รีวิว Samsung Galaxy Z Flip3 5G หนึ่งในสมาร์ตโฟนที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก หลังจากงานเปิดตัว Galaxy Unpacked 2021 ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างไปจากสมาร์ตโฟนหลายรุ่นในท้องตลาด เป็นโทรศัพท์ที่มีความแฟชั่นสูง และน่าจะถูกใจสาวๆ เป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวเครื่องเมื่อพับเก็บมันเล็กมากพอที่จะใส่กระเป๋าถือใบเล็กๆ ได้นั่นเอง ที่สำคัญคือรอบนี้ Samsung ทำราคาได้ดีครับ กับค่าตัวเริ่มต้น 34,900 บาท มันใกล้เคียงกับโทรศัพท์รุ่นเรือธงหลายรุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้
- สเปค Samsung Galaxy Z Flip3 5G
- Design – ตัวเครื่องบางลง หน้าจอด้านนอกใหญ่ขึ้น และกันน้ำได้แล้ว
- Camera – กล้องหลัก เสริมพลังด้วย Flex Mode
- Performance – ชิปประมวลผลระดับเรือธง เล่นลื่นทุกเกม แต่ไม่ได้เหมาะกับการเล่นเกม
- Battery – แบตอึดพอตัว แต่ชาร์จไวแค่ 15W
- Conclusion – ขายความแตกต่าง ภาพรวมดีขึ้นทุกด้าน รวมถึงราคา
Galaxy Z Flip3 5G วางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 7 สี แบ่งเป็นสีหลัก 4 สี ได้แก่ Cream, Phantom Black, Green, และ Lavender กับสีพิเศษอีก 3 สี ได้แก่ Gray, White และ Pink (วางจำหน่ายเฉพาะที่ Samsung.com) โดยเครื่องรีวิว Samsung Galaxy Z Flip3 5G ที่ผมได้รับมาเป็นตัวเครื่องสีดำ Phantom Black ส่วนรุ่นย่อย และราคาที่วางจำหน่ายจะเป็นดังนี้
- รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 34,900 บาท
- รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 36,900 บาท
สเปค Samsung Galaxy Z Flip3 5G
- หน้าจอแสดงผล
- หน้าจอด้านนอก Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว ความละเอียด 512 x 260 พิกเซล
- หน้าจอด้านใน Dynamic AMOLED 2x ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล 120Hz
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 5G ขนาด 5 นาโนเมตร
- RAM 8GB
- ROM 128/ 256GB
- ระบบปฏิบัติการ One UI 3.1 บนพื้นฐาน Android 11
- กล้องหลัง 2 เลนส์
- เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP f/1.8
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP f/2.2
- กล้องหน้าความละเอียด 10MP f/2.4
- เครือข่าย 5G (รองรับ 1 nanoSIM และ eSIM)
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 (2.4/ 5GHz) , Bluetooth 5.1, GPS, NFC
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- มาตรฐานกันน้ำ IPX8
- ขนาดตัวเครื่อง
- 72.2 x 86.4 x 17.1 มิลลิเมตร เมื่อพับเครื่อง
- 72.2 x 166 x 6.9 มิลลิเมตร เมื่อกางเครื่องออก
- น้ำหนัก 183 กรัม
- ลำโพงคู่ Stereo รองรับระบบ Dolby Atmos
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง และการสแกนใบหน้า
