และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่ข่าวลือข่าวหลุดของ Samsung Galaxy ตัวใหม่จะออกมาแล้วนั่นก็คือ Samsung Galaxy S22 มือถือเรือธงตัวใหม่ที่จะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่ก่อนจะเปิดตัวต้องมีข่าวลือหรือข่าวหลุดออกมาให้เห็นกันเรื่อยๆ วันนี้เราเลยรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของ Galaxy S22 เท่าที่มีมาสรุปให้เพื่อนๆ อ่านกัน โดยข้อมูลทั้งหมดที่มีนั้นมีอะไรบ้างเราไปดูกันดีกว่า
ราคาและวันเปิดตัว Samsung Galaxy S22
สำหรับในเรื่องของราคาและวันเปิดตัวนั้นเมื่ออ้างอิงจากตอน Galaxy S21 Series แล้ว Galaxy S22 Series ก็น่าจะเปิดตัวในเดือนมกราคมเช่นเดียว แต่ทว่าในปัจจุบันนี้ด้วยการที่ขาดแคลนชิปประมวลผลทำให้อาจจะมีเลื่อนการเปิดตัวหรือไม่ก็อาจจะเริ่มให้ทำการ Pre-Order ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เช่นเดียวกับ Galaxy S21 FE ที่เลื่อนการเปิดตัวมาเป็นเดือนกุมภาพันธ์แทน และถ้าหากสถานการณ์ขาดแคลนชิปยังไม่ดีขึ้นก็อาจจะมีการเลื่อนเปิดตัวไปอีกก็เป็นได้ ก็ได้แต่หวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในอนาคต
ในส่วนของราคาขายนั้นถ้าคิดตามสไตล์ของ Samsung ตลอดมาแล้วราคาก็น่าจะเท่าๆ เดิมนั่นแหละ ทว่าเนื่องด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่ประดังเข้ามาทำให้หลายๆ สำนักเชื่อว่าในปีหน้า หรือปี 2565 นี้ราคามือถือจะเพิ่มขึ้นทุกรุ่นทุกแบรนด์ ซึ่งก็คิดได้ว่า Samsung เองก็จำเป็นต้องเพิ่มราคาขายด้วย เป็นผลมาจากค่าวัตถุดิบที่แพงขึ้นนั่นเอง โดยเมื่อเทียบกับตอน Galaxy S21 Series แล้ว ราคาของ Galaxy S22 น่าจะเพิ่มขึ้นอีก 1,000 – 3,000 บาทก็ได้ (เป็นการคาดเดาส่วนตัวของทางผู้เขียนนะ) โดยราคาคาดการณ์น่าจะเป็นดังนี้
- Galaxy S22 น่าจะมีราคาประมาณ 28,900 – 29,900 บาท
- Galaxy S22+ น่าจะมีราคาประมาณ 34,900 – 36,900 บาท
- Galaxy S22 Ultra น่าจะมีราคาประมาณ 40,900 – 45,900 บาท
ดีไซน์ของ Samsung Galaxy S22
ในด้านการดีไซน์ตัวเครื่องนั้นในปัจจุบันนี้มีเพียงภาพหลุดของ Galaxy S22 Ultra เท่านั้นที่ออกมาให้เห็น ซึ่งเมื่อเทียบกับ S21 Ultra แล้วนับว่ามีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร โดยที่เห็นได้ชัดสุดเลยก็คือโมดูลกล้องที่หายไป ทำให้ด้านหลังตัวเครื่องมีความราบยเรียบขึ้น (มีนูนตรงกล้องเล็กน้อยเพื่อป้องกันเลนส์) ส่วนการจัดวางเลนส์นั้นยะเป็นรูปตัว P เหมือนเดิม ซึ่งหากใน S22 Ultra ไม่มีโมดูลนูนขึ้นมาแล้ว S22 และ S22+ เองก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน
สำหรับที่ขอบเครื่องนั้นทั้งกระจกหน้าและกระจกหลังนั้นจะมีความโค้งมนให้ความรู้สึกเหมือน Galaxy Note ก็มิปาน แถมยังมีช่องใส่ปากกา S Pen อีกด้วย ซึ่งจากการที่ซีรี่ส์ S มีปากกา S Pen ก็หมายความว่าหลังจากนี้ Samsung อาจจะไม่เปิดตัวซีรี่ส์ Note ออกมาอีกแล้วก็เป็นได้ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด (7 ม.ค. 2565) ได้มีข้อมูลหลุดออกมาว่่าปากกา S Pen ของ S22 Ultra นั้นจะมีอัตราตอบสนองของปากกาอยู่ที่ 2.8 ms ซึ่งเมื่อเทียบกับข้อเดิมแล้วลดลงมากกว่า 3 เท่า เรียกได้ว่าปากกา S Pen นี้เร็วและสมจริงที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย
นอกจากนี้ยังมีลืออีกด้วยว่าหน้าจอของ S22 Series นั้นจะเป็นแบบ 19.5 : 9 แทนที่จะใช้เป็น 20 : 9 เหมือนใน S21 Series ทำให้คิดได้ว่าทาง Samsung ตั้งใจที่จะลดขนาดหน้าจอลงเพื่อให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่เบาลงเล็กน้อย โดยในข่าวลือบอกว่า S22 Ultra จะมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 228 กรัม (เบาลง 1 กรัม), S21 จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 167 กรัม (เบาลง 2 กรัม) และ S22+ จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 195 กรัม (เบาลง 5 กรัม) ซึ่งการออกแบบที่ให้ขอบโค้งและน้ำหนักที่เบาลง ช่วยให้การถือใช้งานมีความสะดวกมือขึ้นเยอะเลย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตัวเครื่องเบาลงเยอะในรุ่น S22 และ S22+ นั้นก็น่าจะเป็นผลมาจากข่าวลือที่ว่าใน S22 และ S22+ นั้นจะเปลี่ยนไปใช้ตัวเครื่องที่เป็นพลาสติกแทน อาจจะเป็นการพยายามลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้ราคาเครื่องไม่ขยับสูงขึ้นก็เป็นได้ ส่วนใน S22 Ultra นั้นแน่นอนว่าต้องจัดเต็มด้วยกระจกทั้งตัวเหมือนเดิม ทำให้ราคาอาจจะโดดจากรุ่นก่อนพพอสมควรเลยก็ได้ และนอกจากนี้ถ้าตามข่าวลือเป็นจริงที่ตัวเครื่องจะมีช่องเสียบปากกา S Pen บางทีอาจจะใช้ชื่อเป็น Galaxy Note 22 Ultra แทนก็ได้นะ
ล่าสุดได้มีดีไซน์ตัวเครื่องของ Galaxy S22 Series ออกมาให้เห็นผ่านเครื่องดัมมี้แล้ว ซึ่งในรุ่น S22 และ S22+ นั้นรูปทรงหลักๆ ไม่ได้ต่างไปจาก Galaxy S21 และ S21+ เลย แต่ที่ต่างกันจริงๆ ก็คือ S22 Ultra ซึ่งรูปทรงนั้นตรงกับรูปเครื่องที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้ เพียงแต่ตัวท๊อปของ S22 อย่าง S22 Ultra นั้นอาจจะมาในชื่อ S22 Note หรือไม่ก็ได้
สำหรับในเรื่องของสีสันตัวเครื่องนั้นล่าสุดได้มีข้อมูลหลุดออกมาโดย S22 และ S22+ นั้นจะมีอยุ่ 4 สีคือ Pink Gold, Green, Black, White ส่วน S22 Ultra นั้นจะมีอยู่ 3 สีคือ Dark Red, Black, White (ถึงโดยส่วนตัวคาดว่าในไทยจะไม่มีสี Dark Red ก็เถอะ)
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องล่าสุดได้มีคลิป Hand-on โผล่ขึ้นมาบน Youtube โดยตัวเครื่องที่โผล่ขึ้นมานี้จะมีสีเขียวสวยแบบเรียบหรูสุดๆ แถมยังมีความคมชัดอีกด้วย ใครที่อยากเห็นรูปลักษณ์ตัวเครื่องก่อนก็มาดูกันได้เลย
หน้าจอที่ใช้บน Samsung Galaxy S22
ในเรื่องของหน้าจอที่จะใช้นั้นเป็นไปได้ว่าอาจจะใช้เป็นหน้าจอ LTPO AMOLED ที่มีอัตรารีเฟรช 120Hz แบบ Adaptive แบบเดียวกับที่ใช้ใน S21 Series ก็ได้ แต่ด้วยจากข้อมูลที่บอกว่าอัตราส่วนหน้าจอจะลดขนาดลง ก็จะส่งผลทำให้หน้าจอตัวเครื่องลดขนาดลงด้วย โดยเมื่อเทียบอัตราส่วนแล้วหน้าจอจะลดลงประมาณนี้ S22 จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.06 นิ้ว (น่าจะบอกเป็น 6.1 นิ้ว), S22+ จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.55 นิ้ว ส่วน S22 Ultra จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.81 นิ้ว ซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่ต่างอะไรกันมากนัก แค่อาจจะทำให้เครื่องเล็กลงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น
