Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»iOS Platform»รีวิว: Apple iPad 2 ที่สุดของแท็บเล็ตที่ทุกคนใฝ่ฝัน พร้อมบทสรุปเมื่อเทียบกับ iPad 1
    iOS Platform

    รีวิว: Apple iPad 2 ที่สุดของแท็บเล็ตที่ทุกคนใฝ่ฝัน พร้อมบทสรุปเมื่อเทียบกับ iPad 1

    SaManTa[GTR]By SaManTa[GTR]29 พฤษภาคม 2011Updated:9 กันยายน 2013
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    มาถึงรุ่นที่ 2 กันแล้ว กับแท็บเล็ตจาก Apple ที่มีชื่อว่า iPad โดยการกับมาครั้งนี้ได้ใช้ชื่อที่เรียบง่ายและเข้าใจง่ายๆ ว่า iPad 2 ซึ่งใครที่รู้จักกับ iPad อยู่แล้วหรือไม่รู้จักก็จะเข้าใจได้ทันที ว่ามันเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด เรียกได้ว่าจากการที่ Apple iPad ได้เคยสร้างเสียงฮือฮากันมาแล้วครั้งหนึ่งจากปี 2010 ที่เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตตัวแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างที่สุด ส่งผลให้ Apple มีกำไรสุทธิมากที่สุดในวงการคอมพิวเตอร์ พร้อมปฏิวัติวงการที่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือค่ายอื่นๆ หันมาทำตามกันบ้าง โดยอาศัยระบบปฏิบัติการอย่าง Android หรือ Windows 7 ที่เราอาจจะเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว จากรีวิวที่ผ่านๆ มา

    วีดีโอรีวิว Apple iPad 2

    ในปี 2011 นี้ทาง Apple ก็ได้ส่ง iPad 2 ออกมาตามที่คาดกันไว้ โดยได้มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในหลายๆ ด้าน ส่วนราคาก็ตามสไตล์ Apple ก็คือราคาเท่ากับ iPad รุ่นแรกอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งในวันนี้ iPad 2 ได้ผ่านมือทีมงานและได้ทำการรีวิวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังไงก็สามารถติดตามชมผ่านบทความรีวิว iPad 2 นี้กันได้ครับ สำหรับใครที่จะชมวีีดีโอรีวิวก่อนก็สามารถชมกันได้ครับ

    แนะนำ Apple iPad 2

    ก่อนหน้าที่เราจะพบกับรีวิวเต็มๆ ของ Apple iPad 2 เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่า ว่า iPad รุ่นแรกกับ iPad 2 แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งที่ Apple ภูมิใจนำเสนอมาก็คือ บางกว่า, เบากว่า, เร็วกว่า, รองรับ Facetime, รองรับ Smart Cover, แบตเตอรี่ใช้ได้นานสูงสุดถึง 10 ชั่วโมง พร้อมทั้งเปิดตัวราคาในไทยเริ่มที่ 15,900 บาทเท่านั้นเอง แน่นอนว่าจะเป็นจริงแค่ไหน? คงต้องติดตามในส่วนของรีวิวกัน

    ดีไซน์ใหม่หมดจดแตกต่างจาก iPad รุ่นเดิม ที่เราสามารถจับถือ iPad 2 ได้ง่ายและคล่องตัวกว่าแต่ก่อน เพราะเข้ารูปมือมากกว่าด้วยดีไซน์ที่โค้งมน อีกทั้งยังมีความสวยหรู ดูแล้วเป็นของมีราคาเป็นสินค้าระดับสูง

    ที่สำคัญกว่านั้นด้วยชิปประมวลผลใหม่ล่าสุดที่เป็น Dual-core A5 ความเร็ว 1GHz ส่งผลให้เราสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล แม้ว่าจะเปิดค้างไว้พร้อมๆ กับ รวมไปถึงเกมที่ใช้กราฟิก 3D หนักๆ ก็รองรับได้เป็นอย่างดี ทำให้เราใช้งานได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ iPad รุ่นแรกแล้ว ก็แรงกว่าพอตัวเลย

