เปรียบเทียบ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max ต่างกันยังไงและควรซื้อรุ่นไหนดี?

เปรียบเทียบสเปค iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max ต่างกันยังไงและควรซื้อรุ่นไหนดี?

หลังจากที่เราได้ทำการเปรียบเทียบ iPhone 13 รุ่นใหม่กับรุ่นเก่าไม่ว่าจะเป็น iPhone 11, iPhone 12 หรือรุ่นเล็กของ iPhone 13 หลายคนก็อยากจะรู้ว่าในรุ่นตัวท็อปคือ iPhone 13 Pro ทั้งสองรุ่นนั้นมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง เพราะถ้าพูดกันตามตรงก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีอะไรต่างกันเลย จะมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดก็คือเรื่องของขนาดและหน้าจอ รวมไปถึงเรื่องของราคาเท่านั้นเลย แต่ถึงแม้ว่าจะต่างกันเพียงเล็กน้อยก็ตาม หลายคนที่กำลังตัดสินใจเตรียมจองหรือเตรียมที่จะซื้อในวันที่ 1-6 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ก็อาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีระหว่าง iPhone 13 Pro หรือ iPhone 13 Pro Max ดีกว่ากันและรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาเปรียบเทียบสเปค และความแตกต่างของ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max ว่าต่างกันยังไง มีจุดไหนที่ไม่เหมือนกันบ้าง และควรซื้อรุ่นไหนที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด ส่วนใครที่อยากรู้ว่า iPhone 13 ต่างจากรุ่นอื่นยังไงบ้าง กดที่นี่เพื่อดูบทความเปรียบเทียบรุ่นอื่นๆ ได้เลย

• ตารางเปรียบเทียบสเปคของ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max
• ตารางเปรียบเทียบราคาของ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max
• เปรียบเทียบตัวเครื่อง iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max
• ขนาดหน้าจอ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max
• ชิปประมวลผล iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max
• กล้องหน้าและกล้องหลัง iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max
• ความจุแบตเตอรี่ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max
• สรุป iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max ซื้อรุ่นไหนดี
• บทความเปรียบเทียบรุ่นอื่นๆ

ตารางเปรียบเทียบสเปคของ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max

ตารางเปรียบเทียบราคาของ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max

จากราคาด้านบนนี้จะเห็นได้ว่าความต่างของราคาเริ่มต้น และราคาความจุทุกรุ่นจะต่างกันประมาณ 4,000 บาทเท่านั้น ถ้าใครคิดว่ามีงบถึงหรือว่าจะซื้อผ่อนบัตรเครดิต ก็จะตัดสินซื้อไม่ยากนักสำหรับทั้งสองรุ่น แต่ถ้าอยากรู้ว่าสเปคทั้งสองรุ่นนี้มันแตกต่างกันยังไง แล้วควรจะซื้อรุ่นไหนดีก็ลองลงไปดูข้อมูลความแตกต่างของทั้งสองรุ่นกันได้เลย

ดีไซน์ตัวเครื่องที่ต่างกันแค่ขนาด!

มาพูดถึงการดีไซน์ตัวเครื่องของ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max กันก่อนเลย หลายคนที่เล็งๆ ไว้ก็อาจจะพอรู้กันคร่าวๆ แล้วว่าเป็นยังไงบ้าง โดยทั้งสองรุ่นนี้จะมีการดีไซน์ตัวเครื่องที่เหมือนกันเป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยบาก (Notch) ที่เล็กลงจากรุ่นก่อนหน้านี้ และกล้องหลังสามตัวที่มีขนาดโมดูลพอๆ กัน รวมไปถึงสีสันของตัวเครื่องที่มีให้เลือกทั้งหมด 4 สีคือกราไฟต์, ทอง, เงิน และสีที่เปิดตัวมาใหม่คือเซียร์ร่าบลู แน่นอนว่าวัสดุตัวเครื่องก็ต้องเหมือนกันเป๊ะที่เป็นหน้าจอ Ceramic Shield และกระจกด้านหลังที่เป็นแบบด้าน ทำให้ไม่มีลายนิ้วมือติด พร้อมกับด้านข้างตัวเครื่องที่เป็นสแตนเลสสตีลเงางาม ความต่างจริงๆ ของทั้งสองตัวนี้ก็คือขนาดตัวเครื่องที่ถึงแม้ว่าจะมีความหนาเท่ากัน แต่รุ่น iPhone 13 Pro Max จะมีขนาดตัวเครื่องที่กว้างและยาวกว่าเกือบ 10 มม. เลยทีเดียว และด้วยตัวเครื่องที่ใหญ่กว่าในรุ่น Pro Max จึงทำให้มีน้ำหนักเยอะกว่ารุ่น Pro ด้วย

