รีวิว realme C21 รุ่นเล็ก รุ่นใหม่ล่าสุดใน C Series ของทาง realme ที่เด่นเรื่องความคุ้มค่าของสเปคต่อราคา โดย realme C21 ที่มีการอัพเกรดสเปคให้ทันสมัยขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า มีตัวเลือกเป็น RAM 4GB/ 64GB ROM เพิ่มเข้ามา แต่ยังคงคอนเส็ปเดิมเรื่องแบตใหญ่ ส่วนการใช้งานจะเป็นอย่างไรนั้น เลื่อนลงไปอ่านรีวิว realme C21 ได้เลยครับ
สเปค realme C21
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio G35 octa-core ความเร็ว 2.3 GHz 12nm
- GPU PowerVR GE8320
- มีสองรุ่นย่อย
- RAM 3GB / 32GB ROM
- RAM 4GB / 64GB ROM
- รองรับ micro SD Card สูงสุด 256GB
- หน้าจอ Mini-Drop ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 20:9
- กล้องหลัง AI Triple Camera
- กล้องหลัก 13MP f/2.2 ระบบโฟกัสแบบ PDAF รองรับการซูม 4 เท่า
- กล้อง B&W Portrait 2MP f/2.4
- กล้อง Macro 2MP f/2.4 ระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้า 5MP f/2.4 รองรับ HDR, AI Beauty
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 + realme UI
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จ 10W (5V/ 2A)
- พอร์ตเชื่อมต่อ micro USB และรองรับ Reverse Charging ผ่านสาย USB OTG
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ถาดซิมแบบ 3-Slot Card
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0, Wi-Fi 2.4 GHz
- realme C21 ราคาเริ่มต้น 4,299 บาท
สำหรับอุปกรณ์ในกล่องประกอบไปด้วยตัวเครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว, อะแดปเตอร์ 10W และสายชาร์จ USB micro USB ไม่มีเคสแถมมาให้ เป็นปกติของสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กสุดของทาง realme อยู่แล้ว
DESIGN – การออกแบบ
realme C21 มาพร้อมกับหน้าจอหยดน้ำ ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ มีอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อพื้นที่ด้านหน้าทั้งหมดคิดเป็น 89.5% เนื่องจากออกแบบหน้าจอด้วยกระบวนการทับซ้อนกันแบบ Stack process เพราะฉะนั้นในการรับชมวิดีโอ หรือการเล่นเกมก็จะให้ความรู้สึกที่เต็มตา มีเพียง Notch กินพื้นที่ด้านหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กที่หน้าจอขนาดใหญ่เลยทีเดียว
ด้านความละเอียดระดับ HD+ กับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ส่วนตัวผมรับได้กับความละเอียดดังกล่าว แม้จะไม่ได้คมเท่ากับหน้าจอความละเอียด Full HD+ ที่มีขนาดเท่ากัน แต่ก็ไม่ได้เห็นเป็นเม็ดพิกเซลชัดเจนขนาดนั้น ในการใช้งานทั่วไป การรับชมวิดีโอ การเล่นเกม ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้าเปิดอ่าน Text เยอะ ๆ เช่น การอ่าน Ebook ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้ล้าสายตาได้เหมือนกัน
โดยรวมสำหรับหน้าจอของ realme C21 อยู่ในระดับที่ดีเลย เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว สีสันสดใสในระดับหนึ่ง แต่ส่วนตัวผมว่าหน้าจอจะออกโทนอมฟ้าไปสักหน่อย แล้วก็มีโหมดถนอมสายตา ที่ปรับหน้าจอให้เป็นสีโทนอุ่น เหมาะสำหรับใช้งานในที่แสงน้อย หรือตอนกลางคืน
รายละเอียดตัวเครื่อง realme C21 เริ่มจากด้านล่าง ประกอบไปด้วยพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตชาร์จไฟแบบ micro USB และไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ ส่วนด้านซ้ายมือเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบ 3 Slot (2 Nano SIM + 1 micro SD Card) และด้านขวามือเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด – ปิดเครื่อง กับปุ่มปรับระดับเสียง ความบางของรุ่นนี้อยู่ที่ 8.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 190 กรัม
