ว่ากันด้วยเรื่อง Top 10 หนัง Netflix ที่ดีที่สุด และกำลังฮิตที่สุดในเวลานี้ ด้วยยอดคนดูที่เยอะ และเป็นที่พูดถึงกันในวงกว้าง รวมถึงการแชร์ใน Social Media และมีความเห็นตรงกันว่าควรดูเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีหนังที่น่าดู ที่จะเข้ามาในต้นปี 2021 นี้อีก ทั้งหนังทางฝั่งเอเชีย และทางตะวันตก ก็มีมาให้เลือกดูเยอะแยะไปหมด
สำหรับหนังบนเว็บ และแอปฯ ชื่อดังอย่าง Netflix ในเวลานี้ เชื่อว่าต้องมีคนให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นหนัง หรือซีรีส์ ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากฝั่งบ้านเราเอง และทางฝั่งตะวันตก ซึ่งส่วนใหญ่พอได้ลง Netflix ปุ้ป ก็ต้องมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งติดโผ เข้าแฮชแท็กฮิตเป็นแน่แท้ อีกอย่างที่ทำให้ Netflix น่าสนใจมากขึ้น ก็คงเป็นหนัง ที่ทาง Netflix สร้างเอง หรือนำมาฉายเฉพาะช่องทาง Netflix เท่านั้น ที่ทำให้คนอยากเข้าไปดูมากขึ้น และหนังเหล่านี้เอง ก็มักจะต้องมีหนังดี เป็นที่พูดถึงกันอยู่เสมอ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ หนัง Netflix ที่ดีที่สุด กำลังฮิตอยู่ในตอนนี้ และหนังที่กำลังจะเข้าใหม่ในเดือน มกราคม – กุมภาพันธ์ ปี 2021 ที่ห้ามพลาด ตามมาดูกันเลย
หนังน่าดูที่กำลังเข้าใหม่ กุมภาพันธ์ 2021
หนัง Netflix ที่ดีที่สุดและกำลังฮิต
ขอบอกก่อนว่า หนังทั้ง 10 เรื่องที่นำมาแนะนำนั้น เป็นหนังจาก Netflix และฉายบน Netflix เท่านั้น ซึ่งอาจจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา ไม่ได้รวมหนังเก่า หรือหนังดีมากๆ ที่มีอยู่แล้ว ส่วนถ้าใครอยากดูหนังที่ดีที่สุด 50 เรื่องนอกจากหนังที่สร้างโดย Netflix สามารถกดเข้ามาดูต่อได้ที่นี่เลย (อ่านต่อหนังน่าดู 50 เรื่องบน Netflix) ส่วนเรื่องสำคัญ ก่อนที่จะดูหนังบน Netflix ได้นั้น ก็ต้องสมัครการใช้งานก่อนนะ จะทดลองก่อน 30 วันก็ได้ หรือจะสมัครรายเดือนเป็นกลุ่ม คุ้มๆไปเลยก็ได้เหมือนกัน สามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดการสมัครได้ที่นี่ (สมัคร Netflix ให้คุ้มที่สุด) ถึงแม้ดูเหมือนว่าในตอนนี้ หนังของ Netflix จะไม่ได้ติด Top 10 มากนัก แต่จะมีคนดูซีรีส์กันเป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็รวบรวมหนัง โดยอิงจากความฮิตในเว็บ Netflix มาให้ได้ดูกัน เอาล่ะ พูดกันมาซะเยอะ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีหนังของ Netflix เรื่องไหนบ้างที่ดีและน่าดูในตอนนี้
1. We Can Be Heroes (รวมพลังเด็กพันธุ์แกร่ง)