หน้าจอก็ต่างกันแค่ขนาดอยู่ดี

อย่างที่บอกไปแล้วว่าความแตกต่างจะอยู่ที่ขนาดเป็นหลักเลย ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่กว่าของ iPhone 13 Pro Max ทำให้ความกว้างหน้าจอจะมีความกว้าง 6.7 นิ้วมีความละเอียด 2778 x 1284 พิกเซลที่ 458 ppi ส่วนของ iPhone 13 Pro จะมีความกว้างเท่ารุ่นปกติคือ 6.1 นิ้วมีความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซลที่ 460 ppi นอกเหนือจากขนาดความกว้างอย่างอื่นก็เหมือนกันหมดเลยที่มีหน้าจอเป็นแบบ Super Retina XDR จอภาพ OLED ระดับ HDR พร้อมกับเทคโนโลยี ProMotion ที่สามารถปรับอัตรา Refresh Rate ได้ตามการใช้งานสูงสุด 120Hz นอกจากนี้ก็ยังมีขอบเขตสีเท่ากันที่ P3 และแสดงผลได้แบบ True Tone พร้อมกับมีความสว่างสูงสุดแบบทั่วไปสูงถึง 1,000 นิตสว่างกว่ารุ่นอื่นๆ 25% เมื่ออยู่กลางแจ้ง แต่ถ้าดูหนังหรือเล่นเกมจะมีความสว่างสูงสุดแบบ HDR ที่ 1,200 นิตเท่ากันหมด

ชิปประมวลผลและสเปคที่เหมือนกันเป๊ะ

ก็อย่างที่บอกไปอีกนั่นแหละว่าความแตกต่างโดยหลักๆ จะมีแค่ขนาดตัวเครื่องเท่านั้น ส่วนภายในและสเปคของตัวเครื่องจะเหมือนกันหมด ที่ได้ใช้ชิปประมวลผลเป็น Apple A15 Bionic พร้อม CPU แบบ 6-Core, GPU 5-Core และ Neural Engine แบบ 16-Core แบบใหม่ทั้งหมด ที่มีความเร็วแรง ถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอในโหมดถ่ายหนังก็ประมวลผลและลดนอยซ์ได้ดีเยี่ยม แถมยังเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นทุกรูปแบบ ช่วยประหยัดได้มากกว่าเดิม ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานเต็มที่ตลอดทั้งวัน ส่วนความจุของตัวเครื่องจะมีให้เลือกเหมือนกัน 4 ขนาดความจุคือ 128GB, 256GB, 512GB และสูงสุดถึง 1TB นอกจากนี้ยังมีการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 พร้อมใช้งาน 5G ได้เหมือนกันทุกอย่าง ไม่เหมือนตรงไหนเอาปากกามาวงได้เลย

กล้องหน้าและกล้องหลังระดับเทพ

นอกจากจะมีสเปคชิปและภายในตัวเครื่องที่เหมือนกันแล้ว เรื่องของกล้องหน้าและกล้องหลังของ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max ทั้งสองรุ่นนี้ ก็ยังคงมีความเหมือนกันทั้งหมดเช่นกัน โดยมีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวกับความละเอียด 12MP ทุกเลนส์คือเลนส์ไวด์ ƒ/1.5, เลนส์อัลตร้าไวด์ ƒ/1.8 และเลนส์เทเลโฟโต้ ƒ/2.8 ด้วยรู้รับแสงที่กว้างกว่าเดิม ทำให้เราสามารถถ่ายรูปในเวลากลางคืนได้สว่างมากขึ้นกว่าเดิม 2.2 เท่าในเลส์ไวด์ และรับแสงได้มากขึ้น 92% ในตัวเลนส์อัลตร้าไวด์ เรียกได้ว่าหายห่วงไปเลยกับการถ่ายตอนกลางคืน เพราะยังมีโหมดกลางคืนด้วย Deep Fusion กับสแกนเนอร์ LiDAR ที่ช่วยถ่ายบุคคลตอนกลางคืนมาช่วยอีก

หรือใครที่ชอบถ่ายแบบมาโคร ทั้งสองรุ่นนี้ก็สามารถทำได้แล้วในเลนส์อัลตร้าไวด์ที่ถ่ายได้ใกล้สุด 2 ซม. ทั้งการถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีกันสั่นแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ในตัวกับการถ่ายได้ถึง HDR อัจฉริยะ 4 แล้ว พร้อมกับโหมดใหม่ในการถ่ายวิดีโอคือ Cinematic Mode ที่รองรับ HDR แบบ Dolby Vision ถ่ายหนังได้แบบกล้องตัวใหญ่ที่สามารถปรับโฟกัสหน้าชัด หรือหลังชัดแบบอัตโนมัติ หรือถ่ายเสร็จแล้วค่อยมาปรับทีหลังก็ยังได้ ส่วนใครที่เป็นสายถ่ายรูปก็มีคุณสมบัติสไตล์ภาพถ่าย ที่ช่วยปรับโทนตามที่เราต้องการให้ภาพออกมาได้สวยงามตามใจเรา ส่วนกล้องหน้าจะเป็น TrueDepth ละเอียด 12MP ที่มีความสามารถในการถ่ายรูป และวิดีโอได้เหมือนกล้องหลังเลย