ด้านหลังตัวเครื่องรีวิว realme C21 มาพร้อมกับดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตแบบ Geometric ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิตของนาฬิกาทราย ออกแบบโดยใช้เทคนิค bold cross-hatch ช่วยสร้างมิติภาพเงาที่มีความทันสมัยและเกิดความรู้สึกที่แข็งแกร่ง สามารถป้องกันรอยนิ้วมือได้ มีให้เลือกถึง 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Cross Blue และสีดำ Cross Black พื้นผิวของฝาหลังเกิดจากการใช้เครื่องแกะสลักเรเดียมที่มีความแม่นยำสูงจากประเทศเยอรมนี พร้อมการขัดอีก 300 นาที แกะสลักมาเป็นเส้นโค้งกว่า 450 เส้นที่ด้านหลังเพื่อสร้างเอฟเฟกต์แสงสะท้อนพิเศษ
มุมซ้ายล่างของฝาหลัง มีลำโพงอยู่ด้านหลังคู่กับโลโก้ realmeในส่วนของกล้องได้รับออกแบบให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสซึ่งเป็นที่นิยมในขณะนี้ ประกอบไปด้วยกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ความละเอียด 13MP + 2MP + 2MP มีแฟลช LED มาให้จำนวน 1 ดวง และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณตรงกลางฝาหลัง
สำหรับการปลดล็อกตัวเครื่อง realme C21 สามารถใช้การปลดล็อกตัวเครื่องด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง หรือจะใช้การสแกนใบหน้าเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ก็สามารถทำได้เช่นกัน ส่วนรูปแบบของการตั้งรหัสผ่าน เลือกได้ทั้งแบบ PIN, Password และ Pattern
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของ realme C21 รวมถึงสมาร์ตโฟน realme ทุกรุ่น ก็คือเรื่องมาตรฐานที่ได้การรับรองจาก TÜV Rheinland องค์กรอิสระระดับโลก ด้านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยสมาร์ตโฟนของ realme ทุกเครื่องผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ตามมาตรฐาน TÜV Rheinland Smartphone High Reliability เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดกับผู้ใช้งาน
การรับรองคุณภาพ TÜV Rheinland Smartphone High Reliability ประกอบไปด้วยการทดสอบ 23 รูปแบบ รวมถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน 12 รูปแบบ เช่น การตกหล่น การสึกหรอ และการทดสอบในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง 7 สถานการณ์ เช่น อุณภูมิสูง – ต่ำ ความชื้นสูง – ต่ำ ความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า อายุการใช้งาน ไฟฟ้าสถิต ความกดอากาศ และ 4 สถานการณ์การทดสอบความแข็งแรงของส่วนประกอบ
PERFORMANCE – ประสิทธิภาพ
ด้านประสิทธิภาพ รุ่นนี้ยังคงเลือกใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G35 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตจากทาง MediaTek ที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นชิปสำหรับเกมมิ่งสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น และผมก็เคยรายงานผลการทดสอบในรีวิว realme C12 ที่ใช้ชิปตัวนี้ไปแล้ว ว่ามันสามารถเล่นเกมได้ในบางเกม แต่เนื่องจากรุ่นนี้ มีการเพิ่มรุ่นย่อย RAM 4GB เลยทำให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงขึ้นไปอีกเล็กน้อย เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ในการเล่นเกม รุ่นนี้ผมลองทดสอบกับเกม Free Fire ก็พอที่จะเล่นเกมได้ แต่ก็ต้องมีการปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับเกมนั้น ๆ ด้วย เช่นเดียวกับเกม RoV ผมลองเล่นแบบปรับกราฟฟิกระดับ Low ในโหมด 30fps ก็พอจะเล่นได้เช่นกัน
ส่วนการใช้งานทั่วไป เนื่องจากรุ่นนี้ให้ RAM 4GB เลยทำให้การใช้งานทั่วไปมีความลื่นไหลในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเปิดแอปหลาย ๆ แอปพร้อมกัน แล้วทำการสลับแอปไปมาบ่อย ๆ ก็มีอาการหน่วงให้เห็นบ้าง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมก็ถือว่ารับได้ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวครับ โดยเฉพาะเอาไปใช้เปิดแอปเป๋าตัง เราชนะ หรือแอปพลิเคชั่นธนาคารต่าง ๆ นี่หายห่วงเลย
