iOS เวอร์ชั่น 4.0 ถือว่าเป็นตัวล่าสุดที่?Apple ปล่อยออกมา พร้อมกับติดตั้งมาใน iPhone 4 ส่วน iPhone 3Gs ใครที่มีอยู่แล้วก็สามารถอัพเกรดได้ แต่ความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาคงจะไม่เทียบเท่ากับ iPhone 4 ซักทีเดียว ?เรียกได้ว่าคุณสมบัติต่างๆ นั้นถูกตัดออกไปพอสมควรเลย
อย่างที่ทราบกัน iPhone 4 มีสเปกที่สูงกว่า iPhone 3Gs เกือบทุกด้าน เพราะเป็นรุ่นที่ใหม่กว่า ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ฮาร์ดแวร์เป็นหลัก อาทิ ซีพียู GPU/RAM ที่สูงกว่าทำให้การใช้งานเร็วขึ้นมากพอสมควร รองรับเกมกราฟิกสวยงาม และยังเปิดแอพพลิเคชั่นได้เยอะขึ้นในเวลาเดียวกัน รวมไปถึง ความละเอียดหน้าจอ/ความละเอียดกล้อง/ถ่ายวีดีโอ HD ได้/LED Flash/Gyroscope/กล้องด้านหน้า ที่ไว้ Video call อีกด้วย ซึ่งต่อไปนี้เราจะมาดูในส่วน iOS 4 นะครับ ว่ามีอะไรที่เด่นๆ บ้าง
1. Home Screen Wallpaper เปลี่ยนได้เอง จากแต่ก่อนที่เปลี่ยนได้เฉพาะ Lock Screen ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายคนรอมานานแสนนาน ด้วยความที่ว่าบางคนชอบปรับแต่งหน้าจอของมือถือในแบบของตัวเอง จนล่าสุด iOS 4 เราถึงได้เห็นกัน โดยเราสามารถตั้งค่าได้ทั้ง Lock Screen และ Home Screen อีกทั้งยังสามารถ ขยาย-ลด ขนาดสเกลของภาพหรือเลื่อนภาพไปมาตามตำแหน่งที่เราต้องการได้ ส่วนอื่นๆ ยังไม่สามารถทำได้ อาทิ Theme หรือเปลี่ยน icon โดยหากใครต้องการจะทำก็ต้อง Jailbreak เท่านั้น ถึงจะทำได้หมด :p
2. Folder เท่าที่ผ่านมา iPhone ใน iOS ก่อนๆ นั้น มีข้อจำกัดก็คือติดตั้ง App ได้ไม่เกิน 11 หน้า (ตกแล้สหน้าละ 16 App) แต่ด้วยคุณสมบัติที่มาใน Folder จะทำให้สามารถติดตั้ง App?ได้จากเดิม เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 กว่า App?กันเลยทีเดียว เพราะ 1 Folder นั้นสามารถติดตั้งได้ถึง 12 ?App ซึ่งเมื่อรวมๆ แล้ว ก็มีจำนวนที่มากจนเล่นไม่หวาดไม่ไหวกันทีเดียว โดยสาเหตุทที่ Apple ทำ คาดว่าน่าเป็นที่จำนวนบน App Store ที่เพิ่มสูงมากขึ้นจนจะครบหนึ่งหมื่นล้าน App?แล้วก็เป็นได้ (ที่จริงแล้วคุณสมบัตินี้ iOS รุ่นก่อนหน้า ?ก็ทำได้หากนำไป Jailbreak)
สำหรับวิธีการสร้าง Folder นั้น ก็สามารถทำได้ง่ายมากๆ เพียงแค่กด icon ใด icon หนึ่งค้างเอาไว้เพื่อลาก App?ไปทับอีก App?มันก็จะรวมเป็น Folder เดียวกันในทันที และสามารถตั้งชื่อ Folder ได้ตามใจชอบ และถ้าหากมี Folder แล้ว ก็ลาก App?ที่ต้องการเข้าไปได้เลย โดยใส่ได้มากสุด 12 App ต่อ 1 Folder ครับ
3. Multitasking ระบบ Multitask ของ iPhone นั้นจะแตกต่างจากระบบปฏิบัติการอื่นๆ เราจะเรียกง่ายๆ ว่า Multitask แบบเเสมือนก็ได้ครับ เพราะว่าเป็นการรัน App โดยมี API มาเกี่ยวข้อง ดังนั้น หลายๆ App จะไม่เหมือนกันซักทีเดียว อาทิ บาง App จะเป็น Multitasking อย่างสมบูรณ์ ส่วนบางตัวก็แค่เป็นการ Freeze ตัว App ไว้เฉยๆ เท่านั้น หรือที่ Apple เรียกมันว่า Fast app Switching ดังนั้นเรียกได้ว่าบาง App?ก็เต็ม บางโปรแกรมก็เสมือนว่าเราเปิดปิดมันไว้ แต่โดยแท้จริงแล้วมันเปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งข้อดีของมันก็คือทำให้เมื่อเปิดใช้งาน ก็สามารถเปิดได้เร็วรวด และอัพเดทสถาะต่างๆ ได้อยู่ตลอดเวลา โดยที่การทำงานของระบบทั้งหมดยังคงราบรื่นต่อไปได้ นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ iPhone 4 เหนือกว่า iPhone 3GS เพราะว่ามี RAM ที่สูงกว่านั่นเองครับ
