?หน้าจอ IPS 5 นิ้ว, CPU Quad-Core, Ram 1GB, กล้องหลังถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี, วัสดุหรูหรา งานประกอบดูแข็งแรง? คุณคิดว่าสมาร์ทโฟนที่มีสเป็คแบบนี้ควรจะมีราคาเท่าไหร่กันครับ? สองหมื่น? หมื่นแปด? หมื่นห้า? คำตอบคือผิดทั้งหมดครับ คุณสามารถหาสมาร์ทโฟนที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ได้ในราคาหมื่นต้นๆ เท่านั้นเอง Oppo R1 สมาร์ทโฟนสัญชาติจีนจากค่าย Oppo ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดี มีสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการไม่ว่าจะเป็นจอภาพขนาดใหญ่ สามารถเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก, ท่องอินเทอร์เน็ต, เล่นเกมแก้เบื่อ และยังมีทีเด็ดตรงกล้องหลังที่ทาง Oppo เคลมว่าถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีอีกต่างหาก
สเปค Oppo R1
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 1280×720 Pixels (HD 720p)
- จีพียู (GPU) ?Mali-400
- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3?
- ชิปประมวลผล MediaTek MT6582 แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.3 GHz
- ระบบปฏิบัติการ Color OS (Android OS 4.2.1 Jelly Bean)
- หน่วยความจำภายใน 16 GB
- RAM ขนาด 1 GB
- กล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลโยี Pure Image
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- ไฟแฟลชแบบ LED ในตัว
- วิทยุ FM Stereo ในตัว
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, HSPA+, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งานระบบเครือข่าย 3G ทุกคลื่นความถี่ (850/900/2100 MHz)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว
- รองรับการใช้งาน GPS และ A-GPS
- แบตเตอรี่ขนาด 2410 mAh
- ราคาเปิดตัว 12,990 บาท
Design
การออกแบบถือเป็นไฮไลท์ของ Oppo R1 เลยก็ว่าได้
งานประกอบดูแน่นหนา แข็งแรง
?
รูปทรงของ Oppo R1 ก็เป็นแบบสมัยนิยมทั่วไปคือเป็นทรงเหลี่ยมมุมเครื่องโค้งมน ขนาดตัวเครื่อง 142.7 x 70.4 มิลลิเมตรกำลังพอดีมือสำหรับคุณผู้ชาย และมีความหนาเพียง 7.1 มิลลิเมตร มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD ที่ให้มุมมองของภาพที่กว้างกว่าจอแบบ TFT และยังสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงแดดได้ ส่วนกระจกจอนั้นเป็น corning gorilla glass 3 ที่กันรอยขีดข่วนได้ดีเลยทีเดียว
ด้านหน้าของตัวเครื่องส่วนบนไม่มีโลโก้อะไรเลย มีเพียงกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, ลำโพงสนทนา, เซนเซอร์วัดแสงและอินฟาเรดที่ซ่อนอยู่ทางขวาของลำโพง และไฟแจ้งเตือนแบบ LED ทางด้านขวาของตัวเครื่อง ส่วนด้านล่างมีปุ่มกดแบบสัมผัส 3 ปุ่มตามแบบสมาร์ทโฟนแอนดรอยทั่วไปได้แก่ ปุ่มเมนู(Menu) ปุ่มโฮม(Home) และปุ่มย้อนกลับ(Back)
ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นอะไรที่สวยงามมาก จนทำให้รู้สึกว่าการใส่เคสเป็นเรื่องที่ผิด
วัสดุด้านข้างของ Oppo R1 ทำจากโลหะที่ออกแบบให้ตัวเครื่องดูบางกว่าความเป็นจริง (เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีความหนาเท่ากัน) แต่การวางปุ่มนั้นค่อนข้างจะแปลกจากปกตินิดหน่อยตรงที่ปุ่มปรับระดับเสียง (Volume) จะอยู่ทางด้านขวามือของตัวเครื่องส่วนด้านซ้ายมือเป็นปุ่ม Power กับช่องใส่ซิมแบบถาดยาว (รองรับการใช้งาน 2 ซิม) ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเสียบสาย Micro USB, ไมค์สนทนาและลำโพง ส่วนด้านบนเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและไมค์ตัวที่สอง (สำหรับตัดเสียงรบกวน)
ส่วนวัสดุด้านหลังต้องบอกว่าเป็นอะไรที่สวยงามมาก เพราะ Oppo R1 เลือกใช้วัสดุที่เป็นกระจก corning gorilla glass 3 เช่นเดียวกับด้านหน้า ตรงกลางมีโลโก้ Oppo, กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช และไฟแจ้งเตือนแบบ LED เช่นเดียวกับด้านหน้า แต่ข้อเสียของมันก็คือเป็นรอยนิ้วมือง่ายมากๆ
Software
?
