รีวิว vivo Y76 5G สมาร์ตโฟน Y Series รุ่นท็อปสุดของซีรีส์ในปีนี้ เปิดราคาที่ 9,999 บาท สเปคเป็น RAM 8GB + 128GB ROM พร้อมรองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge และกล้องหลังที่มีด้วยกันถึง 3 กล้อง ความละเอียดสูงถึง 50MP พร้อมรองรับการใช้งาน 5G ทั้งแบบ SA / NSA
สเปค vivo Y76 5G
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 5G octa-core ความเร็ว 2.2GHz
- RAM 8GB + 4GB Extended RAM
- พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB รองรับ MicroSD
- หน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1600 x 720 pixel)
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 50MP f/1.8
- กล้องเลนส์ Bokeh 2MP f/2.4
- กล้องเลนส์ Macro 2MP f/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้า 16MP f/2.0
- รองรับ 2 ซิม ถาดซิมแบบ Hybrid Slot
- Android 11 ครอบด้วย Funtouch OS 12
- Wi-Fi 5 (2.4 + 5GHz), Bluetooth 5.1
- แบตเตอรี่ 4100 mAh พร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 44W FlashCharge
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- พอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C
- สเปคเต็ม ๆ Vivo Y76 5G
- ราคาเปิดตัว 9,999 บาท
สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของเครื่องรีวิว vivo Y76 5G ประกอบไปด้วยฟิล์มกันรอยด้านหน้าที่ติดมาให้จากโรงงาน, เคส TPU แบบใส, สายชาร์จ USB Type-A to USB Type-C, อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 44W FlashCharge พร้อมหูฟังแบบ EarBuds พอร์ต 3.5 มิลลิเมตร พร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์
วิดีโอรีวิว vivo Y76 5G
Design – การออกแบบ
ในด้านการออกแบบ vivo Y76 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่หน้าตาสวยงามรุ่นหนึ่ง โดยเฉพาะด้านหลังที่มาในดีไซน์แบบ 3D ส่งผลให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวก พื้นผิวฝาหลังเป็นแบบ AG ไม่เก็บรอยนิ้วมือ ดูแลรักษาง่าย รวมถึงสีสันตัวเครื่องที่มีความโดดเด่น แตกต่างไปจากในท้องตลาด
อย่างเครื่องรีวิว vivo Y76 5G ที่ผมได้รับมาเป็นสี Cosmic Aurora ใช้เทคนิคการเคลือบสีแบบกลิตเตอร์ผสมผสานกับคริสตัล การผสมผสานสีฟ้าและส้มอย่างลงตัว จนได้เฉดสีที่สดใส หลากหลายมิติ และเปล่งประกายทั่วทุกมุมเครื่อง เวลาที่ตัวเครื่องกระทบกับแสงก็จะให้สีที่แตกต่างกันไปในทุกมุม ส่วนอีกสีได้แก่ สีดำ Midnight Space ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประกายแสงระยิบระยับในค่ำคืนที่ดวงดาวเต็มท้องฟ้า เห็นทุกแสงสะท้อนแวววาว
งานประกอบตัวเครื่องรุ่นนี้ มีความแน่นหนา จับแล้วดูแข็งแรง และผมก็รู้สึกประทับใจตัวฝาหลังที่เป็นดีไซน์โค้ง 3D เป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวกขึ้น อีกทั้งขอบตัวเครื่องก็ไม่ได้เป็นขอบแบบคม ๆ แต่ออกแบบให้โค้งรับกับฝาหลัง มีการเล่นเส้นสายตรงตำแหน่งด้านข้าง บริเวณปุ่ม Power ยิ่งทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ดูหรูหราขึ้นไปอีกระดับ
