มาโคร 5MP และเลนส์ชัดลึก 5MP ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียดมากถึง 20MP ถ่ายเซลฟี่ได้สบายๆ เลย แบตเตอรี่ก็ให้มาใช้งานอย่างเต็มเปี่ยมที่ความจุ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 15W มี 3 สีให้เลือกคือ Black, White และ Gray
- ราคาเปิดตัว Samsung Galaxy A42 5G มีราคาอยู่ที่ 11,990 บาท
Samsung Galaxy Note 20 5G
มาที่มือถือ 5G รุ่นต่อไปกันเลย กับตัว Galaxy Note 20 ในรุ่น 5G ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ด้วยความชัดระดับ HDR 10+ ในความกว้างหน้าจอ 6.7 นิ้ว นอกจากนี้ยังได้ความเร็วจากชิป Exynos 990 มาเป็นตัวช่วยให้เครื่องนี้ มีความเร็วมากขึ้น ส่วนกล้องหลัง มีสามตัว และมีความละเอียดที่ 12MP + อัลตร้าไวลด์ 12MP + เทเล 64MP และกล้องหน้าที่ความละเอียด 10MP กับแบตความจุ 4,300 mAh รองรับ Fast Charging สูงสุด 25W และมีปากกา S-Pen มาให้ใช้งานด้วย มีสีให้เลือก 3 สี คือ Mystic Green, Mystic Bronze และ Mystic Gray
- ราคาของรุ่น 5G มีราคาเปิดตัวคือ 33,900 บาท
Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G
สำหรับมือถือ 5G อีกรุ่นหนึ่งของ Note 20 Series ที่เป็นรุ่น Ultra 5G โดยรุ่นนี้ จะต่างจากตัวปกตินิดหน่อยคือ มีหน้าจอเป็น Dynamic AMOLED ที่ความชัดระดับ HDR 10+ กับความกว้างหน้าจอ 6.9 นิ้ว และมี Refresh Rate สูงถึง 120Hz เลยด้วยนะ ส่วนชิปนั้น จะได้ชิปตัวเดียวกันคือ Exynos 990 มีความเร็วแรงแน่นอน นอกจากนี้ยังมี S-Pen มาให้ด้วยเช่นกัน ในของกล้องหลังของตัวนี้ จะเป็น 3 ตัวและความละเอียด 108MP + อัลตร้าไวลด์ 12MP + เทเล 12MP และมีเลเซอร์โฟกัสให้ด้วย ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 10MP กับแบตมากถึง 4,500 mAh พร้อมการรองรับ Fast Charging สูงสุด 25W มีสองสีคือ Black และ Mystic Bronze
ดูพรีวิว Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G
ราคาเปิดตัวของรุ่น 5G นั้น มีราคาคือ
- Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G RAM 12GB ROM 256GB ราคา 42,900 บาท
- Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G RAM 12GB ROM 512GB ราคา 46,900 บาท
Samsung Galaxy S20 Ultra 5G
มาถึงมือถือ 5G ใน Series ของ S20 กันบ้าง ที่ได้ทำรุ่น 5G ออกมาให้ได้ใช้กันถึง 2 รุ่น โดยรุ่นนี้จะเป็นตัวท็อปสุด มีหน้าจอเป็น Dynamic AMOLED มีความกว้างอยู่ 6.9 นิ้ว แถมยังได้ชิปตัวแรงเป็น Exynos 990 ช่วยให้เล่นได้อย่างไหลลื่น ส่วนกล้องหลังของตัวนี้จะเป็น 108MP + 12MP + 48MP + TOF ถ่ายวิดีโอได้ถึง 8K กันเลย และกล้องหน้าก็ได้ความละเอียด มากถึง 40MP ถ่ายเซลฟี่กันสนุกสนานแน่นอน นอกจากนี้ยังได้แบตที่ความจุสุดโหดมา 5,000 mAh พร้อมรองรับ Fast Charging สูงสุด 45W มีสองสีคือ Black และ Gray
ดูรีวิว Samsung Galaxy S20 Ultra 5G
- ราคาเปิดตัวของรุ่นนี้ มีราคาอยู่ที่ 39,990 บาท
Samsung Galaxy S20 FE 5G
