iPad 9 vs iPad Air 4 ซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่ากันระหว่างตัวเก่ากับตัวใหม่ เหมาะกับใครและมีสเปคอะไรบ้าง?
iPad ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการทำงาน เรียน ออกแบบ หรือจดบันทึกได้เป็นอย่างดี ซึ่ง iPad แต่ละรุ่นที่ทาง Apple ได้ทำออกมาก็จะแบ่งแยกย่อยออกไปอีกหลายแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละรูปแบบตามไปด้วย และหลังจากที่ตัวใหม่อย่าง iPad Gen 9 และ iPad mini 6 ที่ได้เปิดตัวออกมาล่าสุด ก็เรียกได้ว่ามีคนให้ความสนใจกันเยอะมาก โดยเฉพาะ iPad mini 6 ที่มีสเปคเครื่องและการทำงานที่เกือบจะเป็นโปรเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่นับกันที่เรื่องขนาดและความกว้างของหน้าจอ ส่วน iPad Gen 9 ก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่ากันเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะยังคงเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ไม่ได้มีสเปคสูงมากนัก แต่ถ้าซื้อมาใช้งานแบบทั่วไปและได้ประหยัดราคาไปอีกหลายบาท ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าใช้งานมากๆ เลยสำหรับนักเรียน หรือว่าคนทำงานที่ไม่ได้เน้นกราฟิกมาก ใครที่กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อ iPad 9 รุ่นใหม่ หรือว่าจะซื้อตัวเก่าอย่าง iPad Air 4 วันนี้ทาง Specphone จะมาเปรียบเทียบสเปค iPad 9 vs iPad Air 4 กันแบบจุดต่อจุด ว่ามีตรงไหนต่างกันบ้าง รุ่นไหนเหมาะกับใครและรุ่นไหนน่าใช้งานมากกว่ากัน
- ตารางเปรียบเทียบสเปค iPad 9 vs iPad Air 4
- ตารางเปรียบเทียบราคา iPad 9 vs iPad Air 4
- การดีไซน์ตัวเครื่อง iPad 9 vs iPad Air 4
- หน้าจอ
- ชิปประมวลผล
- กล้องหลังและกล้องหน้า
- สรุป iPad 9 vs iPad Air 4
ตารางเปรียบเทียบสเปค iPad 9 vs iPad Air 4
ข้อมูล\ รุ่น | iPad 9 (10.2 นิ้ว) | iPad Air 4 (10.9 นิ้ว) |
หน้าจอ | Retina | Liquid Retina |
ขนาด | 250.6 x 174.1 x 7.5 มม. | 247.6 x 178.5 x 6.1 มม. |
น้ำหนัก | WiFi : 487g Cellular : 498g | WiFi : 458g Cellular : 460g |
สี | เงิน, เทาสเปซเกรย์ | เงิน, เทาสเปซเกรย์, โรสโกลด์, เขียว, สกายบลู |
ชิปประมวลผล | Apple A13 Bionic | Apple A14 Bionic |
RAM | 3GB* | 4GB |
ROM | 64GB/ 256GB | 64GB/ 256GB |
กล้องหน้า | Ultrawide 12MP | FaceTime HD 7MP |
กล้องหลัง | 12MP ƒ/2.4 | 12MP ƒ/1.8 |
Apple Pencil | Apple Pencil (รุ่นที่ 1) | Apple Pencil (รุ่นที่ 2) |
Keyboard | Smart Keyboard | Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio |
แบตเตอรี่ | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชั่วโมง ท่องเน็ตสูงสุด 9 ชั่วโมง ช่องต่อ Lightning | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชั่วโมง ท่องเน็ตสูงสุด 9 ชั่วโมง ช่องต่อ USB-C |
การเชื่อมต่อ | 4G, WiFi | 4G, WiFi 6 |
ตารางเปรียบเทียบราคา iPad 9 vs iPad Air 4
ความจุ\ รุ่น | iPad 9 | iPad Air 4 |
64GB WiFi | 11,400 บาท | 19,900 บาท |
64GB Wi-Fi + Cellular | 16,400 บาท | 24,400 บาท |
256GB WiFi | 16,900 บาท | 24,900 บาท |
256GB Wi-Fi + Cellular | 21,900 บาท | 29,400 บาท |
