เปรียบเทียบความแตกต่างสเปคของ iPhone 13 vs iPhone 11 จะซื้อรุ่นใหม่หรือใช้รุ่นเก่าดีกว่ากัน?
หลังจากที่ iPhone 13 ได้เปิดตัวออกมาใหม่ทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่น Pro ก็มีหลายคนให้ความสนใจกันเยอะมาก เนื่องจากตัวเครื่องและสเปคของรุ่นใหม่นี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่นัก จะมีก็เพียงบางส่วนที่มองโดยรวมแล้วก็ยังไม่หนีห่างจาก iPhone 12 มากเท่าไหร่นัก (ดูเปรียบเทียบ iPhone 12 vs iPhone 13) เรียกได้ว่าคนที่ใช้ iPhone 12 อยู่แล้วก็อาจจะต้องคิดเยอะหน่อย ถ้าจะต้องเปลี่ยนมาเป็น iPhone 13 แต่สำหรับคนที่ใช้รุ่นต่ำกว่านั้นอยู่แล้วล่ะ? อย่างเช่น iPhone 8 Plus หรือรุ่นที่ต่ำกว่า iPhone X ลงไปจะเลือกซื้อ iPhone 11 หรือข้ามรุ่นไป iPhone 13 เลยทีเดียวจะได้จบๆ เพราะสเปคและราคาของทั้ง iPhone 13 กับ iPhone 11 นั้นต่างกันเยอะพอสมควรเลย ถึงแม้ว่าจะมีขนาดที่เท่ากันก็ตาม แต่ถ้าเทียบสเปคข้างในและการใช้งานก็แทบจะเทียบกันไม่ติดเลย ซึ่งเราก็ไม่ได้หมายความว่า iPhone 11 นั้นแย่ถึงขั้นไม่น่าใช้งานเลย เพราะความจริงแล้ว iPhone 11 ก็ยังคงมีความเร็วแรงในตัวเองอยู่แล้ว แถมราคาก็ถูกกว่ากันเกือบครึ่ง เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาเปรียบเทียบความแตกต่างของ iPhone 13 vs iPhone 11 กันว่ามีสเปคอะไรตรงไหนต่างกัน และจะซื้อรุ่นใหม่หรือซื้อจะใช้รุ่นเก่าดีกว่ากัน ลุยกันเลย
- ตารางเปรียบเทียบสเปคของ iPhone 13 vs iPhone 11
- ตารางเปรียบเทียบราคาของ iPhone 13 vs iPhone 11
- ดีไซน์
- หน้าจอ
- ชิปประมวลผล
- กล้องหน้าและกล้องหลัง
- แบตเตอรี่
ตารางเปรียบเทียบสเปคของ iPhone 13 vs iPhone 11
ข้อมูล\ รุ่น | iPhone 13 | iPhone 11 |
ขนาด | 146.7 x 71.5 x 7.65 มม. | 150.9 x 75.7 x 8.3 มม. |
น้ำหนัก | 173 กรัม | 194 กรัม |
หน้าจอ | OLED จอภาพ Super Retina XDR ระดับ HDR กว้าง 6.1 นิ้ว | LCD จอภาพ Liquid Retina HD เทคโนโลยี IPS กว้าง 6.1 นิ้ว |
สี | แดง, สตาร์ไลท์, มิดไนท์, น้ำเงิน, ชมพู | ม่วง, เขียว, ขาว, ดำ, เหลือง, แดง |
ชิปประมวลผล | Apple A15 Bionic | Apple A13 Bionic |
RAM | 4GB* | 4GB |
ROM | 128GB /256GB /512GB | 64GB/ 128GB /256GB |
กล้องหน้า | TrueDepth 12MP Cinematic Mode | TrueDepth 12MP |
กล้องหลัง | Wide 12MP + Ultrawide 12MP Cinematic Mode | Wide 12MP + Ultrawide 12MP |
แบตเตอรี่ | เล่นวิดีโอสูงสุด 19 ชั่วโมง MagSafe, Lightning | เล่นวิดีโอสูงสุด 17 ชั่วโมง Lightning |
การเชื่อมต่อ | 5G, WiFi 6 | 4G, WiFi 6 |
ตารางเปรียบเทียบราคาของ iPhone 13 vs iPhone 11