มือถือ 5G รุ่นที่ออกมาใหม่เพียงไม่นาน โดยเป็นรุ่นที่ทำขึ้นมาเพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะ ซึ่งแฟนคลับอยากได้อะไร รุ่นนี้ก็จัดมาให้ไม่ยั้ง โดยหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็น Super AMOLED กับความกว้างของหน้าจอ 6.5 นิ้ว มี Refresh Rate ที่ 120Hz แถมยังได้ชิปตัวแรงของ Snapdragon 865 ที่มาช่วยให้เครื่องเร็วแรงขึ้นเยอะเลย ในส่วนของกล้องหลังก็มาโหดไม่แพ้กัน โดยจะเป็น Triple Camera ที่ความละเอียด 2MP + อัลตร้าไวลด์ 12MP + เทเล 8MP ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดถึง 4K และกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP และแบตที่ความจุ 4,500 mAh รองรับ Fast Charging สูงสุด 25W รุ่นนี้จะมีสีให้เลือกเยอะมากถึง 6 สีคือ White, Red, Green, Blue, Purple และ Orange
ราคาเปิดตัวของ Samsung Galaxy S20 FE 5G มีราคาอยู่ที่
- Galaxy S20 FE 5G (RAM 8GB ROM 128GB) ราคา 23,900 บาท
- Galaxy S20 FE 5G (RAM 8GB ROM 256GB) ราคา 25,900 บาท
Samsung Galaxy A71 5G
มือถือ 5G รุ่นน้องเล็กอย่าง A71 กันบ้าง ที่ได้ทำรุ่น 5G ออกมาเหมือนกัน ถึงจะเป็นรุ่นตัวเล็ก แต่สเปคก็แน่นจัดเลย โดยหน้าจอจะเป็น Super AMOLED Plus ที่ขนาดความกว้าง 6.7 นิ้ว และชิปเซตรุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดาเลย โดยได้ชิป Exynos 980 5G มาช่วยเสริมให้แรงขึ้น พร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว มีความละเอียด 64MP + อัลตร้าไวลด์ 12MP + มาโคร 5MP และ Depth 5MP และกล้องหน้าที่มีความละเอียด 32MP และความจุของแบตมากถึง 4500 mAh รองรับ Super Fast Charging สูงถึง 25W มีสีให้เลือก 3 สีคือ Silver, Bluelight และ Prism Black
- ราคาเปิดตัวของรุ่น Samsung Galaxy A71 5G มีราคาอยู่ที่ 19,990 บาท
มือถือ 5G ของ Huawei
Huawei Mate 40 Pro
มือถือ 5G ตัวเทพสุดของ Huawei ในตอนนี้เลยทั้งกล้อง และสเปคต่างๆ ที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว และเป็นอีกรุ่นที่ยังน่าใช้งานอยู่ โดยหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบ curved OLED ที่ขนาดความกว้าง 6.76 นิ้ว กับ Refresh Rate 90Hz และ touch-sensing อีก 240Hz แค่หน้าจอก็จัดเต็มมาขนาดนี้แล้ว ยังได้ชิปเซ็ตเป็นตัว Kirin 9000 5G ที่ใช้งานได้อย่างลื่นๆ เลย จะเล่นเกมหรือใช้ทำอะไรก็ได้หมด มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวที่ความละเอียด 50MP + อัลตร้าไวลด์ 20MP และ Periscope telephoto 12MP ถ่ายได้สนุก ชัดเจนทุกรูปแบบ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ 13MP เซลฟี่ได้สบายๆ สุดท้ายคือแบตที่ดูเหมือนจะไม่ได้เยอะมากที่ความจุ 4,400 mAh แต่รองรับ Fast Charging มากถึง 66W ไม่ต้องกลัวว่าหมดแล้วจะใช้เวลาชาร์ตนานเลย รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 2 สีคือ Black และ Mystic Silver
- ราคาเปิดตัวของรุ่น Huawei Mate 40 Pro มีราคา 34,990 บาท
Huawei Mate Xs 5G