ส่วนด้านหน้าตัวเครื่อง vivo Y76 5G มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.58 นิ้ว บรรจุกล้องหน้าความละเอียด 16MP อยู่บริเวณกึ่งกลางตรงด้านบนหน้าจอ (รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า) ตัวหน้าจอเป็นแบบ IPS ที่ให้มุมมองที่กว้าง อีกทั้งมาพร้อมเทคโนโลยี In-cell ที่ทำให้จอแสดงผลมีสีสัน ความคมชัด และรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ความหนาของตัวเครื่อง vivo Y76 5G มีตัวเลขอยู่ที่ 7.79 มิลลิเมตร ถือว่าดีไซน์ออกมาได้บางทีเดียว เมื่อรวมกับน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 175 กรัม ยิ่งทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้พกพาได้สะดวก ถือเครื่องนาน ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา
รายละเอียดต่าง ๆ บนตัวเครื่อง vivo Y76 5G เริ่มจากด้านข้างขวา ประกอบไปด้วย ปุ่ม Power ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปุ่มปรับระดับเสียง ด้านล่างเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ และลำโพงหลักของตัวเครื่อง ถาดใส่ซิมของ vivo Y76 5G อยู่บริเวณด้านบน เป็นถาดซิมแบบ Hybrid Slot รองรับซิมการ์ดแบบ nano SIM และรองรับ micro SD Card
ด้านหลังตัวเครื่อง vivo Y76 5G ประกอบไปด้วยกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Macro Camera และแฟลช LED โดยบริเวณด้านหลังตัวเครื่องของรุ่นนี้จะเน้นโชว์สีสันได้เต็มที่ เนื่องจากเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ถูกจับไปใส่ไว้บริเวณด้านข้างตัวเครื่องนั่นเองครับ
หน้าจอ vivo Y76 5G เป็นหน้าจอแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มุมมองการแสดงผลกว้าง สีสันหน้าจอแม้จะไม่ได้สดจัดแบบจอ OLED แต่ด้วยเทคโนโลยีแบบ In-cell ก็ให้การแสดงสีสันหน้าจออยู่ในมาตรฐานที่เหมาะสมกับการดูรูปภาพ หรือรับชมวีดีโอ ส่วนเรื่องความละเอียดหน้าจอ Full HD+ นั้นก็หายห่วง ความละเอียดระดับนี้สามารถใช้งานได้สบาย ๆ ทั้งการรับชมคอนเทนต์, ภาพยนตร์ หรือแม้แต่การเล่นเกม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโหมดถนอมสายตา ที่ปรับสีหน้าจอแสดงผลเพื่อลดแสงสีฟ้า ช่วยให้ใช้งานได้สบายตามากยิ่งขึ้น
ภาพรวมสำหรับ vivo Y76 5G ในส่วนของการออกแบบ ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ดีไซน์สวย ฝาหลังเคลือบ AG และมีลูกเล่นที่ฝาหลังเวลาที่แสงตกกระทบในมุมต่าง ๆ งานประกอบมีความแน่นหนา การใช้งาน การจับถือตัวเครื่องทำได้สะดวก ส่วนเรื่องหน้าจอก็มีขนาดใหญ่ถึง 6.58 นิ้ว เหมาะกับการใช้งานในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
Software – ระบบปฏิบัติการ
vivo Y76 5G มาพร้อมกับ Android 11 ครอบด้วย Funtouch OS 12 ที่ได้รับการปรับแต่งมาให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย มีหน้าตาของ UI ที่คลีนมากขึ้น โดยใน Funtouch OS ยุคหลัง ๆ กลับมาใช้หน้า App Drawer แยกออกมาต่างหาก สามารถปรับตัวให้ใช้งานได้ไม่ยาก ส่วนแอปติดเครื่องนอกเหนือจากแอปของ Google ก็มีให้มาพอสมควร เช่น แอปปฏิทิน แอปช่วยจัดการระบบ แอปจัดการไฟล์ แอปสำหรับการแชร์ไฟล์ระหว่างเครื่อง แอปจดบันทึก เป็นต้น
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาใน FunTouch OS 12 อันที่จริงใช้คำว่าเป็นการ Redesign ใหม่จะถูกต้องกว่า ก็คือหน้า Widget ที่ถูกปรับปรุงใหม่ ที่น่าสนใจก็ได้แก่ Widget สภาพอากาศ, Widget การเพิ่มความเร็วตัวเครื่อง และ Nano Music หรือเครื่องเล่นเพลงนาโน ที่สามารถสลับแหล่งเล่นเพลงได้ในการแตะเพียงครั้งเดียว รองรับการทำงานร่วมกับ Spotify, JOOX และเพลงในตัวเครื่อง