    มาพร้อมกับกล้องด้านหน้าและด้านหลังที่รองรับการถ่ายภาพคุณภาพระดับ HD ที่รองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่น Facetime เช่นเดียวกับที่ iPhone 4 รองรับ เพื่อใช้งาน VDO Call อีกด้วย และนอกจากนั้นยังมีสีให้เลือกใช้งานทั้ง 2 สี คือ สีดำและสีขาวอีกด้วยครับ

    สเปกหลักๆ ภายในของ iPad 2

    • ใช้ Apple A5 ที่เป็น Dual Core เเละตัวประมวลผลกราฟฟิคใหม่ล่าสุดคือ PowerVR SGX 543 ที่ความเร็วถูกลดลงมาเหลือ 800 MHz จาก 1 GHz เเต่ก็เร็วกว่า iPad ตัวเดิมเเบบรู้สึกได้ คะเเนนเทสต่างจากเดิมเกือบ 2 เท่าตัว
    • เเรมขนาด 512 MB เท่ากับ iPhone 4 แต่เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า
    • หน้าจอเป็น LED เเบบพาเนล IPS ที่ให้สีสันดีกว่าจอเเบบทั่วไป ขนาด 9.7 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 768 พิกเซล เท่ากับของเดิม
    • ใช้ Wi-Fi ได้ทั้งเเบบ b/g/n เเละมี A-GPS มาให้ในตัวสำหรับรุ่น 3G พร้อมด้วยเซ็นเซอร์?Accelerometer/Proximity Sensor และ Gyroscope
    • เป็นเพียงเเค่การอัพเกรดจาก iPad รุ่นแรก ต่างจากการปฏิวัติอย่าง iPhone 4 กับ?iPhone 3GS
    • เเบตเตอรี่พัฒนาขึ้นอย่างมาก จากการใช้งานที่สภาพใกล้เคียงกัน iPad 2 อยู่ได้นานกว่าตัวเเรก 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว

     

    ในส่วนของสเปกนั้นอื่นๆ นั้นสามารถชมได้จากภาพด้านล่างหรือ เว็บไซต์ของ Apple iPad 2 เลยนะครับ ซึ่งแน่นอนแล้วว่า iPad 2 จะมี 2 รุ่นให้เลือกด้วยกัน คือ Wi-Fi และ Wi-Fi + 3G พร้อมกับความจุที่มีให้เลือกตั้งแต่ 16GB, 32GB, 64GB ที่ดูแล้ว iPad 2 รุ่นที่เป็น Wi-Fi + 3G จะมีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อยหากเทียบกับ iPad 2 ตัวธรรมดา ส่วนสเปกอื่นๆ จะเหมือนกันทั้งหมดครับ

    สำหรับในส่วนราคาของ iPad 2 ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือ ราคาเท่ากับ iPad รุ่นแรกช่วงเปิดตัว โดยที่ทางทีมงานได้มารีวิวนั้น จะเป็น iPad 2 สีขาวรุ่น Wi-Fi + 3G ขนาด 32GB ราคาอยู่ที่ 22,900 บาท ที่จากข้อมูลในอินเตอร์เน็ตและ iStudio จัดได้ว่ารุ่นนี้ขายดีที่สุด เพราะมีจุดคุ้มค่าที่สูงที่สุดครับ

    แกะกล่อง iPad 2

    มาถึงขั้นตอนในการีวิวกันแล้วกับ iPad 2 ที่ทางทีมงานของรีวิวตั้งแต่แกะกล่องกันเลย โดยหากดูจากกล่องแล้วจะเห็นได้ว่าขนาดกล่องเล็กและบางกว่ากล่องของ iPad รุ่นแรกอยู่พอสมควรเลยทีเดียวครับ ซึ่งภาพที่อยู่บนกล่องนั้นจะเน้นถึงความบางของ iPad 2

    ด้านหลังของกล่องจะเป็นรายละเอียดพร้อมข้อมูลเล็กน้อยที่สำคัญในการระบุรุ่นของ iPad 2

    เมื่อเราทำการแกะกล่องออกมาจะเห็นว่ามีอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ?Wall Charge, สาย USB Dock Connector, คู่มือ (รายละเอียดน้อยนิด)

