การใช้งานเว็บบราวเซอร์: Safari
และเมื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้แล้ว ใน iOS 4 จะไม่พูดไม่ได้กับเว็บบราวเซอร์ติดตัวมาอย่าง Safari ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้อะไรมากมาย แต่สำหรับการโหลดหน้าเว็บไซต์ยังคงรวดเร็วมากเหมือนเดิม และก็เช่นเดิมที่คงไม่รองรับ Flash นอกเหนทอจากนี้คงมีฟังก์ชัน Cut/Copy/Paste มาให้ รวมไปถึง auto-fill และระบบจดจำ User Password/Password ยังมีมาให้ครบ โดยตัว Safari สามารถเปิดเว็บไซต์ได้หลายหน้า โดยที่รูปแบบถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน
จะทำการปิดหน้าเว็บไซต์ก็ทำได้ง่ายมาก เพียงแต่กดปุ่มแสดงหน้าเว็บเป็นหน้าต่างและกดกากบาทด้านมุมขวาของหน้าต่างได้เลย ตัว App เร็วมาก อีกทั้งสามารถใช้ Multitouch ได้คล่องมาก เต็มรูปแบบ เวลาซูมเข้าออกก็ดูตอบสนองได้เหมือนจริงมากๆ ครับ
ตัว Safari เอง ยังได้เพิ่มระบบ Google Suggestions และ Bookmark Suggestions มาให้ ซึ่งเวลาพิมพ์ตัวอักษรอะไรใน Address Bar มันก็จะเป็นการค้นหาจาก Google หรือ Bookmark ของเราโดยอัตโนมัติทันที ยังรวมไปถึงแสดง History อีกด้วย เรียกได้ว่าเพิ่มความสะดวกอย่างรู้สึกได้
การชมวีดีโอออนไลน์: Youtube
สำหรับการชมวีดีโอออนไลน์ใน Youtube หลายคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว ที่ถือว่าเป็นแหล่งดูวีดีโอออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ว่าจะหาดูอะไร ทั้งไทยและเทศ ก็มีมาให้หมด ซึ่งแน่นอนว่าเป็น App หนึ่งใน iPhone ที่ติดกับเครื่องมา ส่วนการใช้งาน Youtube นั้นก็จัดอยู่ในขั้นที่เรียกว่า ใช้ง่ายหาง่ายดูง่าย ซึ่งมีทั้งโหมด Most viewed/Featured รวมถึงสามารถ Login Account Youtube ของเราได้เพื่ออัพโหลดไฟล์วีดีโอเข้าไปใน Youtube ได้ทันทีไม่ต้องง้อคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังให้ Comment และให้ Rate ของ Video นั้นๆ ได้ทันทีอีกด้วย
สังคมออนไลน์: Social Network
สำหรับ App ที่ติดมาให้ ต้องบอกเลยว่าใน iPhone นั้นไม่ว่าจะรุ่นไหนเวอร์ชั่นไหนก็ไม่ได้มีพวก Social Network มาให้เลย ซึ่งคาดว่าหาโหลดได้ง่ายๆ อยู่ แถมยังได้เป็นตัวที่อัพเดทล่าสุด โดยเราต้องติดตั้งเอาเองผ่าน App Store ซึ่ง App อย่าง Facebook หรือ Twitter ก็มีฟรีทั้งหมด สำหรับหน้าตาและรูปแบบการใช้งานก็ดูง่าย มือใหม่แค่ไหนใช้งานแปบเดียว ก็จะใช้คล่องมือทัน พร้อมทั้งมีคุณสมบัติการทำงานมาให้อย่างครบครัน ไม่แพ้เล่นในเว็บบราวเซอร์เลยครับ
ยกตัวอย่างเช่น Facebook ที่มีคุณสมบัติที่ครบถ้วน อาทิ การอ่าน Feed/ค้นหาเพื่อน/Status Update มีให้เลือกใช้งานได้หมด รวมไปถึงมีระบบ Notification หรือแจ้งเตือนในตัว ซึ่งแสดงผลเป็นอย่างดีกับภาษาไทย ทำให้แสดงผลได้อย่างสมบูรณ์เรียบร้อยอีกด้วย
มาดูที่ Twitterกันบ้าง จะขอแนะนำเป็นตัวของ Twitterrific ละกันครับ โดยตัว App เองมีคุณสมบัติการใช้งานครบครันไม่ว่าจะเป็นการอ่าน All Tweets/Mentions/Messages/Favorites หรือจะเป็นการค้นหาต่างๆ ในโลก Twitter ก็สามารถทำได้ รูปแบบการใช้งานก็ดูเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริงครับ
ถัดมาเรียกว่าขา Chat พลาดไม่ได้เลยกับ App ที่ไว้สนทนาพูดคุยกัน ซึ่งขอเสนอเป็น eBuddy เพราะเป็น App ที่เราสามารถออนไลน์ได้หลายๆ Account พร้อมกัน ทำให้สะดวกมากๆ เมื่อใช้งานจริง สำหรับคนที่ออนไว้ทั้ง Facebook Chat และ MSN Messenger นอกเหนือจากนี้ยังรองรับ Yahoo! Messenger/AIM/GTalk/MySpace อีกด้วยครับ
การใช้งานเป็นตัวจัดการ: Organizer
โดยปกติแล้วใน iPhone 4 นั้น บอกตามตรงได้เลยว่าไม่ได้มี App ที่มีความสามารถอะไรมากมายที่ติดตัวมาในการเปิดเครื่องครั้งแรก พวกคุณสมบัติการใช้งานต่างๆ ที่จำเป็น ความสามารถต่างๆ ที่ต้องการ ถือว่ายังขาดอยู่พอสมควร ซึ่งเราจำเป็นต้องพึ่งพา App Store ในการดาวน์โหลดมาติดตั้งเสียส่วนใหญ่ สำหรับบางคนที่ไม่เน้นตรงนี้กก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอเพียงครับ
App อย่าง Calendars?เราสามารถที่จะ Sync ผ่าน Google หรือ Outlook ได้ อีกทั้งมีการแสดงผลที่หลายรูปแบบ อาทิ แบบเดือน/วัน/Agenda ทั้งหมด ซึ่งสามารถเลือกดูปฏิทินแต่ละอันได้ หรือจะเลือกดูรวมทั้งหมดก็ทำได้ สำหรับการตั้งเตือนมีรายละเอียดค่อนข้างครบถ้วน โดยที่เราจะตั้งเตือนแบบ Repeat หรือใส่รายละเอียดตามต้องการได้
สำหรับ Clock ที่เป็น App หนึ่งบน iPhone 4 มีหน้าที่เป็นนาฬิกา?พร้อมมีคุณสมบัติรองรับได้อย่างครบครัน อาทิ นาฬิกาปลุก/World Clock/นาฬิกาจับเวลา/นาฬิกานับถอยหลัง/ตั้งเวลาปิด iPod
ซึ่งการใช้งานทุกอย่างจัดได้ว่าเรียบง่ายแต่ดูดี ง่ายๆ ว่าเมื่อเปิดเข้ามาก็เข้าใจแล้วว่าปุ่มนี้มีหน้าที่ไว้ทำอะไรบ้างแล้วครับ
Voice Memos หรือ เครื่องบันทึกเสียง มีรูปแบบหน้าตาที่ดูสวยงาม อารมณ์คล้ายพูดกับไมโครโฟนดีไซน์คลาสิกจริงๆ โดยที่เราสามารถอัดเสียงได้ไม่จำกัดเวลา และสามารถเปิดฟังได้ทันที รวมถึงตัดต่อคลิปเสียงได้เลยในโปรแกรม เหมาะมากๆ ที่เอาไว้บันทึกการประชุมหรือในห้องเรียน ซึ่งเสียงที่ได้ถือว่ามีคุณภาพออกมาที่ดี โดยสามารถที่จะส่ง Email หรือ MMS ได้ในทันทีครับ
App ที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ Voice Control ที่มีมาตั้งแต่ iPhone 3GS เป็นต้นมา โดยความสามารถนี้เป็นการสั่งงานด้วยเสียง ได้แทบทุกอย่างของเครื่องไม่ว่าจะเป็นการโทร/ฟังเพลง/ดูวีดีโอ/เปิด App อื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่สำคัญคือต้องมีสำเนียง English ซักหน่อยนะครับ เพราะถ้าพูดไม่ชัดเจนอาจจะเป็นการสั่งใช้งานอื่นได้ อย่างกรณีที่เราสั่งโทรออก อาจจะเป็นการสั่งเล่นเพลงใน iPod ก็เป็นได้ (ฮา) อีกทั้งตอนนี้ยังไม่รองรับภาษาไทยนะครับ และก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะรองรับหรือเปล่าอีกด้วย ยังไงก็ถือโอกาสออกสำเนียง English กันไปก็แล้วกันครับ ^^
