วิธีตามหาโทรศัพท์หายทำยังไงดี? ทั้งของ iPhone, Samsung และ Android หาเจอได้ภายใน 24 ชั่วโมง อัพเดท 2024
ถึงแม้ว่าจะดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับบางคน แต่ทุกอย่างก็สามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่าจะไม่มีใครอยากให้เกิด อย่างการที่เราทำโทรศัพท์หายด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะทำหล่นหาย วางลืมเอาไว้ที่ใดที่ใดหนึ่ง หรือว่าอาจจะโดนขโมยไปก็ตาม ซึ่งการติดตามหามือถือในปัจจุบันนั้นสามารถทำได้ง่ายและแม่นยำกว่าเดิมมาก อย่างไรก็ตามการที่จะตามหามือถือหายได้นั้น เราก็จำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลอะไรบางอย่างที่ติดเครื่องเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่นอีเมลที่ใช้เข้าสู่ระบบ หรือเบอร์โทรเพื่อติดต่อเครื่องที่หายด้วย เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาบอกวิธีตามหาโทรศัพท์หายว่าทำยังไงดีในปี 2024? ทั้งของ iPhone, Samsung และระบบ Android ที่สามารถหาเจอได้ภายใน 24 ชั่วโมง
- วิธีตามหาโทรศัพท์หายสำหรับ iPhone และ iOS
- วิธีตามหาโทรศัพท์หายสำหรับ Samsung
- วิธีตามหาโทรศัพท์หายสำหรับ Android
- วิธีตามโทรศัพท์หายด้วยเบอร์โทรศัพท์
วิธีตามหาโทรศัพท์หายสำหรับ iPhone และ iOS
เริ่มกันที่วิธีตามหาโทรศัพท์มือถือหายสำหรับคนที่ใช้งาน iPhone หรืออุปกรณ์ของ Apple เราสามารถติดตามเครื่องหายได้แบบง่ายๆ แต่ทั้งนี้เราก็ต้องจำอีเมล Apple ID และรหัสของ Apple ID ได้ด้วยว่าเครื่องที่ทำหายหรือโดนขโมยนั้นใช้อีเมลไหนอยู่ แล้วทำตามวิธีทำนี้ได้เลย
1. เข้าไปที่เว็บ iCloud.com/find จากนั้นให้เข้าสู่ระบบด้วย Apple ID เดียวกันกับ iPhone ที่หายหรือถูกขโมยได้โดยไม่ต้องมีรหัสยืนยันในการลงชื่อเข้าใช้
2. เมื่อเข้าสู่ระบบได้เรียบร้อยจะเห็นได้ทันทีเลยว่า iPhone ของเราที่หายนั้นอยู่ที่ไหนบนแผนที่ (จากเมนูอุปกรณ์ทั้งหมด และเลือกดู iPhone) โดยขั้นตอนนี้จะแบ่งได้อีก 2 กรณีคือเครื่องยังมีแบตอยู่ กับเครื่องแบตหมดไปแล้วดังนี้
ถ้าหากเครื่องนั้นยังมีแบตเหลืออยู่ก็จะอัพเดทตำแหน่งล่าสุดไว้ให้ พร้อมทั้งยังจัดการกับ iPhone ในระยะไกลได้ด้วย ได้แก่
- การเล่นเสียง – เพื่อให้เราได้รู้ว่า iPhone อยู่ในตำแหน่งไหน แนะนำว่าให้เข้าไปในตำแหน่งใกล้ๆ ก่อนค่อยเปิด