- แบตเตอรี่ 3,300mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 15W, และรองรับชาร์จไร้สาย 10W
- สเปคเต็ม Samsung Galaxy Z Flip 3 5G
- ราคาเริ่มต้น 34,900 บาท
Design – ตัวเครื่องบางลง หน้าจอด้านนอกใหญ่ขึ้น และกันน้ำได้แล้ว
ภาพรวมสำหรับดีไซน์ตัวเครื่อง Galaxy Z Flip3 5G แม้จะไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า (Galaxy Z Flip 5G) มากนัก แต่ก็มีหลายจุดที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขนาดตัวเครื่องที่บางลงเล็กน้อย ทั้งตอนพับ (บางกว่าเดิม 0.2 มิลลิเมตร) และกางตัวเครื่องออก (บางกว่าเดิม 0.3 มิลลิเมตร) ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องยังคงเท่าเดิม 183 กรัม
หน้าจอภายนอก หรือ Cover Screen มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 1.9 นิ้ว ประเภทหน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด 260 x 512 พิกเซล มีความหนาแน่นของพิกเซลอยู่ที่ 425 ppi เพราะฉะนั้นในเรื่องความคมชัดถือว่าสอบผ่านสบายๆ สามารถอ่าน Text ข้อความแจ้งเตือนต่างๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา และสามารถเพิ่ม Widget ได้ทั้งหมด 6 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องเล่นเพลง, สภาพอากาศ, ตารางสิ่งที่ต้องทำประจำวัน, นาฬิกาปลุก, Samsung Health และนาฬิกาจับเวลา
ข้างๆ หน้าจอภายนอก เป็นตำแหน่งของกล้องคู่ ความละเอียด 12MP เลนส์ไวด์ กับ 12MP เลนส์อัลตร้าไวด์ เลนส์กล้องใช้กระจกนิรภัย Corning Gorilla Glass with DX ส่วนบริเวณที่เป็นกระจกก็ใช้กระจกนิรภัย Gorilla Glass Victus ที่มีความทนทานสูง เพราะฉะนั้นในเรื่องความแข็งแรงของวัสดุนี่หายห่วง เฟรมตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมเกรดสูง แข็งแรง แต่น้ำหนักเบา
หน้าจอด้านใน เมื่อกางตัวเครื่องออกจะเป็นหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว Dynamic AMOLED 2x ที่ให้อัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล เรื่องสีสัน และความคมชัดก็สมกับที่เป็นซีรี่ส์สมาร์ตโฟนเรือธงของ Samsung ครับ ไม่ทำให้ผิดหวัง ส่วนใครที่กังวลเรื่องบานพับ รอยพับระหว่างการใช้งาน ส่วนตัวผมเองรู้สึกว่ารอบนี้ซัมซุงเก็บงานดีทีเดียว บริเวณตรงกลางที่เป็นจุดพับ หากไม่ได้เพ่งหน้าจอก็แทบจะไม่เห็นรอยพับด้วยซ้ำไป อย่างไรก็ตาม ตอนที่เอามือสัมผัสก็ยังคงรู้สึกถึงความไม่เรียบอยู่ แต่ก็ดีกว่ามือถือจอพับหลายๆ รุ่น รวมถึงดีกว่า Z Flip รุ่นก่อนหน้าครับ
กระจกหน้าจอด้านในที่เป็นจอพับ Samsung เลือกใช้กระจกแบบ UTG หรือ Ultra Thin Glass ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นวัสดุปิดทับหน้าจอแบบพับที่ทนทาน และดีที่สุดในตอนนี้ มีการติดฟิล์มที่หน้าจอด้านใน โดยฟิล์มดังกล่าวห้ามลอกออกเด็ดขาด เพราะมีผลให้หน้าจอพังได้เลย แล้วก็มีข้อแนะนำสำหรับหน้าจอพับได้ ไม่ควรวางใกล้กับพวกแถบแม่เหล็ก เช่น บัตรเครดิต, สมุดบัญชีธนาคาร, บัตรผ่านประตู และอื่นๆ ส่วนการทำความสะอาดก็ไม่ได้แตกต่างจากหน้าจอทั่วไปครับ แนะนำเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ปลอดฝุ่นเช็ดเบาๆ ก็พอ และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในการทำความสะอาดหน้าจอของ Galaxy Z Flip3 5G