มือถือ 5G แบรนด์ใหญ่อย่าง Huawei กันบ้าง ที่ได้มีมือถือ 5G อยู่หลายรุ่นเหมือนกัน เริ่มด้วยตัวแรกนี้ ที่เป็นนวัตกรรม มือถือพับได้เหมือนกัน โดยหน้าจอของตัวนี้ จะเป็น OLED แบบ Foldable Display ทั้งหน้าและหลังเลย ส่วนความกว้างตัวนี้จะแบ่งเป็น 3 จอคือ หน้าจอตอนพับกว้าง 6.6 นิ้ว ด้านหลังตอนพับกว้าง 6.38 นิ้ว และเมื่อกางออกมาจะมีความกว้าง 8 นิ้ว และได้ชิปเซ็ตเป็น Kirin 990 5G ก็ถือว่าเร็วแรงเลยแหละ กล้องกลังของตัวนี้ มีความละเอียดที่ 40MP + 16MP + 8MP + TOF และกล้องหน้าก็ใช้ตัวเดียวกับกล้องหลังเลย โดยการพับเข้ามา ความจุของแบตรุ่นนี้มี 4,500 mAh รองรับ Face Charge มากถึง 55W สูงมาก มีสีดำให้เลือกสีเดียว
- ราคาเปิดตัวของ Huawei Mate Xs 5G มีราคาอยู่ 89,990 บาท
Huawei P40 Series 5G
สำหรับมือถือ 5G ในรุ่น P40 Series นี้จะมีด้วยกัน 3 รุ่นย้อยได้แก่ P40, P40 Pro และ P40 Pro+ ซึ่งมีข้อแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย แต่หน้าจอจะเป็น OLED เหมือนกันหมด ส่วนความกว้างก็มีตางกันคือ ในรุ่น P40 จะกว้าง 6.1 นิ้ว ส่วนอีกสองรุ่นจะเท่ากันคือ 6.58 นิ้ว ส่วนชิปจะเหมือนกันทั้งหมดคือ Kirin 990 5G ช่วยให้เครื่องมีความเร็วมากขึ้น และที่ดูต่างกันจริงๆ จังๆ ก็คงเรื่องของกล้องนี่แหละ ที่ตัว P40 เป็นกล้อง 3 ตัวคือ 50MP + 16MP + 8MP ในรุ่น P40 Pro มี 3 ตัวคือ 50MP + 40MP + 12MP + ToF 3D depth และตัวสุดท้าย P40 Pro+ มีกล้อง 4 ตัวคือ 50MP + 40MP + 8MP (Zoom) + 8MP + TOF 3D ส่วนกล้องหน้าท่ากันหมดที่ความละเอียด 32MP สุดท้ายคือแบตในรุ่น P40 มีความจุ 3,800 mAh และอีกสองรุ่นเท่ากันคือ 4,200 mAh
ราคาของ HUAWEI P40 Series 5G มีราคาเปิดตัวดังนี้
- Huawei P40 ราคา 22,900 บาท
- Huawei P40 Pro ราคา 31,990 บาท
- Huawei P40 Pro+ ราคา 40,990 บาท
Huawei nova 7 Series 5G
มือถือ 5G รุ่นราคากลางของ Huawei ก็มีทำออกมาเหมือนกัน โดยรุ่น Nova7 Series ที่มี 5G ให้ใช้งานอยู่ 2 รุ่นคือ Nova7 และ Nova7 SE ทั้งสองรุ่นหน้าจอจะต่างกันที่ Nova7 เป็น OLED ที่มีความกว้าง 6.53 นิ้ว ส่วนของตัว SE จะเป็นแบบ LTPS IPS LCD ความกว้าง 6.5 นิ้ว แต่ก็ให้ความคมชัดที่พอใช้งานอยู่แล้ว ชิปเซ็ตก็ต่างกันด้วย ในรุ่น Nova7 จะใช้ชิป Kirin 985 ให้ความแรงได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว ส่วน SE จะใช้ชิปเป็น Kirin 820 5G ต่างกันพอสมควรแต่ก็รองรับ 5G ได้อยู่นะ มาที่เรื่องของกล้องกันบ้าง กล้องหลังของ Nova7 จะเป็นกล้อง 4 ตัวที่ความละเอียด 64MP + 8MP + 8MP และ 2MP ส่วนในรุ่น SE จะดรอปลงมานิดนึงที่เป็นกล้อง 4 ตัวที่ความละเอียด 64MP + 8MP + 2MP + 2MP ส่วนแบตจะมีความจุเท่ากันคือ 4,000 mAh รองรับการชาร์จเร็วสูงถึง 40W
ราคาของ Huawei nova 7 Series 5G มีราคาเปิดตัวดังนี้
- Huawei nova 7 SE ราคา 11,990 บาท
- Huawei nova 7 ราคา 16,990 บาท
Huawei Mate 30 Pro 5G
มาถึงมือถือ 5G ตัวสุดท้ายของค่ายนี้กันแล้ว โดยรุ่นนี้ ถึงแม้จะออกมานานแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นรุ่น 5G ตัวแรกๆ ในไทยเลย ที่ทำออกมาวางขาย โดยหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็น OLED ที่ขนาดความกว้าง 6.53 นิ้ว ใหญ่พอสมควร มาพร้อมกับชิป Kirin 990 5G ให้การใช้งานลื่น ไม่สะดุด และในกล้องหลังจะมีอยู่ 4 ตัว มีความละเอียดอยู่ 40 MP + 40MP + 8MP และเลนส์จับภาพ 3 มิติ กับกล้องที่มีความละเอียด 32MP และแบตขนาด 4,500 mAh รองรับการชาร์จเร็วถึง 40W