- การระบุว่าสูญหาย – จะเป็นการล็อค iPhone ด้วยรหัสของเราเอง พร้อมกับ Apple Pay จะถูกระงับ โดยเราสามารถสร้างข้อความที่ต้องการให้ขึ้นบนหน้าจอได้ และถ้าหากว่าถูกขโมยไปแล้ว iPhone ก็จะล็อคเครื่องโดยปลดได้จาก Face ID หรือ Touch ID ของเราเท่านั้น ถึงแม้คนที่ขโมยไปจะรู้รหัสเครื่องก็ปลดล็อคไม่ได้
ส่วนในกรณีที่โทรศัพท์แบตหมดหรือปิดเครื่องไปแล้วหลังจากที่หาย ตำแหน่งของการค้นหาจะเป็นตำแหน่งล่าสุดก่อนที่แบตจะหมด และตำแหน่งนั้นจะยังคงอยู่ที่เดิมภายใน 24 ชั่วโมงจากตำแหน่งล่าสุด ถ้าหากตามหาแล้วไม่เจอ หรือถูกขโมยไปแล้วคิดว่าไม่น่าจะได้คืนมาแล้ว แนะนำว่าให้ตามขั้นตอนดังนี้
1. แจ้งความกับตำรวจโดยนำเลข IMEI และ MEID จากตัวกล่องของ iPhone ที่เราซื้อมา เพื่อเป็นหลักฐานในการแจ้งความ
2. เปลี่ยนรหัสผ่านทั้งบน Apple ID และแอพ Social Media ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Facebook, IG หรือแอพโซเชียลอื่นๆ ที่เราได้เข้าสู่ระบบเอาไว้ เพื่อไม่ให้เข้าถึงข้อมูลนี้ได้
3. ในกรณีที่คิดว่าจะไม่ได้คืนแน่ๆ แล้ว ก็แนะนำว่าให้กดลบข้อมูลทั้งหมดจาก iPhone เครื่องนั้นได้โดยเข้าสู่ระบบจาก iCloud.com/find และเลือกลบข้อมูล iPhone จากระยะไกล แต่ต้องเตือนก่อนว่าถ้ากดลบแล้วจะไม่สามารถกู้คืนได้อีก ยกเลิกไม่ได้ด้วย (สำหรับคนที่หมดหนทางค้นหาแล้วเท่านั้น) นอกจากนี้ยังลบ iPhone เครื่องนั้นออกจาก Apple ID ได้ด้วย
วิธีตามหาโทรศัพท์หายสำหรับ Samsung
สำหรับคนที่ใช้มือถือกับ Samsung ก็สามารถตามหาโทรศัพท์มือถือหายจากระบบของ Samsung เองได้เช่นกันจากแอพ SmartThings ที่มีฟีเจอร์ SmartThings Find ในตัวสำหรับการค้นหามือถือโดยเฉพาะ โดยเราตำเป็นต้องใช้อีเมลที่เข้าสู่ระบบกับมือถือ Samsung เครื่องที่หายเอาไว้ด้วยถึงจะตามหาได้ มีวิธีทำดังนี้
1. เข้าไปที่เว็บ smartthingsfind.samsung.com/login จากนั้นเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและรหัสเดียวกันกับที่ใช้ในมือถือเครื่องที่หาย
2. ดูที่เมนู My Device จากนั้นเลือกตามหาโทรศัพท์หายจาก Samsung รุ่นที่ใช้อยู่ได้เลยทันที ก็จะทำให้เรารู้ตำแหน่งล่าสุดที่เราลืมไว้ หรือโดนขโมยไปได้เลย โดยมีฟีเจอร์หลักๆ ให้กดตามหาได้ดังนี้
- Ring – ให้โทรศัพท์ Samsung เครื่องนั้นส่งเสียงเตือนหรือเสียงเรียกเข้า แนะนำว่าให้เข้าไปใกล้ๆ ก่อนและค่อยกดตามหาจากเสียงนี้
- Lost mode – เป็นการสั่งล็อกเครื่องจากระยะไกล พร้อมทั้งการใส่รหัสล็อคเครื่อง ใส่เบอร์ฉุกเฉินให้ติดต่อกลับ หรือใส่ข้อความให้แสดงบนหน้าจอมือถือที่ทำหายได้ ซึ่งระบบจะล็อคเครื่องด้วยรหัสใหม่ที่ใช้ร่วมกับรหัสเดิมเพื่อปลดล็อคไม่ได้ ถึงแม้ว่าคนที่เอาไปจะรู้รหัสเครื่องก็ตาม