การใช้งาน Samsung Galaxy Z Flip3 5G ในภาพรวมผมอยากให้มองว่ามันเป็นโทรศัพท์ปกติเครื่องหนึ่ง ที่เวลาไม่ได้ใช้งาน หรือพกพาไปไหนเราสามารถพับมันเก็บลงกระเป๋าได้ หรือกรณีของคุณผู้หญิงที่ใช้กระเป๋าสะพายใบเล็กๆ อาจเจอปัญหาว่าไม่สามารถใส่โทรศัพท์ลงไปได้ แต่ Galaxy Z Flip3 5G ถือเป็นข้อยกเว้นครับ เพราะถ้ากระเป๋าใบนั้นใส่ตลับแป้งแต่งหน้าได้ ก็ใส่มือถือรุ่นนี้ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในการพกพา หรือการเก็บตัวเครื่อง ไม่ควรเก็บเครื่องลงกระเป๋ากางเกงแบบกางหน้าจอออกนะครับ เรียกว่าบังคับให้ทำการพับตัวเครื่องก่อนเก็บลงกระเป๋าทุกครั้งเลยดีกว่า เพราะจะช่วยป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับหน้าจอด้านในได้ดีที่สุด จริงอยู่ที่ UTG เป็นวัสดุที่แข็งแรงและดีที่สุดกับอุปกรณ์ที่หน้าจอพับได้ในตอนนี้ แต่ความทนทานของมันยังไม่สามารถเทียบชั้นหน้าจอปกติได้
บานพับของ Galaxy Z Flip3 5G ยังคงใช้ลักษณะการพับเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า แต่รอบนี้จะปิดช่องว่างต่างๆ ไว้ได้ดีในระดับที่ทำให้ตัวเครื่องได้รับมาตรฐานกันน้ำ IPX8 เปียกน้ำได้แล้ว แต่ยังไม่กันฝุ่นเหมือนเดิม เพราะตัวเครื่องในตอนพับก็ยังมีช่องว่างอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้พับแนบสนิท 100%
ข้อดีของบานพับ Galaxy Z Flip3 5G คือมันเป็นบานพับอิสระ ไม่ได้ล็อกรูปแบบการพับ หรือกางเครื่องไว้เป็นขั้นๆ ทำให้สามารถปรับใช้รูปแบบการพับ การกางเครื่องให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่ใช้งานโทรศัพท์ได้ อีกทั้งซอฟต์แวร์ของรุ่นนี้ก็ออกแบบมาสนับสนุนการใช้งานแบบกึ่งพับ กึ่งกางเครื่อง เช่น ในโหมดกล้อง หากกางหน้าจอออก 90 องศาขึ้นไป จะแบ่งหน้าจอด้านบนเป็นกล้องถ่ายรูป ส่วนหน้าจอครึ่งล่างจะเป็นการพรีวิวภาพถ่าย หรือจะแบ่งจอแบบ 50/50 ด้านบนดูวิดีโอ ส่วนครึ่งล่างเล่นโซเชียลมีเดียก็ได้เช่นกัน
ข้อสังเกตในการใช้งานหน้าจอ Samsung Galaxy Z Flip3 5G เมื่อกางหน้าจอออก คือตัว Ratio หน้าจอจะแปลกไปจากสมาร์ตโฟนทั่วไปในท้องตลาด ออกแนว Ultra-wide screen เลยทำให้การควบคุมตัวเครื่องด้วยมือข้างเดียว การลากนิ้วจากจุดบนสุด ลงมาล่างสุดทำได้ลำบาก เช่นเดียวกับการรับชมวิดีโอคอนเทนต์ในแนวนอน หากเป็นวิดีโอใน Youtube ที่ถ่ายทำแบบ 16:9 เมื่อเปิดบนจอ Galaxy Z Flip3 5G จะมีขอบดำข้างๆ เหลือเยอะมาก (แก้ไขได้ด้วยการ Pitch to Zoom แต่ก็จะเป็นการครอปวิดีโอให้พอดีหน้าจอ)
