หากพูดถึงมือถือที่กำลังเป็นกระแสมากที่สุดในตอนนี้ ส่วนตัวผมเชื่อว่าคงหนีไม่พ้นรุ่นใหม่ล่าสุดของ Vivo ที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้อย่าง Vivo V5 ด้วยจุดเด่นที่กล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซล สเปคก็ไม่ได้ขี้เหร่ ให้แรมมาถึง 4 GB ในราคาเพียง 8,990 บาทเท่านั้น ร้อนแรงถึงขนาดที่เราต้องไปขอยืมเครื่องรีวิว Vivo V5 มาจาก Vivo ประเทศไทยกันเลยทีเดียว
สเปค Vivo V5
- หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD
- CPU MediaTek MT6755 Octa-core ความเร็ว 1.5GHz
- GPU Mali-T860
- Ram 4 GB
- ความจุ 32 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 128 GB (Hybrid Slot)
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED โฟกัสแบบ PDAF
- กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX376 f/2.0, Moonlight Flash
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS มีพื้นฐานบน Android 6.0 Marshmallow
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- ชิปเสียง HiFi Audio AKM4376
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (MicroSIM + MicroSD Card/NanoSIM)
- รองรับเครือข่าย 3G : 850/ 900/ 2100 MHz
- รองรับเครือข่าย 4G LTE : 2100, 1800, 850 MHz
- รองรับ USB OTG
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
- ราคาเปิดตัว 8,990 บาท
- สเปคเต็ม ๆ Vivo V5
สำหรับ Vivo V5 ที่วางขายในประเทศจะนำเข้ามาเพียง 2 สี ได้แก่ สีทอง และสีชมพูโรสโกลด์ สนนราคาอยู่ที่ 8,990 บาท วางขายจริง ๆ วันที่ 10 ธันวาคม 2559 แต่ในช่วงวันที่ 26 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 9 ธันวาคมจะเป็นช่วงเปิดให้จองเครื่อง โดยคนที่จองเครื่อง Vivo V5 ล่วงหน้าก็จะได้รับของแถมมากมาย รวมถึงโปรที่จัดร่วมกับโอเปอร์เรเตอร์ทั้งสาม ทำให้ราคาของ Vivo V5 เอาจริง ๆ อาจจะซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่านั้น
จุดเด่น
– กล้องหน้าเทพสมคำร่ำลือ 20 ล้านพิกเซล ไม่ได้มาแค่ความละเอียด แต่การใช้งานก็ถือว่าโอเคมาก ๆ
– งานประกอบดีเกินราคา อุปกรณ์เสริมที่ให้มาก็ครบครัน ไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม
– ลำโพงเสียงดัง ชิปเสียง Hi-Fi ฟังเพลงสนุก
– รอม FunTouch OS ลูกเล่นเพียบ ฟีเจอร์แน่น ๆ
ข้อสังเกต
– FunTouch OS มีบั๊กให้เห็นบ้างตอนที่รีวิว
– ถาดซิมแบบ Hybrid Slot ต้องเลือกระหว่างซิม 2 หรือ MicroSD
– แบตเตอรี่ 3000 mAh ใช้งานหนัก ๆ อยู่ไม่พ้นวัน
– กล้องหน้ามีอาการวัดแสงรวน โดยเฉพาะตอนถ่ายย้อนแสง ต้องให้เวลาคิดเล็กน้อย
บทสรุป
BEST SELFIE SMARTPHONE
Design
ดีไซน์ของ Vivo V5 ก็เป็นสิ่งแรกที่มือถือรุ่นนี้ทำออกมาได้ดี วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะขึ้นรูปแบบ Unibody ไร้รอยต่อ ตามสไตล์มือถือ Vivo แล้วก็เคลือบสีเมทิลลิกเพื่อความสวยงาม โดยตัวเครื่อง Vivo V5 ที่เราได้รับมาเป็นตัวเครื่องสีทองครับ (Vivo V5 ในไทยมีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีทอง และสีโรสโกลด์)
ด้านหน้าของ Vivo V5 ประกอบไปด้วยหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD ครอบทับด้วยกระจกนิรภัย Gorilla Glass แบบ 2.5 D โค้งเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม แล้วก็มีการติดฟิล์มกันรอยมาให้ตั้งแต่ในกล่อง
ด้านบนหน้าจอ Vivo V5 ประกอบไปด้วยกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล อันเป็นคีย์ฟีเจอร์ของมือถือรุ่นนี้, ลำโพงสำหรับสนทนาโทรศัพท์ และข้าง ๆ มีแฟลชสำหรับเซลฟี่ ที่มีชื่อเรียกเก๋ ๆ ว่า Moonlight Flash ซึ่งเปรียบเสมือนแสงจากพระจันทร์ในยามค่ำคืน สว่าง แต่ไม่ทำร้ายหน้าคนเซลฟี่แน่นอน
