ในปัจจุบัน Apple มี iPad ถึง 6 รุ่นให้เลือกด้วยกัน ซึ่งการจะเปรียบเทียบ iPad แต่ละตัวก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างวุ่นวาย วันนี้เราเลยจะมาทำการเปรียบเทียบ iPad ทุกตัวที่ Apple มีขายให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน พร้อมทั้งยังจะช่วยแนะแนวทางในการเลือกซื้อ iPad ให้ใช้งานได้คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปมากที่สุดอีกด้วย และสำหรับใครที่อยากซื้อแบบราคาเครื่องถูกลงหน่อยก็สามารถไปดูราคา iPad ติดโปรจากทั้ง 3 ค่ายกันได้เลย
เปรียบเทียบ iPad แต่ละรุ่นว่าต่างกันอย่างไร
iPad mini | iPad Gen 8th | iPad Air4 | iPad Pro 11 | iPad Pro 12.9 | |
---|---|---|---|---|---|
ขนาด | 203.2 x 134.8 x 6.1 มิลลิเมตร | 250.6 x 174.1 x 7.5 มิลลิเมตร | 247.6 x 178.5 x 6.1 มิลลิเมตร | 247.6 x 178.5 x 5.9 มิลลิเมตร | 280.6 x 214.9 x 5.9 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | WiFi : 300.5 กรัม Cellular : 308.2 กรัม | WiFi : 490 กรัม Cellular : 495 กรัม | WiFi : 458 กรัม Cellular : 460 กรัม | WiFi : 471 กรัม Cellular : 473 กรัม | WiFi : 641 กรัม Cellular : 643 กรัม |
หน้าจอ | Retina ขนาด 7.9 นิ้ว 2,048 x 1,536 พิกเซล การแสดงผลแบบ True Tone ขอบเขตสีกว้าง (P3) | Retina ขนาด 10.2 นิ้ว 2,160 x 1,620 พิกเซล | Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว 2,360 x 1,640 พิกเซล การแสดงผลแบบ True Tone ขอบเขตสีกว้าง (P3) | Liquid Retina ขนาด 11 นิ้ว 2,388 x 1,668 พิกเซล เทคโนโลยี ProMotion การแสดงผลแบบ True Tone ขอบเขตสีกว้าง (P3) | Liquid Retina ขนาด 12.9 นิ้ว 2,732 x 2,048 พิกเซล เทคโนโลยี ProMotion การแสดงผลแบบ True Tone ขอบเขตสีกว้าง (P3) |
ชิปประมวลผล | Apple A12 Bionic | Apple A12 Bionic | Apple A14 Bionic | Apple A12Z Bionic | Apple A12Z Bionic |
แรม | 3 GB | 4 GB | 4 GB | 6 GB | 6 GB |
หน่วยความจำ | 64 GB / 256 GB | 32 GB / 128 GB | 64 GB / 256 GB | 128 GB / 256 GB / 512 GB / 1 TB | 128 GB / 256 GB / 512 GB / 1 TB |
กล้องหลัง | 8 MP f/2.4 | 8 MP f/2.4 | 12 MP f/1.8 | 12 MP f/1.8 10 MP f/2.4 LiDAR scanner | 12 MP f/1.8 10 MP f/2.4 LiDAR scanner |
กล้องหน้า | 7 MP f/2.0 | 1.2 MP f/2.2 | 7 MP f/2.0 | 7 MP f/2.2 | 7 MP f/2.2 |
แบตเตอรี่ | 5,124 mAh | 8,827 mAh | 7,606 mAh ชาร์จเร็ว 20W | 7,812 mAh ชาร์จเร็ว 18W | 9,720 mAh ชาร์จเร็ว 18W |
ราคาเริ่มต้น | WiFi : 13,900 บาท Cellular : 18,400 บาท | WiFi : 10,900 บาท Cellular : 15,400 บาท | WiFi : 19,900 บาท Cellular : 24,400 บาท | WiFi : 27,900 บาท Cellular : 32,900 บาท | WiFi : 34,900 บาท Cellular : 39,900 บาท |
iPad Pro