ไม่ใช่แค่การแสดงผลวิดีโอแบบ 16:9 ที่มีขอบดำด้านข้างเหลือเยอะ แต่ยังส่งผลกับการเล่นเกมที่แสดงผลในแนวนอนด้วยครับ หากเกมไหนไม่ได้ออกแบบหน้าจอให้รองรับ Ratio แบบนี้ ก็จะมีขอบดำขึ้นเหมือนกัน หรืออย่างบางเกมที่รองรับการแสดงผลแบบเต็มจอ เช่น ROV ก็จะมีปัญหาเรื่องตำแหน่งของปุ่มควบคุม ที่เสียสัดส่วนไปเมื่อเทียบกับหน้าจอเรโชมาตรฐาน และด้วยความที่เป็นหน้าจอพับได้ ผมเจอปัญหาอีกอย่างหนึ่งเวลาเล่นเกม ตอนที่ถือเครื่องแนวนอน มีบางครั้งที่หน้าจอมันแอบพับตามการจับ การสัมผัสหน้าจอ ตรงนี้ก็ทำให้เสียจังหวะเมื่อเล่นเกมได้เหมือนกัน
ภาพรวมของ Samsung Galaxy Z Flip3 5G ในเรื่องการดีไซน์ที่ส่งผลกับการใช้งาน ส่วนตัวผมก็ยังยืนยันว่ามันเป็นโทรศัพท์ปกติทั่วไป ที่เก็บและพกพาได้สะดวกขึ้นเนื่องจากพับได้ การออกแบบ วัสดุตัวเครื่อง รวมถึงสเปคหน้าจอถือว่าอยู่ในระดับท็อปของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน แต่จะมีข้อสังเกตเรื่องอัตราส่วนหน้าจอที่เป็นแบบ Ultra-wide screen ส่งผลต่อการรับชมวิดีโอ ไปจนถึงการเล่นเกมในระดับหนึ่ง และส่วนตัวผมว่ารุ่นนี้ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมจริงจังเท่าไหร่นัก ไม่ใช่ว่าสเปคมันไม่ถึง แต่เป็นเรื่องข้อจำกัดการกายภาพที่เป็นโทรศัพท์จอพับมากกว่า
Camera – กล้องถ่ายรูป
Samsung Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมกับกล้องทั้งหมด 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหน้า 10MP f/2.4 กับชุดกล้องหลังคู่ ความละเอียด 12MP เลนส์ไวด์ f/1.8 + 12MP เลนส์อัลตร้าไวด์ f/2.2 มีแฟลช LED จำนวน 1 ดวงด้วยกัน สเปคกล้องรวมๆ ไม่ได้โดดเด่น ถ่ายออกมาได้ดีตามมาตรฐานกล้องสมาร์ตโฟนเรือธงของ Samsung แต่จุดเด่นอยู่ที่รูปแบบการถ่ายรูป ที่ค่อนข้างยืดหยุ่น ปรับใช้งานได้หลายแบบ เนื่องจากเป็นมือถือจอพับ
สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 10MP ที่อยู่ด้านบนหน้าจอ ก็ถ่ายเซลฟี่ได้ดีตามมาตรฐาน มีโหมดให้เลือกใช้ใกล้เคียงกับสมาร์ตโฟนซัมซุงรุ่นอื่น หลักๆ ก็จะเป็นโหมด Portrait แต่การใช้งานกล้องหน้าด้านในจะเป็นการ Video Call มากกว่าที่จะถ่ายเซลฟี่จริงจัง เนื่องจากรุ่นนี้มี Flex Mode ที่สามารถถ่ายเซลฟี่ได้ด้วยกล้องหลัง ที่ให้ความละเอียด ความคมชัดที่ดีกว่า
Flex Mode = ถ่ายทุกอย่างด้วยชุดกล้องหลัก
การใช้งาน Flex Mode ออกแบบมาสำหรับการถ่ายเซลฟี่ ไปจนถึงการใช้ให้คนอื่นถ่ายรูปให้ สำหรับการถ่ายเซลฟี่ ในขณะที่ตัวเครื่องพับอยู่ ให้กดที่ปุ่ม Power พร้อมกัน 2 ครั้ง จะเป็นการเปิดใช้งานกล้อง และสามารถพรีวิวภาพถ่ายได้จากหน้าจอ Cover Screen ด้านหน้าได้ทันที หรือในกรณีที่ให้คนอื่นช่วยถ่ายภาพให้ ก็สามารถเลือกให้หน้าจอ Cover Screen แสดงผลจากกล้องถ่ายภาพได้เช่นกัน นอกจากนี้การถ่ายรูปด้วย Flex Mode ยังเลือกใช้เลนส์อัลตร้าไวด์ เพื่อให้ได้มุมมองการเซลฟี่ที่กว้างขึ้นได้อีกด้วย