Oppo R1 เป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการณ์ Android 4.4.2 Jellybean ที่ถูกครอบด้วย UI ปรับแต่งจากทาง Oppo มีชื่อเก๋ๆ ว่า ColorOS ที่มีสีสันสดใส สามารถเพิ่มหน้า Home Screen ได้สูงสุด 9 หน้า (แอบเลขสวย) รวมกับมุมลูกเล่นเฉพาะของทาง Oppo เองอีก 2 หน้า เป็น 11 หน้า การเลื่อนหน้าโฮม หรือเลื่อนหน้า App Drawer ทำได้ดี มีความลื่นไหลไม่แพ้มือถือระดับเรือธงเลย ด้วยอานิสงส์จาก Android Jellybean?อีกทั้งยังมีความเสถียรพอตัวเลยทีเดียว ตั้งแต่ลองใช้มายังไม่มีอาการแอพปิดตัวเองให้เห็น การเรียก Notification Bar ทำได้โดยการเลื่อนหน้าจอจากข้างบนลงมา สามารถเลือกเปิด-ปิดการตั้งค่าหลายอย่างได้จากหน้านี้
ส่วนแอพฯ ที่ทาง Oppo ใส่มาให้นั้นก็ต้องบอกว่าน่าสนใจทั้งการออกแบบและการใช้งาน เช่น โน้ต – แอพสำหรับจดบันทึก ที่สามารถจดบันทึกได้ด้วยการพิมพ์ และการเขียนลายมือ หรือจะเป็นเรื่องของการจัดการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่และข้อมูลการใช้งาน data ถึงแม้ว่าปกติ Android จะสามารถตรวจสอบข้อมูลพวกนี้ได้อยู่แล้ว แต่การจะเข้าไปเช็คมันค่อนข้างจะซับซ้อน ซึ่ง Oppo ก็ทำให้มันง่ายขึ้นโดยการทำออกมาเป็นแอพซะเลย ส่วนหน้าตาของแอพอื่นๆ ก็จะออกแบบไปในโทนเดียวกัน คือเน้นความสดใสเหมือนอย่าง ColorOS
Feature
ในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆ Oppo R1 ก็จัดเต็มไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ อะไรที่กำลังอยู่ในกระแส Oppo R1 ก็ทำได้แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Gesture เช่นการเคาะหน้าจอเพื่อปลุกเครื่อง, Guest Mode หรือแม้แต่ Theme ของตัวเครื่องก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมายสามารถดาวโหลดในจากแอพ Theme ในเครื่องได้เลย
Gesture
Oppo R1 สามารถใช้ Gesture ได้ทั้งหน้าจอเปิดและหน้าจอปิดและยังสามารถสัมผัสหน้าจอได้ด้วยแม้ว่าจะใส่ถุงมืออยู่ก็ตาม โดย Gesture ที่น่าสนใจได้แก่ การเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกเครื่อง, การเปิดกล้องถ่ายรูปด้วยการวาดนิ้วเป็นรูปวงกลม, การเปิดไฟฉายด้วยการวาดรูปตัว V, การเปลี่ยนเพลงด้วยการวาดรูป < หรือ > ขณะที่ล็อคหน้าจออยู่
Guest Mode และโหมดความปลอดภัยต่างๆ
