แนะนำมือถือกันน้ำ IP67/68 จะเอาไปลุยสงกรานต์ก็ได้ หรือจะเอาไปเที่ยวทะเลก็ดี ไม่ต้องกลัวพังง่ายๆ อีกต่อไป เพราะอีกไม่นานก็จะถึงเทศกาลสงกรานต์กันแล้ว และหลังจากที่อัดอั้นไม่ได้เล่นน้ำมาหลายปี รวมกับสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นมา ทางผู้เขียนมั่นใจเลยว่าต้องมีคนเล่นน้ำแบบจัดเต็มกันแน่ ซึ่งเวลาไปงานสงกรานต์สิ่งหนึ่งที่ทำให้กังวลกันก็คือโทรศัพท์มือถือจะเปียกน้ำแล้วพัง ซึ่งสำหรับคนที่ใช้มือถือระดับเรือธงก็เรียกได้ว่าหายห่วง แต่กับคนที่ใช้รุ่นระดับกลางลงมาน่าจะต้องมีปัญหากันบ้างเพราะเครื่องไม่ได้มีมาตราฐานกันน้ำ หรือถ้ามีก็จะเป็นแค่กันละอองน้ำเฉยๆ ดังนั้นวันนี้เราเลยจะมาแนะนำมือถือที่ได้มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่นระดับ IP67/68 ให้แก่เพื่อนๆ กัน
IP Rate คืออะไร
ก่อนที่เราจะไปดูกันว่ามือถือที่มีมาตราฐานกันน้ำ IP67/68 นั้นมีรุ่นไหนบ้าง ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวมาตราฐานนี้ก่อน เพราะเมื่อทางแบรนด์เคลมว่าสามารถกันน้ำได้ มี IP Rate ต่างๆ ก็อาจทำให้เข้าใจว่าเครื่องนั้นสามารถกันน้ำได้ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วตัวเลขมาตราฐานนนี้มีไว้เพื่อบ่งบอกว่าตัวเครื่องสามารถทนน้ำได้นานแค่ไหนก่อนที่น้ำจะเข้าเครื่อง โดยตัวเลขที่บ่งบอกระดับการกันน้ำจะดูที่ตัวเลขหลังหรือ IPX แล้วตามด้วยตัวเลข ยิ่งเลขมากยิ่งกันน้ำได้ดี ซึ่งตัวเลขจะมีทั้งหมด 11 ระดับดังต่อไปนี้
ระดับ | ความหมาย |
---|---|
0 | ไม่ทนน้ำเลย |
1 | ทนหยดน้ำในแนวตั้ง |
2 | ทนหยดน้ำในแนวเฉียง 15 องศา |
3 | ทนละอองน้ำในแนวเฉียง 60 องศา |
4 | ทนละอองน้ำรอบทิศทาง |
5 | ทนแรงฉีดน้ำรอบทิศทาง |
6 | ทนแรงฉีดน้ำแบบรุนแรงรอบทิศทาง |
6K | ทนแรงฉีดน้ำแรงดันสูงรอบทิศทาง |
7 | ทนน้ำลึก 1 เมตร นาน 30 นาที |
8 | ทนน้ำได้ลึกกว่า 1 เมตร (มาตรฐานตามที่ละแบรนด์กำหนด) |
9K | ทนแรงดันน้ำสูงพิเศษ ที่อุณหภูมิน้ำสูงสุด 80 °C |
ซึ่งมือถือที่มี IP Rate นั้นในปัจจุบันนี้จะมีสูงสุดอยู่ที่ IPX8 และในบทความนี้เราจะมาแนะนำมือถือที่ได้มาตราฐาน IPX7 และ IPX8 เท่านั้น รวมถึงต้องมีราคาตั้งแต่ 10,000 แต่ไม่เกิน 20,000 บาท ด้วย ซึ่งถ้าหากถามว่าแล้วแล้วที่ราคาต่ำกว่านี้มีไหม ก็ต้องบอกเลยว่ามี แต่จะเป็นแค่ระดับไม่เกิน IPX3 หรือรวมๆ ก้คือกันได้แค่ละอองน้ำหรือกันฝนได้นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น ถ้าโดนสาดเข้าไปก็ไม่เหลือเช่นกัน โดยมือถือที่มี IP Rate ในระดับ IPX7 หรือ IPX8 ในปัจจุบันจะอยู่ในหัวข้อต่อไป
รายชื่อมือถือกันน้ำที่มีมาตราฐาน IP67 / IP68
1. iPhone SE 2022
iPhone SE คือ iPhone รุ่นเล็กราคาประหยัดที่ Apple เปิดตัวมาเพื่อคนที่ต้องการมือถือขนาดเล็ก ราคาถูก หรือจะเป็นคนที่อยากลองเปลี่ยนมาใช้ iPhone แต่ไม่อยากจ่ายแพงๆ โดยใน iPhone SE นั้นจะเป็น iPhone ที่ใช้ดีไซน์ของ iPhone 8 ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างเก่า แต่ก็ทดแทนด้วยการใส่สเปคที่จัดเต็มไม่แพงรุ่นปกติเลย ซึ่ง iPhone SE 2022 จะมีความสามารถในการกันน้ำมาตราฐาน IP67 ทำให้สามารถใช้งานได้แม้โดนน้ำสาดใส่ รวมถึงถ้ากล้าๆ หน่อย ก็สามารถเอาลงไปถ่ายใต้น้ำเป็นระยะเวลาสั้นๆ ได้ด้วยนะ