ด้านการจัดการพลังงาน realme C21 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5000 mAh สามารถสแตนบายตัวเครื่องได้นานถึง 47 วัน ส่วนในการใช้งานนั้น หากไม่ได้เล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน ผมว่า 1 วันครึ่ง – 2 วันชาร์จไฟครั้งหนึ่งยังได้ คือมั่นใจได้เลยว่าแบตเตอรี่อึดมากเกินใช้งานใน 1 วันอย่างแน่นอน และไม่เพียงแค่แบตเตอรี่อึด แต่ realme C21 ยังทำ Reverse Charge เปลี่ยนตัวเองเป็น Powerbank เพื่อชาร์จไฟให้สมาร์ตโฟนเครื่องอื่นผ่านสาย USB OTG ได้อีกด้วย (ต้องซื้อแยก)
ผมทดสอบด้วยการชาร์จไฟจนเต็ม 100% ตั้งแต่เวลา 9.00 น. มาจนถึงเวลา 16.00 น. มีการเล่นเกม ROV ไปด้วยกัน 2 เกม พบว่าแบตเตอรี่เหลือราว ๆ 89% เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนที่มีการจัดการพลังงานที่ดีทีเดียวครับ แต่ข้อสังเกตคือในการชาร์จไฟกลับ ด้วยอะแดปเตอร์ในกล่องที่จ่ายไฟได้เต็มที่ 10W จึงทำให้การชาร์จใช้เวลานานราว 2 ชั่วโมง
การจัดการพลังงานโดยปกติก็ว่าแบตเตอรี่อึดมากแล้ว realme C21 ยังมาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุดอย่าง Super Power Saving Mode ที่กำหนดให้ผู้ใช้เลือกแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานหลัก 6 แอป ไว้ที่หน้าจอสแตนบายแบบพิเศษ เป็นหน้าจอที่เน้นสีดำเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานมากขึ้น แม้ว่าแบตเตอรี่เหลือเพียง 5% ก็ยังสามารถดู Youtube ได้ต่อเนื่องถึง 1.36 ชั่วโมงเลยทีเดียว
SOFTWARE – ระบบปฏิบัติการ
realme C21 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันล่าสุดอย่าง Android 10 ครอบด้วย realme UI ที่เน้นเรื่องระบบสีที่สดใส High-saturation, ไอคอน, พื้นหลัง และแอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของตัว UI นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งไอคอนได้ด้วยตัวเอง การใช้งานหน้าโฮมจะเป็นแบบ App Drawer แยกหน้ารวมแอปพลิเคชั่นออกจากหน้าหลัก
สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน realme UI มีดังนี้ครับ
- Dual Mode Music Share: สามารถเชื่อมต่อหูฟ้งไร้สายได้พร้อมกัน 2 เครื่อง
- Focus Mode: เป็นโหมดที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายจากโลกภายนอก โดยระบบจะเปิดเพลงฟังสบายๆ พร้อมเปิดโหมด DND (Do Not Disturb) เพื่อปิดการแจ้งเตือนที่รบกวนต่างๆ
- 3-Finger Selected Screenshot: ใช้ 3 นิ้วแตะค้างไว้ที่หน้าจอ เพื่อแคปหน้าจอ
- Personal Information Protection: ระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัว
- Dark Mode: เปิดอัตโนมัติในเวลากลางคืน
- การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
– การประมวลผล: ระยะเวลา App Booting ลงลด 25% ความลื่นไหลเพิ่มขึ้น 20%
– แบตเตอรี่: อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 10% ลดการใช้พลังงานเมื่อเปิดสแตนด์บายข้ามคืน 35%
– ประสิทธิภาพการทำงาน: ลดความดีเลย์ระบบสัมผัส 35% ประสิทธิภาพการเล่นเกมเพิ่มขึ้น 20%
CAMERA – กล้องถ่ายรูป
ด้านการถ่ายภาพ realme C21 มาพร้อมกับกล้องหลัง AI แบบ 3 กล้อง Triple Camera ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 13MP + 2MP Macro และ 2MP B&W ระบบโฟกัสเป็นแบบ PDAF ให้ความรวดเร็วและแม่นยำในระดับหนึ่ง และมีแฟลช LED ติดมาให้จำนวน 1 ดวง
โหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจใน realme C21 นอกเหนือจากโหมดรูปภาพ ก็จะเป็นโหมดถ่ายคน ที่สามารถละลายฉากหลังได้ หรือจะเป็นไฮไลต์อย่างโหมดกลางคืน Super Nightscape แบบไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนมีความสว่าง และคมชัดมากยิ่งขึ้น โดยโหมดกลางคืนไม่ค่อยพบในสมาร์ตโฟนระดับราคาใกล้เคียงกับ realme C21 ครับ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ก็ว่าได้