ด้านล่างหน้าจอประกอบไปด้วยปุ่มโฮม ที่ติดสแกนลายนิ้วมือมาให้ โดยตัวปุ่มโฮมนั้นดูเหมือนจะกดได้ แต่จริง ๆ มันกดไม่ได้นะครับ แตะได้อย่างเดียว (กดค้างเป็นการเรียก Google Now) ส่วนข้าง ๆ ก็จะเป็นปุ่ม Recent App และปุ่ม Back เหมือนมือถือแอนดรอยทั่วไป มีการติดไฟ LED ไว้ที่ใต้ปุ่ม แต่ตอนกลางวันอาจจะมองลำบากไปหน่อย
ด้านล่างของ Vivo V5 ก็จะมีพอร์ทเชื่อมต่อ Micro USB สำหรับชาร์จไฟและ Sync ข้อมูล ข้าง ๆ ก็จะเป็นลำโพงหลักของตัวเครื่อง, ไมค์สำหรับสนทนาโทรศัพท์ และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร โดย Vivo V5 มาพร้อมกับชิปเสียง Hi-Fi รหัส AKM4376 เป็นมือถือที่ฟังเพลงได้สนุกตามสไตล์มือถือ Vivo ล่ะครับ
ด้านหลังของ Vivo V5 อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมแบบไร้รอยต่อ ดีไซน์ก็ตามสมัยนิยม คือเน้นความโค้งมน แต่ก็ไม่ลืมที่จะออกแบบให้มันโค้งรับกับมือตอนจับถือตัวเครื่อง
รายละเอียดทางด้านหลังของ Vivo V5 ก็จะประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, แฟลช LED โลโก้ Vivo ตรงกลางหลัง ส่วนเส้นบนล่างนั้นคือเสาอากาศของ Vivo V5 ครับ ตอนใช้งานก็พยายามอย่าเอามือไปบังเสาสัญญาณก็แล้วกัน
ขนาดตัวเครื่องของ Vivo V5 กับหน้าจอ 5.5 นิ้ว ไม่ได้ถือว่าใหญ่โตอะไร สังเกตดูจากมือของแอ๋ม ตอนที่จับถือ Vivo V5 ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจับถือลำบาก สามารถใช้มือเดียวกดเซลฟี่ได้สบาย ๆ ด้วยปุ่มปรับระดับเสียง (หรือจะแบมือเพื่อให้กล้องมันกดชัตเตอร์ก็ได้)
Software
Vivo V5 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบด้วย FunTouch OS ที่ Vivo พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งมีหน้าตา UI ที่เปลี่ยนไปจาก Pure Android เดิม ๆ ลักษณะการใช้งานจะไม่เหมือนมือถือแอนดรอยทั่วไป เช่น การเรียก Control Center ที่เป็นศูนย์รวมทางลัดต่าง ๆ จะเรียกได้จากการปัดหน้าจอด้านล่างขึ้นมา (แอนดรอยปกติปัดด้านบนลงมา) และแน่นอนว่าหน้าโฮมเป็นแบบไม่มี App Drawer เช่นเดียวกับมือถือจากจีนรุ่นอื่น ๆ
ฟีเจอร์เด่น ๆ ที่น่าสนใจในตัว Vivo V5 ก็มีดังนี้ครับ
ระบบเสียง Hi-Fi
ขาดไม่ได้เลยสำหรับมือถือจาก Vivo นั่นก็คือฟีเจอร์ระบบเสียง Hi-Fi ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของทางค่าย โดย Vivo V5 มาพร้อมกับชิปเสียง AKM AK4376 ที่ Vivo ได้ร่วมมือกับทาง Asahi Kasei Microdevices Corporation บริษัทชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ในการพัฒนาด้านระบบเสียงในมือถือ Vivo
หลักการทำงานนั้นก็เหมือนกับมือถือที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Hi-Fi ทั่วไปนั่นคือเมื่อเสียบหูฟังเข้าไป ระบบก็จะเปิดใช้งานระบบเสียงแบบ Hi-Fi โดยอัตโนมัติ เรื่องของการปรับแต่งนั้นก็ทำได้หลากหลายเหมือนเช่นเคย และยังสามารถเลือกโปรไฟล์เสียงตามแบรนด์หูฟังที่เราใช้งาน หรือจะเลือกปรับแต่งตามใจชอบก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
โหมดการใช้งานอัจฉริยะ
โหมดการใช้งานอัจฉริยะ หรือฟีเจอร์แบบ Touch Gesture ใน Vivo V5 ที่น่าสนใจก็จะมี Smartwake หรือการวาดนิ้วมือเป็นรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสั่งการตัวเครื่อง เช่น เลื่อนขึ้นเพื่อปลดล็อค เลื่อนลงเพื่อถ่ายรูป วาด m เพื่อเข้าสู่การฟังเพลง เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ใช้สั่งการตัวเครื่องโดยที่ไม่ต้องสัมผัสกับหน้าจอโดยตรง และฟีเจอร์ที่สามารถเปิด – ปิดหน้าจอแบบอัจฉริยะ เช่น การแตะสองครั้งเพื่อเปิด – ปิดหน้าจอ
