
จบลงไปแล้วนะครับกับงาน Galaxy Unpacked August 2021 ซึ่งก็ตามคาดว่ามีการเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3 5G, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2 ตามข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวรุ่นพิเศษเพิ่มอีกด้วย โดยในงานจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันได้เลย
สรุปงาน Galaxy Unpacked August 2021
Samsung Galaxy Watch4 Series

เปิดงาน Galaxy Unpacked มาอย่างแรกไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เริ่มด้วย Galaxy Watch4 Series เลย โดยจะมีการแบ่งออกเป็น 2 รุ่น (เหมือนเดิม) คือ Galaxy Watch4 และ Galaxy Watch4 Classic ซึ่งเราสามารถดัดแปลง Watch4 ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสายเป็นสีต่าง ๆ ได้ (ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกันทั้ง 2 ด้านก็ยังได้) หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนภาพบนหน้าจอให้เป็นแบบที่ชื่นชอบได้ถึง 40 แบบ

Watch4 นั้นมาพร้อมกับ OneUI Watch ที่มีพื้นฐานมาจาก WareOS 3.0 ตัวล่าสุดของ Google ทำให้อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพมากมาย โดยสิ่งแรกที่ถูกเอามาโชว์ให้เห็นเลยก็คือฟีเจอร์ตรวจจับการนอน (แบบใหม่นะ) ที่สามารถตรวจจับการกรนของเราระหว่างหลับได้อีกด้วย (มีการอัดเสียงไว้อีกต่างหาก) นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ใช้วัดค่าร่างกายที่เรียกว่า BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) ที่มักจะเจอยู่ในฟิตเนส โดยฟีเจอร์นี้จะตรวจวัดค่าต่าง ๆ ออกมาได้ใกล้เคียงกับเครื่อง DXA ถึง 98%

ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Watch4 ก็คือ BioActive Sensor ซึ่งมันสามารถตรวจวัดความดันเลือดและสามารถแสดงกราฟ ECG ออกมาให้เห็นได้เลย ทว่าก็น่าเสียดาย เนื่องจากประเทศที่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ไม่มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ดังนั้นเราอาจจะต้องรอกันต่อไปยาว ๆ

ของใหม่อีกอย่างที่น่าสนใจและเราได้ใช้ด้วยนั่นก็คือ Gesture Control มันคือการสั่งการ Watch4 ผ่านทางการขยับข้อมือ โดยเราสามารถตั้งค่าได้ผ่านแอพเลย

ตัว Watch4 ทั้ง 2 รุ่นรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และ 5ATM ส่วนวัสดุงานประกอบของ Watch4 จะเป็นแบบ Aluminum มีหน้าปัดให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. ในขณะที่ Watch4 Classic ใช้เป็น Stainless Steel มีให้เลือกแค่รุ่นหน้าปัด 46 มม.เท่านั้น สำหรับการวางขายนั้นจะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมเป็นต้นไปด้วยราคา $249 และ $349 (ส่วนราคาไทยจะไปสรุปให้ที่ท้ายบทความ)
นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะ
Samsung Galaxy Z Fold3

หลังจากจบการเปิดตัว Galaxy Watch4 แล้วก็มาต่อกันที่ Samsung Galaxy Z Fold3 ต่อเลย โดยสิ่งที่แรกที่พูดถึงเลยก็คือหน้าจอพับด้านในที่ใช้พาแนล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ที่มากับค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz พร้อมด้วยความสว่างที่มากกว่าเดิมถึง 29% ส่วนจอด้านนอกนั้นก็เป็นหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X เช่นกัน แต่มีขนาด 6.2 นิ้ว และมีค่า Refresh Rate ที่สูงถึง 120Hz เช่นกันด้วย

หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจของ Z Fold3 นั่นก็คือการที่เป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีกล้องใต้จอ ทำให้สามารถแสดงผลภาพได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีจุดดำ ๆ บนภาพอีกแล้ว และอีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือ Z Fold3 เป้นมือถือพับได้เครื่องแรกที่รองรับการใช้งานปากกา S Pen โดยตัว S Pen นี้ได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้กับจอพับได้ โดยที่ตัวหัวปากกานั้นจะเปลี่ยนไปใช้ยางแบบนุ่ม ช่วยให้หน้าจอไม่เป็นรอย