ราคาเปิดตัวของ Huawei Mate 30 Pro 5G มีราคา 28,990 บาท
มือถือ 5G ของ Vivo
Vivo Y72
มือถือ 5G รุ่นแรกของ vivo ในซีรีส์ Y ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้วเช่นกัน ซึ่งรุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ได้สเปคครบๆ อีกรุ่นหนึ่งเลย ไม่ว่าจะเป็นกล้อง หน้าจอ สเปค หรือแบตที่ให้มาใช้งานกันอย่างจุใจ โดยหน้าจอของตัวนี้จะเป็นแบบ IPS-LCD กับความกว้าง 6.58 นิ้ว ขนาดกำลังพอดีมือ ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ส่วนชิปนั้นจะเป็น Dimensity 700 ที่มีความเร็วถึง 2.2GHz ไม่ต้องห่วงว่าจะเล่นเกมไม่ได้ เพราะเล่นได้ดีแน่นอน กล้องหลังจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP และมาโคร 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดที่ 16MP ถ่ายได้สวยๆ เลย และสุดท้ายคือแบตที่ให้มาจุใจมากๆ ที่ความจุ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W มีให้เลือกอยู่ 2 สีคือ Black และ Purple
- ราคาเปิดตัวของ Vivo Y72 มีราคาอยู่ที่ 9,999 บาท
Vivo Nex 3 5G
มือถือ 5G จากค่ายที่มีราคากลางๆ พอจะจับต้องได้สบายๆ กันบ้างกับ Vivo Nex 3 5G ที่มีหน้าจอเป็นแบบ Super AMOLED ให้ความชัดถึงระดับ HDR 10 มาพร้อมกับความกว้างมากถึง 6.89 นิ้ว ใหญ่มากแม่ ที่สำคัญคือได้ชิปเซ็ตตัวแรงมาช่วยเสริมคือ Snapdragon 855+ เล่นกันไหลๆ เลย กล้องหลังก็ไม่เบานะ โดยจะเป็นกล้อง 3 ตัว ที่ความละเอียด 64MP + 13 MP + 13 MP และกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ก็ใช้งานได้ดีเลย ส่วนแบตก็ได้ขนาดมาตรฐานคือ 4500 mAh รองรับ Fast Charging 22.5W มี 2 สีคือ Black และ Blue
ราคาปิดตัวของ Vivo Nex 3 5G มีราคา 22,999 บาท
Vivo X50 Pro 5G
มือถือ 5G อีกรุ่นที่น่าสนใจของ Vivo ก็คือรุ่น X50 Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน แถมยังมีลูกเล่นเด็ดๆ อย่าง Gimbal ที่เข้ามาช่วยกันสั่นให้กับกล้องหลัง รุ่นนี้มีหน้าจอเป็น AMOLED กับความกว้างของหน้าจอ 6.56 นิ้ว และยังได้ชิป Snapdragon 765G มาช่วยทำให้เครื่องนี้ เร็วแรงมากขึ้นไปอีก ส่วนกล้องหลังตัวเด่นนี้จะเป็นกล้อง 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP + 8MP + 13MP + 8MP มีกันสั่นระดับ Gimbal วิ่งถ่ายวิดีโอยังเหมือนเดิน ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ 32MP กับความจุแบต 4,315 mAh และรองรับ Fast Charge ถึง 33W
ราคาเปิดตัวของ Vivo X50 Pro 5G มีราคา 24,999 บาท
Vivo V20 Pro 5G
มือถือ 5G รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่น ที่เพิ่งเปิดตัวไปปีที่แล้วนี้เอง ก็เรียกได้ว่าเปิดกันมารัวๆ เลยสำหรับ Vivo V20 5G ตัวนี้ ที่มีดีไซน์บางเฉียบ โดยหน้าจอของตัวนี้จะเป็น AMOLED กับขนาดความกว้าง 6.44 นิ้ว ขนาดกำลังดี ได้ตัวเสริมความเร็วแรงเป็นชิป Snapdragon 765G กับกล้องหลัง 3 ตัว ที่ความละเอียด 64MP + 8MP + 2MP ส่วนกล้องหน้ามีมาให้ถึง 2 ตัวกันเลย ที่ความละเอียดมากถึง 44MP และ 8MP พร้อม Eye Autofocus เรียกได้ว่าเทพๆ เลยแหละ ส่วนแบตจะมีความจุอยู่ 4,000 mAh รองรับ Fast Charge 33W