ตัวเครื่องที่เกือบจะเท่ากันแต่ได้แค่คล้ายๆ
มาเริ่มกันที่ดีไซน์ iPad 9 vs iPad Air 4 ของตัวเครื่องกันก่อนเลยอย่างแรกที่ตัว iPad Gen 9 จะยังคงเป็นรูปแบบเดิมที่มีความโค้งมนอยู่ทั้งตัวเครื่อง และยังคงมีปุ่ม Touch ID อยู่บนตัวเครื่องให้ได้ใช้งานกันอยู่เหมือนเดิม แต่ว่ารุ่น iPad Air 4 นั้นจะเป็นตัวเครื่องเหลี่ยมพร้อมกับมีปุ่ม Touch ID ด้านบนตัวเครื่องแทน ทำให้ตัว iPad Air 4 นั้นจะมีหน้าจอที่กว้างและเต็มจอมากกว่าเยอะพอสมควร ส่วนในเรื่องความเบาบางของตัวเครื่องก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะว่า iPad Air 4 จะเบาบางกว่าอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ห่างกันมากเท่าไหร่นัก ที่สำคัญคือ iPad Air 4 จะมีสีให้เลือกเยอะกว่าด้วยคือเงิน, เทาสเปซเกรย์, โรสโกลด์, เขียว และสกายบลู ส่วน iPad 9 ตัวใหม่นี้จะมีเพียงสองสีคือเงิน และเทาสเปซเกรย์ นอกจากนี้พอร์ตในการเชื่อมต่อของ iPad 9 จะยังคงเป็นแบบ Lightning และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. อยู่ด้วย ถ้าเป็นของ iPad Air 4 จะเป็น USB-C ละไม่มีช่อง 3.5 มม.แล้ว
หน้าจอของทั้งสองรุ่นที่ยังคงห่างกัน
อย่างที่บอกไปว่าหน้าจอของ iPad Air 4 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า แต่ถ้าเทียบระดับคุณภาพของ iPad 9 vs iPad Air 4 ก็ถือว่ายังมีความคล้ายกันอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะเกือบเทียบกันไม่ได้ก็ตาม โดยหน้าจอของ iPad Gen 9 จะเป็นจอภาพ Retina แบบ Multi-Touch แบ็คไลท์แบบ LED พร้อมเทคโนโลยี IPS ที่มีความกว้าง 10.2 นิ้วมีขอบเขตสีกว้างระดับ sRGB และสแดงผลได้แบบ True Tone ส่วนของ iPad Air 4 จะเป็นจอภาพ Liquid Retina แบบ Multi-Touch แบ็คไลท์แบบ LED พร้อมเทคโนโลยี IPS พร้อมกับความกว้าง 10.9 นิ้ว อีกทั้งยังมีจอแบบ Full Lamination ขอบเขตสีกว้างระดับ P3 และป้องกันแสงสะท้อนได้ด้วย ส่วนความสว่างทั่วไปจะเท่ากันทั้งสองรุ่นคือ 500 นิต จะเห็นได้ว่าหน้าจอของ iPad Air 4 นั้นจะดีกว่ามาก ถ้าใครเน้นการใช้งานกับหน้าจอเป็นหลัก iPad Air 4 จะทำได้ดีกว่า แถมยังสามารถใช้งานกับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) และ Magic Keyboard ได้ด้วย ส่วนทาง iPad 9 จะใช้ได้กับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) และ Smart Keyboard แทน
ชิปประมวลผลก็ยังไม่เท่ารุ่นเก่าอยู่ดี
ถึงแม้ว่า iPad Gen 9 นั้นจะเป็นรุ่นใหม่ก็ตาม แต่ว่าชิปประมวลผลที่ได้ใส่มาให้กับรุ่นนี้จะเป็นตัว Apple A13 Bionic ที่ยังคงใช้งานตัดต่อภาพหรือวิดีโอ สร้างสรรค์งานต่างๆ พร้อมกับการทำงานหลายๆ แอพพร้อมกันได้ดีเยี่ยมอยู่เหมือนเดิม ส่วนในรุ่น iPad Air 4 จะเป็นชิปประมวลผลของ Apple A14 Bionic ที่มีความใหม่กว่าและเร็วกว่ากันเล็กน้อยด้วย เพราะไม่ได้ต่างเจนฯ กันมาก สามารถใช้งานแบบทั่วไปจนถึงระดับตัดต่อขั้นสูงได้ทั้งหมดเลย นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นยังมีขนาดความจุที่เท่ากันคือ 64GB และ 256GB แถมยังมีความจุแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้พอๆ กันที่ดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง และท่องเว็บได้สูงสุด 9 ชั่วโมง เหมือนกันทั้งหมดเลย รวมไปถึงการเชื่อมต่อที่ยังเชื่อมต่อได้แค่ 4G เหมือนกันด้วย