ปัญหาที่น่าสนใจคือทาง Samsung จะยังใช้หน้าจอ Infinity-O แบบเดิมหรือจะเปลี่ยนไปใช้กล้องใต้จอเหมือนที่ใช้ใน Galaxy Z Fold3 5G กันแน่ เนื่องจากตอนนี้กล้องใต้จอก็พอจะเอามาใช้งานได้จริงในระดับหนึ่งแล้วด้วย แถมยิ่งเวลาผ่านไปเทคโนโลยีก็จะได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนคาดว่าอีกไม่นานการใช้กล้องใต้จออาจจะได้คุณภาพเท่ากล้องปกติก็ได้ ทั้งนี้เราก็ได้แต่รอลุ้นกันว่าทาง Samsung จะใช้หน้าจอแบบไหนกันเท่านั้น
กล้องถ่ายภาพบน Samsung Galaxy S22
กล้องถ่ายภาพที่จะมาบน Galaxy S22 นั้นเมื่ออ้างอิงจากตอน Galaxy S21 Series และมือถือรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมาในช่วงหลังๆ นี้ก็มีความเป็นไปที่จะเป็นดังนี้
- Galaxy S22 : 50 MP (main) + 12 MP (ultrawide) + 10 MP (telephoto) + 10 MP (กล้องหน้า)
- Galaxy S22+ : 50 MP (main) + 12 MP (ultrawide) + 10 MP (telephoto) + 10 MP (กล้องหน้า)
- Galaxy S22 Ultra : 108 MP (main) + 12 MP (ultrawide) + 10 MP (telephoto) + 10 MP (periscope)
สำหรับกล้องหลักของ S22 Ultra นั้นแน่นอนว่าต้องเป็นกล้อง 108 MP แน่นอน เพราะรุ่นก่อนหน้าก็เป็นแบบนั้น แต่คาดว่าน่าจะใช้เซ็นเซอร์เป็น ISOCELL HM3 ที่เป็นรุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1/1.33 นิ้วเลยทีเดียว ซึ่งข้อมูลนี้ทาง Ice Universe เองก็ยืนยันออกมาเช่นเดียวกัน ส่วนเลนส์อื่นๆ นั้นคาดว่าน่าจะยังคงใช้เซ็ตเดิมคือกล้อง ultrawide ความละเอียด 12 MP, กล้อง telephoto ความละเอียด 10 MP และกล้อง periscope telephoto ความละเอียด 10 MP ซึ่งจะมีความสามารถซูม 100 เท่าหรือที่เรียกว่า Spacezoom เหมือนใน S21 Ultra
และจากข้อมูลล่าสุดที่เกี่ยวกับกล้องหลังนั้นตัวเลนส์ 108 MP จะมีการใช้ Super Clear Glass ซึ่งโดยเทคนิคแล้วมันก็คือ Gorilla Glass DX ที่เป็นตัวช่วยลดแสงสะท้อนบนกระจกเลนส์นั่นเอง สำหรับการใช้ Super Clear Glass นี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เนื่องจากทาง Samsung ได้เอามาใช้กับ Galaxy Z Flip3 5G และ Galaxy Z Fold3 5G ก่อนแล้วนั่นเอง
ส่วนใน Galaxy S22 และ S22+ นั้นจะเปลี่ยนไปใช้กล้องความละเอียด 50 MP ที่เป็นเซ็นเซอร์ ISOCELL GN2 ที่ Samsung เปิดตัวมาเมื่อต้นปี 2564 นี้ ซึ่งตัวเซ็นเซอร์มีขนาดที่ใหญ่ถึง 1/1.157 นิ้ว รองรับการรวมพิกเซลจาก 4 จุดเป็นจุดเดียว ช่วยให้สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงระบบโฟกัสใหม่ในชื่อ Dual Pixel Pro โดยทุกๆ พิกเซลที่อยู่ภายในเซ็นเซอร์จะทำหน้าที่เป็น Phase detecting ตรวจหาจุดโฟกัส ซึ่งด้วย Dual Pixel Pro นั้นจะทำให้ตัว phase detecting สามารถทำงานได้ทุกทิศทาง ส่งผลให้การโฟกัสติดตามวัตถุหรือโฟกัสในที่แสงน้อยสามารถทำได้ดีขึ้นอย่างมาก ส่วนเลนส์อื่นๆ คือเลนส์ ultrawide ความละเอียด 12 MP มีรูรับแสงกว้าง f/2.2 มีขนาดเซนเซอร์ 1/2.55 นิ้ว และเลนส์ telephoto ความละเอียด 10 MP ที่มีรูรับแสงกว้าง f/2.4 ซึ่งสามารถซูมแบบ Optical ได้สูงสุด 3 เท่า นอกจากนี้ตัว S22 และ S22+ นั้นจะมีกล้องหน้าความละเอียด 10 MP f/2.2 อีกด้วย ส่วนกล้องหน้าของ S22 Ultra คาดว่าคงเป็นกล้องความละเอียดเท่าเดิมคือ 40 MP
สเปคต่างๆ ของ Samsung Galaxy S22