- Track location – ตามหาตำแหน่งเครื่องพร้อมอัพเดททุก 15 นาที เพื่อตามตำแหน่งที่ถูกขโมยหรือลืมไว้บนรถโดยสารต่างๆ
- Extend battery life – ยืดอายุแบตเตอรี่ไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เราสามารถตามหามือถือหายได้ยาวนานมากขึ้น พร้อมกับการประเมินการใช้งานของแบตได้ด้วย
แต่ถ้าหากว่าเราไม่สามารถค้นหาเจอได้แล้วจริงๆ หรือหมดหนทางแล้วก็แนะนำว่าให้แจ้งความพร้อมกับนำเลข EMEI ข้างกล่องไปด้วยเพื่อเป็นหลักฐาน และถ้าหากว่าต้องการลบข้อมูลจากเครื่องนั้นให้หมดไปเลย ก็สามารถทำได้ด้วยการกด Erase Data เพื่อลบข้อมูลในเครื่องแบบถาวร รวมไปถึงข้อมูลใน SDcard ทั้งหมด โดยเราจะไม่สามารถกู้คืนหรือยกเลิกได้ (ถ้าไม่จำเป็นหรือหมดหนทางแล้วจริงๆ ก็อย่าเพิ่งกดลบ)
เพิ่มเติม: ถ้าหากว่าเราได้มีการตั้งค่าในระบบเอาไว้ว่าให้สามารถค้นหาขณะออฟไลน์ได้ การตามหามือถือหายของ Samsung แม้ว่าจะปิดเน็ตไปแล้ว เราก็ยังสามารถติดตามเครื่องที่หายได้จากการส่งสัญญาณไปยังเซิฟเวอร์ และให้ Galaxy เครื่องอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ เป็นตัวช่วยในการค้นหา ควรตั้งค่าไว้ก่อนหน้าเลยโดยเข้าไปที่ ตั้งค่า -> กดที่ชื่อของตัวเองด้านบนสุด -> เลือก Find my mobile -> เปิดอนุญาตให้ค้นหาและ Offline finding
วิธีตามหาโทรศัพท์หายสำหรับ Android
สำหรับการตามหาโทรศัพท์หายของคนที่ใช้ระบบ Android รุ่นอื่นได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนหรือยี่ห้อไหนก็ตามที่ใช้ระบบ Android ร่วมกับ Google เนื่องจากระบบจะมีแอพ Find My Device ติดเครื่องมาให้อยู่แล้ว หรือถ้าเครื่องไหนไม่มี แต่เข้าสู่ระบบไว้ด้วยอีเมลของ Google ก็สามารถค้นหามือถือหายได้เช่นกัน โดยมีวิธีตามหามือถือหายของ Android คือ
1. เข้าไปยังเว็บ www.google.com/android/find จากนั้นเข้าสู่ระบบด้วยอีเมล Google และรหัสผ่านเดียวกันกับที่ใช้งานในมือถือที่ทำหาย
2. หลังจากที่เข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้วก็จะเจอกับมือถือที่เราใช้งานอยู่ในหน้าแรกทันที พร้อมกับบอกตำแหน่งล่าสุดให้เลยว่าอยู่ตำแหน่งไหน มีแบตเหลือเท่าไหร่ เชื่อมต่ออะไรไว้ รหัสตัวเครื่องและ IMEI ทั้งหมด พร้อมกับฟีเจอร์การค้นหามือถือได้แก่
- Play sound – สำหรับเปิดเสียงเพื่อให้รู้ตำแหน่งได้แม่นยำมากขึ้น ในส่วนนี้ก็แนะนำว่าให้กดเปิดเสียงตอนที่อยู่ใกล้ๆ กับตัวเครื่องแล้วค่อนกดส่งเสียงออกมา