ความจุ\ รุ่น | iPhone 13 | iPhone 11 |
64GB | – | 19,500 บาท |
128GB | 29,900 บาท | 21,500 บาท |
256GB | 33,900 บาท | 28,100 บาท* |
512GB | 41,900 บาท | – |
จากตารางจะเห็นได้ว่าราคาของแต่ละความจุนั้น จะห่างกันอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เว้นแต่ว่าในรุ่นตัวความจุต่ำสุดในซีรีส์ ที่มีราคาถูกกว่ากันเกือบครึ่ง ที่สำคัญคือจากตารางนี้ราคาของรุ่นความจุ iPhone 11 256GB บนหน้าเว็บของ Apple จะไม่ได้มีการนำมาวางขายแล้ว ราคาจะเป็นราคาเดิมก่อนปลดลงจากหน้าเว็บ ซึ่งใครที่อยากได้อาจจะลองไปหาซื้อร่วมกับแพ็กเกจของค่ายต่างๆ (ส่วนใหญ่จะเครื่องหมดแล้ว)
เปรียบเทียบความต่างของ iPhone 13 vs iPhone 11 ด้านการดีไซน์
เริ่มกันที่การดีไซน์ตัวเครื่องของทั้งสองรุ่นนี้คือ iPhone 13 vs iPhone 11 กันก่อนเลย เพราะว่าถ้าดูจากภายนอกก็พอจะรู้ได้แล้วว่ารุ่นไหนคือรุ่นอะไร จากความแตกต่างที่ดูได้ชัดเจนอย่างแรกเลยก็คือตัวกล้องหลัง ที่รุ่น iPhone 11 จะยังเป็นเลนส์กล้องที่เรียงแนวตรงอยู่เหมือนเดิม แต่ในตัว iPhone 13 นั้นจะเป็นแบบแนวเฉียงแทน และด้วยการเปลี่ยนหน้าจอแบบใหม่ จึงทำให้ขนาดของตัวเครื่องของ iPhone 13 นั้นจะมีขนาดที่เล็กและบางกว่านิดหน่อย รวมไปถึงน้ำหนักที่เบาลงเยอะเลยด้วย ส่วนเรื่องวัสดุจะยังเป็นแบบเดียวกันคืออะลูมิเนียม มีด้านหน้าและหลังเป็นกระจก แต่รุ่นใหม่จะเป็นแบบ Ceramic Shield ที่แข็งแรงทนทานกว่ากันเยอะ พร้อมกับมีรอยบากบนหน้าจอที่เล็กลงด้วย แน่นอนว่าสีของตัวเครื่องก็ต่างกันด้วยซึ่ง iPhone 13 จะมีสีแดง, สตาร์ไลท์, มิดไนท์, น้ำเงิน และสีชมพู ส่วน iPhone 11 จะมีสีม่วง, เขียว, ขาว, ดำ, เหลือง และสีแดง
เปรียบเทียบความต่างของ iPhone 13 vs iPhone 11 ที่หน้าจอ
อย่างที่บอกไปว่าตัวเครื่องของรุ่นใหม่นั้นจะเล็กและเบาบางกว่าตัว iPhone 11 อยู่พอสมควรเลย แต่ว่าในขณะเดียวกันก็ยังคงมีขนาดหน้าจอที่เท่ากันคือความกว้าง 6.1 นิ้วเท่ากัน โดยที่หน้าจอของ iPhone 13 จะเป็นแบบ OLED จอภาพ Super Retina XDR ระดับ HDR ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซลที่ 460 ppi พร้อมกับมีอัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 และมีความสว่างหน้าจอแบบทั่วไปสูงสุด 800 นิตกับความสว่างเมื่อใช้งาน HDR ได้สูงสุดถึง 1,200 นิต ต่างจากของ iPhone 11 ที่หน้าจอยังเป็นแบบเดิมคือ LCD เทคโนโลยี IPS จอภาพ Liquid Retina HD ที่มีความละเอียด 1792 x 828 พิกเซลที่ 326 ppi พร้อมกับอัตราส่วนคอนทราสต์ 1,400:1 และมีความสว่างหน้าจอแบบทั่วไปอย่างเดียวที่ 625 นิต จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าความต่างของหน้าจอ iPhone 13 จะดีกว่าเยอะมากไม่ว่าจะใช้งานแบบทั่วไปหรือว่า HDR ก็ตาม