หนึ่งในสิ่งทที่ Samsung โชว์ค่อยข้างเยอะเลยก็คือการทำงานแบบ Multitask ซึ่งด้วยหน้าจอขนาด 7.6 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่มากพอจะสามารถเปิดแอพซ้อน ๆ กันได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดซ้อน 2 แอพ หรือเปิดซ้อนพร้อมกัน 3 หน้าก็ยังได้ โดยในคลิปเปิด Youtube พร้อม ๆ กับเปิด Google Chrome 2 หน้า (ไม่ใช่เปิด 2 Tab นะแต่เป็นการเปิดแอพ Chrome ซ้อนกัน 2 แอพ) อีกทั้งยังการการเปิดแอพ Microsoft Word/Power Point พร้อมกัน 2 แอพด้วย ซึ่งนี่เป็นการโชว์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการประมวลผลของตัวเครื่องนั่นเอง

Galaxy Z Fold3 นั้นมาพร้อมกับกล้องทั้งหมดถึง 5 ตัว สามารถใช้งานสลับกันได้ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายแนวมากขึ้น โดยกล้องหลังนั้นจะมีทั้งหมด 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลัก, กล้อง Ultrawide และกล้อง Telephoto 2X ซึ่งทั้ง 3 กล้องนี้มีความละเอียดเท่ากันที่ 12MP สำหรับกล้องที่เอาไว้ถ่ายเซลฟี่นั้นหากไม่ได้กางออกจะใช้กล้องความละเอียด 10MP ถ่าย แต่ถ้ากางออกจะใช้กล้องที่ซ่อนอยู่ใตจอถ่าย วึ่งกล้องนี้มีความละเอียดอยู่ที่ 4MP สำหรับเวลาถ่ายภาพนอกจากการถือถ่ายปกติ เราสามารถกางเครื่องออก 90 องศา วางเครื่องในจุดที่ต้องการ แล้วตั้งเวลาถ่ายได้อีกด้วย

ในเรื่องของความแข็งแรงทนทานนั้นก็หายห่วงได้เลยเพราะ Galaxy Z Fold3 นั้นมีตัวเครื่องที่ทำจาก Aluminum กระจกเป็น Gorilla Glass Victus และมีมาตราฐานกันน้ำ IPX8 ที่แต่เดิมเคยเป็นจุดอ่อนอยู่ด้วย โดยการกันน้ำในครั้งนี้โฟกัสไปที่จุดที่น้ำจะเข้าง่ายสุดก็คือที่สันพับนั่นเอง โดยทาง Samsung ได้พยายามหาทางจนทำให้บานพับสามรรถกันน้ำได้ (แต่ก็ยังไม่สามารถเอาไปใช้ใต้น้ำได้นะ แค่กันไม่ให้หยดน้ำเข้าไปทำความเสียหายที่ตัวบานพับ)

อีกหนึ่งสิ่งที่ Samsung พูดถึงและโดยส่วนตัวค่อนข้างสนใจก็คือลำโพงคู่ที่อยู่ใน Galaxy Z Fold3 ทำให้เพิ่มความกระหึ่มและเพิ่มมิติให้เสียงเวลาฟังเพลง, เล่นเกม หรือดูหนังให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น และด้วยระบบ Multi-dimension Sound จะช่วยเพิ่มความโอบล้อมของเสียงได้มากขึ้น
สำหรับสีที่มีจำหน่ายนั้นจะมีสีเขียว Phantom Green, ดำ Phantom Black, เงิน Phantom Silver นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไป Pre-Order และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะ
Samsung Galaxy Z Flip3 5G