หนัง Netflix ที่ดีที่สุด และเป็นหนังที่กำลังฮิตเรื่องแรกนั้น เป็นเรื่องที่ดูเหมือนไม่น่าจะมีอะไร แต่ก็ดันติดอันดับต้นๆ ของหนังฮิตซะอย่างงั้น อาจเป็นเพราะว่าหนังได้ทำเป็นเรื่องต่อจาก The Adventures of Sharkboy and Lavagirl ที่เคยถูกฉายออกมาในปี 2005 โดยเรื่องนี้จะเป็นภาคต่อเนื้อเรื่องที่ Sharkboy กับLavagirl ได้เติบโตขึ้น และได้แต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว แน่นอนว่าลูกของพวกเขาเอง ก็ต้องมีพลังตามแบบพ่อแม่ไปด้วย พลังที่ว่านี้ก็คือพลังการควบคุมน้ำ แต่ตัวเอกของเรื่องคือ มิสซี มอเรโน ลูกของฮีโร่เช่นกัน เธอนั้นต้องพาเหล่าลูกฮีโร่คนอื่นๆ เพื่อมาตั้งกลุ่มใหม่ด้วยกัน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพวกผู้ใหญ่ ที่ถูกตัวร้ายจับตัวไป เรื่องนี้ดูเอาสนุกสนานก็พอได้อยู่ อารมณ์พอๆ กับหนังตำนานอย่าง Spy Kids ที่พอจะเดาเนื้อหาได้ แต่ถ้าจะไปเทียบกับหนังฮีโร่ใหญ่ๆ ก็ไม่ต้องหวังถึงขนาดนั้น ดูแค่พอสนุกก็พอแล้ว
2. The Midnight Sky (สัญญาณสงัด)
หนัง Netflix ที่ดีที่สุดและหนัง Netflix น่าดูเรื่องต่อมานี้เป็นหนังไซไฟภาพสวยสุดอลังการ โดยเรื่องนี้ได้ถูกดัดแปลงมาจากหนังสือ Good Morning, Midnight ที่ได้เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์หลังวันสิ้นโลกไปแล้ว สิ่งที่โลกเหลืออยู่นั้น ก็คือมนุษย์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น โดย ออกัสติน นักวิทยาศาสตร์ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง ในพื้นที่แถบอาร์กติก และพยายามหาวิธีติดต่อไปยังกลุ่มนักบินอวกาศ ที่อยู่นอกโลก เพื่อให้ได้รู้ข่าวสารความเป็นไปของโลกในตอนนี้ ซึ่งกลุ่มนักบินเหล่านั้น ได้อยู่ห่างออกไปหลายปีแสง และพยายามที่จะห้ามไม่ให้ซัลลี่ และเหล่านักบินอวกาศกลับมาเจอหายนะบนโลก ที่ยังคงเป็นปริศนา และยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เรื่องนี้กำกับโดย จอร์จ คลูนีย์ และนำแสดงโดย จอร์จ คลูนีย์ เช่นกัน
3. What Happened to Mr. Cha? (ชาอินพโย สุภาพบุรุษสุดขั้ว)
หนัง Netflix เรื่องต่อมานี้ เป็นหนังตลกจากทางฝั่งเกาหลี และก็ได้อ้างอิงจากนักแสดงชาวเกาหลีที่ชื่อ ชาอินพโย (Cha In-pyo) ตัวจริงๆ เลยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวสมมติขึ้น แต่ตัวหนังก็เล่าออกมาได้อย่างน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบเลย ซึ่งชาอินพโยนั้น เป็นดารารุ่นเก่าที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และได้เล่าตั้งแต่สมัยที่ดังจนพลุแตก และความดังนั้นก็ไม่ได้ยั่งยืน เมื่อถึงวันที่ชีวิตต้องลงมาเป็นคนที่ไม่ดังอีกต่อไป ก็ยากที่ยอมรับได้ ตัวหนังเล่าออกมาจะเป็นแนวตลกมากกว่าหนังจริงจัง ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังที่เล่าชีวิตของ ชาอินพโย แต่ก็ได้มีการล้อเลียน และเสียดสีไปถึงวงการดาราของเกาหลีด้วย ถึงแม้ว่าเรื่องราวของคนๆ เดียวออกมา แต่ก็ทำออกมาได้น่าติดตาม ตั้งแต่ต้นไปจนถึงจบเรื่องเลย แต่ถ้าใครจะดูแล้วไม่อินมากนักก็ไม่แปลก เพราะเนื้อเรื่องก็เล่าแบบจบง่ายๆ ไปเลย ถ้าดูเพื่อความบันเทิงก็ได้เต็มที่แน่นอน
