ใกล้วันเปิดตัวเขามาทุกทีแล้วสำหรับ iPhone 8 โดยจะมีกำหนดการเปิดตัวในช่วยเดือนกันยายนของทุกปี และปีนี้เป็นปีที่พิเศษมาก ๆ เพราะว่าเป็นปีที่จะครบรอบ 10 ปี iPhone พอดี เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 ปีที่ผ่านมา iPhone มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
iPhone ปี 2007
เป็นโทรศัพท์รุ่นแรกจาก Apple ที่มีจอสัมผัสโดยมีแนวคิดเอา iPod มารวมกับ Phone จนกลายเป็น iPhone ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยที่ทันสมัยที่สุดในสมัยนั่น สามารถใช้โทรศัพท์ ส่งเอสเอ็มเอส เล่นเว็ปผ่านซาฟารี ดูแผนที่ ฟังเพลงได้ โดยเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 2.5G GSM และ EDGE รองรับ Wi-Fi (802.11b/g) มีหน้าจอ Capacitive 3.5 นิ้ว ความละเอียด 320 x 480 pixel ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม และกระจก มีความจุภายใน 4GB/8GB/16GB
จุดเด่น
- หน้าจอ 3.5 นิ้ว ใหญ่มาก ๆ ในสมัยนั้น
- CPU ARM 1176JZ
- GPU PowerVR MBX
- RAM 128 MB
- หน่วยความจำภายใน 4GB/8GB/16GB
- กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล
- เชื่อมต่อ EDGE, Wi-Fi
iPhone 3G ปี 2008
เป็นโทรศัพท์ที่รองรับ 3G รุ่นแรกจาก Apple มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่มีความโค้งมนมากขึ้น มีสเปคเหมือนกับ iPhone 2G แต่เพิ่มหน่วยความจำเริ่มต้นจากเดิม 4 GB เป็น 8 GB มาพร้อมกับ App Store ที่สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ
จุดเด่น
- CPU ARM 1176JZ
- GPU PowerVR MBX
- RAM 128MB
- หน่วยความจำ 8GB/16GB
- รองรับการใช้งาน 3G
- ดาวน์โหลดแอพฯ ผ่าน App Store
- ตัวเครื่องมีทั้งสีขาว และสีดำ
iPhone 3GS ปี 2009
iPhone 3GS ถือว่าเป็น iPhone อีกรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้จัก iPhone ในประเทศไทย โดย iPhone 3GS มีการออกแบบเหมือนกับ iPhone 3G ที่เน้นความโค้งมนของตัวเครื่อง ส่วนด้านสเปคถูกอัพเดทให้แรงขึ้นกว่าเดิม ใช้ CPU Cortex-A8 RAM 256MB กล้องถ่ายภาพ 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัสแบบใช้นิ้วแตะเพื่อโฟกัส ถ่ายวิดีโอได้ หน่วยความจำภายใน 8GB/16GB/32GB และรองรับ 3G ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps และมี Voice Control สั่งงานด้วยเสียง
จุดเด่น
- CPU ARM Cortex-A8
- GPUPowerVR SGX535
- RAM 256MB
- กล้องความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล แตะโฟกัสได้
- ถ่ายวีดีโอได้
- รองรับ 3G ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps
- Voice Control (สั่งงานด้วยเสียง)
- มีสีขาวเพิ่มเข้ามา
iPhone 4 ปี 2010
iPhone 4 มาพร้อมกับการออกแบบดีไซน์ใหม่หมด ใช้วัสดุเป็นสเตนเลนสตีลและกระจก สเปคต่าง ๆ ถูกอัพเกรดให้แรงขึ้นกว่าเดิม มีหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว Retina Display 960×640 พิกเซล เป็นจอที่มีตวามละเอียดสูงที่สุดในเวลานั้น มาพร้อมกล้องหน้ารองรับการใช้งาน FaceTime วิดีโอคอลล์ผ่าน Wi-Fi
จุดเด่น
- CPU Apple A4
- แรม 512MB
- กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- มีกล้องด้านหน้าสำหรับใช้งาน FaceTime
- หน้าจอ Retina Display
- ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด
iPhone 4s ปี 2011
iPhone 4s เป็น iPhone หลังหมดยุคของ สตีฟ จ็อบส์ โดย iPhone 4S มีหน้าตาเหมือนกับ iPhone 4 จุดเด่นของ iPhone 4S มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 5 และ iCloud, กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และผู้ช่วยคนใหม่ Siri ที่จะช่วยค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ให้เรา
จุดเด่น
- CPU Apple A5
- RAM 512MB
- หน่วยความจำสูงสุด 64GB
- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- Siri ระบบสั่งงานด้วยเสียง
- ออกแบบการวางเสาสัญญาณใหม่
iPhone 5 ปี 2012
iPhone 5 เป็นอีกรุ่นที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องใหม่หมด ใช้วัสดุส่วนใหญ่เป็นอะลูมิเนียมและกระจก ทำให้ iPhone 5 มีความบางเพียง 7.6 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 112 กรัม มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 4 นิ้ว ความละเอียด 1,136×640 พิกเซล เป็น iPhone รุ่นแรกที่ใช้ Lightning รองรับ 4G LTE และมาพร้อมกับหูฟังแบบใหม่ Earpods
จุดเด่น
- CPU Apple A6
- RAM 1GB
- รองรับ 4G LTE
- วัสดุแบบใหม่ อะลูมิเนียม ทำให้บางและน้ำหนักเบา
- กล้องด้านหน้า 1.2 ล้านพิกเซล
- หน้าจอขนาด 4 นิ้ว
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบใหม่ Lightning
- หูฟังรุ่นใหม่ Earpods
- Nano-SIM
iPhone 5S / 5C ปี 2013
iPhone 5s มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยชิป Apple A7 ที่เป็นระบบ 64-bit ตัวแรกของโลก ที่มีความเร็วกว่า iPhone รุ่นแรกถึง 40 เท่า มีแรม 1GB พร้อมแฟลชคู่ Dual LED รวมถึงกล้องที่ใหม่ที่ถ่ายสโลโมชั่นได้ นอกจากนี้ iPhone 5S มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสแกนลายนิ้วมือ Touch ID
สเปคเด่น ๆ ของ iPhone 5s
จุดเด่น
- CPU Apple A7 64-Bit
- RAM 1GB
- กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชแบบทูโทน
- มีระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID
- มีสีใหม่ สีทอง
iPhone 5c เป็น iPhone ที่มีข่าวลือว่าจะเป็นรุ่นราคาประหยัดเพื่อวางขายแทน iPhone 5 แต่พอเปิดราคามาก็ทำให้ใครหลายๆคนแอบผิดหวังกันไปพอสมควรเพราะมีราคาที่ไม่ได้ถูกอย่างที่มีข่าวออกมาตอนแรก โดยตัวเครื่องของ iPhone 5c ใช้วัสดุเป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนตมาพร้อมสีสันสดใส 5 สี ได้แก่ สีขาว สีเขียว สีฟ้า สีชมพู และสีเหลือง โดยยกสเปคทั้งหมดมาจาก iPhone 5
จุดเด่น
- CPU Apple A6
- RAM 1GB
- รองรับ 4G LTE
- กล้องด้านหน้า 1.2 ล้านพิกเซล
- หน้าจอขนาด 4 นิ้ว
- มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว สีเขียว สีฟ้า สีชมพู และสีเหลือง
iPhone 6 / 6 Plus ปี 2014
iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นถึง 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว มีการออกแบบดีไซน์ใหม่หมด ตัวเครื่องมีความโค้งมนและบางกว่า iPhone รุ่นเดิม ๆ รวมถึงอัพเกรดสเปคใหม่และเป็นครั้งแรกที่ iPhone ใส่ OIS ให้กับกล้องของ iPhone 6 Plus
จุดเด่น
- CPU Apple A8 64-Bit
