iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max ต่างกันตรงไหนบ้าง จะซื้อหรือจะรอ เรามาดูกัน!!

iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max ต่างกันตรงไหนบ้าง จะซื้อหรือจะรอ หลังจากที่ทาง Apple ทำการเปิดตัว iPhone 13 ไป พร้อมทั้งทำการลดราคา iPhone 12 ลง และเอารุ่น Pro ทั้งหมดออก แต่ทว่าก็ยังสามารถหาซื้อ iPhone 12 Pro / Pro Max ได้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นทางตัวแทนจำหน่ายต่างๆ หรือทางเครือข่าย แต่ก็จำเป็นต้องรีบหน่อยเพราะจะไม่มีการเติมของแน่นอนหากของหมดสต๊อก หลังจากนั้นก็ควงต้องไปพึ่งเครื่องมือสองแทน ซึ่งทำให้อาจจะมีหลายๆ คนที่ยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อของใหม่ไปเลยดีหรือจะซื้อรุ่นก่อนแทนดี วันนี้เราเลยจะมาเทียบกันให้ดูว่าจุดแตกต่างระหว่างทั้ง 2 รุ่นมีตรวงไหนบ้าง

• เทียบสเปค iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max
• เทียบราคา iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max
• ความแตกต่าง iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max
  • หน้าจอ
  • ชิปประมวลผล
  • กล้องถ่ายภาพ

สเปค iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max

เทียบราคา iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max

สำหรับราคาของ iPhone 12 Pro Max ในตารางนั้นจะเป็นราคาเครื่องก่อนที่จะถูกถอดออกจาก Apple Store ซึ่งเราเอามาเทียบให้ดูกันว่าราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนเท่าไร ส่วนราคา iPhone 12 Pro Max นั้นหลังจากนี้จะต้องไปรอดูกับทางเครือข่ายแทน ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องเป็ยราคาแบบติดโปรด้วย นอกเหนือจากราคาติดโปรแล้วก็มีแค่ราคามือสองเท่านั้น

iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max ต่างกันตรงไหนบ้าง

iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max : หน้าจอ

ในเรื่องความแตกต่างด้านหน้าจอนั้นโดยหลักๆ แล้วจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก เพราะใช้หน้าจอพาแนลเดียวกันคือ Super Retina XDR และมีขนาดหน้าจอเท่ากันคือ 6.7 นิ้ว รองรับการแสดงผลแบบ HDR10 และ Dolby Vision เช่นเดียวกัน รวมถึงมีการเคลือบ Ceramic Shield และสามารถทำความสว่างได้สูงสุดถึง 1200 nits เช่นเดียวกัน

แต่ส่วนที่แตกต่างกันแบบเห็นได้ชัดเลยใน iPhone 13 Pro Max ก็คือสิ่งที่หลายๆ คนต้องการอย่างลดขนาดของ Notch ลง ทำให้หน้าจอมีพื้นที่แสดงผลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ ProMotion 120Hz เข้ามา ในขณะที่ iPhone 12 Pro Max มีค่า Refresh Rate ที่ 60Hz เท่านั้น นอกจากนี้ความสว่างหน้าจอพื้นฐานยังได้รับการอัพเกรดด้วยนะ โดยใน iPhone 12 Pro Max ความสว่างโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 800 nits แต่ใน iPhone 13 Pro Max นั้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,000 nits ซึ่งช่วยให้การใช้งานในที่สว่างมากๆ ได้ดีขึ้น

iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max : ชิปประมวลผล

ในส่วนของชิปประมวลผลที่ Apple A14 Bionic ที่ใช้ใน iPhone 12 Pro Max และ Apple A15 Bionic ที่ใช้ใน iPhone 13 Pro Max นั้นโดยพื้นฐานแล้วใช้โครงสร้างเดียวกันคือมี CPU แบบแรงจำนวน 2 คอร์และแบบประหยัดพลังงานจำนวน 4 คอร์ รวมถึงใช้การผลิตที่ขนาด 5nm เช่นกัน แต่ที่ต่างกันก็คือ GPU ที่อยู่ใน A15 Bionic นั้นมีทั้งหมด 5 คอร์ ในขณะที่ A14 Bionic นั้นมีเพียง 4 คอร์

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มทรานซิสเตอร์ให้มาขึ้นเป็น 15 พันล้านตัว ในขณะที่ A14 Bionic มีทรานซิสเตอร์เพียง 11.8 พันล้านตัวทำให้การประมวลผลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถของ Neural Engine ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะมาใน iOS 15 โดยการเพิ่ม Operations Per Second หรือความสามารถในการประมวลผลคำสั่งต่อวินาทีให้เยอะขึ้นจากเดิมที่มีสามารถทำได้ 11 พันล้านคำสั่งต่อวินาทีเป็น 15 พันล้านคำสั่งต่อวินาที ทำให้การคำนวนค่าต่างๆ ของ Machine Learning มีประสิทธิภาพมากขึ้นแถมยังรวดเร็วขึ้นด้วย