สำหรับ Galaxy Z Flip3 5G นั้นเปิดมาก็พูดถึงเรื่องสีก่อนเลย โดยสีหลักที่จะขายนั้นมีทั้งหมด 4 สีคือสีครีม, เขียว, ม่วงลาเวนเดอร์ และดำ นอกจากนี้ถ้าซื้อผ่าน samsung.com จะมีสีพิเศษเพิ่มมาอีก 3 สีคือเทา, ขาว และชมพู โดยสีสันของเครื่องนั้นเเพื่อน ๆ สามารถซื้อให้เข้ากับสายของ Galaxy Watch4 ได้ด้วยนะเออ จะเอาสติกเกอร์มาติดให้สวยงาม หรือจะใช้เคสสุดแฟนตาซีที่ Samsung ทำออกมาให้ก็ได้นะ

สำหรับสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงจาก Z Flip รุ่นก่อนก็คือหน้าจอด้านนอก เพราแต่เดิมแล้วมันช่างเล้กกระจิ๊ดริดมาก Samsung เลยทำการเพิ่มขนาดเข้าไปจนเป็น 1.9 นิ้ว แถมยังเป็นจอ Super AMOLED อีกด้วยนะ ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอ่านข้อความต่าง ๆ ใช้ควมคุมเครื่องเล่นเพลง หรือแม้กระทั่งใช้ถ่ายเซลฟี่ก็ยังได้

สำหรับตัวหน้าจอภายในนั้นใช้หน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X ที่มีค่า Refresh rate 120๋Hz เช่นเดียวกับ Z Fold3 ส่วนขนาดนั้นจะอยู่ที่ 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full-HD+ และมี Ultra Thin Glass มาปิดทับอีกชั้น ทำให้มีความยืดหยุ่นและทนต่อรอยขีดข่วนได้มากกว่าเดิมอย่างมาก

หนึ่งฟีเจอร์เด่นที่มาพร้อมกับ Z Fold3 เลยก็คือฟีเจอร์กันน้ำ IPX8 ใช้โครงเป็น Aluminum กระจกเป็น Gorilla Glass Victus เรียกได้ว่างานนี้ Samsung จัดเต็มเรื่องความทนทานมากเป็นพิเศษ แถมคราวนี้ยังเอาวง BTS มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อีกด้วยนะ (ลงทุนกันสุด ๆ)

สำหรับกล้องถ่ายภาพนั้น Galaxy Z Flip3 5G มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12MP ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักและกล้อง Ultrawide แต่ที่พิเศษกว่าเครื่องไหน ๆ เลยก็คือตัวกระจกหน้ากล้องนั้นเป็นกระจก Gorilla with DX ซึ่ง Corning เคลมเอาไว้ว่า กระจกชนิดนี้สามารถส่งผ่านแสงได้มากถึง 98% โดยที่ไม่ลดทอนความแข็งแกร่งลง โดยคุณสมบัตินี้จะช่วยลดการเกิดแสงแฟลร์ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาไม่มีอาการฟุ้งและเบลอนั่นเอง
นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไป Pre-Order และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะ
Samsung Galaxy Buds2

ปิดท้ายด้วยหูฟัง Galaxy Buds อย่าง Galaxy Buds2 ที่คราวนี้ได้เอา Galaxy Buds+ ไปอัพเกรดเพิ่มความสามารถให้ โดยการเพิ่มฟีเจอร์ ANC (Active Noise Cancellation) ที่มีอยู่บน Buds Live และ Buds Pro เข้ามา แล้วขายในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้เราสามารถหาหูฟังคุณภาพมาใช้ได้ง่ายมากขึ้น

สำหรับฟีเจอร์ ANC นั้นสามารถปรับค่าได้จากแอพ Galaxy Wearable โดยสามารถปรับค่าได้ 3 ระดับ พร้อมด้วย Transparency Mode นำเสียงภายนอกเข้ามาได้สูงสุด 9 เดซิเบล นอกจากนี้ยังมีการใส่ฟีเจอร์ Voice Pickup Unit (VPU) ที่จะสลับเปลี่ยนมาใช้ Transparency Mode อัตโนมัติเมื่อเราออกเสียงพูดไปด้วย

