Samsung Galaxy A34 5G สมาร์ทโฟนรุ่นกลางในราคาหมื่นต้นๆ รุ่นล่าสุดของ Samsung ที่เปิดตัวมาพร้อม Samsung Galaxy A54 5G ซึ่งเราได้ทำการรีวิวไปแล้ว และคราวนี้ก็มาถึงคิวของ Galaxy A34 5G ที่เป็นรุ่นรองลงมากันบ้าง โดยความน่าสนใจของเครื่องนี้ก็คือการที่ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 1080 ซึ่งเป็นชิประดับกลางรุ่นล่าสุดจาก MediaTek และด้วยราคาค่าตัวเพียง 11,999 บาท ทำให้เป็นอะไรที่น่าดึงดูดใจมาก ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า Galaxy A34 5G เครื่องนี้นั้นมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
สเปคของ Samsung Galaxy A34 5G
- หน้าจอ : Super AMOLED, ขนาด 6.6 นิ้ว, ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1000 nits, รองรับ Vision Booster, ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 1080
- แรม : 8GB + RAM Plus สูงสุด 8GB
- หน่อยความจำ : 128GB รองรับ Micro SD Card สูงสุด 1 TB
- กล้องหลัง : รองรับระบบ VDIS 500 Hz
- ตัวที่ 1 : 48MP, f/1.8, PDAF, OIS (wide)
- ตัวที่ 2 : 8MP, f/2.2, 123˚(ultrawide)
- ตัวที่ 3 : 5MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 13MP. f/2.2
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 25W Adaptive Fast Charging
- ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
- การเชื่อมต่อ :
- 5G Sub-6GHz
- Wi-Fi 5 (802.11 a/b/g/n/ac)
- Bluetooth 5.3
- GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
- NFC
- USB Type-C 2.0
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Fingerprint Sensor (ใต้หน้าจอ)
- Gyro Sensor
- Geomagnetic Sensor
- Hall Sensor
- Light Sensor
- Virtual Proximity Sensing
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP67 (ลึก 1 เมตร นาน 30 นาที)
- ขนาด : 161.3 x 78.1 x 8.2 มม.
- น้ำหนัก : 199 กรัม
- สี : Black, Purple, Aura Silver
- ราคา : 11,999 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
มาที่เรื่องดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลย โดยตัวเครื่องนั้นจะใช้วัสดุเป็นพลาสติกที่ให้ผิวสัมผัสเหมือนกระจก ซึ่งหน้าตาด้านหลังตัวเครื่องนั้นจะเป็นดีไซน์เดียวกันหมดตั้งแต่ Galaxy A14 ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นไปยัน Galaxy S23 Series ที่เป็นรุ่นเรือธง ทำให้ดีไซน์ตกยุคได้ยาก ซึ่งตัว Galaxy A34 5G นั้นจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ Black, Purple และ Aura Silver โดยที่ทางทีมงาน Specphone เราได้มานั้นจะเป็นสี Aura Silver กล้องหลังมีการจัดเรียงเป็นแนวตั้งอยู่ที่มุมบนซ้าย และจะมีไฟแฟลช LED วางอยู้ด้านข้าง
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นจะเป็นหน้าจอ Infinity-U Display ที่เป็นพาแนล Super AMOLED มีขนาดจอแสดงผลอยู่ที่ 6.6 นิ้ว และมีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ Full-HD+ พร้อมด้วยอัตรารีเฟรชที่ 120Hz แต่ที่น่าสนใจคือความสว่างหน้าจอที่สูงถึง 1,000 nits ด้วยเทคโนโลยี Vision Booster แบบเดียวกับที่อยู่ใน Galaxy A54 5G นอกจากนี้ยังเป็นหน้าจอ Infinity-U ที่ขอบบางมากๆ เลยด้วย
สำหรับขอบตัวเครื่องจะมาเป็นขอบเหลี่ยมตามพิมพ์นิยม เป็นขอบที่มีความเงานิดๆ โดยที่ด้านบนจะมีช่องใส่ซิมแบบ Hybrid-slot และไมโครโฟนสำหรับตัดเสียง ส่วนที่ด้านล่างจะมีพอร์ต USB Type-C, ลำโพง และไมโครโฟน สำหรับปุ่มต่างๆ นั้นจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวาของตัวเครื่องทั้งหมด
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการที่มาในกล่องจะเป็น One UI 5.1 ที่เป็น Android 13 ถึงตัว UI ต่างๆ จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแต่ตั้งแต่ One UI 5.0 ขึ้นมา ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเครื่องได้มากขึ้นผ่านแอปฯ Good Lock ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Galaxy Store
การใช้งานทั่วไปและการชาร์จ
ในด้านการใช้งานนั้นบอกเลยว่าด้วยหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ทำให้เห็นอะไรๆ ได้เต็มตา แถมสำหรับคนมือใหญ่ยังสัมผัสปุ่มได้ง่ายอีกด้วย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการจับถือต้องบอกเลยว่าขนาดตัวเครื่องนั้นค่อนข้างใหญ่ ทำให้อาจจะไม่สามารถถือมือเดียวเล่นได้ง่ายนัก และถ้ายิ่งใส่เคสหนาๆ เพิ่มเข้าไปก็จะทำให้เล่นด้วยมือเดียวยากขึ้นอีก ดังนั้นถ้าจะให้ดีอาจจะต้องหาเคสบางๆ มาใส่แทน สำหรับในเรื่องความบันเทิงนั้นต้องเลยเลยว่าได้แบบจัดเต็มมากไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Super AMOLED 120Hz ที่มีสีสันสวยสดและลื่นไหล รองรับ Widevine ระดับ L1 และมีลำโพงคู่สเตอร์โอ ทำให้สามารถดูหนังหรือดูคลิปต่างๆ ได้อย่างคมชัดและเต็มตา
ในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่ให้มากับชิปประมวลผล Dimensity 1080 และหน้าจอเทคโนโลยี Vision Booster ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งวันแบบสบายๆ แถมเวลาใช้งานหนักๆ ก็ไม่ค่อยร้อนด้วย สำหรับการชาร์จนั้นเราเริ่มชาร์จตอนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง (ชาร์จในสภาพปิดเครื่องไว้แบบนั้น) ด้วยอะแดปเตอร์ชาร์จขนาด 25W ของ Samsung โดยใน 10 นาทีแรก แบตเตอรี่ขึ้นมาเป็น 17% และขึ้นมาถึง 50% ภายในเวลา 28 นาที เมื่อรวมระยะเวลาชาร์จจาก 0% – 100% จะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 18 นาที
การเล่นเกม
ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นด้วยชิปประมวลผล Dimensity 1080 นั้นทำให้สามารถเอา Galaxy A34 5G เครื่องนี้ไปเล่นเกมมือถือในปัจจุบันได้ทุกเกม ถึงอาจจะไม่สามารถและไม่เหมาะสมที่จะปรับกราฟิกสูงสุด แต่ก็เรียกได้ว่าเล่นได้ครอบคลุมทุกเกมจริงๆ โดยจากที่เราได้ลองเอามาเล่นทั้ง RoV, Free Fire, PUBG Mobile, Kart Rider : Drift และ Genshin Impact ซึ่งจากที่ได้ลองเล่นนั้นก็สามารถเล่นได้ลื่นๆ เลย แต่ Genshin Impact นั้นไม่แนะนำให้ปรับกราฟิกสูงกว่า “ต่ำ” เพราะจะทำให้ตัวเครื่องร้อนเร็วและยังมีอาการภาพสะดุดอีกด้วย นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ Galaxy A34 5G แตกต่างจาก Galaxy A54 5G ก็คือเกม PUBG Mobile ที่เมื่อปรับกราฟิก “ดี” จะสามารถดันเฟรมเรทได้สูงถึงระดับ Extreme เลย ในขณะที่ Galaxy A54 5G ทำได้แค่ High เท่านั้น
การถ่ายภาพ
ในส่วนของการถ่ายภาพนั้นตัว Galaxy A34 5G จะมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 เลนา์ และกล้องหน้า 1 เลนส์ ที่ปนะกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP, กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8MP, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP และกล้องเซลฟี่ความละเอียด 13MP โดยจากที่ได้ลองถ่ายดูนั้นต้องบอกเลยว่าทาง Samsung ทำกล้องออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็ฯการถ่ายภาพตอนกลางวันหรือตอนแสงน้อย ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน แต่สิ่งที่เจอก็คือกล้องหน้าตอนเซลฟี่บางครั้งจะเกิดแสงโอเวอร์ ซึ่งคาดว่าทาง AI จะพยายามดันแสงที่ตัวแบบให้สว่างที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทำให้พื้นหลังสว่างเกินไปด้วย นอกจากนี้ในการถ่านเซลฟี่ตอนกลางคือจะเกิดนอยซ์แบบชัดเจนจนทำให้คุณภาพของภาพดรอปลงไปพอสมควร ถ้าให้สรุปสั้นๆ ก็คือกล้อหลังสามารถใช้ถ่ายได้ทุกสภาพแสง ส่วนกล้องหน้าแนะนำมห้ถ่ายในที่ๆ มีแสงสว่างเพียงพอจะดีกว่า
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว Samsung Galaxy A34 5G
สรุปการรีวิวจากการที่ได้เอาไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นต้องบอกเลยว่า Samsung Galaxy A34 5G เป็นเครื่องที่คุ้มราคาค่าตัว 11,999 บาทอย่างมาก เพราะสเปคหลายๆ อย่างที่ให้มานั้นเกินพอมากๆ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องงการมือถือที่สามารถทำได้ทุกอย่างในราคากำลังดี และด้วยชิปประมวลผล Dimensity 1080 ทำให้ตัวเครื่องมีอายุการใช้งานต่อ 1 การชาร์จที่นานขึ้นอีกด้วย ซึ่ง Samsung Galaxy A34 5G เครื่องนี้เป็นเครื่องที่เหมาะอย่างยิ่งยวดกับกลุ่มวันรุ่น-วัยทำงานที่ต้องการมือถือดีๆ สักเครื่องในราคาที่ไม่ได้โหดเกินไป ใครที่สนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่ samsung.com/th และตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ได้แล้ววันนี้
จุดเด่น
- มีราคาที่ไม่ได้แพงจนเกินไป
- ดีไซน์ที่ไม่ดูล้าสมัยถึงแม้จะใช้ไปเป็นปีแล้วก็ตาม
- วัสดุให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมทั้งๆ ที่เป็นพลายติก
- ได้ชิปประมวลผล Dimensity 1080 ที่เป็นชิปรุ่นใหม่ล่าสุด
- ได้มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP67
ข้อสังเกต
- เลนส์กล้องหลังที่นูนขึ้นมาทำให้วางเรียบไปกับพื้นผิวไม่ได้หากไม่ใส่เคส
- จำเป็นต้องเลือกระหว่าง SIM2 หรือ MicroSD
- กล้องหน้า 13MP ไม่สมควรเอาไปถ่ายในที่แสงน้อย