ในเรื่องของสเปคภายในนั้นด้านความจุตัวเครื่องคาดว่าคงไม่มีอะไรเปลี่่ยนคือเริ่มที่ 128GB และสูงสุดที่ 512GB ใน S22 Ultra ส่วนแรมก็น่าจะใช้ 8GB ในรุ่น S22 และ S22+ เช่นเดิม ส่วนใน S22 Ultra ก็น่าจะคงเดิมที่ 12GB และ 16GB แต่ก็อาจจะมีการใส่เทคโนโลยีขยายแรมเพพิ่มเข้ามาก็ได้ (ย้ำว่าอาจจะ) แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ ก็คือชิปประมวลผล
โดยในเรื่องของชิปประมวลผลนั้นตามปกติทาง Samsung ก็จะมีออกมา 2 รูปแบบคือรุ่นที่ใช้ชิปประมวลผล Exynos สำหรับเอาไว้ขายทั่วโลก และชิป Snapdragon ที่เอามาขายเฉพาะประเทศ ซึ่งในปัจจุบันนี้จากข้อมูลที่มีบอกว่าชิป Exynos รุ่นใหม่จะใช้ชื่อว่า Exynos 2200 ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาขึ้นมาร่วมกับทาง AMD โดยมีการใส่ GPU ของ AMD เข้าไปแทนที่ GPU Mali แถมยังใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 4nm ทำให้มีทั้งความแรงและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารอกันสุดๆ ส่วนชิป Snapdragon นั้นก็น่าจะใช้เป็นชิป Snapdragon 898
แต่ด้วยปัญหาเรื่องการขาดแคลนชิปในปัจจุบันนี้ทำให้ไม่รู้ว่าทาง Samsung จะเอาอย่างไรกันแน่ ทว่าล่าสุดได้มีข่าวลือออกมาให้เห็นกันว่าใน S22 Series นี้จะใช้ชิปเป็น Snapdragon 8 Gen 1 เหมือนกันทั้งโลก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทาง Samsung จะตัดสินใจออกมายังไง หรือว่าจะไปใช้ชิปของตัวเองอย่าง Exynos 2200 ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกด้วยว่าเพื่อลดต้นทุนการผลิต ทาง Samsung จะเปลี่ยนระบบระบายความร้อนใน S22 Series จากเดิมที่ใช้แผ่น Thermal Graphite เปลี่ยนไปใช้แผ่น Graphite ธรรมดาซ้อนกันหลายๆ ชั้นแทน ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องความร้อนได้ (ขนาดของเดิมยังร้อนเลย)
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมีข้อมูลออกมาว่าจะมีการลดขนาดแบตเตอรี่ลงในรุ่น S22 และ S22+ โดยใน S22 จะมีแบตเตอรี่ขนาด 3,700 mAh ซึ่งน้องกว่า S21 ที่มีแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh อยู่ 300 mAh ซึ่งทาง S22+ ก็เช่นกัน แบตเตอรี่ลดขนาดลง 300 mAh เท่ากันจากเดิม 4,800 mAh เหลือเพียง 4,500 mAh ทว่าใน S22 Ultra นั้นยังคงแบตเตอรี่ขนาดเท่าเดิมเอาไว้อบู่คือ 5,000 mAh ส่วนเรื่องระบบชาร์จนั้นคาดว่าน่าจะยังใช้แบบเดิมคือรองรับการชาร์จเร็วที่ 25W เป็นมาตราฐาน แต่ตัว S22 Ultra นั้นจะรองรับการชาร์จเร็วถึง 45W (แต่ก็ต้องซื้ออะแดปเตอร์เพิ่มอีกอะนะ)
สำหรับเรื่องอะแดปเตอร์ชาร์จนั้นล่าสุดมีภาพหลุดออกมาโดยทางผู้ปล่อยข่าวบอกว่าอะแดปเตอร์ชาร์จขนาด 45W สามารถใช้ชาร์จกับ Galaxy S22+ และ S22 Ultra 5G ได้ โดยตัวอะแดปเตอร์ 45W นี้ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่ารุ่นก่อน สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของ S22+ และ S22 Ultra จาก 0 – 70% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งนับว่าเร็วขึ้นกว่าเดิมเยอะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
หลุดภาพตัวเครื่องดัมมี่ Samsung Galaxy S22 Ultra พบดีไซน์คล้าย Note 20 Ultra
Samsung Galaxy S22 Ultra อาจเป็นตัวแทนของซีรีย์ Galaxy Note
Samsung Galaxy S22 Ultra อาจจะมาพร้อมกล้องหลังสเปคเดียวกับ Galaxy S21 Ultra
ชิปเซ็ท Exynos 2200 มาพร้อมฟีเจอร์กราฟิก Ray-Tracing แน่นอน
Exynos 2200 มีข้อมูลจาก Samsung เพิ่มเติม พบจะถูกแบ่งเป็นหลายรุ่นย่อย