ส่วนใหญ่ App ภายในเครื่องจะเป็นแบบ Fast app Switching อยู่แล้ว อาทิ Phone/iPod/Safari ซึ่งสามรถยังคงเท่าเดิมสถานะเดิมไว้ได้และถ้าย้อนกลับมาเปิดเมื่อไหร่ ตัว App เองก็จะปัจจุบันทันที หรือ App อย่าง Facebook หรือ Foursquare ก็เช่นกัน ที่จะมีการแจ้งเตือนสถานะตลอดเวลา
สำหรับวิธีการใช้งาน Multitasking นั้นก็ทำได้ง่ายๆ แค่กดปุ่ม Home 2 ครั้งติดกัน (ดับเบิ้ลคลิก) ทันใดนั้นด้านล่างของหน้าจอจะมีแถบขึ้นมาพร้อมบอก App ที่เราเปิดค้างไว้อยู่ เพื่อเป็นการสลับการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถเลื่อนดู App?โดยการสไลด์ไปทางด้านขวาเรื่อยๆ ซึ่งในกรณีที่เราเปิิด App ใดไว้อยู่แล้ว จะไม่ขึ้นกับแถบด้านล่างนะครับ
การใช้งาน Multitasking บน iPhone 4 นั้นไม่ต้องกังวลเรื่อง RAM หรือจะทำให้เครื่องใช้งานได้ช้า เพราะว่า RAM เยอะแถม Multitask แบบพิเศษของ App ช่วยให้กิน RAM น้อยมาก ดังนั้นไม่ต้องมานั่งปิด App ที่ค้างไว้ให้ยุ่งยากหรือบางโปรแกรม ยกตัวอย่างเช่น iPod ที่มีเสียงออกมาถ้าต้องการปิดก็ต้องเข้าไปปิดเอา ส่วนอันอื่นๆก็ปล่อยมันค้างไว้ได้ครับ
4. iPod Control นอกเหนือจากนี้ แถบด้านล่างที่แสดง App?ในระบบ Multitasking เมื่อเลื่อนไปทางซ้ายจนสุด ยังเป็น iPod Control ทำให้สามารถควบคุมการเปิด/ปิด หรือเปลี่ยน เพลงได้อย่างง่าย รวมถึงมี icon iPad ให้เข้าไปยัง App?ได้ทันที??และมีปุ่ม Lock Rotate Screen ได้ ซึ่งถือเป็นความสามารถใหม่ใน iOS 4 ที่ไม่แตกต่างไปจาก iPad iOS 4 เลยครับ
5. FaceTime ที่เป็นการรองรับการใช้งาน Video Call เป็นครั้งแรกของ iPhone และเป็นสิ่งที่มีเฉพาะบน iPhone 4 เท่านั้น โดยที่กล้องหน้ามีความละเอียดที่ 300,000 พิกเซล ซึ่งเอาไว้ใช้ร่วมกับคุณสมบัติ FaceTime เป็นหลัก (หรือจะใช้กล้องหลัง FaceTime ก็ทำได้ แต่เราจะไม่เห็นหน้าตัวเอง)เพื่อการคุยแบบเห็นหน้าผ่าน Wi-Fi ไปยัง iPhone 4 อีกเครื่องหนึ่ง อีกทั้งกล้องหน้ายังสามารถถ่ายภาพและวีดีโอปกติได้ด้วย (อันนี้สาวๆ ชอบ) รวมไปถึง App?อื่นๆ ก็ความสามารถใช้งาน Video call เช่นกัน อาทิ Skype และ Fring
6. Search Engine โดยเราสามารถค้นหาจาก Google/Yahoo/Bing ผ่านในหน้า Safari โดยเวอร์ชั่นก่อนๆ จะค้นหาได้เพียง Google เท่านั้น ไม่สามารถเลือกได้แต่อย่างใด?รวมไปถึงในส่วนของ Spotlight Search ด้านซ้ายของ Home Screen จากเดิมที่สามารถค้นหาได้เฉพาะไฟล์ต่างๆ และ App ภายในเครื่อง จะว่าไปก็ตาม Android มาติดๆ เหมือนกัน เรื่องระบบการค้นหา
7. Keyboard Layout & Keyboard Bluetooth มีการเพิ่ม Keyboard Layout ให้มีทั้งแบบ QWERTY/QWERTZ? และ AZERTY พร้อมใช้งานได้ทั่วโลก รวมไปถึงสามารถใช้งาน iPhone 4 ร่วมกับ Keyboard ที่เป็น?Bluetooth ได้?อีกทั้งยังได้เพิ่มภาษาและประสิทธิภาพของระบบ Spell Checker ซึ่งสามารถเลือกข้อความที่ถูกต้องได้อย่างง่าย แต่จากการใช้งานภาษาไทยเรื่องเช็คคำ ยังดู Fail Fail อยู่นะครับ 🙁