4. Asphalt Burning (ซิ่งซ่าท้าถนน 3)
หนังของคนรักความเร็ว และรถแรง ว่าด้วยเรื่องของ รอย ที่ต้องการชนะการแข่งขันบนถนนด้วยรถแรงคู่ใจ จากนอร์เวย์ตัดผ่านสวีเดน และเดนมาร์ก ไปจนถึงเยอรมนี เพราะถ้าเขาแพ้ ซิลเวียผู้เป็นคู่หมั้นเขานั้น เขาก็จะต้องเสียไปกับการแข่งขันนี้ด้วยเช่นกัน เรื่องของเรื่องเกิดจากความเมาในคืนวันแต่งงาน ที่รอยดันไปท้านักแข่งอย่าง โรบิน ที่ชอบซิลเวียอยู่เหมือนกัน และจากการท้านี้เอง ทำให้เขาต้องออกทริปแข่งขันสุดไกล พร้อมทั้งคู่แข่งอีกหลายคน แต่เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะรอยยังต้องเจอกับคนน่าปวดหัวอีก 2 คน ที่ดันมีชื่อเหมือนกันอีก แถมมาพร้อมกับศพที่อยู่ท้ายรถด้วย ตำรวจจึงได้แห่ตามกันมาเป็นขบวน จนเขาต้องหลบซ่อน และทำให้รถของเขาหายไป เขาจึงต้องทำทุกทาง เพื่อชนะการแข่งขันนี้ให้ได้
5. Underground (6 ลับ ดับ โหด)
ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมานานมากแล้วก็ตาม แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังคงติดอันดับหนังฮิต และเป็นหนัง Netflix ที่ดีที่สุดยาวนานมาก เรื่องราวของเศรษฐี 6 คน ที่ทนเห็นสภาพความไม่เป็นธรรมของโลกนี้ได้ ทั้งหมดจึงสร้างเรื่องขึ้นมา ว่าตัวเองได้ตายไปจากโลกใบนี้แล้ว หลังจากที่ทำว่าตายไปแล้ว ทั้งหมด 6 คนก็ได้เกิดใหม่ ในแบบฮีโร่ใต้ดิน เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และกวาดล้างความอยุติธรรมบนโลกนี้ โดยทั้ง 6 คนจะแทนชื่อตัวเองเป็นหมายเลขแทน และมีผู้นำแสนจะลึกลับ นำแสดงโดย ไรอัน เรย์โนลด์ และผู้กำกับมากฝีมืออย่าง ไมเคิลเบย์ เรียกได้ว่าขนความบ้าระห่ำ และความสนุกมาพร้อมๆ กันในหนังเรื่องนี้ก็ว่าได้
6. The Old Guard (ดิ โอลด์ การ์ด)
ยังคงฮิตอย่างต่อเนื่อง กับหนัง Netflix ที่ดีที่สุดที่ยังคงฮิตติดอันดับอยู่เรื่อยๆ บน Netflix ว่าด้วยเรื่องราวความอมตะ ที่ไม่ได้มีผลดีเท่าความอยากเป็นของมนุษย์ เพราะสิ่งที่ต้องแลกมาคือความเจ็บปวดในอดีต เรื่องของนักรบสาวอมตะ แอนดี้ ที่ได้ผ่านสงครามมามากมาย และมีอายุมากกว่าพันปี และผู้ติดตามที่เป็นอมตะเหมือนกัน โดยเป็นทหารรับจ้าง ที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมานาน และทั้งหมดนั้นมีพลัง ที่สามารถเยียวยาแผลตัวเองได้ ไม่ว่าจะผ่านสงครามไหนๆ หรือต้องเจ็บปวดสักเท่าไหร่ ก็สามารถผ่านมาได้ด้วยกันทั้งนั้น จนกระทั่งกองทัพได้ไล่ล่า จับตัวพวกเธอไป เพื่อจะเอาพลังอมตะไปใช้บ้าง เธอจึงต้องทำทุกทางเพื่อยับยั้ง และทั้งหมดก็ยังต้องจมอยู่กับอดีต ที่ฝังลึกลงไปในจิตใจของทุกคน พร้อมกับต้องเจอกับผู้อมตะคนใหม่ ที่ต้องคอยช่วยเหลือด้วย
7. The Rope Curse 2 (เชือกอาถรรพ์ 2)
