Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»สรุปงาน Galaxy Unpacked August 2021 เปิดตัว Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3 5G, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2
    Editorial

    สรุปงาน Galaxy Unpacked August 2021 เปิดตัว Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3 5G, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2

    ACHI-SPBy ACHI-SP12 สิงหาคม 2021Updated:12 สิงหาคม 2021
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    Galaxy Unpacked

    จบลงไปแล้วนะครับกับงาน Galaxy Unpacked August 2021 ซึ่งก็ตามคาดว่ามีการเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3 5G, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2 ตามข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวรุ่นพิเศษเพิ่มอีกด้วย โดยในงานจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันได้เลย

    สรุปงาน Galaxy Unpacked August 2021

    • Galaxy Watch 4 Series
    • Galaxy Z Fold3
    • Galaxy Z Flip3 5G
    • Galaxy Buds2
    • สรุปราคาไทย
    • Samsung x THOM BROWNE

    Samsung Galaxy Watch4 Series

    เปิดงาน Galaxy Unpacked มาอย่างแรกไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เริ่มด้วย Galaxy Watch4 Series เลย โดยจะมีการแบ่งออกเป็น 2 รุ่น (เหมือนเดิม) คือ Galaxy Watch4 และ Galaxy Watch4 Classic ซึ่งเราสามารถดัดแปลง Watch4 ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสายเป็นสีต่าง ๆ ได้ (ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกันทั้ง 2 ด้านก็ยังได้) หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนภาพบนหน้าจอให้เป็นแบบที่ชื่นชอบได้ถึง 40 แบบ

    Watch4 นั้นมาพร้อมกับ OneUI Watch ที่มีพื้นฐานมาจาก WareOS 3.0 ตัวล่าสุดของ Google ทำให้อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพมากมาย โดยสิ่งแรกที่ถูกเอามาโชว์ให้เห็นเลยก็คือฟีเจอร์ตรวจจับการนอน (แบบใหม่นะ) ที่สามารถตรวจจับการกรนของเราระหว่างหลับได้อีกด้วย (มีการอัดเสียงไว้อีกต่างหาก) นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ใช้วัดค่าร่างกายที่เรียกว่า BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) ที่มักจะเจอยู่ในฟิตเนส โดยฟีเจอร์นี้จะตรวจวัดค่าต่าง ๆ ออกมาได้ใกล้เคียงกับเครื่อง DXA ถึง 98%

    ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Watch4 ก็คือ BioActive Sensor ซึ่งมันสามารถตรวจวัดความดันเลือดและสามารถแสดงกราฟ ECG ออกมาให้เห็นได้เลย ทว่าก็น่าเสียดาย เนื่องจากประเทศที่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ไม่มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ดังนั้นเราอาจจะต้องรอกันต่อไปยาว ๆ

    ของใหม่อีกอย่างที่น่าสนใจและเราได้ใช้ด้วยนั่นก็คือ Gesture Control มันคือการสั่งการ Watch4 ผ่านทางการขยับข้อมือ โดยเราสามารถตั้งค่าได้ผ่านแอพเลย

    ตัว Watch4 ทั้ง 2 รุ่นรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และ 5ATM ส่วนวัสดุงานประกอบของ Watch4 จะเป็นแบบ Aluminum มีหน้าปัดให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. ในขณะที่ Watch4 Classic ใช้เป็น Stainless Steel มีให้เลือกแค่รุ่นหน้าปัด 46 มม.เท่านั้น สำหรับการวางขายนั้นจะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมเป็นต้นไปด้วยราคา $249 และ $349 (ส่วนราคาไทยจะไปสรุปให้ที่ท้ายบทความ)

    นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะ


    Samsung Galaxy Z Fold3

    หลังจากจบการเปิดตัว Galaxy Watch4 แล้วก็มาต่อกันที่ Samsung Galaxy Z Fold3 ต่อเลย โดยสิ่งที่แรกที่พูดถึงเลยก็คือหน้าจอพับด้านในที่ใช้พาแนล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ที่มากับค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz พร้อมด้วยความสว่างที่มากกว่าเดิมถึง 29% ส่วนจอด้านนอกนั้นก็เป็นหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X เช่นกัน แต่มีขนาด 6.2 นิ้ว และมีค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz เช่นกันด้วย

    หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจของ Z Fold3 นั่นก็คือการที่เป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีกล้องใต้จอ ทำให้สามารถแสดงผลภาพได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีจุดดำ ๆ บนภาพอีกแล้ว และอีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือ Z Fold3 เป้นมือถือพับได้เครื่องแรกที่รองรับการใช้งานปากกา S Pen โดยตัว S Pen นี้ได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้กับจอพับได้ โดยที่ตัวหัวปากกานั้นจะเปลี่ยนไปใช้ยางแบบนุ่ม ช่วยให้หน้าจอไม่เป็นรอย

    หนึ่งในสิ่งทที่ Samsung โชว์ค่อยข้างเยอะเลยก็คือการทำงานแบบ Multitask ซึ่งด้วยหน้าจอขนาด 7.6 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่มากพอจะสามารถเปิดแอพซ้อน ๆ กันได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดซ้อน 2 แอพ หรือเปิดซ้อนพร้อมกัน 3 หน้าก็ยังได้ โดยในคลิปเปิด Youtube พร้อม ๆ กับเปิด Google Chrome 2 หน้า (ไม่ใช่เปิด 2 Tab นะแต่เป็นการเปิดแอพ Chrome ซ้อนกัน 2 แอพ) อีกทั้งยังการการเปิดแอพ Microsoft Word/Power Point พร้อมกัน 2 แอพด้วย ซึ่งนี่เป็นการโชว์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการประมวลผลของตัวเครื่องนั่นเอง

    Galaxy Z Fold3 นั้นมาพร้อมกับกล้องทั้งหมดถึง 5 ตัว สามารถใช้งานสลับกันได้ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายแนวมากขึ้น โดยกล้องหลังนั้นจะมีทั้งหมด 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลัก, กล้อง Ultrawide และกล้อง Telephoto 2X ซึ่งทั้ง 3 กล้องนี้มีความละเอียดเท่ากันที่ 12MP สำหรับกล้องที่เอาไว้ถ่ายเซลฟี่นั้นหากไม่ได้กางออกจะใช้กล้องความละเอียด 10MP ถ่าย แต่ถ้ากางออกจะใช้กล้องที่ซ่อนอยู่ใตจอถ่าย วึ่งกล้องนี้มีความละเอียดอยู่ที่ 4MP สำหรับเวลาถ่ายภาพนอกจากการถือถ่ายปกติ เราสามารถกางเครื่องออก 90 องศา วางเครื่องในจุดที่ต้องการ แล้วตั้งเวลาถ่ายได้อีกด้วย

    ในเรื่องของความแข็งแรงทนทานนั้นก็หายห่วงได้เลยเพราะ Galaxy Z Fold3 นั้นมีตัวเครื่องที่ทำจาก Aluminum กระจกเป็น Gorilla Glass Victus และมีมาตราฐานกันน้ำ IPX8 ที่แต่เดิมเคยเป็นจุดอ่อนอยู่ด้วย โดยการกันน้ำในครั้งนี้โฟกัสไปที่จุดที่น้ำจะเข้าง่ายสุดก็คือที่สันพับนั่นเอง โดยทาง Samsung ได้พยายามหาทางจนทำให้บานพับสามรรถกันน้ำได้ (แต่ก็ยังไม่สามารถเอาไปใช้ใต้น้ำได้นะ แค่กันไม่ให้หยดน้ำเข้าไปทำความเสียหายที่ตัวบานพับ)

    อีกหนึ่งสิ่งที่ Samsung พูดถึงและโดยส่วนตัวค่อนข้างสนใจก็คือลำโพงคู่ที่อยู่ใน Galaxy Z Fold3 ทำให้เพิ่มความกระหึ่มและเพิ่มมิติให้เสียงเวลาฟังเพลง, เล่นเกม หรือดูหนังให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น และด้วยระบบ Multi-dimension Sound จะช่วยเพิ่มความโอบล้อมของเสียงได้มากขึ้น

    สำหรับสีที่มีจำหน่ายนั้นจะมีสีเขียว Phantom Green, ดำ Phantom Black, เงิน Phantom Silver นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไป Pre-Order และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะ


    Samsung Galaxy Z Flip3 5G

    สำหรับ Galaxy Z Flip3 5G นั้นเปิดมาก็พูดถึงเรื่องสีก่อนเลย โดยสีหลักที่จะขายนั้นมีทั้งหมด 4 สีคือสีครีม, เขียว, ม่วงลาเวนเดอร์ และดำ นอกจากนี้ถ้าซื้อผ่าน samsung.com จะมีสีพิเศษเพิ่มมาอีก 3 สีคือเทา, ขาว และชมพู โดยสีสันของเครื่องนั้นเเพื่อน ๆ สามารถซื้อให้เข้ากับสายของ Galaxy Watch4 ได้ด้วยนะเออ จะเอาสติกเกอร์มาติดให้สวยงาม หรือจะใช้เคสสุดแฟนตาซีที่ Samsung ทำออกมาให้ก็ได้นะ

    สำหรับสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงจาก Z Flip รุ่นก่อนก็คือหน้าจอด้านนอก เพราแต่เดิมแล้วมันช่างเล้กกระจิ๊ดริดมาก Samsung เลยทำการเพิ่มขนาดเข้าไปจนเป็น 1.9 นิ้ว แถมยังเป็นจอ Super AMOLED อีกด้วยนะ ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอ่านข้อความต่าง ๆ ใช้ควมคุมเครื่องเล่นเพลง หรือแม้กระทั่งใช้ถ่ายเซลฟี่ก็ยังได้

    สำหรับตัวหน้าจอภายในนั้นใช้หน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X ที่มีค่า Refresh rate 120๋Hz เช่นเดียวกับ Z Fold3 ส่วนขนาดนั้นจะอยู่ที่ 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full-HD+ และมี Ultra Thin Glass มาปิดทับอีกชั้น ทำให้มีความยืดหยุ่นและทนต่อรอยขีดข่วนได้มากกว่าเดิมอย่างมาก

    หนึ่งฟีเจอร์เด่นที่มาพร้อมกับ Z Fold3 เลยก็คือฟีเจอร์กันน้ำ IPX8 ใช้โครงเป็น Aluminum กระจกเป็น Gorilla Glass Victus เรียกได้ว่างานนี้ Samsung จัดเต็มเรื่องความทนทานมากเป็นพิเศษ แถมคราวนี้ยังเอาวง BTS มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อีกด้วยนะ (ลงทุนกันสุด ๆ)

    สำหรับกล้องถ่ายภาพนั้น Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12MP ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักและกล้อง Ultrawide แต่ที่พิเศษกว่าเครื่องไหน ๆ เลยก็คือตัวกระจกหน้ากล้องนั้นเป็นกระจก Gorilla with DX ซึ่ง Corning เคลมเอาไว้ว่า กระจกชนิดนี้สามารถส่งผ่านแสงได้มากถึง 98% โดยที่ไม่ลดทอนความแข็งแกร่งลง โดยคุณสมบัตินี้จะช่วยลดการเกิดแสงแฟลร์ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาไม่มีอาการฟุ้งและเบลอนั่นเอง

    นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไป Pre-Order และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะ


    Samsung Galaxy Buds2

    ปิดท้ายด้วยหูฟัง Galaxy Buds อย่าง Galaxy Buds2 ที่คราวนี้ได้เอา Galaxy Buds+ ไปอัพเกรดเพิ่มความสามารถให้ โดยการเพิ่มฟีเจอร์ ANC (Active Noise Cancellation) ที่มีอยู่บน Buds Live และ Buds Pro เข้ามา แล้วขายในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้เราสามารถหาหูฟังคุณภาพมาใช้ได้ง่ายมากขึ้น

    สำหรับฟีเจอร์ ANC นั้นสามารถปรับค่าได้จากแอพ Galaxy Wearable โดยสามารถปรับค่าได้ 3 ระดับ พร้อมด้วย Transparency Mode นำเสียงภายนอกเข้ามาได้สูงสุด 9 เดซิเบล นอกจากนี้ยังมีการใส่ฟีเจอร์ Voice Pickup Unit (VPU) ที่จะสลับเปลี่ยนมาใช้ Transparency Mode อัตโนมัติเมื่อเราออกเสียงพูดไปด้วย

    ส่วนในด้านเสียง Galaxy Buds 2 ก็จัดเต็มตามแบบฉบับของ Samsung คือมาพร้อมกับ Dual-Driver ที่ประกอบไปด้วย Woofer ขนาด 11 มม. และ Tweeter ขนาด 6.3 มม. และได้รับการจูนเสียงโดย AKG มีไมค์ข้างละ 3 ตัว ช่วยในการตัดเสียง ANC และ Transparency Mode นอกจากนี้ยังรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX2 ทำให้สามารถใส่ออกกำลังกายได้ด้วย