- Secure device – จะเป็นการล็อคตัวเครื่องจากระยะไกล โดยเราจะได้ตั้งรหัสผ่านหรือ PIN ตัวเครื่องใหม่ที่ถึงแม้ว่าคนที่ขโมยไปจะรู้รหัสเดิมก็เปิดเข้าไม่ได้ พร้อมทั้งออกจากระบบของ Google Account ทั้งหมดที่มีในตัวเครื่อง แต่ก็ยังตามหาตำแหน่งได้เหมือนเดิม
- Factory reset device – ลบข้อมูลทั้งหมดที่มีในตัวเครื่องทั้งการตั้งค่าและข้อมูลที่อยู่ในตัวเครื่อง รวมถึงตำแหน่งในการค้นหาก็จะหายไปด้วย (ในกรณีที่หมดหนทาง และคิดว่าหาไม่เจอแล้วแน่ๆ แต่ถ้ายังอยากหาต่อก็อย่าเพิ่งกดลบทิ้ง)
ตามโทรศัพท์หายด้วยเบอร์โทรศัพท์
นอกจากจะสามารถกดค้นหาเครื่องจากตัวระบบที่ใช้งานได้แล้ว เราก็ยังสามารถติดต่อกับเครือข่ายที่ใช้งานอยู่เพื่อขอระงับเบอร์ที่อยู่ในเครื่องที่มือถือหาย หรือว่าจะแจ้งให้ช่วยติดตามสัญญาณโทรศัพท์ให้ได้ด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการติดต่อประสานงานให้รวดเร็วแค่ไหน เอาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับระงับสัญญาณได้อีกหนึ่งวิธี ด้วยการโทรไปตามเบอร์ของแต่ละค่ายดังนี้
- เครือข่าย AIS: โทร 02-029-3138
- เครือข่าย true: โทร 02-858-2616
- เครือข่าย dtac: โทร 02-202-8000 ต่อ 8
ทั้งนี้การติดต่อก็อาจจะต้องประสานงานร่วมกับทางตำรวจด้วย ซึ่งการแจ้งความเมื่อทำโทรศัพท์หายนั้นแนะนำว่าให้นำใบเสร็จรับเงิน กล่องมือถือตอนที่ซื้อมา ที่มีตัวเลข EMEI ติดอยู่ข้างกล่องเป็นหลักฐาน และตัวช่วยในการค้นหา หลังจากนั้นเราก็จะได้ตราครุฑหรือใบแจ้งความที่นำไปประสานงานขอความร่วมกับทางเครือข่ายได้อีกที โดยให้เรานำใบนั้นไปประกอบให้เครือข่ายเพื่อค้นหาตามสัญญาณได้เลย (เก็บสำเนาไว้ด้วย) ถ้าหากตามสัญญาณและค้นหาเจอแล้วจะมีการติดต่อกลับมาอีกครั้ง
คำถามที่พบบ่อย
ถ้าหากทำโทรศัพท์หายแล้วแบตหมดหรือปิดเครื่องไปแล้วจะค้นหาต่อได้ไหม
สำหรับการค้นหาหลังจากที่แบตมือถือนั้นหมดลงแล้ว ส่วนใหญ่จะยังค้นหาได้จากจุดล่าสุดที่สามารถตามตำแหน่งได้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่จะไม่ได้อัพเดทเพิ่มเติมใหม่หากมีการเปลี่ยนตำแหน่งไปแล้ว ทางที่ดีก็ควรที่จะรีบค้นหาและกำนเนินการก่อนที่แบตจะหมดจะดีที่สุด และมีโอกาสตามหาเจอได้มากที่สุดด้วย ถึงแม้ว่าจะค้นหาต่อได้แต่ก็มีเปอร์เซ็นการค้นหาได้ค่อนข้างน้อย
การแจ้งความและรู้ตำแหน่งแล้ว พาตำรวจไปด้วยได้หรือไม่