การใช้งานแบบ Guest Mode สำหรับกรณีที่มีคนมาขอใช้เครื่อง เราสามารถจำกัดการเข้าถึงได้ เช่นไม่อยากให้เพื่อนเล่นเกม Cookie Run ของเราก็เลือกปิดเกม Cookie Run ใน Guest Mode และยังมีโหมดวันหยุดที่เมื่อเปิดแล้วจะไม่มีใครสามารถโทรมารบกวนเวลาวันหยุดของคุณ
Theme
การเปลี่ยน Theme ใน Oppo R1 สามารถทำได้ง่ายและมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย โดยการเข้าที่แอพธีม โดยสามารถเลือกโหลดแบบออนไลน์ที่จะมีการอัพเดตแทบทุกวันได้ด้วย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรซ้ำซาก
มุมเฉพาะ (Exclusive Space)
ในตอนนี้จะมี 2 มุมคือ มุมรูปถ่ายกับมุมดนตรี เป็นลูกเล่นที่ทำได้แปลกตาดีครับสำหรับมุมรูปถ่าย ที่จะสามารถถ่ายรูปแล้วทำอัลบัมเป็นไทม์ไลน์ และมุมดนตรีที่จะมีลักษณะเป็นแผ่นเสียง เวลาจะเล่นเพลงก็ขยับหัวอ่านไปที่แผ่นเสียง เก๋ๆ ไปอีกแบบ
Camera
Oppo R1 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล?เซนเซอร์ IMX179 ขนาด 1/3.2 นิ้ว พร้อมชุดเลนส์ 5 ชิ้น, เทคโนโลยี Pure Image Engine และมีค่ารูรับแสง F2.0 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับแสงได้มากขึ้น และให้ภาพที่มีความคมชัดเป็นพิเศษ กล้องหน้าให้มาที่ 5 ล้านพิกเซล มีโหมด Beauty สำหรับสาวๆ ที่จะลบรอยสิวให้อัตโนมัติ ถ่ายปุ๊บ อัพปั๊บไม่ต้องเสียเวลาแต่งรูปเลย?
แอพกล้องถ่ายรูปของ Oppo R1 สำหรับการเปิดกล้องไม่ได้รวดเร็วทันใจเท่าไหร่ ต้องรอประมาณ 1-2 วินาทีกล้องจึงจะพร้อมใช้ การจับโฟกัสทำได้รวดเร็วดี และรูปที่ถ่ายออกมาจะมีอัตราส่วน 4:3 เท่านั้นครับ ไม่มีให้ปรับเป็น 16:9 โดยความละเอียดสูงสุดคือที่ 8 ล้านพิกเซล ส่วนอื่นๆ ก็ทำได้เหมือนสมาร์ทโฟนแอนดรอยทั่วไป เช่นถ่ายพาโนรามา, HDR หรือแม้แต่โหมด Beauty ก็ยังมีให้เห็นครับ ส่วนที่น่าผิดหวังสำหรับ Oppo R1 ก็คงจะเป็นกล้องวีดีโอที่ถ่ายวีดีโอควงามละเอียดสูงสุดได้แค่ในระดับ HD 720p เท่านั้นเอง
?โหมดการถ่ายจะเน้นเป็น Auto ครับทำให้ปรับแต่งอะไรไม่ค่อยได้ จะเป็นโหมดที่มีการตั้งค่าไว้แล้ว เช่น โหมด Auto, โหมดบุคคล, โหมดทิวทัศน์ เป็นต้น
?คุณภาพของรูปถ่ายนี่ต้องบอกว่าหายห่วงครับ ไม่ว่าจะถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมแบบไหนก็ตาม ตัวซอฟแวร์ของกล้องสามารถประมวลผลได้ดีมากครับ แม้ในสภาพแสงน้อยก็ยังไม่ค่อยพบ Noise เท่าไหร่ สมกับที่ Oppo คุยไว้จริงๆ?ส่วนตัวอย่างของรูปถ่ายจากกล้อง Oppo R1 สามารถรับชมได้ที่ Gallery ครับ?
