เปรียบเทียบสเปค Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6 มีอะไรใหม่และควรซื้อรุ่นไหนดี?

เปรียบเทียบสเปค Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6 มีอะไรใหม่และควรซื้อรุ่นไหนดี?

ตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวอุปกรณ์ของ Apple เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ก็เรียกได้ว่ามีหลากหลายอุปกรณ์เหลือเกินที่ออกมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็น iPhone 13, iPad Gen 9, iPad mini 6 และก็ตัวน้องๆ สุดก็คือ Apple Watch Series 7 ที่เปิดตัวมาใหม่กับเขาด้วย (แต่ Apple Watch Series 3 ก็ยังคงวางขายต่อเนื่องไม่เอาลงจากเว็บจริงๆ) แต่ยังไม่ได้บอกว่าจะวางจำหน่ายตอนไหน บอกแค่เพียงว่ามาวางขายภายในปีนี้อย่างแน่นอน ใครที่รอซื้ออยู่ก็ต้องรอกันนิดนึง ส่วนใครที่กำลังคิดอยู่ว่าจะรอซื้อรุ่นใหม่คือ Apple Watch Series 7 หรือว่าจะซื้อรุ่นเก่าไปก่อนเลยจบๆ คือตัว Apple Watch Series 6 ที่ราคาตอนนี้ก็ยังคงเท่ากับราคาตอนเปิดตัวอยู่เหมือนเดิม ส่วนความแตกต่างของสเปคก็ต้องบอกเลยว่ารุ่นใหม่นี้ ได้ทำการเปลี่ยนแปลงตัว Apple Watch ให้ดีขึ้น พร้อมกับประสิทธิภาพในการใช้งานที่มากขึ้นอีกเยอะเลยด้วย ใครที่ยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีระหว่าง Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6 เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาเปรียบเทียบสเปคต่างๆ ของ Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6 ว่ามีอะไรแตกต่างกันบ้าง และจะซื้อรุ่นไหนดีกว่ากัน ไปดูกันเลย

• การดีไซน์กับหน้าจอ Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6
• ประสิทธิภาพการใช้งาน (กันน้ำ, กันฝุ่น) Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6
• ฟีเจอร์การใช้งาน Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6
• แบตเตอรี่และการชาร์จ Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6
• ราคา Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6
• สรุป Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6

ตารางเปรียบเทียบสเปคของ Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6

ดีไซน์เดิมกับหน้าจอที่กว้างมากขึ้น ก็เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

มาเริ่มกันที่สิ่งแรกสำหรับ Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6 ที่จะไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ นั่นก็คือการดีไซน์ของตัวเครื่องและหน้าจอที่เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าถ้าดูเผินๆ ภายนอกแล้วจะคล้ายๆ กันทั้งตัวเรือนที่ยังเป็นแบบยังโค้งมนอยู่ แต่ความจริงแล้วขนาดตัวเรือนของ Apple Watch Series 7 นั้นจะใหญ่กว่าทั้งสองขนาดคือ 41 มม. และ 45 มม. ส่วนของ Apple Watch Series 6 จะมีสองขนาดคือ 40 มม. และ 44 มม.

และถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ Retina OLED เหมือนกันทั้งสองรุ่น แต่ความจริงแล้ว Apple Watch Series 7 ก็ได้ขยายขอบหน้าจอให้กว้างกว่าเดิมเยอะมาก โดยลดขอบลง 40% ทำให้ดูกว้างกว่าตัวเดิมถึง 20% เลย ที่สำคัญคือความสว่างของหน้าจอแบบ always-on ก็ได้ปรับความสว่างขณะอยู่ในร่มมากขึ้นถึง 70% และแข็งแรงกว่าเดิมด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยกขึ้นมาก็ตาม ส่วนสีในรุ่น Apple Watch 6 จะมีอยู่ 6 สีคือ Gold, Silver, Space Gray, Graphite, Blue, (Product)Red กับรุ่นใหม่ที่มี 5 สีเท่ากันแต่เป็นสีใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาคือ Blue, Green, Midnight, Product(RED), Starlight มาพร้อมสาย Nike Bounce และ Hermès แบบใหม่ด้วย ส่วนตัวเรือนอื่นที่เป็นสแตนเลสและไทเทเนียมยังคงมีสีเหมือนกัน

ประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงขึ้นเยอะทั้งอึดและทน

นอกจากการปรับปรุงหน้าจอให้แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ด้วยคริสตัลที่ทนทานกับการแตกร้าว การใช้งานของ Apple Watch Series 7 ก็ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วยการป้องกันฝุ่นระดับ IP6X และกันน้ำได้ถึงระดับ WR50 ถ้าถามว่าทนแค่ไหนก็คือไม่ว่าจะใส่ไปลุยที่ไหน จะล้มกี่รอบ หรือว่ายน้ำก็ยังคงทำงานได้ปกติเหมือนเดิม อันนี้จะเหมาะกับคนที่เป็นนักกีฬาสายลุย หรือว่าคนที่ชอบออกไปทำกิจกรรมมากๆ ซึ่งใครที่จะใช้งานแบบปกติก็พอได้ แต่คิดว่า Apple Watch Series 6 ก็สามารถใช้งานแบบทั่วไปได้ดีมากอยู่แล้ว ทั้งการทนน้ำได้ถึง 50 เมตร หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับต่างๆ ก็ถือว่าครบถ้วนทุกประการเลย

เมื่อจอใหญ่ขึ้นฟีเจอร์ใหม่ๆ ก็ตามมาด้วย

ก็อย่างที่บอกข้างต้นเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใหญ่และกว้างขึ้น ทำให้ Apple Watch Series 7 รุ่นใหม่นี้ได้เพิ่มฟีเจอร์ในการทำงานใหม่ๆ เข้ามาด้วยไม่ว่าจะเป็นปุ่มกดเครื่องคิดเลข หรือนาฬิกาปลุก็ทำให้ใหญ่ขึ้น ที่น่าสนใจก็คือ Keyboard แบบ QWERTY ที่ใส่เข้ามาใน Apple Watch ตัวนี้ด้วย แถมยังเลื่อนแบบ QuickPath ที่รูดไปบนหน้าจอทีเดียวไปเลย ไม่ต้องมานั่งกดทีละตัวแล้ว ดีงามมากสำหรับคนที่ต้องการตอบแชทไวๆ ส่วนหน้าปัดก็ได้มีแบบ Contour และ Modular Duo ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ตัว Apple Watch Series 6 จะยังทำไม่ได้นะ แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือการวัดค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดค่าออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นชองหัวใจ การตรวจจับการล้ม การติดตามการนอนหลับ หรือการโทรออกฉุกเฉินอันนี้สามารถทำได้ดีเหมือนกันหมด รวมไปถึงการจับการออกกำลังกายด้วย

แบตเตอรี่และการชาร์จที่ไวขึ้น

สำหรับการใช้งานของแบตเตอรี่ของ Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6 จะยังคงสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุด 18 ชั่วโมงพอๆ กัน แต่สิ่งที่ตัว Apple Watch Series 7 มาเหนือกว่าก็คือเรื่องของการชาร์จแบตที่เร็วขึ้นมากกว่าตัว Apple Watch Series 6 สูงสุดถึง 33% เลยทีเดียว แถมยังชาร์จตั้งแต่ 0 ถึง 80% ในเวลาเพียงแค่ 45 นาทีเท่านั้น ถ้าให้นับง่ายๆ ก็คือชาร์จแค่แปปเดียวไม่ถึง 10 นาทีก็ใส่ยาวๆ ไปได้ทั้งคืนจนกว่าจะตื่นเลย แน่นอนว่าเร็วกว่าขนาดนี้ได้ก็เพราะว่าได้เปลี่ยนพอร์ตการชาร์จมาเป็น USB-C แล้วนั่นเอง โดยที่รุ่น Apple Watch Series 6 จะยังเป็นพอร์ตแบบเดิมอยู่ ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นข้อดีเลยสำหรับคนที่ใช้งาน Apple Watch เป็นประจำ ที่ไม่อยากจะเสียเวลาไปกับการชาร์จมากนัก ยิ่งชาร์จเร็วได้เท่าไหร่ก็ยิ่งน่าใช้งานมากเท่านั้นเลยจริงๆ