หนังผีระทึกขวัญจากแดนไต้หวัน ที่ได้เคยฉายภาคแรกออกมาแล้วเมื่อปี 2018 ซึ่งในภาค 2 นี้ก็ยังคงสิบเนื่องต่อกันมาบ้างเล็กน้อย โดยมีเชือกเป็นสื่อนำเนื้อหาเดิม แต่ถึงแม้จะไม่เคยดูภาคแรกก็ตาม ก็สามารถดูภาค 2 ได้เลย โดยเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ จะพูดถึงตัวของ เจียหมิ่น เด็กสาวที่มีชะตากรรมติดตัวมาด้วย โดยเธอเป็นคนที่ อาหั่ว อดีตร่างทรงเทพจงขุย ที่เคยทำพิธีพลาดไปในอดีต และต้องเสียอาจารย์ไปในเหตุการณ์นั้นด้วย เขาต้องกลับมาปราบผีอีกครั้ง และผีนั้นก็ไม่ใช่ผีที่ไหนไกล นั่นก็คือผีที่มาจากประเทศไทยของเราเองที่ชื่อ พรายมหาภูต ที่เชื่อกันว่าเป็นผีที่ดุร้ายที่สุด ที่เหล่าพ่อค้ายาเสพติดต่างให้ความเคารพ พร้อมกับเด็กสาวผู้มีชะตากรรมเป็นร่างทรงเทพจงขุยคนต่อไป ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นแนวหนังผีที่พอจะเดาเรื่องได้ แต่ก็ยังมีความเป็นหนังไต้หวันที่หมอผีมาปราบกันโต้งๆ ให้ดูน่าสนใจตามสไตล์เดิม และถึงแม้ว่าจะติดอันดับหนังฮิต และเป็นหนัง Netflix ที่ดีที่สุดตอนนี้ แต่ก็มีหลายคนให้คะแนนหนังเรื่องนี้ต่ำมาก
8. A Babysitter’s Guide to Monster Hunting (คู่มือล่าปีศาจฉบับพี่เลี้ยงเด็ก)
หนังแฟนตาซี ที่ดูเหมือนจะเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กได้เลย โดยได้เนื้อเรื่องมาจากนิยายชุดชื่อดังของ Joe Ballarini ที่ได้เล่าเรื่องราวของ เคลลี่ เฟอร์กูสัน เด็กหญิงผู้ที่มีความพัวพันกับความฝัน ที่ต้องเจอกับปิศาจมาโดยตลอด แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อเธอเลยสักคน จนถึงวันที่เธออยากเข้าร่วมกิจกรรม ของทางโรงเรียนในวันฮาโลวีน แต่เธอกลับต้องไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับเจ้านายของแม่แทน และเธอยังได้รับการทาบทามจากสมาคมลับ ที่คอยปกป้องเด็กจากการโจมตีของเหล่าสัตว์ประหลาดในฝัน ซึ่งเธอยังเป็นมือใหม่อยู่ จึงต้องมีวัยรุ่นสาวที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กอีกคน มาพร้อมกับคัมภีร์ล่าปีศาจที่มาจากองค์กรพันปี ซึ่งเธอทั้งสองต้องช่วยกันผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ ซึ่งปีศาจในเรื่องก็จะอิงมาจากเรื่องจริง แต่ทำภาพออกมาให้ดูซอฟท์มากขึ้น ไม่มีเลือดกระฉูด หรือสัตว์ประหลาดน่ากลัวแต่อย่างใด เหมาะสำหรับการดูแบบเพลินๆ กันเป็นครอบครัวมากกว่า อย่าหวังอะไรเยอะ
9. The Christmas Chronicles: Part Two (ผจญภัยพิทักษ์คริสต์มาส ภาค 2)
หลังจากเรื่องความวุ่นวายในวันคริสมาสต์ ผ่านไปนานถึง 2 ปี สองพี่น้องเคท (ดาร์บี้ แคมป์) และเท็ดดี้ เพียร์ซ (จูดาห์ ลูอิส) ก็ได้เติบโตและมีเรื่องราวเปลี่ยนไปมากมาย เคทที่ตอนนี้ได้กลายเป็นเด็กขี้ประชด และต้องไปเที่ยวกับแฟนใหม่ของแม่ พร้อมกับแจ็ค ลูกชายของแฟนใหม่แม่อย่างไม่เต็มใจนัก ในช่วงวันคริสมาสต์พอดี ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ยอมรับครอบครัวใหม่อยู่แล้ว แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเบลสนิกเคิล เอลฟ์ที่คิดจะทำลายขั้วโลกเหนือให้สิ้นซาก เขาทั้งสองคน รวมไปถึงซานตาคลอส ก็ต้องร่วมผจญภัยกันอีกครั้งอย่างไม่ได้ตั้งตัว เตรียมพบกับความสนุกและความอบอุ่นได้อีกครั้ง ในช่วงคริสมาสต์ ปีที่แล้ว แต่ยังคงเป็นหนัง Netflix ที่ดีที่สุด และยังน่าดูมาจนถึงปีนี้
10. Your Name Engraved Herein (ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ)
หนังรักโรแมนติก ที่ได้เล่าเรื่องราวชีวิตจริงของตัวผู้กำกับเอง ที่ชื่อว่า Patrick Kuang Hui Liu และเข้าเคยมีความรักแบบ LGBTQ ในสมัยวัยรุ่น และได้นำมาดัดแปลงเข้ากับหนังได้อย่างลงตัว ว่าด้วยเรื่องราวของ ชางเจียฮั่น หรืออาฮั่น และ หวังป๋อเต๋อ หรือเบอร์ดี้ นักเรียนชายที่เรียนม.ปลาย อยู่ในโรงเรียนชายล้วน ซึ่งทั้งสองเป็นทั้งเพื่อน และมีรักแท้ที่จริงใจต่อกัน ท่ามกลางยุค 80-90 ที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของสังคมอนุรักษ์นิยม ไปสู่ประเทศที่ยอมรับกลุ่ม LGBTQ มากขึ้น และไต้หวันเพิ่งยกเลิกกฎอัยการศึก รวมไปถึงโรงเรียนของเขาทั้งสองคน เริ่มเปลี่ยนโรงเรียนเป็นแบบสหศึกษา ที่มีผู้หญิงเข้ามาเรียนด้วย ทั้งสองจึงต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พร้อมกับการตัดสินใจในอีกหลายๆ ด้าน รวมไปถึงสังคมความเท่าเทียม และการยอมรับกลุ่มทางเพศที่ยังคงไม่ได้ยอมรับกันเท่าในปัจจุบันนี้ ทั้งความคิด และอารมณ์ของทั้งสองที่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ หนังเรื่องได้รับหลายรางวัล และยังทำเงินไปมากกว่า 100 ล้านเหรียญไต้หวัน จึงติดอันดับหนัง Netflix ที่ดีที่สุด และน่าดูไปด้วย
หนังน่าดูเข้าใหม่ในเดือน มกราคม – กุมภาพันธ์ 2021
หนังที่เข้ามามากมาย ในปีนี้ของ Netflix ที่เป็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างต่อเนื่อง และเวลาก็ได้ล่วงเลยกันมาจนจะถึงสิ้นปีอีกครั้ง ซึ่งในสิ้นปีนี้ก็ยังมีหนังอีกหลายเรื่อง ที่รอวันกำหนดเข้ามาฉายลง Netflix เราจึงจะมาแนะนำกัน ตั้งแต่เดือน มกราคม จนถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2021 มีหนังที่เข้าไทย เรื่องไหนน่าดู และน่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย (มีทั้งหนัง และซีรีส์ที่น่าสนใจ)
1. Pieces of a Woman (เศษเสี้ยวหัวใจหญิง) : กำหนดเข้าฉาย 7 มกราคม ปี 2021
คู่รักจากบอสตัน มาร์ธา และ ฌอน ที่กำลังจะมีชีวิตสมบูรณ์ตามแบบ พ่อแม่และกำลังจะมีลูกตัวน้อย แต่เรื่องราวกลับพลิกผันเกินคาด เพราะการคลอดลูกที่เฝ้ารอมานาน กลับกลายเป็นเรื่องเศร้าของทั้งคู่ มาร์ธาต้องทนทุกข์ทรมาน กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนานแรมปี อีกทั้งยังต้องคอยทำให้ชีวิตคู่เป็นไปในทางที่ดี และแม่ที่คอยกดดันบงการชีวิตเธอ เรื่องนี้ถ่ายทอดก้นบึ้งของความเศร้า ของผู้หญิงหนึ่งคน ที่ต้องสูญเสียเศษเสี้ยวของความรัก แต่เป็นรักที่ยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังที่ดูเศร้า แต่ก็ยังน่าดูมากๆ เลย เรื่องนี้ได้ วาเนสซา เคอร์บี ไชอา ลาบัฟ และผู้กำกับ กอร์เนล มุนดรักโซ และสร้างโดย มาร์ติน สกอร์เซซี่