ส่วนในด้านเสียง Galaxy Buds 2 ก็จัดเต็มตามแบบฉบับของ Samsung คือมาพร้อมกับ Dual-Driver ที่ประกอบไปด้วย Woofer ขนาด 11 มม. และ Tweeter ขนาด 6.3 มม. และได้รับการจูนเสียงโดย AKG มีไมค์ข้างละ 3 ตัว ช่วยในการตัดเสียง ANC และ Transparency Mode นอกจากนี้ยังรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX2 ทำให้สามารถใส่ออกกำลังกายได้ด้วย

หนึ่งในจุดเด่นของ Galaxy Buds2 คือมีน้ำหนักที่เบาและสวมใส่สบายมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ดูเหมือนคราวนี้ Samsung จะใส่ใจกับน้ำหนักและการสวมใส่ที่สบายมากยิ่งขึ้น โดยตัวหูฟังมีขนาดเล็กลง 14.6% และเบาขึ้น 21% (เมื่อเทียบกับ Buds+) โดยจุกแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียงแค่ 5 กรัมเท่านั้น



สำหรับระยะเวลาในการใช้งานนั้นเมื่อมีการเปิด ANC จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สุงสุดที่ 5 ชั่วโมง แต่ถ้าปิด ANC ไว้ก็จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดที่ 7.5 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วจะสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 20 ชั่วโมง (ถ้าเปิด ANC นะ) นอกจากนี้ Galaxy Buds2 ยังมีระบบ Fast Charge ที่ Samsung เคลมเอาไว้ว่า ชาร์จทิ้งไว้ 5 นาที ก็ได้แบตเพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วถึง 1 ชั่วโมง

สำหรับเรื่องสีนั้น Galaxy Buds2 จะมีทั้งหมด 4 สีคือสีขาว, ดำ, เขียว และม่วง แต่ทว่าสีเหล่านี้จะอยู่ภายในตัวเคสและที่ตัวหูฟังเท่านั้น ส่วนที่ด้านนอกตัวเคสจะเป็นสีขาวเหมือนกันหมด นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com ได้แล้วนะ
สรุปราคาขายในไทย

Samsung Galaxy Z Fold3
- 256GB : ราคา 57,900 บาท
- 512GB : ราคา 61,900 บาท

Samsung Galaxy Z Flip3 5G
- 128GB : ราคา 34,900 บาท
- 256GB : ราคา 36,900 บาท

Samsung Galaxy Watch4
- หน้าปัด 40 มม. (BT) สีดำและพิงก์โกลด์ ราคา 7,990 บาท
- หน้าปัด 44 มม.
- (BT) สีดำและเขียว ราคา 8,990 บาท
- (LTE) สีดำและเขียว ราคา 10,900 บาท
Samsung Galaxy Watch4 Classic
- หน้าปัด 46 มม.
- (BT) สีดำและสีเงิน ราคา 11,900 บาท
- (LTE) สีดำ ราคา 13,900 บาท

Samsung Galaxy Buds2
- ราคา 3,990 บาท
Samsung x THOM BROWNE

ในงาน Galaxy Unpacked นอกเหนือจากการเปิดตัวรุ่นปกติแล้ว Samsung ยังปิดท้ายด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศาด้วย โดยในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับ THOM BROWNE นักออกแบบแฟชั่นชาวอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อฟ้า THOM BROWNE ซึ่งรุ่นพิเศานี้จะเป็นการขายแบบ Set คือแยกระหว่าง Samsung Galaxy Z Fold3 และ samsung Galaxy Z Flip3 5G ส่วนของใน Set นั้นจะเหมือนกันทั้ง Galaxy Buds2 THOM BROWNE Edition และ Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition ซึ่งนอกเหนือจากของในกล่องแล้ว Theme ภายในเครื่องยังเป็น Theme THOM BROWNE ด้วยนะเออ โดย Set THOM BROWNE นี้จะเปิดให้ Pre-Order ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมเป็นต้นไป และจะมีขาย Galaxy Watch4 Classic THOM BROWNE Edition แยกต่างหากด้วย โดยสามารถซื้อได้ในช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป
