Samsung Galaxy A31 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นกลางอีกรุ่นที่น่าสนใจของทาง Samsung มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องกล้อง ที่มาพร้อมกับกล้องทั้งหมด 5 ตัว ฟีเจอร์ถ่ายรูปที่หลากหลาย รับรองว่าตอบโจทย์ Lifestyle ของกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งราคาค่าตัวก็ไม่ได้สูงจนเกินไป กับราคาเริ่มต้น 7,990 บาท โดยในบทความนี้ จะมีการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy A31 กับรุ่นที่อยู่ในช่วงราคาใกล้ ๆ กัน ซึ่งก็คือในช่วงราคาต่ำกว่า 10,000 บาทนั่นเองครับ
สเปค Samsung Galaxy A31
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio P65 (8 คอร์ ความเร็ว 2.0 GHz) ชิปกราฟิก Mali-G52
- แรม 4 GB/ 6 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 64GB/ 128 GB เพิ่ม MicroSD ได้อีก 512 GB
- หน้าจอ Super AMOLED แบบ Infinity U ขนาด 6.4″ ความละเอียดระดับ Full HD+ (2400 x 1080)
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก 48MP f/2.0
- เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP f/2.2
- เลนส์มาโคร 5MP f/2.4
- เลนส์ depth 5MP f/2.4
- กล้องหน้า 20MP f/2.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้จอ
- ใส่นาโนซิมได้ 2 ซิม รองรับ 4G LTE และ VoLTE ทั้ง 2 ซิม
- WiFi ac 2.4 + 5 GHz
- Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W
- ชาร์จไฟผ่านช่อง USB-C
- Android 10 ครอบด้วย One UI 2.1
- ราคา 7,990/ 8,999 บาท
- สเปคเต็ม ๆ Samsung A31
สำหรับฮาร์ดแวร์กล้องของ Samsung Galaxy A31 นะครับ เริ่มกันที่กล้องหลังก่อนเลย ด้วยการที่มีให้มาถึง 4 เลนส์ ทำให้ลูกเล่นในการถ่ายภาพนั้นเยอะมาก ๆ โดยสามารถสลับระหว่างเลนส์ไวด์และอัลตร้าไวด์ได้อย่างง่ายดายด้วยการกดปุ่มรูปต้นไม้ ส่วนการถ่ายมาโครก็ทำได้โดยการสลับไปใช้โหมดมาโคร นอกจากนี้ยังมีโหมดอื่นที่น่าสนใจอีกเช่น โหมด Pro สำหรับผู้ที่ต้องการกำหนดค่าในการถ่ายเอง โหมด Live Focus สำหรับการถ่ายภาพที่มีระยะชัดลึก (หลังเบลอ) เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม: รีวิว Samsung Galaxy A31 ครบครันสายโซเชียล เซลฟี่สวย แบตอึดในราคาคุ้ม ๆ
นอกจากนี้ กล้องของ Galaxy A31 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อย่าง HDR ที่ช่วยให้การถ่ายภาพ ง่ายขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะการถ่ายย้อนแสง การมี HDR ช่วยให้กล้องสามารถชดเชยรายละเอียดที่หายไปได้ จากปกติที่เวลาถ่ายภาพย้อนแสง ตัวแบบจะเกิดอาการหน้ามืด แต่ไม่ใช่กับการถ่ายด้วย Galaxy A31 อย่างแน่นอน
ภาพเปรียบเทียบ Samsung Galaxy A31 ระหว่างการถ่ายย้อนแสงแบบเปิด HDR + ชดเชยแสง กับโหมดปกติ
ส่วนภาพของเลนส์อัลตร้าไวด์ก็เป็นไปตามมาตรฐานคือคมชัดสุดที่บริเวณกลางภาพ ส่วนบริเวณขอบ ๆ ก็จะเบลอเล็กน้อย ซึ่งเป็นข้อจำกัดของเลนส์อัลตร้าไวด์ที่เก็บภาพมุมกว้างมาก ๆ อยู่แล้ว แต่ของใน A31 ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เบลอแบบเห็นได้ชัดนะ ถือว่าทำได้ดีทีเดียว
ข้อดีอีกอย่างของเลนส์มุมกว้างแบบนี้ ทำให้ในการถ่ายรูปมีมุมมองแปลก ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงนำมาใช้ในการถ่ายภาพบุคคลให้ดูขายาว ขาเรียว ตัวสูงได้อีกด้วย อย่างในภาพตัวอย่างด้านล่าง เปรียบเทียบการถ่ายในมุมช้อน การใช้เลนส์อัลตร้าไวด์ ช่วยให้นางแบบตัวสูงขึ้น