เปรียบเทียบความต่างของ iPhone 13 vs iPhone 11 กับชิปที่ต่างกันถึง 2 Gen
แน่นอนว่ารุ่นที่ห่างกันถึงสองรุ่น จึงทำให้ตัวชิปประมวลผลก็จะต่างกันตามไปด้วย นั่นก็คือชิปของ iPhone 11 จะเป็น Apple A13 Bionic มี CPU แบบ 6-Core พร้อม GPU 4-Core และเทคโนโลยี Neural Engine แบบ 8-Core ที่มีความเร็วแรงในตัวอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าอาจจะเทียบกับรุ่นใหม่ไม่ได้ แต่ถ้าเรื่องการใช้งานก็ยังถือว่าทำงานได้ดีเยี่ยมในแบบของ iPhone แน่นอน ส่วนของ iPhone 13 นั้นจะอัพเกรดมาเป็นชิป Apple A15 Bionic มี CPU แบบ 6-Core แบบใหม่ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้เยอะ พร้อมกับ GPU 4-Core ที่เล่นเกมได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด กับเทคโนโลยี Neural Engine แบบ 16-Core ที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ 5G ได้แล้ว แถมยังกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68 ที่อยู่ได้ลึกไม่เกิน 6 เมตร (iPhone 11 แค่ 2 เมตร)
เปรียบเทียบความต่างของ iPhone 13 vs iPhone 11 เรื่องกล้องที่ถ่ายหนังได้แล้ว
มาต่อกันที่เรื่องของกล้องที่รุ่นใหม่นั้นเทพกว่าในหลายๆ ด้านด้วยความแตกต่างของรุ่นที่ห่างกัน จึงทำให้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังที่ทำได้ดีกว่ากันอย่างเห็นได้ชัด โดยกล้องหลังของ iPhone 11 จะเป็นกล้องสองตัวที่มีความละเอียด 12MP เลนส์ไวด์มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 เลนส์อัลตร้าไวด์มีรูรับแสงขนาด ƒ/2.4 พร้อมกับการถ่ายโหมดกลางคืนด้วย Deep Fusion เหมือนกันพร้อมกันสั่นแบบออปติคัล สามารถถ่ายวิดีโอหรือถ่ายรูปได้สวยงามปกติ
ในขณะที่ iPhone 13 นั้นก็จะมีกล้องหลังสองตัวที่ความละเอียด 12MP เลนส์ไวด์มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.6 เลนส์อัลตร้าไวด์มีรูรับแสงขนาด ƒ/2.4 ทำให้เก็บแสงได้ดีกว่าเยอะมากๆ พร้อมกับ HDR อัจฉริยะ 4 สำหรับภาพถ่ายและการปรับโทนภาพตามสไตล์ตัวเองได้แล้ว แถมยังมีกันสั่นแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ จะถ่ายรูปหรือวิดีโอก็ไม่ต้องกลัวภาพเบลอเลย นอกจากนี้ยังมี Cinematic Mode ที่รองรับ HDR แบบ Dolby Vision สามารถปรับโฟกัสขณะถ่ายวิดีโอได้อัตโนมัติเนียนๆ หรือจะมาปรับหลังจากที่ถ่ายแล้วก็ได้ ส่วนกล้องหน้าขอทั้งสองรุ่นจะเป็น กล้อง TrueDepth 12MP เหมือนกัน แต่ของ iPhone 13 จะรองรับ Cinematic Mode และรองรับโหมดกลางคืนด้วย Deep Fusion ได้แล้ว เรียกได้ว่ามาเหนือชั้นจริงๆ สำหรับรุ่นนี้