    และที่พิเศษคือ มีอุปกรณ์เพื่อใช้ในการใส่ Micro Sim 3G ที่จะอยู่ภายในกล่องของคู่มืออีกที (เฉพาะ iPad 2 ที่เป็นรุ่น Wi-Fi + 3G) ซึ่งถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะคล้ายๆ กับของ iPhone 4 แต่ไม่เหมือนกันสักทีเดียวนะครับ ยังไงรอติดตามได้ว่าแตกต่างกันอย่างไร ที่สำคัญที่สุดไม่มีหูฟังมาให้แต่อย่างใดนะครับ สำหรับ iPad 2 หรือ iPad รุ่นแรกก็ไม่มี (เดี๋ยวกลัวว่าจะไปทวงคนขาย แล้วจะหน้าแตกเอา อิอิ)

    ตัวเครื่อง iPad 2

    ถึงเวลาซักทีที่เราจะได้สัมผัสกับตัวจริงของ iPad 2 โดยอย่างที่บอกไปว่าเราได้เครื่องสีขาวมารีวิว ที่เรียกได้ว่าเห็นแล้วต้องหลงรักเลย กันรูปร่างหน้าตาที่สวยงามและบางเฉียบ พร้อมทั้งความเนียนของสีขาว เหมือนอย่าง iPhone 4 สีขาว แน่นอนว่ายังมาพร้อมกับ iOS เวอร์ชั่น 4.3.2 (ล่าสุดอยู่ที่ 4.3.3 นะครับ)

    โดยรูปร่างหน้าตา iPad 2 Wi-Fi + 3G นั้น จะมีรูปร่างที่เหมือนกับ iPad 2 Wi-Fi เลยก็ว่าได้ มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 9.7 นิ้วเช่นเดิม ไม่แตกต่างจาก iPad รุ่นแรก หน้าจอสัมผัสและขอบจอเรียบเสมอเป็นแผ่นเดียวกัน เมื่อใช้งานจึงไม่มีสะดุด ที่มีข้อสังเกตคือ มีขอบจอที่บางลง ทำให้เมื่อถือก็รู้ได้เลยว่ามีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าตัวจอภาพเป็น LED backlight พร้อมทั้งพาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS เรื่องสีสันความสดใสจึงไม่ต้องกังวล รวมไปถึงเรื่องมุมมองการรับชมนั้นถือว่าทำได้เกือบ 180 องศา ?ไม่แตกต่างจากที่เราดูผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ระดับมืออาชีพทีเดียว ในส่วนของหน้าจอแสดงผลมีความละเอียด 1024 ? 768 พิกเซล หรือ 132 พิกเซลต่อนิ้ว สัดส่วนจอเป็นแบบ ?4:3 ซึ่งต่างจากสัดส่วนจอของ iPhone 4 หรือ iPod Touch ที่เป็น 3:2 เรียกได้ว่าเหมาะมากๆ ที่จะใช้อ่าน E-Book หรือ แอพฯ แม็กกาซีนที่ให้ดาวน์โหลดได้ต่างๆ

    สำหรับในส่วนของมิติเครื่องของ iPad 2 นั่น ถือได้ว่าให้น่าใช้กว่าเดิมอีก เมื่อเทียบกับ iPad รุ่นแรกแล้ว เพราะว่ามีความบางลง เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงน้ำหนักก็ยังเบาลงอย่างรู้สึกได้อีกด้วย นอกเหนือจากนั้นยังดูแล้วสวยงามลงตัว และที่สำคัญอย่างที่บอกไปแล้ว คือ มีให้เลือกอยู่ ?2 สีด้วยกัน ทั้งสีขาวและดำ

    มาดูในแต่ละส่วนของ iPad 2 ตัวเป็นๆ ดีกว่า โดยขอเริ่มจากกล้องหน้าก็แล้วกัน ที่เห็นว่าเป็นจุดเล็กดำๆ ในภาพ ที่จะอยู่บริเวณด้านหน้าส่วนบนของตัวเครื่อง พร้อมรองรับความละเอียดที่ VGA (640 x 480 พิกเซล) ที่ 30 เฟรม แน่นอนว่าไว้สนับสนุนการใช้งาน VDO Call อย่าง FaceTime