ราคาเปิดตัวของ Vivo V20 Pro 5G จะมีราคาอยู่ที่ 14,999 บาท
มือถือ 5G ของ OPPO
OPPO A74 5G
มือถือ 5G ของ OPPO รุ่นนี้ เพิ่งเปิดตัวออกมาหมาดๆ เลย แถมเป็นรุ่นที่มีสเปคและการดีไซน์ออกมาได้สวยงามน่าใช้มากๆ ที่สำคัญคือราคาไม่ถึงหมื่น! แต่ได้สเปคดีขนาดนี้ ใครที่มองหามือถือราคาไม่แรง แต่มีสเปคดีเยี่ยมต้องรุ่นนี้เลย รุ่นนี้มีหน้าจอเป็น IPS-LCD ความกว้าง 6.5 นิ้วกำลังดี และยังมี Refresh Rate 90Hz พร้อมกับ touch-sensing 180Hz อีก แค่หน้าจอก็คุ้มแล้ว เพิ่มความแรงและความคุ้มด้วยชิป Snapdragon 480 เล่นเกมได้สบายๆ ส่วนกล้องหลังก็มีมาถึง 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP กับกล้องหน้าความละเอียด 16MP และความจุแบตจัดเต็ม 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W มีให้เลือกอยู่ 2 สีคือ Black และ Space Silver
- ราคาเปิดตัวของ OPPO A74 5G มีราคาเพียง 8,999 บาทเท่านั้น
OPPO RENO 5 Series 5G
มาถึงมือถือ 5G ค่าย OPPO กันบ้างกับมือถือ 5G ที่ปีนี้ก็มีรุ่นเปิดตัวออกมาไม่เบาเหมือนกัน โดยในรุ่นนี้ได้เปิดตัวออกมาในช่วงต้นปี 2021 นี้เอง โดยในซีรีส์นี้มีราคาที่ไม่สูงมาก แต่ได้ใช้งานกันแบบเต็มที่เร็วแรงสุดๆ ซึ่งหน้าจอจะเป็นแบบ AMOLED ที่มีขนาดความกว้าง 6.43 นิ้ว ขนาดไม่ถึงกับเล็กมาก ตัวเทพก็คือชิปเซ็ตที่ได้ Snapdragon 765G มาเสริมแรงให้เครื่องแรง พร้อมทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือใช้แบบทั่วไป แถมยังมีกล้องมาให้ถึง 4 ตัวที่ความละเอียด 64MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + เทเล 2MP และมาโคร 2MP ส่วนกล้องหน้านั้น จะมีความละเอียดที่ 32MP เซลฟี่ได้คมชัดสมใจคนใช้งานมากๆ ขนาดความจุแบตให้มากำลังดีที่ 4,300 mAh พร้อมรองรับ Fast Charging สูงถึง 65W ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งานเลย รุ่นนี้มีให้เลือก 2 สีคือ Black และ Silver
- OPPO Find X2 Series 5G ราคา 13,990 บาท
OPPO Find X2 Series 5G
มือถือ 5G OPPO ตัวต่อมาในรุ่น Find X2 Series นี้จะมีตัวที่เป็นมือถือ 5G อยู่สองรุ่นก็คือตัว X2 ปกติกับ X2 Pro โดยทั้งสองรุ่นนี้จะมีหน้าจอที่เป็น AMOLED เหมือนกัน ความกว้างของทั้ง 2 รุ่นก็มีความกว้าง 6.7 นิ้วเท่ากันด้วย นอกจากนี้ยังได้ชิป Snapdragon 865 มาช่วยให้เครื่องนี้แรงมากขึ้นใน 2 รุ่นเลย จะต่างกันก็ที่กล้องหลังตัว X2 จะมี 3 กล้องที่ความละเอียด 48MP + 13MP + 12MP และในรุ่น X2 Pro มีความละเอียดอยู่ 48MP + 48MP + 13MP ส่วนในกล้องหน้านั้นจะมีความละเอียด 32MP เท่ากัน ความจุแบตจะต่างกันนิดหน่อยคือ X2 มีความจุ 4,200 mAh และรุ่น Pro จะมีความจุ 4,260 mAh รองรับ Fast Charging สูงถึง 65W
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการใช้งาน 5G บน OPPO Find X2 Series 5G จะต้องทำการอัพเดตเฟิร์มแวร์เป็น Android 11 Beta ก่อนครับ
ราคาเปิดตัวของ OPPO Find X2 Series 5G มีราคาดังนี้
- OPPO Find X2 5G ราคา 33,990 บาท
- OPPO Find X2 Pro 5G ราคา 40,990 บาท
OPPO Reno4 Series 5G
สำหรับมือถือ 5G ของยี่ห้อ Vivo ตัวนี้จะเป็นรุ่นสุดท้ายแล้วคือรุ่น Reno4 Series ที่จะเป็นตัว 5G อยู่ 2 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือรุ่น Reno4 Z และ Reno4 Pro โดยทั้งสองรุ่นนี้เปิดตัวออกมาพร้อมกัน แต่สแปคก็ค่อนข้างต่างกันมากแลย โดยหน้าจอในรุ่น Reno4 Z จะเป็น IPS-LCD กว้าง 6.57 นิ้ว ส่วน Reno4 Pro จะเป็น AMOLED ที่ความกว้าง 6.5 นิ้ว ส่วนชิปในรุ่น Z จะเป็น Dimensity 800 ให้ความเร็วกลางๆ ไม่เท่ากับรุ่น Pro ที่เป็น Snapdragon 765G ให้ความเร็วสูงมากกว่า ในส่วนของกล้องหลังในรุ่น Z จะมีถึง 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP + 8MP + 2MP + 2MP กับกล้องหน้า 16MP และในรุ่น Pro จะมี 3 กล้องที่ความละเอียด 48MP + 12MP + 13MP กับกล้องหน้าที่ความละเอียด 32MP และสุดท้ายคือแบตที่ความจุเท่ากันคือ 4,000 mAh
ราคาเปิดตัวของ OPPO Reno4 Series 5G มีดังนี้
- OPPO Reno4 Z 5G ราคา 12,990 บาท
- OPPO Reno4 Pro 5G ราคา 24,990 บาท
มือถือ 5G ของ realme
realme 7 5G
มือถือ 5G ราคาประหยัดกระเป๋าตังค์ของ realme รุ่นนี้ทำออกมาไม่ธรรมดาเลย ทั้งสเปคตัวเครื่อง หรือหน้าจอที่ดีงามมาก คุ้มค่าต่อการซื้อมาใช้ ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังมีสเปคที่ดีอยู่ดี โดยหน้าจอจะเป็นแบบ IPS-LCD ความกว้าง 6.5 นิ้ว มาพร้อมกับ Refresh Rate 120Hz (สูงมาก) และ touch-sensing 180Hz ส่วนชิปเซ็ตจะเป็น Dimensity 800U เล่นเกมได้ลื่นๆ กล้องหลังมีอยู่ 4 ตัวความละเอียดอยู่ที่ 48MP + อัลตร้าไวลด์ 8MP + มาโคร 2MP และ B&W 2MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ตามระดับมาตรฐาน และแน่นอนว่าความจุแบตนั้น ให้มาเยอะมากๆ กับความจุ 5,000 mAh รองรับ Fast Charging มากถึง 30W เลยทีเดียว มี 2 สีให้เลือกคือ Blue และ Silver
- ราคาเปิดตัวของ reame 7 5G มีราคาอยู่ที่ 9,999 บาท
realme 8 5G
มือถือ 5G รุ่นใหม่ของทาง realme ที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 21 ที่จะถึงนี้เอง ซึ่งทาง Specphone ก็ได้ตัวเครื่องมาพรีวิวกันก่อนแล้ว (ดูพรีวิว realme 8 5G ได้ที่นี่) ซึ่งรุ่นนี้ยังไม่ได้เปิดเผยราคาออกมานะ เดี๋ยวเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้ง หลังจากที่ตัวเครื่องได้เปิดตัวไปแล้ว โดยรุ่นนี้จะมีหน้าจอเป็นแบบ 90Hz Ultra Smooth Display ความละเอียด FHD+ ที่ขนาดความกว้าง 6.5 นิ้ว สามารถสแกนลายนิ้วมือได้จากตรงด้านข้างของตัวเครื่อง ส่วนชิปเซ็ตจะเป็น MediaTek Dimensity 700 5G ไหลลื่นแน่นอน ส่วนกล้องหลังนั้นจะเป็น AI Triple Camera ที่ความละเอียด 48MP + มาโคร 2MP และ B&W Portrait 2MP พร้อมกล้องหน้า 16MP ถ่ายได้สวยๆ ตามแบบมาตรฐาน ความจุแบตยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะให้มาเยอะถึง 5,000 mAh รองรับ Fast Charging 18W เป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามอง และคุ้มค่าต่อการใช้งานแน่นอน
realme X50 Series 5G