ในกรณีที่ต้องการถ่ายวิดีโอ หรือ Video Call ก็สามารถใช้ Flex Mode เพื่อตั้งตัวเครื่องกับพื้นได้เช่นกัน ฟีเจอร์นี้น่าจะถูกใจคนที่ชอบถ่ายวิดีโอ หรือเล่น TikTok แล้วไม่มีขาตั้งโทรศัพท์ ไม่มีคนถือกล้องให้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy Z Flip3 5G
Performance – ชิปประมวลผลระดับเรือธง เล่นลื่นทุกเกม แต่ไม่ได้เหมาะกับการเล่นเกม
Samsung Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวแรงอย่าง Snapdragon 888 5G ชิปเซ็ตที่เทคโนโลยีการผลิต 5nm + RAM 8GB และมีความจุให้เลือกเป็น 128GB/ 256GB ด้วยตัวสเปคที่ให้มานั้นแรงมากในระดับที่สามารถเล่นเกมกราฟฟิกสูงๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา แม้จะปรับตั้งค่าในระดับสูงสุดก็ตาม และด้วยสเปคที่เล่นเกมได้ เลยทำให้การใช้งานในมิติอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป จนถึงใช้ในการทำงาน การเปิดแก้ไขเอกสาร เป็นต้น
ในการเล่นเกม อย่างที่ผมได้ระบุไปในหัวข้อการออกแบบตัวเครื่อง ว่าอัตราส่วนหน้าจอของรุ่นนี้ออกไปในทาง Ultra-wide Screen เลยทำให้การแสดงผลเกมมีพื้นที่บริเวณขอบทั้ง 2 ข้างมากจนเกินไป โดยเฉพาะเวลาเล่นเกมที่แสดงผลในแนวนอน และส่วนตัวผมเองเจอปัญหาเวลาที่เล่นเกมแนวนอน ในบางสถานการณ์ตัวเครื่องมักจะพับเข้าหากัน เลยทำให้เสียจังหวะในการเล่นเกมพอสมควร
แต่ถ้าเล่นเกมที่แสดงผลในแนวตั้ง พวกเกมแนว Puzzle หรือเกมประเภท Endless Running (เช่น Subway Surfers) ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรครับ เพราะอย่างที่ได้บอกไปว่าประสิทธิภาพในการประมวลผลเกมไม่ใช่ปัญหาของรุ่นนี้ แต่ลักษณะทางกายภาพที่พับหน้าจอได้ต่างหากที่ทำให้การเล่นเกมไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก
การเชื่อมต่อระดับท็อป รองรับ 5G และ Wi-Fi 6
สำหรับการเชื่อมต่อ Samsung Galaxy Z Flip3 5G รุ่นนี้รองรับการใช้งาน 5G ผ่านซิมการ์ดแบบ nanoSIM และรองรับการใช้งาน eSIM ส่วนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย ก็รองรับ Wi-Fi 6
Battery – แบตเตอรี่และการจัดการพลังงาน
โทรศัพท์รุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh หากมองในมุมของการเป็นสมาร์ตโฟนที่หน้าจอพับได้ในทรงแบบนี้ ก็ถือว่าให้แบตเตอรี่ความจุสูง (เทียบกับ motorola razr 5G – 2,800 mAh) และด้วยชิปประมวลผลที่ผลิตบนเทคโนโลยีการผลิต 5nm อย่าง Snapdragon 888 5G หากไม่ได้เล่นเกมที่กินสเปคมากๆ โดยรวมก็ใช้งานหมดวันได้สบายๆ
ส่วนการชาร์จไฟ รุ่นนี้รองรับการชาร์จเร็วแบบเสียบสายที่ 15W (อะแดปเตอร์ซื้อแยกต่างหาก ในกล่องมีแค่ตัวเครื่อง, สายชาร์จ และเข็มจิ้มถาดซิม), รองรับชาร์จเร็วไร้สาย 10W และตัวเครื่องยังรองรับฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging สามารถชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์เสริมแบบไร้สายได้ โดยเทคโนโลยีชาร์จไฟใน Galaxy Z Flip3 5G หากพูดกันตามตรงก็คือเทคโนโลยีชาร์จไวตัวเดียวกับตอน Samsung Galaxy S10 Series ที่เปิดตัวไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่หากมองว่าแบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีความจุเพียง 3,300 mAh การชาร์จ 15W ก็ไม่ได้ถือว่าแย่อะไร ผมทดสอบกับเครื่องรีวิว Samsung Galaxy Z Flip3 5G ใช้เวลาในการชาร์จเต็ม 100% อยู่ที่ประมาณ 1.30 – 1.45 ชั่วโมงครับ
สรุปภาพรวมรีวิว Samsung Galaxy Z Flip3 5G
หลังจากใช้งานเครื่องรีวิว Samsung Galaxy Z Flip3 5G มาเกือบๆ 2 สัปดาห์ ผมมองว่ารุ่นนี้ก็ยังคงทำได้ดีในมุมของการเป็นสมาร์ตโฟนจอพับทรงตลับแป้ง ที่เน้นการพับเพื่อจุดประสงค์หลักในการพกพา และได้อานิสงส์จากการที่มีบานพับ ไปต่อยอดเป็น Flex Mode ที่แบ่งแอปใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอป หรือปรับใช้ในการถ่ายรูป แต่หลักๆ แล้วก็ให้มองว่าเป็นโทรศัพท์ปกติที่พับเก็บได้นั่นล่ะครับ
ในด้านสเปคใช้ชิปประมวลผลที่เป็นรุ่นเรือธง Snapdragon 888 5G + RAM 8GB กับความจุที่มีให้เลือกตั้งแต่ 128GB ไปจนถึง 256GB ก็ถือว่าใช้งานได้สบายๆ ไปอีกหลายปี ความแรงของชิปรุ่นนี้น่าจะยังทำให้เล่นเกมแบบปรับสุดไปได้อีกนาน แต่จะมีข้อสังเกตในเรื่องของรูปทรง และเรโชหน้าจอที่ไม่ค่อยปกติ เป็นหน้าจอแบบ Ultra-wide Screen เลยทำให้การแสดงผลเกมบางเกม ตำแหน่งของปุ่มต่างๆ เปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนปกติ รวมถึงบานพับที่มักจะพับเข้าเวลาเล่นเกมแนวนอน
แต่ถ้าอยากได้โทรศัพท์ที่แตกต่าง มีความเป็นแฟชั่นสูง และชื่นชอบโทรศัพท์แบบฝาพับเป็นพิเศษ ผมว่า Samsung Galaxy Z Flip3 5G เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ
Samsung Galaxy Z Flip3 ราคาและรุ่นย่อยที่วางจำหน่าย
- รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 34,900 บาท
- รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 36,900 บาท
บทความที่เกี่ยวข้อง
- สะเทือนวงการ! ซัมซุงเปิดราคา Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G รุ่นใหม่ เริ่มต้นที่ 34,900 บาท เริ่ม 13 ส.ค. 64 นี้
- เก็บสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าไว้ทำไม! ซัมซุงชวนนำเครื่องเก่าสูงสุด 3 เครื่องมาแลกเป็นส่วนลดในราคาเกรด A เพื่อซื้อสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นใหม่ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G
- เทียบสเปค Samsung Galaxy Z Flip3 vs Galaxy Z Flip 5G ต่างกันตรงไหน มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?
- ไขทุกข้อสงสัย 9 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้
- ทีม Fold หรือ ทีม Flip? มาดูกันว่า Galaxy Z Series รุ่นไหน ที่ใช่กับไลฟ์สไตล์ของคุณ
- สรุปงาน Galaxy Unpacked August 2021 เปิดตัว Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3 5G, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2