    หนึ่งในจุดเด่นของ Galaxy Buds2 คือมีน้ำหนักที่เบาและสวมใส่สบายมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ดูเหมือนคราวนี้ Samsung จะใส่ใจกับน้ำหนักและการสวมใส่ที่สบายมากยิ่งขึ้น โดยตัวหูฟังมีขนาดเล็กลง 14.6% และเบาขึ้น 21% (เมื่อเทียบกับ Buds+) โดยจุกแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียงแค่ 5 กรัมเท่านั้น

    สำหรับระยะเวลาในการใช้งานนั้นเมื่อมีการเปิด ANC จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สุงสุดที่ 5 ชั่วโมง แต่ถ้าปิด ANC ไว้ก็จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดที่ 7.5 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วจะสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 20 ชั่วโมง (ถ้าเปิด ANC นะ) นอกจากนี้ Galaxy Buds2 ยังมีระบบ Fast Charge ที่ Samsung เคลมเอาไว้ว่า ชาร์จทิ้งไว้ 5 นาที ก็ได้แบตเพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วถึง 1 ชั่วโมง

    สำหรับเรื่องสีนั้น Galaxy Buds2 จะมีทั้งหมด 4 สีคือสีขาว, ดำ, เขียว และม่วง แต่ทว่าสีเหล่านี้จะอยู่ภายในตัวเคสและที่ตัวหูฟังเท่านั้น ส่วนที่ด้านนอกตัวเคสจะเป็นสีขาวเหมือนกันหมด นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะ


    สรุปราคาขายในไทย

    Samsung Galaxy Z Fold3

    • 256GB : ราคา 57,900 บาท
    • 512GB : ราคา 61,900 บาท

    Samsung Galaxy Z Flip3 5G

    • 128GB : ราคา 34,900 บาท
    • 256GB : ราคา 36,900 บาท

    Samsung Galaxy Watch4

    • หน้าปัด 40 มม. (BT) สีดำและพิงก์โกลด์ ราคา 7,990 บาท
    • หน้าปัด 44 มม.
      • (BT) สีดำและเขียว ราคา 8,990 บาท
      • (LTE) สีดำและเขียว ราคา 10,900 บาท

    Samsung Galaxy Watch4 Classic

    • หน้าปัด 46 มม.
      • (BT) สีดำและสีเงิน ราคา 11,900 บาท
      • (LTE) สีดำ ราคา 13,900 บาท

    Samsung Galaxy Buds2

    • ราคา 3,990 บาท

    Samsung x THOM BROWNE

    ในงาน Galaxy Unpacked นอกเหนือจากการเปิดตัวรุ่นปกติแล้ว Samsung ยังปิดท้ายด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศาด้วย โดยในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับ THOM BROWNE นักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อฟ้า THOM BROWNE ซึ่งรุ่นพิเศานี้จะเป็นการขายแบบ Set คือแยกระหว่าง Samsung Galaxy Z Fold3 และ samsung Galaxy Z Flip3 5G ส่วนของใน Set นั้นจะเหมือนกันทั้ง Galaxy Buds2 THOM BROWNE Edition และ Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition ซึ่งนอกเหนือจากของในกล่องแล้ว Theme ภายในเครื่องยังเป็น Theme THOM BROWNE ด้วยนะเออ โดย Set THOM BROWNE นี้จะเปิดให้ Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมเป็นต้นไป และจะมีขาย Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition แยกต่างหากด้วย โดยสามารถซื้อได้ในช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป

    Galaxy Unpacked Samsung Samsung Galaxy Buds2 Samsung Galaxy Watch4 Samsung Galaxy Z Flip3 Samsung Galaxy Z Fold3
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ACHI-SP

    Related Posts

    แนะนำ 3 กลุ่มหลักที่เหมาะกับ iPhone 16e – ถ้าซื้อไปใช้ รับรองว่าคุ้ม!

    13 พฤษภาคม 2025

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S25 Edge มือถือรุ่นบาง พร้อมกล้อง 200MP ก่อนเปิดตัว 13 พ.ค. 2025 นี้

    10 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    แนะนำ 3 กลุ่มหลักที่เหมาะกับ iPhone 16e – ถ้าซื้อไปใช้ รับรองว่าคุ้ม!

    13 พฤษภาคม 2025

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S25 Edge มือถือรุ่นบาง พร้อมกล้อง 200MP ก่อนเปิดตัว 13 พ.ค. 2025 นี้

    10 พฤษภาคม 2025

    ราคาไอโฟนล่าสุด 2025 ทุกรุ่นทั้งเครื่องเปล่าและติดโปรที่วางขายในตอนนี้ มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง อัพเดท พฤษภาคม 2025

    9 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X