2. Nokia X30 5G
ต่อมาคือมือถือสาย Stock Android อย่าง Nokia X30 5G ที่มาพร้อมกับความคลีนของเครื่องที่สูญเสียพื้นที่เก็บข้อมูลให้กับระบบน้อย หน่วยความจำขนาดใหญ่ถึง 256GB กล้องที่มีเฉพาะที่จำเป็นอย่างกล้อง Wide และกล้อง Ultra-wide รวมถึงมีระบบชาร์จเร็วขนาด 33W เรียกได้ว่าทาง Nokia ใส่มาเฉพาะเท่าที่ใช้ประโยชน์ได้จริงเท่านั้น ซึ่งที่สำคัญที่สุดคือ X30 5G มาพร้อมมาตราฐานกันน้ำ IP67 ที่ปกติหาไม่ได้ในมือถือแบรนด์ Nokia ทำให้ X30 5G เป็นเครื่องเดียวของ Nokia ในตอนนี้ที่สามารถกันน้ำได้
3. Samsung Galaxy A34 5G
มาที่ฝั่ง Samsung กันบ้าง โดยเริ่มจากตัวถูกสุดที่มาราคาหมื่นต้นๆ อย่าง Galaxy A34 5G ที่พึ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน ผู้มาพร้อมกับสเปคที่เรียกได้ว่าเกินราคาไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120Hz ชิป Dimensity 1080 กล้อง 48MP และดีไซน์ที่เหมือนรุ่นเรือธง แต่ที่น่าสนใจคือการที่มาพร้อมาตราฐานกันน้ำ IP67 ทำให้ Galaxy A34 5G เป็นมือถือที่มีมาตราฐาน IP67 ที่ถูกที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้เลย
4. Samsung Galaxy A54 5G
รุ่นน้องมี รุ่นพี่ก็ต้องมี กับ Samsung Galaxy A54 5G มือถือระดับกลางที่คุ้มที่สุดของ Samsung ด้วยราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่ากับสเปคที่เกือบจะถึงระดับเรือธงอยู่แล้ว ทำให้เป็นซีรี่ส์ที่ได้รับความนิยมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นหน้าอจ 120Hz ชิปประมวลผล Exynos 1380 กล้อหลัง 50MP ที่ใช้ถ่ายภาพได้ทุกเวลา รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ทั้งวันสบายๆ อีกทั้งยังมีมาตราฐาน IP67 อีกด้วย เรียกได้ว่าเป้นเครื่องที่ซื้อทีเดียวจบ ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาซื้อเรือธงเลยทีเดียว
5. Samsung Galaxy S21 FE
ปิดท้ายมือถือ Samsung ด้วยเครื่องพิเศษ Fan Edition ที่มาพร้อมสเปคเรือธงในราคาที่ถูกกว่า ถึงแม้จะเป็นเครื่องที่เปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปี 2022 ก็ตาม แต่สเปคที่มห้มาก็ไม่ได้ด้อยกว่ารุ่นใหม่ๆ เลย ซึ่งแน่นอนว่าการที่เป็์นคลาสเรือธงก็ทำให้ตัวเครื่องได้มาตราฐานกันน้ำมาด้วเช่นกัน แต่ที่เหนือไปกว่ารุ่นอื่นๆ ก็คือมาตราฐานกันน้ำ IP68 หมายความว่าซีลกันน้ำดีกว่ารุ่นอื่นๆ ทำให้สามารถกันน้ำได้ในระดับที่ลึกกว่านั่นเอง หมายความว่า Galaxy S21 FE สามารถเอาไปลุยได้มากกว่ารุ่นอื่นๆ นั่นเอง
6. Sony Xperia 10 IV
ปิดท้ายหัวข้อด้วยมือถือตัวเริ่มต้นจาก Sony อย่าง Xperia 10 IV ที่มาพร้อมสเปคและราคาเพื่อเหล่าแฟนอารยธรรม โดยสเปคของ Xperia 10 IV นั้นเรียกได้ว่าด้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ในบทความนี้อย่างมากเลย แต่ด้วยความที่ Sony ทำมือถือให้กันน้ำได้มานานพอสมควรแล้ว ดังนั้นในเรื่องการประกอบ รวมถึงซีลยางต่างๆ นั้นทาง Sony จะสามารถมั่นใจได้มากกว่าแบรนด์อื่นๆ นั่นเอง ถึงจะมีจุดเสียดายที่ว่าในรุ่น Xperia 10 IV นั้นไม่มีปุ่มชัตเตอร์แยกเหมือนรุ่นพี่ ทำให้เวลาเอาไปถ่ายใต้น้ำอาจจะต้องพึ่งปุ่มปรับเสียงหรือไม่ก็ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมอื่นๆ แทน