iPad Pro เป็น iPad ที่เน้นด้านการใช้งานหนัก ๆ เพราะเป็น iPad ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดแล้ว ด้วยชิป Apple A12Z Bionic ที่ตอนนี้นับว่าเป็นชิปที่แรงสุด ๆ โดย Apple เคลมว่าแรงพอ ๆ กับชิปที่ใช้ในโน๊ตบุ๊คเลย (แถมยังแรงกว่าชิป Apple A14 Bionic ใน iPad Air4 ที่เป็นชิปรุ่นใหม่อีกด้วย ถ้าอิงตามคะแนน AnTuTu อะนะ) สำหรับ iPad Pro นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ขนาดคือขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว และขนาดหน้าจอ 12.9 นิ้ว ให้ผู้ใช้เลือกซื้อได้ตามความชอบ
ราคา iPad Pro
รุ่น 11 นิ้ว
- Wi-Fi
- 128GB ราคา 27,900 บาท
- 256GB ราคา 31,400 บาท
- 512GB ราคา 38,400 บาท
- 1TB ราคา 45,400 บาท
- Wi-Fi + Cellular
- 128GB ราคา 32,900 บาท
- 256GB ราคา 36,400 บาท
- 512GB ราคา 43,400 บาท
- 1TB ราคา 50,400 บาท
รุ่น 12.9 นิ้ว
- Wi-Fi
- 128GB ราคา 34,900 บาท
- 256GB ราคา 38,400 บาท
- 512GB ราคา 45,400 บาท
- 1TB ราคา 52,400 บาท
- Wi-Fi + Cellular
- 128GB ราคา 39,900 บาท
- 256GB ราคา 43,400 บาท
- 512GB ราคา 50,400 บาท
- 1TB ราคา 57,400 บาท
สำหรับอุปกรณ์เสริมของ iPad Pro ที่เป็นของคู่กันนั้นจะมีดังนี้
- Apple Pencil รุ่นที่ 2 ราคา 4,490 บาท
- Smart Keyboard Folio ราคา 5,990 บาท (รุ่น 11 นิ้ว), 6,590 บาท (รุ่น 12.9 นิ้ว)
- Magic Keyboard ราคา 9,990 บาท (รุ่น 11 นิ้ว), 11,690 บาท (รุ่น 12.9 นิ้ว)
จุดเด่น
- มีความแรงพอ ๆ กับ Macbook แต่พกพาง่ายกว่า
- หน้าจอ Liquid Retina ที่ให้สีสันที่สวยสมจริง พร้อมหน้าจอ Promotion ที่ช่วยให้การใช้งานมีความลื่นไหลมากขึ้น
- ลำโพง 4 ตัว สเตอริโอ ให้เสียงที่ดัง
- มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 128GB ไปจนถึง 1TB
จุดสังเกตุ
- ไม่มีช่องฟูฟัง 3.5มม. ทำให้คนที่มีแต่หูฟังแบบ 3.5มม. ใช้งานได้ยากขึ้น คล้ายจะผลักดันให้ไปใช้หูฟังแบบ TWS แทน
- คีย์บอร์ดไม่มีไฟ Back light บนคีย์บอร์ด ทำให้ใช้งานมืด ๆ ไม่ได้
- หลังจากที่ใช้เครื่องพร้อมปากกา APple Pencil 2 ไปสักระยะจะเกิดจุดดำขึ้นที่ Apple Pencil ที่เป็นเหมือนรอยไหม้จากการชาร์จไฟ
iPad Air
iPad Air เป็น iPad รุ่นที่ Apple พึ่งได้อัพเกรดใหม่หมด ได้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาหลายอย่าง ทั้งชิป Apple A14 Bionic ดีไซน์แบบ iPad Pro และอีกหลายอย่าง เป็น iPad ที่เน้นความสบายในการพกพามากกว่า iPad Pro แต่ยังคงความแรงเอาไว้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ในรุ่นปัจจุบันอย่าง iPad Air4 ยังมีการเพิ่มสีเครื่องมาให้เลือกถึง 5 สี เป็น iPad รุ่นแรกเลยที่มีสีให้เลือกเยอะแบบนี้ นอกจากนี้ยังรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และ Magic Keyboard รุ่นใหม่ด้วย
ราคา iPad Air
- Wi-Fi
- 64GB ราคา 19,900 บาท
- 256GB ราคา 24,900 บาท
- Wi-Fi + Cellular
- 64GB ราคา 24,400 บาท