ถ้าหากว่าเราทำหายและมีคนหยิบไปด้วย (สังเกตได้จากตำแหน่งที่เคลื่อนที่ไปมา) เราสามารถเข้าไปแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ที่ตำแหน่งล่าสุดของมือถือที่หายบอกเอาไว้ และให้สายตรวจตามเราไปเอาเครื่องคืนได้ (เพราะอาจไม่ปลอดภัยถ้าไปเอง) แต่ต้องเป็นตำแหน่งที่นิ่งแล้วเพื่อง่ายต่อการค้นหา มีหลักฐานอ้างอิงว่าเป็นของเราจริง และเข้าไปนำเครื่องมาคืนพร้อมกับตำรวจในพื้นที่นั้นได้
ลืมมือถือไว้บแท็กซี่ทำยังไง
ในกรณีที่เราลืมมือถือหรือเผลอทำมือถือหล่นไว้บนแท็กซี่ แนะนำว่าให้นึกสีของแท็กซี่คันนั้นให้ได้ พร้อมกบัตำแหน่งที่ขึ้นและลงให้ได้ เพื่อให้ง่ายต่อการตามตำแหน่ง หลังจากที่แจ้งความไปแล้วสามารถให้ตำรวจติดตามจากกล้องวงจรปิดได้ หรือถ้าจำทะเบียนและชื่อศูนย์แท็กซี่ได้ ก็สามารถติดต่อกับ สวพ. FM91 โทร 1644 หรือ จส.100 โทร 1137 เพื่อให้ทางคลื่นวิทยุประชาสัมพันธ์ให้ หรือจะโทร 1681 กับวิทยุแท็กซี่ และ 02 021 2500 GrabTaxi ก็ได้เช่นกันถ้าหากว่าเราเรียกผ่านแอพ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีและข้อมูลในการตามหาโทรศัพท์หายจะทำยังไงได้บ้างทั้งระบบ iOS บน iPhone หรือว่าจะเป็นระบบ Android และคนที่ใช้ Samsung โดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหากทำหายตอนไหน ก็ควรรีบทำการเข้าสู่ระบบจากมือถือเพื่อนๆ หรือคนรู้จักในตอนนั้นให้ไว้มากที่สุด ก่อนที่แบตจะหมดและตามหาได้ยาก (แต่ถ้าหากคนขโมยนำไปชาร์จแบตเราก็ตามตำแหน่งต่อได้นะ) แต่ถ้าหากว่าหาตามตำแหน่งไม่เจอแล้วก็ให้ไปแจ้งความพร้อมกับเลข EMEI ข้างกล่อง และกรณีที่แย่ที่สุดคือหาไม่เจอแล้ว ก็ให้ลบข้อมูลทิ้งเพื่อความปลอดภัยของเราเอง (กู้คืนและยกเลิกไม่ได้)
- วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ AIS, true – dtac ว่าเป็นของใครทั้งของตัวเองและคนอื่นทำยังไงบ้าง อัพเดท 2024
- วิธีเช็คใบสั่งออนไลน์ในปี 2567 ตรวจสอบใบสั่งด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน พร้อมจ่ายค่าปรับได้เลยทันที
- วิธียกเลิก SMS AIS, true, dtac ที่เสียเงิน ยกเลิกข้อความโฆษณาด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ทำได้ฟรี อัพเดทปี 2024
- วิธีดูรหัสผ่านที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์บน Chrome ดูรหัสผ่าน Google ในโทรศัพท์ Android ทำยังไงบ้างในปี 2024
- รวมวิธีติดต่อเจ้าหน้าที่ทรู (true) ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ทรู เพื่อคุยกับพนักงานทำยังไงได้บ้างในปี 2024