ภาพรวมสำหรับกล้องหลังของ realme C21 ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้สำหรับสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นครับ อย่างน้อยที่สุดก็คือได้กล้องที่ความละเอียดสูงกว่าหลายแบรนด์ และการมาพร้อมกับกล้องถึง 3 ตัวด้วยกัน ถ่ายใกล้ด้วยมาโคร หรือจะถ่ายคนพร้อมฟิลเตอร์ด้วยเลนส์ B&W แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีเลนส์มุมกว้าง Ultra wide-angle มาให้ใช้งาน
ภาพที่ได้จากกล้องหลังของ realme C21 ก็ถือว่าเก็บรายละเอียดได้ดีในที่แสงเพียงพอ การโฟกัสค่อนข้างแม่นและเร็ว จากการที่ใช้ระบบโฟกัสแบบ PDAF โหมดถ่ายรูปแม้จะไม่ได้หลากหลายมาก แต่ก็ถือว่าให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนโหมดรูปคน หรือ Portrait การละลายฉากหลังผมว่าทำได้เนียนทีเดียว
สำหรับกล้องหน้าของ realme C21 มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4 รองรับโหมด AI Beauty พร้อม HDR และยังรองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้า
ตัวกล้องหน้าของ realme C21 ให้มุมมองที่กว้างทีเดียว ภาพรวมในการถ่ายเซลฟี่ หากเป็นที่แสงสว่างเพียงพอ ผมมองว่ารุ่นนี้ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง การมีโหมดรูปคน ช่วยให้ละลายฉากหลังได้ แม้จะพบว่ามีการตัดขอบพลาดบ้าง แต่ก็ถือว่ารับได้เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว ส่วนการเซลฟี่ในที่แสงน้อย จะทำให้คุณภาพของรูปถ่ายลดลงมากพอสมควร
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีในกล้องหน้าของ realme C21 ก็คือ Palm Selfie หรือใช้แค่การยกมือโชว์กล้อง แทนการกดปุ่มชัตเตอร์ เมื่อตัวกล้องจับได้ว่ามีการยกมือ จะทำการนับถอยหลัง 2 วินาที ช่วยให้การเซลฟี่สะดวกขึ้น เพราะไม่ต้องมาคอยเกร็งนิ้วเพื่อกดชัตเตอร์ เวลาถ่ายเซลฟี่ก็สามารถยืดมือได้สุดแขน ทำให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้นไปอีก
ส่วนการบันทึกวิดีโอ realme C21 รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p 30fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก realme C21
สรุปภาพรวม รีวิว realme C21
ภาพรวมสำหรับ realme C21 กับราคาเริ่มต้น 4,299 บาท ก็ยังคงคอนเส็ปเดิมของ realme คือเน้นเรื่องความคุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่น ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน อย่างรุ่นนี้ก็จะโดดเด่นกว่าในเรื่องของหน้าจอขนาดใหญ่ ชิปประมวลผล MediaTek Helio G35 + RAM 4GB (มีรุ่น RAM 3GB/ 32GB ROM เป็นอีกรุ่นย่อย) ที่พอจะเล่นเกมได้บ้าง ใช้งานพวกแอปเป๋าตัง, เราชนะ แอปธนาคารต่าง ๆ ได้สบาย รวมถึงกล้องหลัง 13MP ที่เป็นชุดกล้อง 3 ตัว ถ่ายมาโครได้ อีกทั้งแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000 mAh
ด้วยสเปคที่ให้มากับราคาเปิดตัวที่ไม่แพงจนเกินไป ทำให้ realme C21 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งในช่วงราคาดังกล่าวเลยก็ว่าได้ครับ เพราะโดยปกติ สมาร์ตโฟนในระดับราคาเดียวกันมักจะเป็นสเปคแบบเบสิก ให้กล้องมาตัวเดียวหรือเต็มที่ก็กล้องคู่ หน้าจอขนาดไม่ได้ใหญ่มาก รวมถึงชิปประมวลผลที่ใช้เล่นเกมไม่ค่อยไหว แต่ไม่ใช่กับ Helio G35 ที่พอจะใช้เล่นเกมบางเกมได้ แถมยังรันพวกแอปพลิเคชั่นที่จำเป็นในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของ realme C21
- realme C21 มาพร้อมชิปประมวลผล MediaTek Helio G35 ขนาด 12nm ประสิทธิภาพดี รันแอปลื่น
- กล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ความละเอียด 13MP พร้อม Macro และ B&W Lens
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh
- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบเรขาคณิต Geometric งานประกอบดี ได้มาตรฐานจาก TÜV Rheinland
- กล้องหลังมีโหมดกลางคืนมาให้
- หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว HD+
ข้อสังเกตของ realme C21
- รองรับ Wi-Fi เฉพาะคลื่น 2.4 GHz เท่านั้น
- การเชื่อมต่อ 4G เป็นแบบ Non-CA
- พอร์ตเชื่อมต่อเป็น micro USB