ราคาของ Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6

สำหรับราคา Apple Watch Series 7 นั้นยังไม่ได้เปิดเผยออกมาทั้งหมด โดยบอกเพียงราคาเริ่มต้นเท่านั้นก็คือ 399$ หรือว่าเท่ากับราคาตอนเปิดตัว Apple Watch Series 6 เลย คาดว่าน่าจะประมาณ 13,400 บาทเหมือนกัน ส่วน Apple Watch Series 6 ในตอนนี้จะยังคงมีราคาเท่าเดิมคือ

• รุ่น GPS เริ่มต้นที่ 13,400 บาท
• รุ่น GPS + Cellular เริ่มต้นที่ 16,900 บาท

สรุป Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6 รุ่นไหนน่าซื้อกว่ากัน

แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการเปรียบเทียบสเปคของ Apple Watch Series 7 vs Apple Watch Series 6 ว่ารุ่นใหม่มีอะไรน่าสนใจบ้าง เมื่อเทียบกับรุ่นเก่าแล้วมีอะไรเพิ่มเข้ามา หรือว่ามีอะไรที่ยังเป็นเหมือนเดิมบ้าง ซึ่งจะเห็นได้ว่าความจริงแล้วข้อมูลเบื้องลึกอย่างเช่นชิปประมวลผล CPU ต่างๆ นั้นเราจะยังไม่ได้พูดถึง เนื่องจากทาง Apple เองก็ยังไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ออกมาว่าสเปคข้างในนั้นเป็นอย่างไร และจะใช้ชิปตัวเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้าหรือไม่ รวมไปถึงราคาในแต่ละรุ่นที่ก็บอกมาแค่ราคาเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งถ้าดูจากข้อมูลและฟีเจอร์ต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาใหม่แล้ว คิดว่าตัว Apple Watch Series 7 นั้นน่าสนใจและควรรอเพื่อซื้อจะดีกว่าเยอะเลย ทั้งประสิทธิภาพในการทำงานที่ดูแล้วก็มีส่วนคล้ายกันหลายอย่าง และก็มีหลายอย่างที่ดีขึ้นเยอะอีกด้วย ที่สำคัญที่ต้องรอซื้อเลยก็เพราะว่าตัว Apple Watch Series 7 รุ่นใหม่นี้สามารถชาร์จได้ไวมากกว่าเดิมเยอะมากๆ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลากับเรื่องนี้เลย แล้วถ้ามีข้อมูลอัพเดทใหม่ๆ และมีอะไรน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

• เทียบสเปค iPad mini 6 vs iPad Air 4 ต่างกันตรงไหนและรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง?
• iPad mini 6 vs iPad mini 5 อัพเดตใหม่ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง เราเทียบให้ดูแล้ว!!
• iPad 9 vs iPad Air 4 ซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่ากันระหว่างตัวเก่ากับตัวใหม่ มีสเปคอะไรต่างกันบ้าง?
• เปรียบเทียบความต่างของสเปค iPhone 13 vs iPhone 11 จะซื้อรุ่นใหม่หรือใช้รุ่นเก่าดีกว่ากัน?
• iPhone 12 ตอนนี้ยังน่าซื้ออยู่ไหม หรือจะรอ iPhone 13 ดี เรามาดูกัน!! [อัพเดตหลังเปิดตัว]
• เปรียบเทียบกันชัดๆ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 มีสเปคต่างกันแค่ไหนและซื้อรุ่นไหนดี?
• iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max ต่างกันตรงไหนบ้าง จะซื้อหรือจะรอ เรามาดูกัน!!
• อัพเดทราคา iPhone ทุกรุ่นล่าสุดจาก Apple Dtac True AIS กันยายน 2021