Fingerprint Scanner
ฟีเจอร์บังคับสำหรับมือถือแอนดรอยสมัยนี้ก็คงหนีไม่พ้น เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แน่นอนว่า Vivo V5 ก็มีติดมาให้เช่นกัน โดยตำแหน่งของเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ จะอยู่ที่ปุ่มโฮมทางด้านหน้า ส่วนความเร็วในการสแกนลายนิ้วมือก็ใช้เวลาเพียงไม่ถึงวินาทีในการสแกนนิ้วและปลดล็อดตัวเครื่อง
ฟังก์ชั่นหลายหน้าจออัจฉริยะ – Smart Split 2.0
และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จัดว่ามีประโยชน์ในการใช้งานมาก ๆ นั่นคือฟังก์ชั่นหลายหน้าจออัจฉริยะ ทำให้ Vivo V5 สามารถเปลี่ยนการแสดงผลเป็นแบบสองแอปพลิเคชันในหน้าจอเดียว
โดยเราสามารถเลือกปรับได้ว่าจะต้องการให้หน้าจอด้านไหนมีขนาดใหญ่หรือเล็กกว่า แต่มีข้อจำกัดเล็กน้อย คือรองรับเพียงแค่บางแอปพลิเคชัน ได้แก่ ข้อความ, Facebook, Line, WeChat, และ WhatsApp
Camera
กล้องหน้าของ Vivo V5 ให้มาที่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล แปะหน้ากล่องตัวเบ้อเริ่มว่า Perfect Selfie แสดงว่าต้องมั่นใจกันพอสมควร เพราะดูจากสเปคของกล้องหน้าก็จัดว่าโหดใช้ได้ ใส่เซนเซอร์ Sony IMX376 มีค่ารูรับแสงที่ f/2.0 และติดแฟลชสำหรับเซลฟี่ (Moonlight Flash) มาให้ด้วย
แต่การรีวิวกล้องหน้า สารภาพตามตรงเลยว่า สำหรับผมเป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ คร่าว ๆ ก็คือซอฟท์แวร์มีลูกเล่นเยอะมาก โหมด Beauty ก็มีให้เลือกใช้งาน และเสริมความเจ๋งด้วยระบบ Beauty แบบที่รู้ว่าคนไหนผู้ชาย คนไหนผู้หญิง ทำให้สามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งได้แตกต่างกัน ผู้ชายบางคนก็อาจจะไม่ได้อยาก Beauty จ๋าถึงขนาดที่ว่าตาโต แก้มอมชมพู โดยความแม่นยำในการแยกเพศก็ทำได้แบบน่าประทับใจ และรูปถ่ายที่ออกมาจากกล้องหน้าของ Vivo V5 ก็จัดว่าโอเคมากเลยล่ะ
เอาเป็นว่าเรื่องกล้องหน้าของ Vivo V5 ใครอยากรู้ว่าทำอะไรได้บ้าง ถ่ายสวยไม่สวยยังไง แนะนำให้กดดูวีดีโอด้านล่าง ที่น้องแอ๋ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการเซลฟี่ได้รีวิวไว้ในแชลแนล SpecPhoneTV ของเราดีกว่าครับ ละเอียดชัดจัดเต็มแน่นอน
ส่วนกล้องหลังของ Vivo V5 มีความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล มีแฟลช LED มาให้ 1 ดวง ระบบโฟกัสแบบ PDAF เร็วใช้ได้ หากมีแสงเพียงพอ ส่วนการถ่ายภาพในที่แสงน้อย การโฟกัสจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด โหมดการเลือกถ่ายภาพมีให้เลือกเยอะพอสมควร
สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซลและกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลของ Vivo V5 ก็ตามนี้เลย
Performance
สเปคของ Vivo V5 มาพร้อมกับชิปประมวลผล MediaTek MT6755 ชิปเซ็ตแบบ octa-core ความเร็ว 1.5 GHz หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ MediaTek Helio P10 นั่นเอง ถึงแม้ชิปเซ็ตจะเป็นรุ่นกลาง ๆ (ตามราคา) แต่สิ่งที่จัดเต็มมาให้ก็คือ Vivo ใส่ Ram ใน Vivo V5 มาให้ถึง 4 GB ซึ่งเป็นแรมที่เยอะมากพอให้ใช้งานกันลื่น ๆ และเมื่อรวมกับสเปคอื่น ๆ เช่น หน้าจอ HD เลยทำให้ Vivo V5 กับชิปเซ็ต MediaTek Helio P10 + Ram 4 GB เหมือนติดปีกเลยล่ะ
แบตเตอรี่ของ Vivo V5 ให้มาที่ความจุ 3000 mAh เท่าที่ทดสอบเครื่องตอนรีวิว Vivo V5 ใช้งานหนัก ๆ เล่นเกม เปิด 4G ไว้ตลอด ก็พอลากให้หมดวันได้อยู่ครับ ด้วยตัวความจุแบตเตอรี่เองที่ให้มาเยอะ และสเปคที่ไม่ได้ต้องการพลังงานสูง ชิปเซ็ตเป็นตัวกลาง ๆ แถมหน้าจอยังมีความละเอียด HD อีกต่างหาก ไม่เป็นภาระในการประมวลผลและพลังงาน เรียกว่าเป็นการเลือกใช้สเปคได้สมดุลทีเดียว