2. The White Tiger (พยัคฆ์ขาวรำพัน) : กำหนดเข้าฉาย 22 มกราคม ปี 2021
หนังตลกร้ายสร้างจากนิยายชื่อดัง และได้รับรางวัล Man Booker Prize ประจำปี 2008 ที่พูดถึงเรื่องราวของ บัลราม ฮาลไว เด็กบ้านนอกที่มีฐานะยากจน แต่สุดท้ายกลับกลายมาเป็นนักธุรกิจ และชีวิตประสบความสำเร็จในประเทศอินเดีย ที่มีการแบ่งชนชั้นกันอย่างชัดเจน เขาได้เริ่มต้นจากการเป็นคนขัยรถให้กับ อโชก และ พิงกี้ ที่กลับมาจากอเมริกาพร้อมความร่ำรวย ซึ่งเขาก็ได้ค่อยๆ เรียนรู้กับการทำงานจากคนรับใช้ จนโดนหักหลัง และคิดตัวเองหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง แต่การเอาตัวรอดที่ไม่ธรรมดาของเขาเอง จึงทำให้ บัลราม ฮาลไว ก้าวข้าวความเหลื่อมล้ำ และลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
3. Penguin Bloom (เพนกวิน บลูม) : กำหนดเข้าฉาย 27 มกราคม ปี 2021
เรื่องราวดราม่า สร้างจากเรื่องจริงของ ซาแมนธา บลูม โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 2013 ที่เธอและสามี คาเมรอน พร้อมลูกชายอีกคน ทั้งสามเดินทางจากบ้านที่ออสเตรเลีย เพื่อมาพักผ่อนยังประเทศไทย และในช่วงที่กำลังชมวิวอย่างมีความสุขนั้น ซาแมนธา ก็ไม่ได้พลัดตกจากจุดชมวิว เนื่องจากราวกั้นที่เก่าแล้ว เหตุการณ์นั้นทำให้เธอกระดูกสันหลังหักทันที 2 จุด ส่งผลให้เธอเป็นอัมพาตตั้งแต่หน้าอกลงไป ซาแมนธา ผู้ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งจึงมีสภาพจิตใจที่ตกต่ำทันที จนถึงขั้นซึมเศร้า และมองถึงปัญหาการเป็นอยู่ของตัวเอง จนกระทั่งเวลาผ่านไป จนมีวันหนึ่งที่ลูกชายเธอนำลูกนกสาลิกาบาดเจ็บกลับมายังบ้าน และเธอตั้งชื่อให้ว่า “เพนกวิน” หลังจากการเลี้ยงดู เธอก็เริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น และพบกับความหวังใหม่อีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาเป็นปกติให้ได้
4. Red Dot (เป้าตาย) : กำหนดเข้าฉาย 11 กุมภาพันธ์ ปี 2021
“เป้าตาย (Red Dot)” เป็นหนังแอ็คชั่น ระทึกขวัญมาจากฝั่งสวีเดน ที่เล่าเรื่องท่ามกลางเทือกเขาในประเทศ โดยเป็นเรื่องราวของดาวิดและนัดยา สองสามีภรรยาที่กำลังประสบปัญหาชีวิตคู่ ในวัยเพียง 20 ปลายๆ เมื่อนัดยาตั้งท้อง ทั้งสองจึงต้องกลับมาปรับความเข้าใจกันใหม่ เพื่อให้หวานชื่นได้อีกครั้ง และตัดสินใจไปเที่ยวกันบนเทือกเขาทางตอนเหนือ ของประเทศสวีเดน แต่หลังจากมีเรื่องทะเลาะกันกับนักล่าสัตว์ 2 คน จากการมาเที่ยวปรับความเข้าใจ ได้กลายเป็นเรื่องราวหายนะทันที เริ่มจากมีจุดเลเซอร์สีแดงปรากฏขึ้นในเต็นท์ ทำให้ทั้งสองต้องหนีเข้าไปในป่าลึก และอยู่กันอย่างลำพัง พร้อมกับการหนีตายจากมือปืน และอดีตที่เข้ามาหลอกหลอนเขาทั้งคู่อีกครั้ง