- 256GB ราคา 29,400 บาท
สำหรับอุปกรณ์เสริมของ iPad Air ที่เป็นของคู่กันนั้นจะมีดังนี้
- Apple Pencil รุ่นที่ 2 ราคา 4,490 บาท
- Smart Keyboard Folio ราคา 5,990 บาท
- Magic Keyboard ราคา 9,990 บาท
จุดเด่น
- น้ำหนักเบากว่า iPad Pro แต่แรงพอ ๆ กัน
- หน้าจอ Liquid Retina ที่ให้สีสันที่สวยสมจริง
- ลำโพง 2 ตัว สเตอริโอ ให้เสียงที่ดัง
- มาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จ 20W
จุดสังเกตุ
- หน้าจอไม่มีเทคโนโลยี ProMotion
- กล้องหน้า 7MP เท่าเดิม
- มีลำโพงเพียง 2 ตัวเท่านั้น
iPad Gen 8th
iPad Gen 8th เป็น iPad รุ่นเริ่มต้นที่มีราคาถูกที่สุด และรองรับ Apple Pencil และ Smart Keyboard iPad (2020) นั้นสเปคส่วนใหญ่เหมือนกับรุ่นก่อนเลย แต่ที่เปลี่ยนไปและส่งผลมากที่สุดก็คือการที่ iPad (2020) ใช้ชิป Apple A12 Bionic ทำให้มีความแรงมากขึ้น (เดิมใช้ชิป Apple A10 Fusion) แต่ยังคงวางขายในราคาเท่าเดิม ทำให้เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
ราคา iPad (2020)
- Wi-Fi
- 32GB ราคา 10,900 บาท
- 128GB ราคา 13,900 บาท
- Wi-Fi + Cellular
- 32GB ราคา 15,400 บาท
- 128GB ราคา 18,400 บาท
สำหรับอุปกรณ์เสริมของ iPad (2020) ที่เป็นของคู่กันนั้นจะมีดังนี้
- Apple Pencil รุ่นที่ 1 ราคา 3,400 บาท
- Smart Keyboard ราคา 5,290 บาท
จุดเด่น
- ราคาถูกสุด ๆ
- มาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จ 20W
- ชิป Apple A12 Bionic สุดแรง
- รองรับ Apple Pencil และ Smart Keyboard
จุดสังเกตุ
- จอภาพ Retina ไม่มีการแสดงผลแบบ True Tone
- น้ำหนักเยอะ (เกือบ 500 กรัม เป็นรองแต่ iPad Pro 12.9 นิ้ว)
- กล้องหน้าแค่ 1.2MP
- รองรับ Apple Pencil แค่รุ่นที่ 1
- มีลำโพงเพียง 2 ตัวเท่านั้น
- ยังใช้พอร์ต Lightning อยู่
iPad mini
iPad mini เป็น iPad สายพกพาอย่างแท้จริง เพราะหนักเพียง 300 กรัมเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันนั้นเป็น iPad mini รุ่นที่ 5 ซึ่งถึงแม้จะเน้นพกพาเป็นหลัก แต่สเปคที่ให้มานั้นก็ไม่น้อยหน้ารุ่นใหญ่เลย อย่างชิป Apple A12 Bionic หน้าจอ True Tone นอกจากนี้ยังรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 อีกด้วย ทำให้ไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกมก็ได้ทั้งนั้น
ราคา iPad mini 5
- Wi-Fi
- 64GB ราคา 13,900 บาท
- 256GB ราคา 18,900 บาท
- Wi-Fi + Cellular
- 64GB ราคา 18,400 บาท
- 256GB ราคา 23,400 บาท
สำหรับอุปกรณ์เสริมของ iPad mini 5 ที่เป็นของคู่กันนั้นจะมีดังนี้
- Apple Pencil รุ่นที่ 1 ราคา 3,400 บาท
จุดเด่น
- พกพาง่าย น้ำหนักเบา
- ชิป Apple A12 Bionic สุดแรง
- รองรับ Apple Pencil
- มีความจุสูงสุดถึง 256GB
จุดสังเกตุ
- มีพื้นที่สำหรับวาดเขียนน้อย (เพราะจอเล็ก)
- ยังใช้พอร์ต Lightning อยู่
- ไม่รองรับ Smart Keyboard
iPad รุ่นไหนเหมาะกับใคร