เปลี่ยนมากล้องหน้ากันบ้าง ยอมรับเลยว่าลูกเล่นของ Samsung Galaxy A31 นั้นเยอะจริง ๆ เริ่มแรกก็เรื่องโหมด Beauty ที่เปิดใช้งานอัตโนมัติให้ตั้งแต่แรก ช่วยให้เราสามารถปรับแต่งผิว แต่งหน้าเรียว แต่งตาให้ใสกันได้ โดยแต่ละค่าก็จะมีให้ปรับได้ตามความต้องการ หรือจะปรับสี คุมโทนสีในรูปก็สะดวกมาก อยากได้ภาพโทนเย็น ๆ เพื่อดับอากาศร้อนก็จัดไปได้ตั้งแต่ในแอปกล้องเลย ส่วนความสว่างก็หายห่วงครับ เพราะมีระบบ Smart AI ช่วยปรับแสงให้เหมาะสมด้วย เรียกว่าถ่ายเสร็จก็เอามาลงโซเชียลเลยก็ยังไหว
เปรียบเทียบ Samsung Galaxy A31 ในการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า ทั้งโหมดปกติ และโหมด Beauty อ่อ บอกก่อนว่านางแบบไม่ได้มีการแต่งหน้านะครับ
นอกจากการถ่ายแบบปกติแล้ว ตัวเครื่องก็ยังมีโหมดสำหรับกล้องหน้าให้ใช้งานอีก เช่น โหมดเซลฟี่มุมกว้าง จะได้เก็บวิว หรือเก็บคนอื่น ๆ ในภาพได้ครับ ถ้าต้องการถ่ายฉากหลังเบลอก็มีโหมด Live Focus ให้เช่นเดียวกับในกล้องหลัง หรือถ้าอยากใส่ลูกเล่น อยากวาดหน้าก็มีโหมด AR ให้ใช้งาน ซึ่งจะรวมอยู่ในหัวข้อ AR Zone ครับ ภายในก็จะมีทั้ง AR Sticker ให้เลือกมาแปะหน้าได้ รวมถึงยังมี AR Doodle ที่สามารถวาดหน้าได้ตามต้องการ จะถ่ายเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอก็สะดวกสุด ๆ
อีกข้อที่ลืมไม่ได้ก็คือเรื่องความง่ายในการถ่ายเซลฟี่ เพราะผู้ใช้สามารถยกมือขึ้นมา แล้วแบมือ 5 นิ้วเพื่อสั่งถ่ายรูปได้เลย ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเกร็งนิ้วเพื่อกดปุ่ม ไม่ต้องใช้สายตาเพ่ง ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูเกร็ง หรือสายตาอยู่ผิดตำแหน่งเวลาถ่ายได้ งานนี้บอกเลยว่าได้ภาพตรงใจง่ายขึ้นแน่นอน
เปรียบเทียบ Samsung Galaxy A31 vs OPPO A92 vs Vivo Y50
อย่างไรก็ตาม ในช่วงราคาค่าตัวของ Galaxy A31 รุ่น RAM 6GB/ ROM 128GB ก็ยังมีสมาร์ตโฟนอีกสองรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้แก่ OPPO A92 และ Vivo Y50 เมื่อเปรียบเทียบ Samsung Galaxy A31 กับอีกสองรุ่นในด้านสเปคแล้วก็จะได้ผลออกมาดังนี้ครับ
Samsung Galaxy A31 OPPO A92 Vivo Y50 หน้าจอ หน้าจอ Super AMOLED
ขนาด 6.4 นิ้ว
ความละเอียด Full HD+
สแกนนิ้วใต้หน้าจอหน้าจอแบบ Neo – Display IPS LCD
ขนาด 6.5 นิ้ว
ความละเอียด Full HD+หน้าจอแบบ Ultra O Screen
ขนาด 6.53 นิ้ว
ความละเอียด Full HD+ชิปประมวลผล MediaTek MT6768 Helio P65 Qualcomm Snapdragon 665 Qualcomm Snapdragon 665 ชิปประมวลผลกราฟฟิก (GPU) Mali-G52 Adreno 610 Adreno 610 กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล 16 ล้านพิกเซล 16 ล้านพิกเซล กล้องหลัง กล้องหลัง 4 เลนส์
– กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/2.0
– กล้องมุมกว้าง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
– กล้อง Macro 5 ล้านพิกเซล f/2.4
– กล้อง Depth 5 ล้านพิกเซล f/2.4กล้องหลัง 4 เลนส์
– กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.7
– กล้องมุมกว้าง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2
– กล้อง B/W 2 ล้านพิกเซล f/2.4
– กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล f/2.4กล้องหลัง 4 เลนส์
– กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2
– กล้องมุมกว้าง Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
– กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
– กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4RAM และ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล RAM 6 GB, ROM 128 GB RAM 8 GB, ROM 128 GB RAM 8 GB, ROM 128 GB หน่วยความจำภายนอก รองรับ MicroSD Card 512GB รองรับ MicroSD Card 256GB รองรับ MicroSD Card 256GB ระบบปฏิบัติการ One UI 2.0 บนพื้นฐาน Android 10 ColorOS 7.1 บนพื้นฐาน Android 10 Funtouch OS 10 บนพื้นฐาน Android 10 แบตเตอรี่ 5000 mAh
รองรับชาร์จเร็ว 15W5000 mAh
รองรับชาร์จเร็ว 18W5000 mAh
ระบบชาร์จ 10Wระบบความปลอดภัย เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง NFC รองรับ ไม่รองรับ ไม่รองรับ การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4 + 5GHz
Bluetooth 5.0
USB type-C
NFC
GPS, Galileo, Glonass, BeiDouWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4 + 5GHz
Bluetooth 5.0
USB type-C
GPS, Galileo, Glonass, BeiDouWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4 + 5GHz
Bluetooth 5.0
USB type-C
GPS, BeiDou, GLONASS, Galileoราคา 8,999 บาท 8,999 บาท 7,999 บาท
ตารางเปรียบเทียบ Samsung Galaxy A31 กับ OPPO A92 และ Vivo Y50 ด้านบน เป็นเพียงการเปรียบเทียบสเปคที่เป็นหน้าสเปคกระดาษเพียงเท่านั้น ไม่รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่แต่ละรุ่นมีให้เลือกใช้งานกัน ถ้าจะสรุปให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ก็จะออกมาประมาณนี้ครับ
ต้องการสมาร์ตโฟนที่เน้นถ่ายรูปเป็นหลัก ถ่ายรูปอัพลงโซเชียล ผมมองว่าตัวเลือกที่ดีที่สุดในบรรดาทั้ง 3 รุ่นก็คงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy A31 ด้วยฟีเจอร์กล้องที่หลากหลายที่สุด รวมถึงใครที่เป็นสายเซลฟี่ กล้องหน้าของ Samsung A31 ก็มีความละเอียดมากที่สุดเช่นกัน ทำให้ได้ภาพเซลฟี่ที่คมชัด เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนมากที่สุด ยังไม่รวมพวกฟีเจอร์อย่าง AR Doodle ที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับคอนเทนต์วิดีโอได้อีก
ต้องการสมาร์ตโฟนที่เน้นเรื่องการเล่นเกม จากที่ผมได้มีโอกาสทดสอบสมาร์ตโฟนทั้ง 3 รุ่น ในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน รุ่นที่เล่นเกมได้ดีที่สุด เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ OPPO A92 > Samsung Galaxy A31 > Vivo Y50 ตรงนี้ถึงแม้ชิปประมวล หรือ CPU ของทั้ง OPPO และ Vivo จะเป็นรุ่นเดียวกัน แต่ในแง่ของการตอบสนองหน้าจอ ผมมองว่า OPPO A92 ทำได้ดีกว่า ส่วน Samsung A31 อันที่จริงก็ถือว่าทำได้ใกล้เคียงกับ OPPO A92 ตัวชิปเซ็ต MediaTek Helio P65 นั้นถือว่าแรงใช้ได้เลย แต่ที่แพ้ให้กับ OPPO A92 จะเป็นเรื่องของระบบชาร์จไฟ ที่ Galaxy A31 ชาร์จไฟกลับได้ช้ากว่าเล็กน้อย และ RAM ที่น้อยกว่า
ต้องการสมาร์ตโฟนที่เน้นดูหนัง ฟังเพลง ข้อนี้ในภาพรวมก็คงต้องยอม Samsung Galaxy A31 ด้วยความที่ใช้หน้าจอ Super AMOLED ล่ะครับ เลยทำให้ในการรับชมภาพยนตร์ หรือการดูหนังทำได้ดีกว่าอีกสองรุ่นพอสมควร หน้าจอมีความคมชัด ให้สีสันที่สดมากกว่า ส่วนเรื่องลำโพงในการฟังเพลง หากฟังด้วยลำโพงในตัวเครื่องก็ต้องยอมให้ OPPO A92 เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับลำโพงคู่ แยกเสียงซ้ายขวา แบบสเตอริโอได้ดีกว่า แต่ถ้าเรื่องความดัง ผมว่าทั้งสามรุ่นทำได้พอ ๆ กันครับ