5. Odio, de Dani Rovira (ดานี โรวิรา: เกลียดให้หนำขำให้เหนื่อย) : กำหนดเข้าฉาย 12 กุมภาพันธ์ ปี 2021
เรื่องราวของหนุ่มนักแสดง ดานี่ โรวิร่า ที่ได้นำเสนอมุมมองการแสดงของมนุษย์ ผ่านการพูดเดี่ยวโชว์ อย่างตรงไปตรงมา และความบ้าบอในตัวจากโรงละครโซโหในมะละกา ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นหนังตลก ที่เล่าหลายๆ อย่างมาผสมกัน ถ้าคุณเป็นมังสวิรัติ เลี้ยงสุนัขหรือแมว ชอบเข้าไปส่อง Instagram กำลังปรับปรุงบ้าน เป็นแม่คน หรือเป็นแอนโตนิโอ แบนเดอรัสตัวจริง ชอบใช้แอปหาคู่ หรือเป็นคนใจร้อน ก็เตรียมตัวไว้ได้เลย
6. I Care A Lot (ห่วง… แต่หวังฮุบ) : กำหนดเข้าฉาย 19 กุมภาพันธ์ ปี 2021
หนัง Comedy Thriller เกี่ยวกับเรื่องการเงิน และการปกครอง โดยเล่าเรื่องราวของ มาร์ลา เกรย์สัน (โรซามันด์ ไพค์) ผู้ปกครองตามกฎหมาย ที่กำลังประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะว่าชอบใช้ช่องทางกฎหมาย หาเงินมาเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง และได้พบเจอกับลูกความที่ใสซื่อ (ไดแอน วีสต์) ผู้ที่เก็บความลับที่แสนอันตรายเอาไว้ มาร์ลาและพาร์ทเนอร์ (เอซ่า กอนซาเลซ) ผู้ที่รู้เรื่องนี้ด้วย จึงไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้ และต้องเปิดศึกกับคู่แข่งไปโดยปริยาย
7. Call Me Crazy (บ้า… ก็บ้ารัก) : กำหนดเข้าฉาย 26 กุมภาพันธ์ ปี 2021
หนังโรแมนติก-คอมแมนดี้เรื่องนี้ ได้เล่าถึงเรื่องราว หลังจากที่ชายหนุ่ม กับหญิงสาวได้ผ่านค่ำคืนอันร้อนแรงไปด้วยกัน โดยคาร์ล่า (ซูซานา อาไบตูอา) ผู้ที่มีความลึกลับ และเป็นคนที่เข้าใจยากเหลือเกิน แถมยังต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช กับอาดรี้ (อัลวาโร เซอร์วานเตส) ชายหนุ่มที่หลงรักเข้าอย่างเต็มตัว และได้ตามหาคาร์ล่า เพื่อที่จะได้อยู่และได้เจอเธออีกครั้ง จนตามเข้าไปอยู่กับเธอได้ด้วยการขอเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช แต่เมื่อผ่านไปเขาก็พบว่า การที่เข้ามาในนี้ และจะออกไปนั้น มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เรื่องราวความป่วนจึงเริ่มต้นขึ้น
แล้วทั้งหมดนี้ ก็เป็นหนัง Netflix ที่ดีที่สุด และกำลังฮิตอยู่ในตอนนี้ 10 เรื่อง ซึ่งบางเรื่องอาจจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ที่มีหนังเข้ามาใหม่ หรือมีเรื่องอื่นขึ้นมาแทนก็ได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องที่จะเข้ามาใหม่ในเดือน มกราคม ปี 2021 นี้ จนถึงเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2021 ก็มีหนังที่น่าสนใจถึง 7 เรื่องเลยที่น่าสนใจ ใครเป็นคอหนัง ก็ต้องห้ามพลาดเด็ดขาดเลย หนังที่เลือกมาแนะนำนั้น เป็นหนัง และซีรีส์ที่น่าสนใจ ซึ่งบางเรื่องอาจจะไม่ได้ติดอันดับฮิตด้วย แล้วถ้ามีการอัพเดทใหม่ๆ และมีเรื่องไหนมาใหม่อีก เราก็จะมาบอกกันเรื่อยๆ เลยนะครับ