I Manager อีกหนึ่งตัวช่วยในการจัดการ ตั้งค่าการดูแลระบบต่าง ๆ ในตัวเครื่อง ไปจนถึงการทำความสะอาดไฟล์ขยะ และการตรวจสอบด้านความปลอดภัย รวมถึงการสแกนหาปัญหาในเวลากลางคืน ทำให้โทรศัพท์ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเป็นเครื่องใหม่ตลอดเวลา
Camera – กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลังของ vivo Y76 5G เป็นกล้องหลังแบบ AI Triple Macro Camera หรือกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลัก 50MP f/1.8
- กล้อง Bokeh 2MP f/2.4
- กล้อง Macro 2MP f/2.4
สำหรับ 2 กล้องที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกล้อง Bokeh 2MP ก็จะไว้ช่วยเสริมประสิทธิภาพในด้านการเบลอฉากหลังเมื่อถ่ายภาพด้วยโหมดภาพคน ส่วนกล้อง Macro 2MP ออกแบบมาให้ถ่ายของชิ้นเล็ก ๆ หรือถ่ายใกล้ได้ถึง 4 เซนติเมตร เหมาะกับการเก็บภาพรายละเอียดของดอกไม้ หรือจะเอาไว้ส่องพระเครื่องก็ได้เช่นกันครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด Portrait
ภาพถ่ายทั่วไปที่ได้จากกล้องของ vivo Y76 5G ก็อยู่ในระดับมาตรฐานสมาร์ตโฟนราคาไม่เกินหมื่น มีความคมชัด สีสันไม่จัดจ้านเกินไป การตัดขอบเบลอในโหมดภาพคน (Portrait) ก็ทำได้ค่อนข้างดี ส่วนการถ่ายภาพกลางคืน ต้องระวังเรื่องแสงไฟที่จะทำให้ภาพฟุ้ง แต่ก็มีโหมดกลางคืน Super Night Mode มาให้ใช้งาน สำหรับการถ่ายภาพกลางคืน
ส่วนเรื่องการซูมภาพ แม้จะไม่มีเลนส์เทเลโฟโต้มาให้ แต่รุ่นนี้ก็สามารถซูมภาพแบบ Digital Zoom ได้สูงสุดที่ 10 เท่า แต่ระยะที่ส่วนตัวใช้งานแล้วรู้สึกรับได้กับความคมชัดอยู่ที่ประมาณ 2 – 4 เท่าครับ
ความน่าเสียดายของกล้อง vivo Y76 5G คือรุ่นนี้ไม่มีเลนส์มุมกว้าง Ultra wide-angle มาให้ มีแค่เลนส์หลัก 50MP ที่รองรับการซูมแบบ Digital Zoom กับเลนส์มาโครสำหรับถ่ายใกล้เท่านั้น
โหมดถ่ายภาพหลัก ๆ ที่ใช้งานบ่อยก็ได้แก่ โหมดภาพถ่าย, โหมดภาพคน และโหมดกลางคืน ส่วนโหมดที่น่าสนใจในการถ่ายภาพ ให้ได้ภาพถ่ายที่มีลูกเล่นแตกต่างไปจากภาพถ่ายแบบเดิม ๆ ก็ได้แก่ โหมดรับแสงสองเท่า (Double Exposure) ที่ซ้อนภาพได้หลากหลายรูปแบบ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง vivo Y76 5G
กล้องหน้าของ vivo Y76 5G มีความละเอียด 16MP มีโหมดถ่ายภาพแบบปกติ แล้วก็โหมดใบหน้าสวย พร้อมละลายฉากหลังเบลอ ทำให้ตัวแบบโดดเด่น เรื่องความสวยงามน่าจะเป็นความชอบส่วนบุคคลล่ะครับ หลัก ๆ จะเป็นการปรับให้ผิวกระจ่าง แล้วก็เพิ่มความคมชัดบริเวณดวงตาให้โดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้กล้องหน้าของ vivo Y76 5G ยังมีการใช้อัลกอริธึม AI Extreme Night ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนได้ภาพที่คมชัด ลดนอยส์ ทำงานร่วมกับ AI Face Beauty และ Smart Softlight Band ที่จะทำการเติมแสงในตอนถ่ายเซลฟี่ด้วยไฟจากหน้าจอ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า vivo Y76 5G
ในการถ่ายวิดีโอ vivo Y76 5G รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 1080p ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แต่ถ้าต้องการถ่ายแบบ 60fps จะจำกัดไว้เฉพาะแค่กล้องหลังเท่านั้น โดยวิดีโอกล้องหลังนอกจากถ่าย 60fps ได้แล้ว ยังสามารถเปิดโหมดกันสั่นได้ถึง 2 ระดับ และมาพร้อมกับโหมดยอดฮิตอย่าง dual-view Video ที่บันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้า/ กล้องหลัง