8. Messaging มีระบบนับตัวอักษรในกล่องข้อความ SMS ทำให้ส่ง SMS ได้มั่นใจมากขึ้น ไม่ขาดไม่เกิน?อีกทั้งยังเลือกที่เปิด หรือปิดก็ทำได้ (แนะนำเปิดไว้จะดีกว่า) พร้อมด้วยระบบค้นหา SMS ที่ทำให้ไม่เสียเวลาในกรณีที่เรามี SMS มากๆ
9. Camera โดยใช้ Camera ที่เป็น App ติดเครื่อง ซึ่งมีความสามารถซูมแบบ Digital ได้ถึง 5 เท่า ในโหมดภาพนิ่ง จากเดิมที่ไม่สามารถซูมได้ในเวอร์ชั่นก่อนๆ (ถ้าเป็น App อื่นๆ ก็พอจะทำได้) สำหรับในส่วนของการถ่ายวีดีโอ นอกจากจะถ่ายได้ความละเอียด 720p แล้ว เรายังสามารถเลือกจุดโฟกัสพร้อมกับวัดแสงเองได้ โดยการ?Tap ไปบนหน้าจอ เพื่อเลือกในตำแหน่งนั้นๆ จากการทดสอบทำให้เพิ่มอรรถรสในการถ่ายวีดีโอให้มากยิ่งขึ้นด้วยครับ
10. iPod สำหรับใน iOS 4 นี้ เราสามารถที่จะสร้าง Playlist ใน iPod อีกทั้งแก้ไข Playlist ได้ดั่งใจเราต้องการแล้ว ไม่ต้องไปง้อโปรแกรม iTunes ในคอมพิวเตอร์ที่บ้านไปเสียทั้งหมด ^^
11. iTunes Store & AppStore เราสามารถดาว์นโหลด iBook ที่เป็น App ไว้สำหรับอ่าน E-Book ได้ฟรีๆ ใน App Store อีกทั้ง iBook ยังมีความสามารถอ่านไฟล์ PDF ได้ในตัว ซึ่งติดตั้งตัวเดียวสามารถอ่านไฟล์ E-Book และ PDF ได้เลยในโปรแกรมเดียว สำหรับ App อย่าง?iMovie ที่มีคุณสมบัติในการตัดต่อวีดีโออย่างสมบูรณ์แบบ ผ่าน iPhone 4 ก็ดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ (เป็น App แบบที่ต้องเสียตังค์นะครับ) อีกทั้งในส่วนของ?iAD ที่เป็นโฆษณาใน App ที่ Apple ได้ลงมือทำเองหลังจากที่ พึ่ง Google มานาน โดยมาในรูปแบบ HTML5
12. Game Center หากเราเป็นคนที่ชอบเล่นเกมอยู่แล้ว ในตอนนี้เราสามารถแชร์กับคนอื่นได้แล้ว กล่าวง่ายๆ ก็คือว่าเป็นแหล่งรวมเพื่อนเพื่อเล่นเกมออนไลน์ โดยจะเอาคะแนนหรือค่าต่างๆใ นเกมมาแข่งกันในนี้อีกที โดยเมื่อเราเล่นเกมบนเครื่องเราสามารถเก็บสถิติไว้ได้ รวมถึงสามารถ Add เพื่อนได้ตามใจเราอีกด้วย ว่างๆ ก็มาดูได้เราฝีมือดี หรือฝีมือห่วยกันแน่ครับ
13. Setting สำหรับใน iOS 4 นี้ เราสามารถเลือกที่จะเปิด-ปิด Cellular data ได้ตามต้องการ ซึ่งนั้นก็หมายถึง เราสามารถเปิด-ปิด EDGE/3G ได้แล้วนั่นเอง หลังจากที่ต้อง Jailbreak ปิดกันมานานแสนนาน เพราะกลัวว่าเงินจะไหล ในกรณีที่คนไม่ได้ใช้โปรโมชั่นแบบอินเตอร์เน็ตแบบ Unlimited นอกจากนั้นยังถูกใจคนที่มีความลับเยอะ หรือต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ที่เราเองสามารถตั้งรหัส Passcode ในเป็นตัวอักษรอะไรก็ได้ จำนวนเท่าไหร่ก็ได้ ตามใจเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเลขเพียง 4 ตัวเหมือนเดิมแล้ว ที่สามารถคาดเดาได้ง่าย
ยังไม่หมดนะครับในส่วนของ Setting ที่เพิ่มเข้ามา กับความสามารถในเรื่องของ Location Services ที่มีการเพิ่มเข้ามา ทำให้มีหมวดในการเปิด-ปิด ระบบ Location ได้เป็นบางโปรแกรม นับว่ามีประโยชน์พอสมควร ซึ่งเราสามารถปิด Services ?ของบาง App ได้ ในกรณีที่เราไม่ได้ใช้งาน มีผลให้ประหยัดอัตราการใช้แบตเตอรี่ได้พอสมควรเลย