Performance
คะแนนการเทสประสิทธิภาพของ Oppo R1 ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ครับ เพราะตัว Oppo R1 เองก็ไม่ได้ออกแบบมาให้มีความแรงแบบสุดโต่ง แต่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานทั่วไป เน้นกล้องและฟีเจอร์ครบครันมากกว่าครับ
สำหรับการใช้งานจริง Oppo R1 นั้น ถึงแม้จะใช้ CPU จาก Mediatek แต่ก็ต้องบอกว่าขุมกำลัง Quad-Core ความเร็ว 1.3GHz ที่อยู่ใน Oppo R1 นั้นสามารถตอบสนองการใช้งานทั่วไป จนถึงการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเกมเบาๆ อย่าง Cookie Run ?ไปจนถึงเกมอย่าง Dead Trigger 2 (ปรับ Low นะ) ต้องบอกเลยว่า Oppo R1 เอาอยู่ครับ นานๆ ถึงจะกระตุกให้เห็น
การเล่นอินเทอร์เน็ต, Social Network
ขนาดการเล่นเกมยังทำได้น่าประทับใจ เพราะฉะนั้นเล่นอินเทอร์เน็ตหรือโซเชี่ยลก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ สามารถทำได้อย่างสบายๆ การเล่นเว็บทำได้ดี ลื่นไหล ตัวหนังสืออ่านสบายตาด้วยอานิสงส์จากจอ IPS ส่วนการเล่นโซเชียลถ้าอยากให้สมบูรณ์แบบคงต้องเปลี่ยนคีย์บอร์ดจะดีกว่า เพราะอันที่ให้มากับตัวเครื่อง การวางปุ่มต่างๆ สำหรับตัวผู้เขียนมองว่าไม่ค่อยถนัดมือเท่าไหร่นัก เพราะมันไม่เหมือนกับคีย์บอร์ดมาตรฐานเลย
การใช้งานแบตเตอรี่
Oppo R1 มีแบตเตอรี่ความจุ 2,410 mAh ในส่วนของการใช้งานจริง ปรับแสงหน้าจอ Auto เปิด 3g และ Gesture ทุกแบบไว้ตลอด เล่น Social Network บ้าง ส่วนมากเน้น Cookie Run เป็นหลัก จั๊มๆ สไลด์ๆ เจ้า Oppo R1 ก็จัดการพลังงานได้เป็นอย่างดีครับ แบตเตอรี่สามารถอยู่รอดพ้นวันได้อย่างฉิวเฉียด แต่ถ้าเล่นเกมกินสเป็คมากๆ หรือ Screen On ทั้งวันก็คงต้องพก Powerbank ช่วยแหละครับ แต่ก็ถือว่าทำได้น่าประทับใจนะสำหรับการจัดการพลังงาน?
Overall
สำหรับ Oppo R1 ก็ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางสุดคุ้มอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถทำอะไรได้ดีไม่แพ้สมาร์ทโฟนระดับเรือธงเลย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ดูหรูหราและการออกแบบที่สวยงามสมกับราคาของตัวเครื่อง สเป็คที่ไม่ได้ขี้เหร่เลยสำหรับ ณ เวลานี้ ตัว ColorOS เองถึงแม้จะเป็น UI ครอบทับ Android แต่เรื่องความเข้ากันได้นี่ถือว่าทำได้ดีมาก จะมีหน่วงนิดๆ หน่อยๆ บ้างแต่ก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดจนเกินไป ฟีเจอร์ก็จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Gesture แบบต่างๆ เช่นการเคาะหน้าจอเพื่อปลุกเครื่อง ส่วนกล้องถ่ายรูปนี่ก็ต้องชม Oppo ว่าทำออกมาได้ดีมาก ไม่ว่าจะถ่ายกลางวันหรือกลางคืน Oppo R1 ก็เอาอยู่ทั้งหมด เอาเป็นว่าถ้าวัดที่กล้องถ่ายรูปเป็นหลักเลย เผลอๆ Oppo R1 จะทำได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นเสียด้วยซ้ำ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัวในช่วงราคาหมื่นต้นๆ
จุดเด่น
- หน้าจอคมชัด แม้จะความละเอียดแค่ HD แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร สามารถใช้งานได้ดีแม้จะเจอแสงแดดจัดๆ
- งานประกอบแน่นหนา แข็งแรง วัสดุตัวเครื่องถือว่าคุ้มกับเงินที่เสียไป
- การใช้งานโดยรวมถือว่าสอบผ่าน ลื่นไหล ไม่ค่อยมีอาการหน่วงให้เห็น เสถียรกว่าที่คิดเยอะ
- กล้องถ่ายรูปเทพมาก แสงน้อยแสงมากเอาอยู่หมด สู้กับมือถือระดับเรือธงที่แพงกว่านี้ได้แน่นอน
- สเป็คที่ให้มาสามารถใช้งานได้สบายๆ ณ ช่วงเวลานี้
- การจัดการพลังงานทำได้ดีทีเดียว แม้แบตเตอรี่จะให้มาแค่ 2,410mAh?
- Gesture แบบต่างๆ ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
- Theme มีให้เลือกมากมาย น่ารักๆ ทั้งนั้นเหมาะกับสาวๆ หรือหนุ่มๆ สายแบ๊ว
ข้อสังเกต
- ระบบปรับแสงสว่างหน้าจอแบบ Auto ห่วยมาก ผีเข้าผีออก ควรเลือกใช้แบบแมนนวล
- GPS ดูจะเอ๋อๆ บางครั้งก็วิ่งเอง ไม่เหมาะหากจะใช้เป็นเครื่องนำทาง
- ไม่มี NFC
- ถ่ายวีดีโอได้แค่ระดับ HD 720p เท่านั้น
- อัตราส่วนภาพถ่ายเลือกได้แค่ 4:3?
Gallery
Design
การออกแบบถือเป็นไฮไลท์ของ Oppo R1 เลยก็ว่าได้
งานประกอบดูแน่นหนา แข็งแรง
?
รูปทรงของ Oppo R1 ก็เป็นแบบสมัยนิยมทั่วไปคือเป็นทรงเหลี่ยมมุมเครื่องโค้งมน ขนาดตัวเครื่อง 142.7 x 70.4 มิลลิเมตรกำลังพอดีมือสำหรับคุณผู้ชาย และมีความหนาเพียง 7.1 มิลลิเมตร มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD ที่ให้มุมมองของภาพที่กว้างกว่าจอแบบ TFT และยังสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงแดดได้ ส่วนกระจกจอนั้นเป็น corning gorilla glass 3 ที่กันรอยขีดข่วนได้ดีเลยทีเดียว
ด้านหน้าของตัวเครื่องส่วนบนไม่มีโลโก้อะไรเลย มีเพียงกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, ลำโพงสนทนา, เซนเซอร์วัดแสงและอินฟาเรดที่ซ่อนอยู่ทางขวาของลำโพง และไฟแจ้งเตือนแบบ LED ทางด้านขวาของตัวเครื่อง ส่วนด้านล่างมีปุ่มกดแบบสัมผัส 3 ปุ่มตามแบบสมาร์ทโฟนแอนดรอยทั่วไปได้แก่ ปุ่มเมนู(Menu) ปุ่มโฮม(Home) และปุ่มย้อนกลับ(Back)
ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นอะไรที่สวยงามมาก จนทำให้รู้สึกว่าการใส่เคสเป็นเรื่องที่ผิด
วัสดุด้านข้างของ Oppo R1 ทำจากโลหะที่ออกแบบให้ตัวเครื่องดูบางกว่าความเป็นจริง (เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีความหนาเท่ากัน) แต่การวางปุ่มนั้นค่อนข้างจะแปลกจากปกตินิดหน่อยตรงที่ปุ่มปรับระดับเสียง (Volume) จะอยู่ทางด้านขวามือของตัวเครื่องส่วนด้านซ้ายมือเป็นปุ่ม Power กับช่องใส่ซิมแบบถาดยาว (รองรับการใช้งาน 2 ซิม) ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเสียบสาย Micro USB, ไมค์สนทนาและลำโพง ส่วนด้านบนเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและไมค์ตัวที่สอง (สำหรับตัดเสียงรบกวน)
ส่วนวัสดุด้านหลังต้องบอกว่าเป็นอะไรที่สวยงามมาก เพราะ Oppo R1 เลือกใช้วัสดุที่เป็นกระจก corning gorilla glass 3 เช่นเดียวกับด้านหน้า ตรงกลางมีโลโก้ Oppo, กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช และไฟแจ้งเตือนแบบ LED เช่นเดียวกับด้านหน้า แต่ข้อเสียของมันก็คือเป็นรอยนิ้วมือง่ายมากๆ
Software
?