- หน้าจอ Retina HD display มีให้เลือก 2 ขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว
- กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชแบบทูโทน
- iPhone 6 Plus มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
- รองรับ NFC จ่ายเงินผ่านมือถือด้วยบริการ Apple Pay
iPhone 6s / 6s Plus ปี 2015
iPhone 6s และ iPhone 6s Plus มาพร้อมดีไซน์เหมือน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus แต่ด้านสเปคถูกอัพเกรดใหม่ให้น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะหน้าจอแบบใหม่ที่เรียกว่า3D Touch สามารถแยกน้ำหนักในการจกจอได้ ทำให้สามารถสั่งการต่าง ๆ ได้หลากหลายขึ้น พร้อมอัพเกรดกล้องหลังเป็น 12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มาพร้อม Retina Flash
จุดเด่น
- CPU Apple A9
- RAM 2 GB
- กล้องหลังความละเอียด 12 ล้าน รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียด 4K
- มี 3D Touch
- Live Photos
- Retina Flash
- Touch ID Gen 2
iPhone 7/ 7 Plus & iPhone SE ปี 2016
สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องใหม่ที่ปรับปรุงมาจาก iPhone 6/6s ทำให้หลาย ๆ คนยังไม่ค่อยรู่สึกถึงความต่างมากเท่าไหร มีการซ่อนแถบเสาอากาศด้านหลังออกไป ทำให้ดูสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม และตัดช่องหูฟัง 3.5 มม.ออกไป มีการเพิ่มสเปคใหม่ให้เร็วแรกกว่าเดิม รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP 68 และกล้องหลังคู่สำหรับรุ่น iPhone 7 Plus โดยมีสีใหม่อีก 3 สี ได้แก่ สีดำเงา Jet Black และสีแดง RED ที่มีเฉพาะรุ่นความจุ 128GB กับ 256GB และสีดำด้าน โดย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus
จุดเด่น
- CPU Apple A10 Fusion
- RAM 2 GB สำหรับ iPhone 7 และ Ram 3 GB สำหรับ iPhone 7 Plus
- กล้องหลังคู่สำหรับ iPhone 7 Plus
- ปุ่ม Home แบบใหม่
- มีสีมากถึง 6 สี
iPhone SE ถือว่าเป็น iPhone ที่มีข่าวลือหลุดออกมาเยอะพอสมควร ด้วยข่าวลือที่ออกมาว่า iPhone SE จะเป็น iPhone ที่มีราคาเปิดตัวถูกมาก ๆ แต่มีสเปคที่เร็วแรง โดยยกสเปกเกือบทั้งหมดมาจาก iPhone 6S เอามาใส่ใน Body ของ iPhone 5S ทำให้ iPhone SE นั้นขายดิบขายดีจน Apple ต้องออกมาปรั่บความจุใหม่ จากเดิม 16 GB / 64 GB เป็น 32 GB / 128 GB
จุดเด่น
- CPU Apple A9
- RAM 2 GB
- กล้องหลังความละเอียด 12 ล้าน รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียด 4K
- Live Photos
- ราคาเปิดตัวถูกที่สุดจาก iPhone ทุกรุ่น
iPhone 8/8 Plus & iPhone X 2017
จุดเด่น
- CPU Apple A11
- RAM 2 GB สำหรับ iPhone 8 และ Ram 3 GB สำหรับ iPhone 8 Plus
- กล้องหลังคู่สำหรับ iPhone 8 Plus
- กล้องใหม่เซนเซอร์ใหญ่กว่าเดิม
- ใช้กระจกรองรับการชาร์จไรสาย
- มีสี 3 สี ทอง ดำ เงิน
จุดเด่น
- CPU Apple A11
- RAM Ram 3 GB
- กล้องหลังคู่มี OIS
- กล้องใหม่เซนเซอร์ใหญ่กว่าเดิม
- ใช้กระจกรองรับการชาร์จไรสาย
- ระรับการสแกใบหน้าแบบ 3D
- มีสี 2 สี ดำ เงิน
เป็นยังกันบ้างสำหรับ iPhone แต่ละรุ่น 10 ปีที่ผ่านมา iPhone ก็ได้ออกโทรศัพท์ทั้งหมด 18 รุ่นแล้ว ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กที่ละน้อยจนกลายเป็น iPhone ที่มีความสามารถมากมาบในปัจจุบัน