มือถือ 5G ยี่ห้อ realme ที่ในปีนี้ ก็ได้เปิดตัวออกมาหลายรุ่นมาก แต่รุ่นที่ใช้ 5G ได้นั้น จะมีอยู่ในซีรีส์ของ X50 คือตัวธรรมดาและในตัว Pro ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ก็จะมีความต่างกันเยอะอยู่เหมือนกัน โดยในรุ่น X50 นั้นจะมีหน้าจอเป็น IPS-LCD ขนาด 6.57 นิ้ว ที่มาพร้อมกับชิป Snapdragon 765G และในรุ่น Pro จะเป็น Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ได้ชิปเป็น Snapdragon 865 แรงใช้ได้ทั้งคู่เลย ในส่วนของกล้องหลังในรุ่น X50 จะมีความละเอียด 48MP + 8MP + 2MP + B&W กับกล้องหน้า 16MP ส่วนรุ่น Pro จะเป็นกล้อง 4 ตัวความละเอียด 64MP + 12MP + 8MP + 2MP และกล้องหน้า 32MP และความจุแบตจะเท่ากันคือ 4,200 mAh
ราคาเปิดตัวของ realme X50 Series 5G มีราคาดังนี้
- realme X50 5G ราคา 12,990 บาท
- realme X50 Pro 5G ราคา 28,990 บาท
มือถือ 5G ของ Xiaomi
Xiaomi Mi 10T Series 5G
เพิ่งเปิดตัวไปปีที่แล้ว สำหรับมือถือ 5G รุ่น Mi 10T Series 5G มือถือ 5G จาก Xiaomi โดยทั้งตัว Mi 10T และตัว Mi 10T Pro ที่มีหน้าจอเป็น IPS LCD ที่ขนาดความกว้าง 6.67 นิ้ว แถมยังมี Refresh Rate สูงถึง 144 Hz สูงที่สุดแล้วในตอนนี้ เท่ากันทั้งสองรุ่น นอกจากนี้สิ่งที่ได้มาเหมือนกันก็คือชิปจาก Snapdragon 865 ที่ให้ความแรงกับทั้งสองเครื่องเยอะมาก ส่วนกล้องหลังจะต่างกันที่รุ่น Mi10T จะมีความละเอียด 64MP + 13MP + 5MP และรุ่น Pro จะมีความละเอียดอยู่ 108 MP + 13MP + 5MP ส่วนทั้งสองรุ่นนี้จะมีกล้องที่ความละเอียด 20MP เท่ากัน แถมความจุแบตก็เท่ากันที่ 5,000 mAh ด้วย
ราคาเปิดตัวของ Xiaomi Mi 10T Series 5G จะมีราคาดังนี้
- Xiaomi Mi 10T 5G ราคา 12,990 บาท
- Xiaomi Mi 10T Pro 5G RAM 8GB ROM 128GB ราคา 13,900 บาท
- Xiaomi Mi 10T Pro 5G RAM 8GB ROM 256GB ราคา 15,900 บาท
มือถือ 5G ของ Oneplus
Oneplus Nord 5G
สำหรับมือถือ 5G ในปี 2021 อย่าง Oneplus Nord 5G ที่มาแรงพอตัวเลย โดยหน้าจอตัวนี้จะเป็น AMOLED ที่ขนาด 6.44 นิ้วกำลังดี ไม่ใหญ่เกินไป ส่วนชิปของรุ่นนี้ก็ทำออกมาได้ดีเลย โดยใช้ชิปของ Snapdragon 765G 5G มาช่วยให้เครื่องแรงขึ้น มาพร้อมกล้องหลังถึง 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP + 8MP + 5MP + 2MP และกล้องหน้าที่ความละเอียด 32MP เลย ส่วนแบตเตอรี่นั้นก็มีความจุอยู่พอประมาณคือ 4,115 mAh ร้องรับ Fast Charge สูงสุด 30W ที่น่าสนใจก็คือราคาของเจ้ารุ่นนี้ที่ไม่แพงมากนั่นเอง
*OnePlus Nord รองรับเฉพาะ 5G คลื่น 700MHz และ 3500MHz ซึ่งจะเปิดให้บริการในไทยช่วงปี 2021
ราคาเปิดตัวของ Oneplus Nord มีราคาแบ่งย่อยได้ดังนี้
- Oneplus Nord RAM 8GB ROM 128GB ราคา 14,990 บาท
- Oneplus Nord RAM 12GB ROM 256GB ราคา 17,990 บาท
Oneplus 8 Series 5G
มือถือ 5G ของ Oneplus ยังมีหนึ่งรุ่นที่สามารถใช้งาน 5G ได้นั่นก็คือ Oneplus 8 และ Oneplus 8 Pro โดยทั้งสองรุ่นนี้จะมีหน้าจอที่เหมือนกันคือเป็น Fluid AMOLED แต่ความกว้างของรุ่นปกติจะมีขนาด 6.55 นิ้ว และในรุ่น Pro มีขนาด 6.78 นิ้ว และได้ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 865 ทั้งสองรุ่นเลย ก็ถือว่าเล่นได้ลื่นๆ แน่นอน ส่วนเรื่องกล้องหลังรุ่นธรรมดาจะมี 3 ตัวที่ความละเอียด 48MP + 16MP + 2MP และในรุ่น Pro จะมี 4 ตัวที่ความละเอียด 48MP + 48MP + 8MP + 5MP ส่วนกล้องหน้าของทั้งสองรุ่นจะเท่ากันคือ 16MP ความจุแบตต่างกันนิดหน่อยคือรุ่นปกติมีความจุ 4,300 mAh กับรุ่น Pro มีความจุ 4,510 mAh และขอเพิ่มตัว Oneplus 8T 5G อีกหนึ่งรุ่น ที่มีจอกว้าง 6.55 แบบ Fluid AMOLED กล้องหลัง 3 ตัวคือ 48MP + อัลตร้าไวลด์ 16MP + มาโคร 5MP และชัดลึก 2MP พร้อมกล้องหน้า 16MP กับชิปเซ็ต Snapdragon 865 เช่นเดียวกัน