Performance – ประสิทธิภาพ
ในส่วนของการประมวลผล vivo Y76 5G ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 มาพร้อม RAM 8GB + 4GB RAM Extended และความจุ 128GB การใช้งานมีความลื่นไหล โดยเฉพาะเวลาที่สลับแอปพลิเคชั่นไปมา เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี เล่นโซเชียล, เล่นอินเทอร์เน็ต หรือจะใช้รับชม Youtube, Netflix ก็สามารถทำได้
ส่วนการเล่นเกมด้วย vivo Y76 5G กับชิปประมวลผล Dimensity 700 + RAM 8GB ผมลองทดสอบกับเกมอย่าง ROV 4.0 Christmas Patch หรือเวอร์ชั่นล่าสุด การตั้งค่าสามารถปรับทุกอย่างสูงได้ และ vivo Y76 5G สามารถเล่นเกม ROV ปรับสุดได้ลื่นไหลในโหมด 60fps โดยทำเฟรมเรตระหว่างเล่นได้เฉลี่ยที่ประมาณ 59 – 60 fps การตอบสนองหน้าจอดีใช้ได้เลยทีเดียว
หรือจะเป็นเกมอย่าง PUBG Mobile/ PUBG New Stage ก็สามารถเล่นได้ลื่น ๆ ที่กราฟฟิกระดับ HD เฟรมเรต High (30fps) ส่วนเกมอย่าง Genshin Impact เล่นได้ที่การปรับตั้งค่าระดับ Low ครับ
การเชื่อมต่อแบบไร้สายของ vivo Y76 5G รุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1 และรองรับ Wi-Fi 5 นั่นหมายความว่า รองรับทั้งการเชื่อมต่อแบบ 2.4GHz และ 5GHz ส่วนการเชื่อมต่อ 5G รองรับการใช้งาน 5G ทั้งสองซิม เป็นแบบ dual-mode 5G (SA1& NSA) และด้วยการการออกแบบเสาอากาศรอบทิศทาง ทำให้มีประสิทธิภาพในการจับสัญญาณที่ดีมากยิ่งขึ้น
ด้านการจัดการพลังงานและการชาร์จไฟ ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4,100 mAh และสเปคที่มีอัตราการใช้พลังงานไม่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอความละเอียด Full HD+ หรือชิป MediaTek Dimensity 700 และตัว Funtouch OS 12 ที่มี AI ช่วยในการจัดการพลังงาน เมื่อรวมปัจจัยทั้งหมดที่ว่ามา จึงไม่แปลกที่ Vivo Y76 5G จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก แทบจะไม่จำเป็นต้องพกแบตเตอรี่สำรอง หรือ Powerbank เพื่อชาร์จไฟระหว่างวันเลย เพราะรุ่นนี้แบตเตอรี่อึดจริง ๆ
ในส่วนของระบบชาร์จไฟ รุ่นนี้รองรับการชาร์จเร็ว 44W FlashCharge (11V / 4A) ที่ให้ความรวดเร็วในการชาร์จไฟ สามารถชาร์จไฟจาก 0 – 70% ได้ในเวลาเพียง 32 นาที และชาร์จเต็ม 100% ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง (ประมาณ 56 นาที)
สรุปภาพรวม รีวิว vivo Y76 5G
vivo Y76 5G ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นในงบราคาไม่เกินหมื่นที่น่าสนใจ ด้วยราคา 9,999 บาท ได้สมาร์ตโฟนรองรับ 5G ที่มาพร้อมกับดีไซน์บางเบา RAM 8GB (+ 4GB Extended RAM) และความจุในตัวเครื่อง 128GB สเปคที่สามารถเล่นเกมได้ และยังมาพร้อมกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 50MP อีกทั้งรองรับระบบชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
จุดเด่น
- มีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว Halo FullView Display เหมาะสมกับการรับชมคอนเทนต์ในยุคปัจจุบัน
- ดีไซน์สวยงาม จับถือตัวเครื่องสะดวกด้วยฝาหลังแบบ 3D
- กล้องหลัง 3 ตัว 50MP พร้อมเลนส์ Macro ถ่ายใกล้ได้ 4 เซนติเมตร
- ความจุในตัวเครื่อง 128GB + รองรับ micro SD
- แบตเตอรี่ 4,100 mAh ใช้งานข้ามวันได้สบาย ๆ
- รองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง และการปลดล็อคด้วยใบหน้า
ข้อสังเกต
- กล้องหลังไม่มีเลนส์มุมกว้าง
- เป็นลำโพงเดี่ยว