เปรียบเทียบความต่างของ iPhone 13 vs iPhone 11 กับแบตเตอรี่ที่อึดกว่า
สำหรับแบตเตอรี่ของรุ่นใหม่นั้น ยังไม่มีใครแกะออกมาดูจึงยังไม่รู้ว่ามีความจุเท่าไหร่ แต่ด้วยชิปและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น จึงทำให้ iPhone 13 นั้นสามารถเล่นวิดีโอได้สูงสุด 19 ชั่วโมง เล่นวิดีโอแบบสตรีมได้ 15 ชั่วโมง และฟังเพลงได้ต่อเนื่องนานถึง 75 ชั่วโมง พร้อมกับการรองรับ MagSafe อีกด้วย ส่วนในรุ่น iPhone 11 จะสามารถเล่นวิดีโอได้สูงสุด 17 ชั่วโมง เล่นวิดีโอแบบสตรีมได้ 10 ชั่วโมง และฟังเพลงได้ต่อเนื่อง 65 ชั่วโมง ก็ถือว่าต่างกันไม่เยอะ แต่คิดว่าถ้าได้ใช้งานจริงๆ แล้วการใช้งานแบบเต็มวัน iPhone 13 น่าจะอยู่ได้นานกว่า เพราะมีชิปประมวลผลที่ประหยัดแบตได้ดีกว่าตัวเดิมเยอะมาก ส่วนพอร์ตยังเป็o Lightning เหมือนเดิมทั้งสองรุ่น
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการเปรียบเทียบสเปคของ iPhone 13 vs iPhone 11 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งถ้าถามว่าจะซื้อรุ่นไหนดีกว่ากันระหว่าง iPhone 13 กับ iPhone 11 สำหรับคนที่ใช้งานรุ่นต่ำกว่า iPhone X ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าควรซื้อ iPhone 13 ไปเลยจะดีกว่า ด้วยความจุเริ่มต้นที่มากกว่าและประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่ากันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นชิปหรือว่ากล้องก็ตาม ทำให้รุ่นใหม่อย่าง iPhone 13 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่ากันเยอะเลย แต่ว่าถ้าใครมีงบไม่ถึงและอยากจะเล่นตัวรุ่นเริ่มต้นของ iPhone 11 ก็ถือว่ายังใช้งานได้ดีอยู่ ถ้าไม่ได้จะเน้นถ่ายรูปถ่ายหนัง หรือว่าต้องการความเร็วสูงมากนัก ก็ยังพอใช้งานได้ดีเยี่ยมแน่นอน แถมมีราคาพร้อมแพ็กเกจหรือราคาเครื่องเปล่าในรุ่นเริ่มต้นที่ถูกกว่ากันเยอะเลยด้วย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เทียบสเปค iPad mini 6 vs iPad Air 4 ต่างกันตรงไหนและรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง?
- iPad mini 6 vs iPad mini 5 อัพเดตใหม่ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง เราเทียบให้ดูแล้ว!!
- iPhone 12 ตอนนี้ยังน่าซื้ออยู่ไหม หรือจะรอ iPhone 13 ดี เรามาดูกัน!! [อัพเดตหลังเปิดตัว]
- เปรียบเทียบกันชัดๆ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 มีสเปคต่างกันแค่ไหนและซื้อรุ่นไหนดี?
- iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max ต่างกันตรงไหนบ้าง จะซื้อหรือจะรอ เรามาดูกัน!!
- อัพเดทราคา iPhone ทุกรุ่นล่าสุดจาก Apple Dtac True AIS กันยายน 2021