Calculator มีหน้าที่เป็นเครื่องคิดเลข?ซึ่งถ้าเราคำนวณอะไรที่ง่ายๆ ก็ให้ถือเป็นแนวตั้งซึ่งรูปแบบหน้าตาจะแนวบ้านๆ ตลาดๆ แต่ในกรณีที่เราต้องการใช้งานคำนวณที่ซับซ้อนก็ให้ถือเป็นแนวนอน ซึ่งตัว App เอง ก็จะ Advance ขึ้นมา โดยมีทั้ง Sin/Cos/Tan เพิ่มเข้ามาใช้งานที่จริงจังได้ในระดีบนึง ส่วนใครที่เป็นนักเรียนนักศึกษาคาดว่าอาจารย์คงไม่ให้นำเข้าห้องสอบหรอกนะครับ ;p
Stock เป็น App หนึ่งที่สำหรับประเทศไทยอาจจะยังไม่มีประโยชน์เท่าไรนัก เพราะยังดู SET (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) ไม่ได้ ซึ่งถ้าใครจะดูฟังตลาดของต่างประเทศก็สามารถทำได้เลยโดย App จะมีรูปแบบหน้าตาที่ละเอียดและสวยงาม แสดงผลเป็นกราฟได้ โดยดึงข้อมูลมาจาก Yahoo เป็นหลัก (ดูภาพประกอบหุ้น Apple มีแต่ขึ้นกับขึ้นครับ ^^)
ถัดมาเป็นส่วนของการเช็คสภาพอากาศ โดยผ่าน Weather?ซึ่งเอาไว้ดูสภาพอากาศทั่วโลก สามารถเพิ่มเมืองเข้าไปได้เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ รวมไปถึงมีพยากรณ์ล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ พร้อมกับบอกสภาพอากาศในเวลาขณะตอนนั้นด้วย และกราฟิกสีพื้นหลังที่เปลี่ยนไปได้ตามเวลากลางวันและกลางคืน โดยดึงข้อมูลมาจาก Yahoo เช่นกันครับ
ใครที่ชอบอ่านหนังสือก็พลาดไม่ได้กับ iBook?ที่เป็น App ไว้อ่าน E-Book โดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้จะอยู่บน iPad เท่านั้น แต่ตอนนี้ได้ถูกจับมาลงบน iPhone iOS 4 เช่นกัน เราสามารถที่โหลดเองได้ผ่าน App Store (ฟรี) โดยเปิดมาครั้งแรกจะพบกับหนังสือ Winnie The Pooh ซึ่งฟรีมาให้ 1 เล่ม เอาไว้ทดลองอ่านกัน สำหรับลูกเล่นก็มีอย่างเช่นปรับรูปแบบอักษร/ขนาดอักษร/Highlight/ Search หาคำในหนังสือ พร้อมทั้งมีรูปแบบการเปลี่ยนหน้าหังสือเหมือนกับการอ่านหนังสือจริงๆ นอกจากนี้โปรแกรมยังอ่านไฟล์ PDF ได้อีกด้วย ซึ่งด้านบนของโปรแกรมจะมีหมวดแยกระหว่าง Book กับ PDF File ไว้อย่างชัดเจน โดยเราสามารถโหลดไฟล์ PDF ที่เราสนใจมาอ่านเองได้ เพราะในตอนนี้ในส่วนของ E-Book ที่เป็นภาษาไทยยังไม่ค่อยเยอะเท่าไร
ลูกเล่นชั้นดีเลยกับ Maps?ที่คอยเป็นแผนที่ให้ใน iPhone ตั้งแต่ iPhone 3G เป็นต้นมา โดยมีโมดูล GPS ในตัวเอง รวมไปถึงมีความสามารถอย่าง A-GPS ด้วย ทำให้จับสัญญาณได้ไวขึ้น แม่นยำขึ้น ที่ทำหน้าที่เป็นตัวระบุตำแหน่งและนำทาง ซึ่งตัว iPhone ยังคงใช้ Google Map เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง มีรูปแบบการแสดงแผนที่ได้หลายรูปแบบด้วยกัน?พร้อมทั้งตัว iPhone ยังมี Digital Compass มาให้ทำให้การนำทางทำได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันดู Traffic ได้บน Google Maps ซึ่งสะดวกดี ใช้งานได้จริงครับ
โดยจากการทดสอบ GPS มีความแม่นยำพอสมควร ถือว่าอยู่ในระดับใช้ได้ ไม่ได้แม่นและเร็วมากมายอย่างที่ GPS Navigator ทำได้ ตัว App ยังพอนำทางได้แบบคร่าวๆ แต่ว่าไม่มีระบบ Navigator แบบสมบูรณ์ เป็นแค่การบอกเส้นทางเท่านั้น ซึ่งถ้าเราต้องการระบบ Navigator ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ?คงต้องลองหาซื้อ App อย่าง iGO/TomTom/Sygic ใน App Store ดูแล้วครับ