กล้องหลังและกล้องหน้านี่สิของจริง
เท่าที่ดูสเปค iPad 9 vs iPad Air 4 กันไปหลายอย่างก็เรียกได้ว่าตัว iPad Air4 นั้นค่อนข้างจะกินขาดไปหลายๆ ด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่เทียบไม่ติดจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องของกล้องหน้าของ iPad 9 ที่เป็นกล้องกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP ซูมออกได้ 2 เท่ามาพร้อมกับคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลาง ช่วยให้การประชุมหรือว่าการถ่ายด้วยกล้องหน้าดีมากขึ้น ส่วนของ iPad Air 4 จะเป็นกล้อง FaceTime HD 7MP ที่ถ่ายภาพได้ระดับ HDR อัจฉริยะ 3 แบบปกติ ส่วนกล้องหลังของทั้งสองตัวนี้ต้องยอมรับว่า iPad Air 4 นั้นดีกว่าเพราะเป็นกล้องไวด์ 12MP ที่มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และถ่ายระดับ HDR อัจฉริยะ 3 ได้ด้วย ในขณะที่ iPad 9 จะเป็นกล้องไวด์ 8MP มีรูรับแสงขนาด ƒ/2.4 และถ่ายได้เพียงระดับ HDR และถ่ายวิดีโอได้ระดับความชัดสูงสุดที่ HD เท่านั้น ซึ่งในรุ่น iPad Air 4 สามารถถ่ายได้ถึงระดับ 4K กันเลยทีเดียว
สรุป iPad 9 vs iPad Air 4 จะซื้อรุ่นไหนดีที่คุ้มกับการใช้งาน
สำหรับ iPad 9 vs iPad Air 4 ทั้งสองรุ่นนี้ความจริงแล้วก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัว iPad 9 ที่เป็นตัวใหม่นี้ก็ยังคงคอนเซ็ปเดิมคือเป็น iPad สำหรับรุ่นเริ่มต้น ที่เหมาะกับนักเรียน นักศึกษาที่เรียนออนไลน์ หรือการใช้งานแบบทั่วไปทั้งการตัดต่อ ดูหนัง ฟังเพลง ประชุม เรียน หรือว่าจดโน๊ตที่ได้หน้าจอใหญ่และมีราคาถูกมาก และถึงแม้ว่าทั้งสองรุ่นนี้จะเชื่อมต่อ Keyboard ได้คล้ายๆ กันก็ตาม แต่ตัว iPad Air 4 ก็ยังคงสามารถใช้ทำงานในระดับที่สูงกว่าทั่วไปได้ดีกว่าในหลายๆ ด้าน ทั้งสเปคของตัวเครื่อง หน้าจอ และการทำงานโดยรวมที่เร็วแรงกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการตัดต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือว่าจะเล่นเกมหนักๆ ก็ยังทำได้ นอกจากนี้การเชื่อมต่อก็สำคัญไม่แพ้กันที่ iPad 9 จะยังเป็น Lightning อยู่ แต่ว่า iPad Air 4 จะเป็น USB-C แล้ว ที่สำคัญคือราคาที่ห่างกันเกือบครึ่งในรุ่นเริ่มต้น สำหรับคนที่มีงบไม่เยอะมาก และไม่ได้เน้นการใช้งานสูงมากนัก iPad 9 จะเหมาะและถูกกว่าเยอะเลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เทียบสเปค iPad mini 6 vs iPad Air 4 ต่างกันตรงไหนและรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง?
- iPad mini 6 vs iPad mini 5 อัพเดตใหม่ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง เราเทียบให้ดูแล้ว!!
- เปรียบเทียบความต่างของสเปค iPhone 13 vs iPhone 11 จะซื้อรุ่นใหม่หรือใช้รุ่นเก่าดีกว่ากัน?
- iPhone 12 ตอนนี้ยังน่าซื้ออยู่ไหม หรือจะรอ iPhone 13 ดี เรามาดูกัน!! [อัพเดตหลังเปิดตัว]
- เปรียบเทียบกันชัดๆ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 มีสเปคต่างกันแค่ไหนและซื้อรุ่นไหนดี?
- iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max ต่างกันตรงไหนบ้าง จะซื้อหรือจะรอ เรามาดูกัน!!
- อัพเดทราคา iPhone ทุกรุ่นล่าสุดจาก Apple Dtac True AIS กันยายน 2021