ความจุแบตเตอรี่

สำหรับความจุแบตเตอรี่ของทั้งสองรุ่นนี้ตอนนี้ก็ได้มีคนแกะตัวเครื่องออกมาแล้ว ทำให้เรารู้ว่ามันมีความจุเท่าไห่รบ้าง โดยในรุ่น iPhone 13 Pro จะมีความจุแบตอยู่ที่ 3,095 mAh เล่นวิดีโอได้สูงสุด 22 ชั่วโมงหรือดูสตรีมได้สูงสุด 20 ชั่วโมง และฟังเพลงได้นานสูงสุด 75 ชั่วโมง ส่วนของ iPhone 13 Pro Max จะมีความความจุแบตที่ 4,352 mAh เล่นวิดีโอได้สูงสุด 28 ชั่วโมงหรือดูสตรีมได้สูงสุด 25 ชั่วโมง และฟังเพลงได้นานสูงสุด 95 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าแบตของ iPhone 13 Pro Max นั้นจะมีความอึดกว่ามากในการใช้งานทุกรูปแบบ ยิ่งถ้าเป็นการใช้งานแบบทั่วไปก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าอยู่ได้นานกว่าตัว iPhone 13 Pro ส่วนการชาร์จจะสามารถใช้ MagSafe และมีพอร์ตเป็น Lightning เหมือนกันทั้งหมด

สรุป

จากการเปรียบเทียบสเปคต่างๆ ของ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 Pro Max จะเห็นได้ง่ายๆ เลยว่าต่างกันที่ขนาด แบต และก็ราคาเท่านั้นที่มีความต่างกัน ในเรื่องของราคาคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาหลักในการตัดสินใจซื้อ เพราะว่ามีราคาไม่ห่างกันมากเกินไปเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ต้องเลือกก็คือการใช้งานของตัวเราเองเป็นหลัก ว่าชอบมือถือเครื่องใหญ่ หรือว่าชอบขนาดแบบพอดีๆ เพราะถ้าชอบแบบพอดีไม่ใหญ่มาก ถือเล่นด้วยมือเดียวได้สบายๆ ก็เลือกซื้อเป็น iPhone 13 Pro จะเหมาะกว่า แต่ถ้าใครชอบหน้าจอใหญ่ๆ เอาไว้ดูหนังหรือดูวิดีโอและใช้งานได้เต็มที่กว่าในเรื่องของแบต ที่สามาถใช้งานได้ยาวนานกว่ากันเยอะก็เลือกซื้อเป็น iPhone 13 Pro Max จะเหมาะสมกว่า ทั้งนี้ก็อย่าลืมนึกถึงเรื่องการพกพา และเรื่องของน้ำหนักตัวเครื่องเมื่อใช้งานนานๆ ด้วย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

• เทียบสเปค iPad mini 6 vs iPad Air 4 ต่างกันตรงไหนและรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง?
• iPad mini 6 vs iPad mini 5 อัพเดตใหม่ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง เราเทียบให้ดูแล้ว!!
• iPad 9 vs iPad Air 4 ซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่ากันระหว่างตัวเก่ากับตัวใหม่ มีสเปคอะไรต่างกันบ้าง?
• เปรียบเทียบสเปค iPhone 13 Pro vs iPhone 12 พี่ใหญ่รุ่นใหม่กับรุ่นเก่าแต่ยังเก๋าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี?
• เปรียบเทียบความต่างของสเปค iPhone 13 vs iPhone 11 จะซื้อรุ่นใหม่หรือใช้รุ่นเก่าดีกว่ากัน?
• iPhone 12 ตอนนี้ยังน่าซื้ออยู่ไหม หรือจะรอ iPhone 13 ดี เรามาดูกัน!! [อัพเดตหลังเปิดตัว]
• เปรียบเทียบกันชัดๆ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 มีสเปคต่างกันแค่ไหนและซื้อรุ่นไหนดี?
• iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max ต่างกันตรงไหนบ้าง จะซื้อหรือจะรอ เรามาดูกัน!!
• เปรียบเทียบสเปค Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6 มีอะไรใหม่และควรซื้อรุ่นไหนดี?
• อัพเดทราคา iPhone ทุกรุ่นล่าสุดจาก Apple Dtac True AIS กันยายน 2021