Oppo R1 เป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการณ์ Android 4.4.2 Jellybean ที่ถูกครอบด้วย UI ปรับแต่งจากทาง Oppo มีชื่อเก๋ๆ ว่า ColorOS ที่มีสีสันสดใส สามารถเพิ่มหน้า Home Screen ได้สูงสุด 9 หน้า (แอบเลขสวย) รวมกับมุมลูกเล่นเฉพาะของทาง Oppo เองอีก 2 หน้า เป็น 11 หน้า การเลื่อนหน้าโฮม หรือเลื่อนหน้า App Drawer ทำได้ดี มีความลื่นไหลไม่แพ้มือถือระดับเรือธงเลย ด้วยอานิสงส์จาก Android Jellybean?อีกทั้งยังมีความเสถียรพอตัวเลยทีเดียว ตั้งแต่ลองใช้มายังไม่มีอาการแอพปิดตัวเองให้เห็น การเรียก Notification Bar ทำได้โดยการเลื่อนหน้าจอจากข้างบนลงมา สามารถเลือกเปิด-ปิดการตั้งค่าหลายอย่างได้จากหน้านี้
ส่วนแอพฯ ที่ทาง Oppo ใส่มาให้นั้นก็ต้องบอกว่าน่าสนใจทั้งการออกแบบและการใช้งาน เช่น โน้ต – แอพสำหรับจดบันทึก ที่สามารถจดบันทึกได้ด้วยการพิมพ์ และการเขียนลายมือ หรือจะเป็นเรื่องของการจัดการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่และข้อมูลการใช้งาน data ถึงแม้ว่าปกติ Android จะสามารถตรวจสอบข้อมูลพวกนี้ได้อยู่แล้ว แต่การจะเข้าไปเช็คมันค่อนข้างจะซับซ้อน ซึ่ง Oppo ก็ทำให้มันง่ายขึ้นโดยการทำออกมาเป็นแอพซะเลย ส่วนหน้าตาของแอพอื่นๆ ก็จะออกแบบไปในโทนเดียวกัน คือเน้นความสดใสเหมือนอย่าง ColorOS
Feature
ในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆ Oppo R1 ก็จัดเต็มไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ อะไรที่กำลังอยู่ในกระแส Oppo R1 ก็ทำได้แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Gesture เช่นการเคาะหน้าจอเพื่อปลุกเครื่อง, Guest Mode หรือแม้แต่ Theme ของตัวเครื่องก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมายสามารถดาวโหลดในจากแอพ Theme ในเครื่องได้เลย
Gesture
Oppo R1 สามารถใช้ Gesture ได้ทั้งหน้าจอเปิดและหน้าจอปิดและยังสามารถสัมผัสหน้าจอได้ด้วยแม้ว่าจะใส่ถุงมืออยู่ก็ตาม โดย Gesture ที่น่าสนใจได้แก่ การเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกเครื่อง, การเปิดกล้องถ่ายรูปด้วยการวาดนิ้วเป็นรูปวงกลม, การเปิดไฟฉายด้วยการวาดรูปตัว V, การเปลี่ยนเพลงด้วยการวาดรูป < หรือ > ขณะที่ล็อคหน้าจออยู่
Guest Mode และโหมดความปลอดภัยต่างๆ
การใช้งานแบบ Guest Mode สำหรับกรณีที่มีคนมาขอใช้เครื่อง เราสามารถจำกัดการเข้าถึงได้ เช่นไม่อยากให้เพื่อนเล่นเกม Cookie Run ของเราก็เลือกปิดเกม Cookie Run ใน Guest Mode และยังมีโหมดวันหยุดที่เมื่อเปิดแล้วจะไม่มีใครสามารถโทรมารบกวนเวลาวันหยุดของคุณ
Theme
การเปลี่ยน Theme ใน Oppo R1 สามารถทำได้ง่ายและมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย โดยการเข้าที่แอพธีม โดยสามารถเลือกโหลดแบบออนไลน์ที่จะมีการอัพเดตแทบทุกวันได้ด้วย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรซ้ำซาก
มุมเฉพาะ (Exclusive Space)
ในตอนนี้จะมี 2 มุมคือ มุมรูปถ่ายกับมุมดนตรี เป็นลูกเล่นที่ทำได้แปลกตาดีครับสำหรับมุมรูปถ่าย ที่จะสามารถถ่ายรูปแล้วทำอัลบัมเป็นไทม์ไลน์ และมุมดนตรีที่จะมีลักษณะเป็นแผ่นเสียง เวลาจะเล่นเพลงก็ขยับหัวอ่านไปที่แผ่นเสียง เก๋ๆ ไปอีกแบบ
Camera
Oppo R1 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล?เซนเซอร์ IMX179 ขนาด 1/3.2 นิ้ว พร้อมชุดเลนส์ 5 ชิ้น, เทคโนโลยี Pure Image Engine และมีค่ารูรับแสง F2.0 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับแสงได้มากขึ้น และให้ภาพที่มีความคมชัดเป็นพิเศษ กล้องหน้าให้มาที่ 5 ล้านพิกเซล มีโหมด Beauty สำหรับสาวๆ ที่จะลบรอยสิวให้อัตโนมัติ ถ่ายปุ๊บ อัพปั๊บไม่ต้องเสียเวลาแต่งรูปเลย?