    ด้านล่างของตัวเครื่องจะเห็นเป็นปุ่ม Home ไว้สำหรับกลับสู่หน้า Home หรือออกจากตัวของแอพพลิเคชั่นต่างๆ

    งานประกอบต่างๆ ของ iPad 2 นั้น เรียบร้อยมากๆ พร้อมยังมีความแข็งแรง ที่สามารถรู้สึกได้ตั้งแต่แรกจับ ไม่เหมือนกับแท็บเล็ตเจ้าอื่นๆ 😛

    ด้านหลังของ iPad 2 ก็ยังคงตามแบบฉบับสวยหรูของ Apple เช่นเดียวกับ Macbook Pro พื้นผิวสัมผัสเป็นแบบเรียบๆ?พร้อมกับโลโก้ชัดเจนอยู่บริเวณกลางเครื่อง โดยวัสดุที่ใช้นี้ยังคงเป็นอลูมิเนียมแบบด้าน ที่จับแล้วไม่ค่อยเกิดรอยนิ้วมือมากนัก?จากการทดลองถือและจับ เรียกได้ว่ามีความแข็งแรงสูงด้วยความที่เป็นโลหะชั้นดี?รวมไปถึงมีข้อจำกัดแบบเดิมๆ ก็คือถอดฝาหลังด้วยตนเองไม่ได้ กับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำไม่ได้ ซื้อมาแค่ไหนใช้มันเท่านั้นพอ (แต่โดยส่วนตัว แนะนำเป็นรุ่น 32GB หรือ 64GB จะเหมาะสุด)

    ที่สังเกตเห็นชัดๆ ที่ตัว iPad 2 Wi-Fi + 3G ต่างจาก iPad Wi-Fi ตัวธรรมดาก็คือ ขอบด้านบนจะเป็นพลาสติกสีดำ ซึ่งเป็นตำแหน่งของเสาสัญญาณ เพื่อให้สัญญาณ 3G และ GPS ใช้งานได้อย่างเต็มกำลังนั่นเองครับ

    ขอบด้านซ้ายของตัว iPad 2?จะเป็นช่อง Slot สำหรับใส่ Micro Sim 3G โดยในกล่องก็จะมีเครื่องมือในการถอดถาดออกมาเพื่อที่จะใส่?Micro Sim ได้อีกที วีธีการใช้คือ แทงเข้าไปในมุม 45 องศา แล้วดันเข้าไปตรงๆ (ใหม่ๆ อาจจะแน่นซักนิดนึง)

    และขอแนะนำว่าใครที่มี iPhone 4 ก็อย่าใช้ตัวเดียวกันนะครับ เพราะรูที่ของ iPad 2 นั่นจะมีลักษณะกลมๆ แตกต่างจาก iPhone 4 ที่เป็นเหลี่ยมๆ ซึ่งถ้าเราเอาเครื่องมือของ iPhone 4 อาจจะทำให้ iPad 2 ของเรานั้นเป็นรอยได้ในทันที T^T

    มาดูส่วนของด้านบน iPad 2 ที่เป็นพลาสติกสีดำ ที่ถ้าเรามองดีๆ แล้ว จะพบกับช่องของไมค์โครโฟน ที่ไว้รองรับการใช้งานวีดีโอ หรือบันทึกเสียงอื่นๆ

    ขอบด้านขวามือของตัวเครื่อง iPad 2 ด้านบนจะเป็นปุ่มสีดำ Power / Sleep ส่วนขอบด้านขวาจะเป็นปุ่ม Hold ที่สามารถเลือกที่จะปิดเสียงหรือเป็นตัวล็อกหน้าจอไม่ให้ปรับอัตโนมัติก็ทำได้ โดยการเลื่อนขึ้น-ลง และสุดท้ายคือปุ่มปรับระดับเสียง เรียกได้ว่ายังคงเอาไว้อย่างเดิมไม่แตกต่างจาก iPad รุ่นแรกเลย