*OnePlus 8 Series รองรับเฉพาะ 5G คลื่น 700MHz และ 3500MHz ซึ่งจะเปิดให้บริการในไทยช่วงปี 2021
ราคาเปิดตัวของ Oneplus 8 Series 5G สามารถแบ่งได้ดังนี้
- Oneplus 8 5G ราคา 28,990 บาท
- Oneplus 8 Pro 5G ราคา 34,990 บาท
- OnePlus 8T 5G ราคา 24,990 บาท
มือถือ 5G ของ Nubia
Nubia Red Magic 5G / 5S
มือถือ 5G ที่เอาไว้เล่นเกมอย่างยี่ห้อ Nubia ก็ได้ทำมือถือ 5G ออกมาวางขายอยู่เหมือนกัน โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะยังมีขายในไทยอยู่บ้าง แต่อาจจะต้องหาจากทางร้านค้าออนไลน์ ซึ่งหน้าจอจะเป็น AMOLED และความกว้าง 6.65 นิ้วเท่ากันทั้งสองรุ่น ส่วนในเรื่องชองชิปเซ็ตก็เป็น Snapdragon 865 เหมือนกันทั้งหมด รวมไปถึงกล้องหลัง 3 ตัว ที่ความละเอียด 64MP + 8MP + 2MP กับกล้องหน้า 8MP ที่เหมือนจะไม่ได้เน้นตรงนี้เท่าไหร่นัก และความจุแบต 4,500 mAh เท่ากันด้วย ซึ่งเอาจริงๆ ก็แทบจะเหมือนกันทุกอย่าง แต่ตัว 5S ที่แตกออกมานั้น จะไปเพิ่มในส่วนของ การระบายความร้อนที่ดีกว่าตัวก่อนหน้านี้นั่นเอง
ราคาเปิดตัวของ Nubia Red Magic 5G / 5S มีราคาดังนี้
- Nubia Red Magic 5G ราคา 21,900 บาท
- Nubia Red Magic 5S ราคา 19,990 บาท
มือถือ 5G ของ Asus
Asus ROG Phone 3
เดินทางมาถึงรุ่นสุดท้ายกันแล้ว กับมือถือเล่นเกมจากค่าย Asus ที่เพิ่งเปิดตัวมาเหมือนกันในรุ่น ROG Phone 3 ที่สามารถรองรับ 5G ได้ด้วย โดยหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบ AMOLED ที่ความชัดระดับ HDR 10+ และขนาดความกว้าง 6.59 นิ้ว Refresh Rate สูงถึง 140Hz เสริมความโหดให้คอเกมมิ่งด้วยชิป Snapdragon 865+ เล่นลื่นๆกันไปเลย มาพร้อมกับกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 64 MP + 13MP + 5MP กับกล้องหน้าอีก 24MP ซึ่งก็ไม่ได้เน้นตรงนี้อีกเหมือนกัน ส่วนความจุก็จัดเต็มมาให้ 6,000 mAh เยอะมากๆ รองรับ Fast Charging สูงถึง 30W
ราคาเปิดตัวของ Asus ROG Phone 3 จะมีราคาอยู่ที่ 32,990 บาท
แล้วทั้งหมดนี้ ก็เป็นข้อมูลของมือถือ 5G ที่สามารถใช้งานได้ และเปิดตัวในประเทศไทยกันไปแล้ว ซึ่งแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไปอีก ส่วนจะใช้ได้จริงหรือไม่ได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ใช้บริการด้วย และก็ขึ้นอยู่กับคลื่นที่รับสัญญาณได้ด้วยนะ ส่วนใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ก็สามารถเข้าไปดูมือถือ 5G น่าซื้อในปี 2021 ได้ ที่นี่ หรือถ้าอยากรู้ว่ามือถือตัวเองรับสัญญาณได้ไหม สามารถเข้าตรวจเช็คในเว็บของ สำนักมาตรฐานและเทคโนโลยีโทรคมนาคม คลิกที่นี่ ได้เลย แล้วถ้ามีเรื่องที่น่าสนใจ หรือมือถือรุ่นอื่นที่อัพเดตใหม่อีก เราก็จะมาอัพเดตกันเรื่อยๆ นะครับ