แอพกล้องถ่ายรูปของ Oppo R1 สำหรับการเปิดกล้องไม่ได้รวดเร็วทันใจเท่าไหร่ ต้องรอประมาณ 1-2 วินาทีกล้องจึงจะพร้อมใช้ การจับโฟกัสทำได้รวดเร็วดี และรูปที่ถ่ายออกมาจะมีอัตราส่วน 4:3 เท่านั้นครับ ไม่มีให้ปรับเป็น 16:9 โดยความละเอียดสูงสุดคือที่ 8 ล้านพิกเซล ส่วนอื่นๆ ก็ทำได้เหมือนสมาร์ทโฟนแอนดรอยทั่วไป เช่นถ่ายพาโนรามา, HDR หรือแม้แต่โหมด Beauty ก็ยังมีให้เห็นครับ ส่วนที่น่าผิดหวังสำหรับ Oppo R1 ก็คงจะเป็นกล้องวีดีโอที่ถ่ายวีดีโอควงามละเอียดสูงสุดได้แค่ในระดับ HD 720p เท่านั้นเอง
?โหมดการถ่ายจะเน้นเป็น Auto ครับทำให้ปรับแต่งอะไรไม่ค่อยได้ จะเป็นโหมดที่มีการตั้งค่าไว้แล้ว เช่น โหมด Auto, โหมดบุคคล, โหมดทิวทัศน์ เป็นต้น
?คุณภาพของรูปถ่ายนี่ต้องบอกว่าหายห่วงครับ ไม่ว่าจะถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมแบบไหนก็ตาม ตัวซอฟแวร์ของกล้องสามารถประมวลผลได้ดีมากครับ แม้ในสภาพแสงน้อยก็ยังไม่ค่อยพบ Noise เท่าไหร่ สมกับที่ Oppo คุยไว้จริงๆ?ส่วนตัวอย่างของรูปถ่ายจากกล้อง Oppo R1 สามารถรับชมได้ที่ Gallery ครับ?
Performance
คะแนนการเทสประสิทธิภาพของ Oppo R1 ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ครับ เพราะตัว Oppo R1 เองก็ไม่ได้ออกแบบมาให้มีความแรงแบบสุดโต่ง แต่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานทั่วไป เน้นกล้องและฟีเจอร์ครบครันมากกว่าครับ
สำหรับการใช้งานจริง Oppo R1 นั้น ถึงแม้จะใช้ CPU จาก Mediatek แต่ก็ต้องบอกว่าขุมกำลัง Quad-Core ความเร็ว 1.3GHz ที่อยู่ใน Oppo R1 นั้นสามารถตอบสนองการใช้งานทั่วไป จนถึงการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเกมเบาๆ อย่าง Cookie Run ?ไปจนถึงเกมอย่าง Dead Trigger 2 (ปรับ Low นะ) ต้องบอกเลยว่า Oppo R1 เอาอยู่ครับ นานๆ ถึงจะกระตุกให้เห็น
การเล่นอินเทอร์เน็ต, Social Network
ขนาดการเล่นเกมยังทำได้น่าประทับใจ เพราะฉะนั้นเล่นอินเทอร์เน็ตหรือโซเชี่ยลก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ สามารถทำได้อย่างสบายๆ การเล่นเว็บทำได้ดี ลื่นไหล ตัวหนังสืออ่านสบายตาด้วยอานิสงส์จากจอ IPS ส่วนการเล่นโซเชียลถ้าอยากให้สมบูรณ์แบบคงต้องเปลี่ยนคีย์บอร์ดจะดีกว่า เพราะอันที่ให้มากับตัวเครื่อง การวางปุ่มต่างๆ สำหรับตัวผู้เขียนมองว่าไม่ค่อยถนัดมือเท่าไหร่นัก เพราะมันไม่เหมือนกับคีย์บอร์ดมาตรฐานเลย
การใช้งานแบตเตอรี่
Oppo R1 มีแบตเตอรี่ความจุ 2,410 mAh ในส่วนของการใช้งานจริง ปรับแสงหน้าจอ Auto เปิด 3g และ Gesture ทุกแบบไว้ตลอด เล่น Social Network บ้าง ส่วนมากเน้น Cookie Run เป็นหลัก จั๊มๆ สไลด์ๆ เจ้า Oppo R1 ก็จัดการพลังงานได้เป็นอย่างดีครับ แบตเตอรี่สามารถอยู่รอดพ้นวันได้อย่างฉิวเฉียด แต่ถ้าเล่นเกมกินสเป็คมากๆ หรือ Screen On ทั้งวันก็คงต้องพก Powerbank ช่วยแหละครับ แต่ก็ถือว่าทำได้น่าประทับใจนะสำหรับการจัดการพลังงาน?