เทียบสเปคมือถือกันน้ำที่มีมาตราฐาน IP67 / IP68
iPhone SE 2022 | Nokia X30 5G | Samsung Galaxy A34 5G | Samsung Galaxy A54 5G | Samsung Galaxy S21 FE 5G | Sony Xperia 10 IV | |
---|---|---|---|---|---|---|
ขนาด | 138.4 × 67.3 × 7.3 มม. | 158.9 × 73.9 × 7.99 มม. | 161.3 × 78.1 × 8.2 มม. | 158.2 × 76.7 × 8.2 มม. | 155.7 × 74.5 × 7.9 มม. | 153 × 67 × 8.3 มม. |
น้ำหนัก | 144 กรัม | 185 กรัม | 199 กรัม | 202 กรัม | 177 กรัม | 161 กรัม |
หน้าจอ | – Retina Display – ขนาด 4.7 นิ้ว – ความละเอียด 1,334 x 750 พิกเซล (HD) | – AMOLED – ขนาด 6.43 นิ้ว – ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล (FHD+) – Refresh Rate 90Hz – Touch Sampling Rate 240Hz | – Super AMOLED – ขนาด 6.6 นิ้ว – ความละเอียด 2,340 x 1,080 พิกเซล (FHD+) – Refresh Rate 120Hz | – Super AMOLED – ขนาด 6.4 นิ้ว – ความละเอียด 2,340 x 1,080 พิกเซล (FHD+) – Refresh Rate 120Hz | – Dynamic AMOLED 2X – ขนาด 6.4 นิ้ว – ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล (FHD+) – Refresh Rate 120Hz – Touch Sampling Rate 240Hz | – OLED – ขนาด 6 นิ้ว – ความละเอียด 2,520 x 1080 พิกเซล (FHD+) – Touch Sampling Rate 120Hz |
ชิปประมวลผล | Appel A15 Bionic | Qualcomm Snapdragon 695 5G | MediaTek Dimensity 1080 | Samsung Exynos 1380 | Samsung Exynos 2100 | Qualcomm Snapdragon 695 5G |
แรม / หน่วยความจำ (GB) | – 4/64 – 4/128 – 4/256 | 8/256 | 8/128 | 8/128 | 8/256 | 6/128 |
กล้องหลัง | 12MP, f/1.8 | – 50MP, f/1.9, OIS – 13MP, f/2.4, 123˚ (ultrawide) | – 48MP, f/1.8, OIS – 8MP, f/2.2, 123˚, (ultrawide) – 5MP, f/2.4, (macro) | – 50MP, f/1.8, OIS – 12MP, f/2.2, 123˚, (ultrawide) – 5MP, f/2.4, (macro) | – 12MP, f/1.8, OIS – 12MP, f/2.2, 123˚, (ultrawide) – 8MP, f/2.4, (telephoto) | – 12MP, f/1.8, OIS – 8MP, f/2.2, 120˚, (ultrawide) – 8MP, f/2.2, (telephoto) |
กล้องหน้า | 7MP, f/2.2 | 16MP, f/2.4 | 13MP, f/2.2 | 32MP, f/2.2 | 32MP, f/2.2 | 8MP, f/2.0 |
แบตเตอรี่ | – 2,018 mAh – 18W PD | – 4,200 mAh – 33W PD | – 5,000 mAh – 25W AFC | – 5,000 mAh – 25W AFC | – 5,000 mAh – 25W AFC | – 5,000 mAh – 21W PD |
IP Rate | IP67 | IP67 | IP67 | IP67 | IP68 | IP68 |
ราคา (บาท) | – 64GB : 15,900 – 128GB : 17,900 – 256GB : 21,900 | 16,990 | 11,999 | 13,999 | 19,900 | 16,990 |
ขอทิ้งท้ายด้วยเรื่องที่ว่าหากมือถือโดนน้ำ สิ่งที่ต้องทำก็คือรีบๆ ทำให้แห้ง ไม่ว่าจะด้วยการเอาผ้าเช็ดหรือเอาลมเป่าก็ตาม แต่สำหรับ iPhone แล้ว หนึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาเลยก็คือการที่น้ำเข้าลำโพงแล้วเอาออกไม่ได้ แต่ก็ไม่ต้องกลัวไปเพราะ iPhone สามารถไล่น้ำออกจากตัวเองได้ ด้วยวิธีดังนี้ น้ำเข้าลำโพงไอโฟน มาดูวิธีไล่น้ำออกจากลำโพง iPhone ด้วยตัวเองง่ายๆ ฟรี!