    นอกเหนือจากนั้นที่สำคัญที่สุดนอกเหนือจากที่มีกล้องด้านหน้าแล้ว ยังมีในส่วนของกล้องด้านหลังอีกด้วย ที่ในตามภาพจะเห็นเป็นวงกลมสีดำ ซึ่งตัวกล้องเองสามารถถ่ายภาพความละเอียดได้ที่ 960 x 720 พิเซล ระบบ Autofocus?พร้อมทั้งถ่ายวีดีโอได้ความละเอียด 720P 30 เฟรม?แน่นอนว่าดูจากความละเอียดคงจะสู้ไม่ได้เลยถ้าเทียบกับในแท็บเล็ตคู่แข่ง หรือแม้กระทั้ง iPhone 4 ด้วยกัน ซึ่งโดยความคิดส่วนตัวของผม คาดว่า Apple ตั้งใจติดกล้องนี้มาให้เพื่อน่าจะพอถ่ายรูปได้มากกว่า (เพราะแฟลชก็ไม่มี) รวมถึงเซ็นเซอร์เองก็น่าจะเป็นตัวเดียวที่ใช้ใน iPod Touch Gen 4 อีกด้วย ยังไงในส่วนของคุณภาพไฟล์ คงต้องไปดูในส่วนของตัวอย่างภาพถ่ายกันนะครับ

    ลงมาขอบจอด้านล่างก็จะเป็น USB Connector ไว้เชื่อมกับคอมพิวเตอร์ หรือ Docking ต่าง ๆ อีกทั้งยังไว้เชื่อมต่อกับ Wall Charge เพื่อชารจ์ไฟอีกด้วย รวมไปถึงก็มีรายละเอียดที่เป็นการระบุความจุและข้อมูลต่าง ๆ ตามสไตล์ของ Apple ที่ใช้ใน iPhone, iPod ที่มีมาแต่ไหนแต่ไร (ในรูปเราได้ทำการลบ IMEI และ Serial ของเครื่องออกนะครับ)

    ส่วนถัดมาเห็นเป็นช่องที่มีลักษณะเป็นรูเล็กๆ นั่นคือลำโพงซึ่งเป็นแบบระบบโมโนที่จัดว่าคุณภาพเสียงที่ออกมานั้น ยังพอฟังได้ แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียดอะไร เมื่อเทียบกับ iPad รุ่นแรกก็ดีกว่าเล็กน้อยเท่านั้น คาดว่าคงเป็นเพราะ Apple อยากให้เราซื้อหูฟังดีๆ หรือลำโพงหรูๆ มาต่ออีกที ^^

    1 2 3 4
    Apple Apple. iPad 2 Camera Dual-Core FaceTime iOS Phone Review
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    SaManTa[GTR]

    Related Posts

    วิธีเปลี่ยนรหัสเฟสบุ๊คทำยังไง ถ้าลืมรหัสเฟสบุ๊คเก่าต้องทำยังไงบ้างในโทรศัพท์แบบง่ายๆ ปี 2025

    16 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์ฝรั่ง Netflix น่าดูในปี 2025 เนื้อเรื่องสนุกๆ หลากหลายแนวที่ไม่ควรพลาด!

    16 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ติดโปร AIS ล่าสุดทุกรุ่นปี 2568 มีส่วนลดค่าเครื่องติดโปรเท่าไหร่บ้างเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ

    15 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    วิธีเปลี่ยนรหัสเฟสบุ๊คทำยังไง ถ้าลืมรหัสเฟสบุ๊คเก่าต้องทำยังไงบ้างในโทรศัพท์แบบง่ายๆ ปี 2025

    16 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์ฝรั่ง Netflix น่าดูในปี 2025 เนื้อเรื่องสนุกๆ หลากหลายแนวที่ไม่ควรพลาด!

    16 พฤษภาคม 2025

    Xiaomi เผยข้อมูลชิป XRING 01 ที่พัฒนาเองเป็นครั้งแรก เตรียมเปิดตัวปลายเดือนนี้

    16 พฤษภาคม 2025

    ลือ Samsung เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ในแอปรูปภาพ ด้วยการใช้ Galaxy AI

    16 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X