Overall
สำหรับ Oppo R1 ก็ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางสุดคุ้มอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถทำอะไรได้ดีไม่แพ้สมาร์ทโฟนระดับเรือธงเลย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ดูหรูหราและการออกแบบที่สวยงามสมกับราคาของตัวเครื่อง สเป็คที่ไม่ได้ขี้เหร่เลยสำหรับ ณ เวลานี้ ตัว ColorOS เองถึงแม้จะเป็น UI ครอบทับ Android แต่เรื่องความเข้ากันได้นี่ถือว่าทำได้ดีมาก จะมีหน่วงนิดๆ หน่อยๆ บ้างแต่ก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดจนเกินไป ฟีเจอร์ก็จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Gesture แบบต่างๆ เช่นการเคาะหน้าจอเพื่อปลุกเครื่อง ส่วนกล้องถ่ายรูปนี่ก็ต้องชม Oppo ว่าทำออกมาได้ดีมาก ไม่ว่าจะถ่ายกลางวันหรือกลางคืน Oppo R1 ก็เอาอยู่ทั้งหมด เอาเป็นว่าถ้าวัดที่กล้องถ่ายรูปเป็นหลักเลย เผลอๆ Oppo R1 จะทำได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นเสียด้วยซ้ำ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัวในช่วงราคาหมื่นต้นๆ
จุดเด่น
- หน้าจอคมชัด แม้จะความละเอียดแค่ HD แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร สามารถใช้งานได้ดีแม้จะเจอแสงแดดจัดๆ
- งานประกอบแน่นหนา แข็งแรง วัสดุตัวเครื่องถือว่าคุ้มกับเงินที่เสียไป
- การใช้งานโดยรวมถือว่าสอบผ่าน ลื่นไหล ไม่ค่อยมีอาการหน่วงให้เห็น เสถียรกว่าที่คิดเยอะ
- กล้องถ่ายรูปเทพมาก แสงน้อยแสงมากเอาอยู่หมด สู้กับมือถือระดับเรือธงที่แพงกว่านี้ได้แน่นอน
- สเป็คที่ให้มาสามารถใช้งานได้สบายๆ ณ ช่วงเวลานี้
- การจัดการพลังงานทำได้ดีทีเดียว แม้แบตเตอรี่จะให้มาแค่ 2,410mAh?
- Gesture แบบต่างๆ ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
- Theme มีให้เลือกมากมาย น่ารักๆ ทั้งนั้นเหมาะกับสาวๆ หรือหนุ่มๆ สายแบ๊ว
ข้อสังเกต
- ระบบปรับแสงสว่างหน้าจอแบบ Auto ห่วยมาก ผีเข้าผีออก ควรเลือกใช้แบบแมนนวล
- GPS ดูจะเอ๋อๆ บางครั้งก็วิ่งเอง ไม่เหมาะหากจะใช้เป็นเครื่องนำทาง
- ไม่มี NFC
- ถ่ายวีดีโอได้แค่ระดับ HD 720p เท่านั้น
- อัตราส่วนภาพถ่ายเลือกได้แค่ 4:3?