iPhone 13 Pro Max vs iPhone 12 Pro Max : กล้องถ่ายภาพ

ในด้านของกล้องถ่ายภาพนั้นรอบนี้เรียกว่าอัพเกรดกันแบบจัดเต็มมากทีเดียว โดยหลักๆ ที่เหมือนกันก็คือยังมี 3 เลนส์ โดยที่แต่ละเลนส์มีความละเอียด 12MP เช่นเดียวกันหมด รวมถึงกล้องหน้าแบบ TrueDepth ที่มีความละเอียด 12MP ก็เป็นตัวเดียวกันด้วย นอกจากนี้ที่เลนส์หลักยังมี Sensor-Shift OIS มาให้เหมือนๆ กันด้วย แต่ที่แตกต่างกันจะเป็นขนาดของรูรับแสง, ระยะซูม รวมถึงมีโหมดใหม่เพิ่มขึ้นมาด้วย

สำหรับในเรื่องของรูรับแสงที่เปลี่ยนไปใน iPhone 13 Pro Max นั้นทั้งเลนส์หลักและเลนส์ ultrawide จะมีขนาดที่กว้างขึ้นเพื่อให้สามารถเก็บแสงได้สว่างขึ้น ช่วยให้สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ทำการลดขนาดความกว้างของรูรับแสงในเลนส์ telephoto ให้แคบลงเพื่อให้สามารถเก็บรายละเอียดเวลาซูมได้มากขึ้น อีกทั้งยังได้เพิ่มระยะเลยส์จาก 65mm. ไปเป็น 77mm. ทำให้ตัวเลนส์สามารถซูมได้ไกลขึ้น แถมยังสามารถเอาไปใช้ถ่ายภาพ / วิดีโอแบบ macro ได้อีกด้วย นี่นับเป็นครั้งแรกเลยที่ iPhone สามารถถ่ายภาพแบบ macro ได้

สำหรับโหมดใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ Cinematic Mode โดยในโหมดนี้จะช่วยให้สามารถเลือกจุดโฟกัสเองได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นระหว่างถ่ายหรือแม้ถ่ายเสร็จไปแล้วก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ นอกจากนี้ยังมีการปรับโทนสีให้เหมาะกับภาพในขณะนั้นแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ได้ไฟล์ที่ตรงตามต้องการทันที โดยไม่จำเป็นต้องเอาไปปรับอะไรเพิ่มเลย หรือถ้าจะปรับแต่งเพิ่มก็สามารถปรับแต่งในเครื่องได้เลย หรือถ้าชอบตัดต่อจอใหญ่ๆ ก็สามารถย้ายขึ้นไปตัดผ่าน Final Cut Pro บน Mac ได้ง่ายๆ ความสะดวกของ Cinematic Mode คือสามารถใช้กล้องตัวไหนถ่ายก็ได้ ทั้งยังรองรับ HDR แบบ Dolby Vision ด้วย

ถ้าให้สรุปว่าเครื่อวงไหนน่าซื้อกว่ากัน หากมองที่เครื่องมือ 1 แล้วยังไง iPhone 13 Pro Max ก็น่าซื้อกว่าเป็นไหนๆ แต่สำหรับคนที่ใช้ iPhone 12 Pro Max อยู่แล้วต้องบอกเลยว่ายังไม่คุ้มที่จะเปลี่ยนเท่าไร เพราะนอกจากเรื่องกล้องกับหน้าจอ 120Hz แล้วไม่ค่อยจะมีความแตกต่างกันเท่าไรในด้านการใช้งานจริง เนื่องจากแอพต่างๆ ในปัจจุบันนั้นยังไม่สามารถใช้งานชิปประมวลผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วนคนที่จะซื้อแบบข้ามรุ่นไกลๆ หรือเปลี่ยนจาก Android มา iPhone อันนี้ซื้อได้เลย เพราะมันจะทำให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างแน่นอน

สำหรับคนที่ลังเลว่าจะซื้อ iPhone 13 Pro Max ดี หรือจะซื้อรุ่นก่อนอย่าง iPhone 12 Pro Max ดีนั้น ถ้าเพื่อนๆ ไม่สามารถหา iPhone 12 Pro Max ได้ในราคาที่ต่ำกว่ามากๆ หรือมองหาเครื่องมือสองดีๆ ไม่เป็น การหันไปเลือกซื้อ iPhone 13 Pro Max อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าก็ได้

บทความที่เกี่ยงข้อง

iPhone 13 เปิดตัวใหม่ 4 รุ่น มีสเปคอะไรใหม่ และมีอะไรน่าสนใจบ้าง?

เปิดตัว iPad mini 6 ดีไซน์ใหม่ พอร์ต USB-C รองรับ 5G ราคาเริ่มต้น 17,900 บาท

เปิดตัว Apple Watch Series 7 จอใหญ่ขึ้น ชาร์จไว วางขายปลายปีนี้

iPhone 12 ตอนนี้ยังน่าซื้ออยู่ไหม หรือจะรอ iPhone 13 ดี

เปรียบเทียบ iPhone 13 Pro vs iPhone 13 สเปคต่างกันแค่ไหน ซื้อรุ่นไหนดี?