สำหรับหลักการในการเลือกซื้อ iPad นั้นมีอยู่หลายสิ่งที่ต้องพิจารณา แต่สิ่งที่ต้องมาเป็นอันดับ 1 เลยก็คือเราจะเอา iPad เครื่องนั้นไปใช้งานอะไรบ้าง ซึ่งสำหรับคนที่อยากได้หรือเคยใช้มาก่อนแล้วก็ต้องรู้ตัวแน่นอนว่าเมื่อได้เครื่องมาแล้วเราจะเอาไปทำอะไรบ้าง แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้เราก็จะมาบอกให้
โดยทั่วไปแล้วพื้นฐานการใช้งาน iPad หลัก ๆ เลยก็คือการเอามาใช้เล่นทั่ว ๆ ไปอย่างการดูหนัง / ดูซีรี่ส์, ใช้ประชุมออนไลน์ ซึ่งหากเราเน้นเอามาดูหนัง ดูซีรี่ส์แล้ว iPad Gen 8th หรือ iPad mini ก็เพียงพอแล้ว โดยเฉพาะ iPad Gen 8th จะเป็ฯตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะได้หน้าจอที่ใหญ่ถึง 10.2 นิ้ว อีกทั้งราคายังถูกที่สุดอีกด้วย แตกหากเน้นความเบาเพื่อพกพาด้วย iPad mini จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะด้วยขนาดที่เล้กทำให้มีน้ำหนักเบาตามไปด้วย
แต่สำหรับในปัจจุบันการใช้งานเราไม่ได้จบกันอยู่แค่ดูหนัง / ดูซีรี่ส์ เรายังเอามาใช้เล่นเกม ที่ในปัจจุบันกินสเปคขึ้นเรื่อย ๆ เอามาใช้ทำงานหาเงิน หรือแม้กระทั่งเอาไปใช้เรียน ซึ่ง iPad ที่มีความสามารถครบครันแล้วน่าซื้อใช้ที่สุดก็คือ iPad Air เนื่องจากในปัจจุบัน iPad Air4 นี้ก็มีความสามารถที่สามารถใช้ทำได้ทุกอย่างแล้วจริง ๆ ไม่ว่าจะเล่นเกม ทำงานเอกสาร ตัดต่อ วาดรูป ก็ทำได้หมด อีกทั้งยังน้ำหนักเบาที่สุดในหมู่ iPad ที่มีหน้าจอใหญ่อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็น iPad รุ่นที่ครอบคลุมทุกการใช้งานที่สุดแล้ว
แต่ทว่าหากคุณเป็ฯคนที่ใช้งาน iPad ขั้นหนักหรือใช้งานระดับ Advance แล้ว iPad Air คงไม่สามารถตอบโจทย์เหล่านั้นได้ ดังนั้นตัวเลือกเดียวของคุณก็คือการขยับขึ้นมาเป็ฯ iPad Pro ซึ่งในรุ่น Pro นี้ยังมีการแยกหน้าจอออกเป็น 2 ขนาดอีกด้วยคือ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ซึ่งเรื่องขนาดหน้าจอนี้จะตัดสินได้ด้วยการใช้งานหลัก ๆ นั่นเอง ซึ่งในรุ่น 12.9 นิ้วนั้นเป็นรุ่นที่เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานแบบวางบนโต๊ะ อีกทั้งด้วยหน้าจอที่ใหญ่ถึง 12.9 นิ้ว ยังช่วยให้นักวาดภาพมีความรู้สึกเหมือนวาดภาพอยู่บนกระดาษจริง ๆ อีกด้วย แต่หากคุณต้องเอา iPad ไปใช้งานนอกสถานที่หรือต้องถือใช้งานบ่อย ๆ นั้นการเลือกรุ่น 11 นิ้วจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากพกพาได้ง่ายกว่า แถมยังเบากว่ารุ่น 12.9 นิ้วอีกด้วย
นอกเหนือจากจะเปรียบเทียบ iPad จากการใช้งานแล้วอีกอย่างที่อยากให้ทุกคนลองดูก็คือให้ไปลองจับเครื่องจริงสักครั้ง เนื่องจากแต่ละเครื่องก็มีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน ถึงแม้จะมีดีไซน์เดียวกัน แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน การได้ไปลองจับของจริงอาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะ