OnePlus 7 Pro สมาร์ทโฟน Super Flagship จากค่าย OnePlus ที่มาพร้อมสเปคที่จัดเต็มสุดในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว QHD+ รองรับ HDR10+ Refresh Rate 90Hz หรือจะเป็นชิปประมวลผลที่แรงที่สุดในเวลานี้ Qualcomm Snapdragon 855 ส่วน Ram มีให้เลือกทั้ง 6GB / 8GB / 12GB และหน่วยความจำภายใน 128GB / 256GB แบบ UFS 3.0 ที่มีความเร็วในการเขียนและอ่านสูงที่สุดในตลาดตอนนี้ รวมถึงระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมลำโพงคู่ และกล้องหลัง 3 ตัวแบบ Triple Camera
สเปค OnePlus 7 Pro
- หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3120 x 1440) รีเฟรชเรท 90Hz
- CPU : Snapdragon 855
- RAM : 6GB / 8GB / 12GB
- ความจุ : 128GB / 256GB (UFS 3.0) ไม่รองรับ MicroSD Card
- กล้องหลัง : กล้องหลัก 48MP f/1.6 (IMX586), กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP f/2.4, กล้อง Ultra Wide Angle 117 องศา ความละเอียด 16MP f/2.2
- กล้องหน้าป๊อปอัพ : 16MP f/2.0 (IMX471)
- ลำโพงคู่สเตอรีโอ, Dolby Atmos
- สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
- แบตเตอรี่ : 4000 mAh รองรับ Warp Charge 30W (5V/6A)
- ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย OxygenOS
- ราคา
- รุ่น RAM 6GB/128GB ราคา 24,990 บาท
- รุ่น RAM 8GB/256GB ราคา 26,990 บาท
- รุ่น RAM 12GB/256GB ราคา 29,990 บาท
- AIS : https://bit.ly/2K1C3Hj
- JD Central : http://bit.ly/2YIwu4K
- Lazada : http://bit.ly/OnePlus7Lazada
Design หน้าตา OnePlus 7 Pro
OnePlus 7 Pro มาในกล่องสีขาวที่ดูเรียบง่าย และมีตัวเลข 7 ขนาดใหญ่อยู่บนฝากล่อง โดยภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ดังนี้
- ตัวเครื่อง OnePlus 7 Pro พร้อมติดฟิล์มหน้าจอมาให้เรียบร้อย
- Power Adapter รองรับ Warp Charge 3.0
- สาย USB Type-C
- เคสซิลิโคน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- ใบรับประกันและคู่มือการใช้งาน
โดย Adapter Warp Charge 3.0 รองรับการจ่ายไฟสูงสุดถึง 30W (5V/6A) ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วอย่างมาก
ด้านการดีไซน์ตัวเครื่องของ OnePlus 7 Pro เป็นกระจกโค้ง Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ในขณะที่กรอบตัวเครื่องเป็นโลหะอะลูมิเนียม ทำให้เวลาจับใช้งานรู้สึกได้ถึงความแข็งแรงทนทานของตัวเครื่อง
ในส่วนของจอแสดงผล มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบใหม่ Fluid AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ขอบโค้งและบาง โดยมีอัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 รองรับ HDR10+ ความละเอียด Quad HD+ ทำให้ภาพที่เห็นมีความสวยสดและเที่ยงตรงที่สุด
โดยหน้าจอได้รับคะแนน A+ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดจาก DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบจอภาพแสดงผลชั้นนำของโลก เป็นข้อยืนยันว่านี่คือหนึ่งในหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในท้องตลาด ณ ตอนนี้
ในส่วนของกล้องหน้านั้นเป็นแบบป๊อปอัพ จึงทำให้ตัวเครื่องไร้รอยบาก อีกทั้งลำโพงสนทนาก็ซ่อนอยู่ระหว่างกระจกหน้าจอและกรอบตัวเครื่อง ทำให้ใช้พื้นที่หน้าจอได้เต็มที่
ด้านบนจะเป็นที่อยู่ของกล้องหน้าแบบป๊อปอัพและไมค์ตัดเสียงรบกวน
ทางด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีเพียงปุ่มปรับระดับเสียง
ทางด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับโหมดเสียงและปุ่ม power ครับ
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิม, ไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์, พอร์ต USB Type-C และลำโพง โดยถาดใส่ซิมจะรองรับซิมการ์ดขนาด Nano SIM จำนวน 2 ช่อง และไม่รองรับ microSD card
ในส่วนด้านหลังของตัวเครื่องจะมีกล้องหลัง 3 ตัวแบบ Triple Camera ถูกจัดเรียงในแนวตั้ง ประกอบด้วยกล้อง Ultra Wide Angle, กล้องหลัก และกล้อง Telephoto มีระบบ Laser Autofocus และไฟแฟลช Dual LED และปิดท้ายด้วยสัญลักษณ์ OnePlus
เคสซิลิโคนที่แถมมาให้ในกล่องทำออกมาได้พอดีตัวมาก เนื้อไม่แข็งจนเกินไป มีการป้องกันตามขอบต่าง ๆ ได้ดี เช่น ขอบกระจกปิดเลนส์กล้องหลัง และขอบหน้าจอ
Software ระบบปฏิบัติการ
OnePlus 7 Pro มาพร้อมกับ Android 9.0 ครอบด้วย OxygenOS 9.5 ซึ่งมีความเรียบง่าย เป็นมิตรกับผู้ใช้ และมีระบบจัดการทรัพยากรในตัวเครื่องได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
ประสิทธิภาพของ OnePlus 7 Pro
OnePlus 7 Pro เลือกใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855 / GPU Adreno 640 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่แรงที่สุดแล้วในเวลานี้แล้วครับ ทำให้เล่นเกมได้ไหลลื่นมาก ๆ พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ 10-layer liquid cooling เป็นระบบความร้อนที่ยอดเยี่ยม เวลาเล่นเกมนาน ๆ ตัวเครื่องแทบจะไม่มีความร้อนออกมาเลย
สำหรับรุ่นที่ทาง SpecPhone ได้ทดสอบนั้นเป็น RAM 8GB หน่วยความจำภายในความจุ 256GB ครับ
ผลจาก Antutu ก็อลังการไม่แพ้สเปคเลยทีเดียว
Feature – ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ OnePlus 7 Pro
ด้วยความที่เป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธง หรือ Super Flagship Smartphone นอกจากจะมีความแรง และความพรีเมียมแล้ว ในด้านการใช้งานก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย ช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
Night Mode 2.0
Night Mode 2.0 เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยถนอมสายตาจากการมองหน้าจอสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน หรือแม้กระทั่งการเล่นสมาร์ทโฟนในที่แสงน้อย เพราะแสงสีฟ้านั้นถือได้ว่าเป็นอันตรายต่อสายตาอย่างมาก ซึ่ง OnePlus ก็เข้าใจและใส่ใจรายละเอียดของพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี จึงได้ใส่ฟีเจอร์นี้เข้ามาในเครื่องนี้ด้วย
สำหรับ Night Mode 2.0 สามารถเปิดใช้งานได้ทันทีในหน้าการตั้งค่า หรือจะตั้งให้เปิดอัตโนมัติตามเวลา รวมถึงตั้งให้เปิดปิดตามเวลาพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกก็ได้เช่นกัน
FNATIC MODE
ฟีเจอร์นี้จะเข้ามาช่วยในการปรับแต่งประสิทธิภาพต่าง ๆ ในการเล่นเกม รวมถึงบล็อคการแจ้งเตือน, สายโทรเข้า, ปิดการปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ และปรับสภาพแสงของหน้าจอให้เหมาะสม ซึ่งจากที่ทดสอบกับเกมมา 3 เกม อย่าง PUBG Mobile, Speed Drifter, RoV แบบปรับสุดทุกอย่างเท่าทีจะทำได้แล้ว ซึ่งก็ให้ผลออกมาลื่นหัวแตก ภาพสวยสด เฟรมเรทไม่ตก (RoV เฟรมเรทอยู่ที่ 59 – 61fps ตลอดเวลา) ทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างสบายใจ ไม่มีสิ่งใดรบกวน
ระบบเสียง Dolby Atmos
ระบบเสียงคุณภาพระดับ Dolby® ที่จะมอบประสบการณ์สุนทรียภาพของเสียงรอบด้าน ทำให้เป็นเหมือนโรง Home Theater ฉบับพกพาเลยก็ว่าได้ พร้อมกันนี้ยังสนุกไปกับเกมที่เล่นได้แบบเต็มอรรถรส ด้วยระบบเสียงรอบทิศทางที่ไม่ว่าคุณจะจับมือถือเล่นเกมท่าไหน ก็ไม่ทำให้คุณหงุดหงิด หรือกังวัลว่ามือจะไปปิดลำโพงเลย
Camera – กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลังเป็นแบบ Triple Camera ประกอบไปด้วย กล้องหลัก 48MP f/1.6 (IMX586) ซึ่งทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยออกมาได้ดี มีระบบลดการสั่นไหว OIS , กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP f/2.4 พร้อมระบบลดการสั่นไหว OIS และยังสามารถซูมออปติคอลได้ 3 เท่า, กล้อง Ultra Wide Angle 117 องศา ความละเอียด 16MP f/2.2 ในส่วนการถ่ายวิดีโอ ก็สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ระดับ 4K 30/60 fps และ 1080P 30/60 fps
หน้าตาเมนูของกล้องก็ใช้งานง่าย สลับการใช้เลนส์ก็ง่ายๆด้วยการแตะที่ไอคอนตรงกลาง ส่วนการเปลี่ยนโหมดกล้องก็ง่ายๆด้วนการปัดซ้าย-ขวาเท่านั้น การโฟกัสต่างๆ ก็ทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แถมยังมีโหมด Portrait, Nightscape, Time-lapse, Slow motion และ Panorama มาให้ด้วย
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลังครับ
กล้องหน้าเซลฟี่แบบป๊อบอัพความละเอียด 16MP f/2.0 พร้อมระบบลดการสั่นไหว EIS โดยกล้องจะซ่อนอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง อีกทั้งเมื่อตรวจพบว่าตัวเครื่องร่วงหล่นลงมาตัวกล้องจะทำการเก็บกล้องอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสียหายของกล้องหน้า ซึ่งกล้องหน้าจะมี 2 โหมดคือแบบปกติและแบบ Portrait โดยทั้ง 2 แบบนี้สามารถเปิดโหมดบิวตี้ได้ โดยโหมดบิวตี้จะแสดงผลออกมาหลังถ่ายเสร็จแล้ว นอกจากนี้ยังถ่ายวีดีโอความละเอียด 1080p 30fps ได้อีกด้วย
ตัวอย่างกล้องหน้าเซลฟี่
ชาร์จไวด้วย WARP CHARGE 30
แบตเตอรี่ที่ให้มา 4,000mAh ผมทดสอบจากการใช้งานทั่วไป (เล่น Facebook, LINE, Instagram) และเล่นเกมบ้าง ก็สามารถอยู่ได้ทั้งวัน อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี WARP Charge 30 ชาร์จเร็ว 30W กับอะแดปเตอร์ที่มาในกล่อง สามารถชาร์จไฟจาก 30% ถึง 100% ได้ใน 1 ชม. ซึ่งถือว่าเร็วมากเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาสมาร์ทโฟนเรือธง ณ ตอนนี้ก็ว่าได้ครับ
Overall
ภาพรวมของ OnePlus 7 Pro จะเรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่แทบจะเพอร์เฟคในทุก ๆ ด้านก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสเปคที่แรงในระดับท็อป Snapdragon 855 หน่วยความจำแบบ UFS 3.0 ที่ให้อัตราอ่านเขียนข้อมูลเร็วที่สุดในท้องตลาด รูปลักษณ์ภายนอกที่มีความพรีเมียมทั้งในด้านการดีไซน์และวัสดุตัวเครื่อง รวมถึงกล้องหลัง 3 ตัวที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือ OnePlus 7 Pro ยังเปิดราคาในไทยได้น่าประทับใจ ด้วยราคาที่ไม่ถึง 30,000 บาท ในรุ่น Ram 8 GB/ 256 GB เมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นอื่นในท้องตลาดแล้ว OnePlus 7 Pro เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่าทีเดียวครับ
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่ 6.67 นิ้ว Fluid AMOLED สีสันสวยงามมากๆ
- ซีพียู Snapdragon 855 ที่แรงสุดในปัจจุบัน
- ความจุตัวเครื่องให้มาสูงสุด 256GB เพียงพอต่อการใช้งานโดยไม่ต้องมี MicroSD Card
- ระบบระบายความร้อนแบบ 10-layer liquid cooling เป็นระบบความร้อนที่ดีมากๆ
- กล้องถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี โฟกัสเร็วและแม่นยำ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานพร้อมกับระบบชาร์จเร็ว
- ตัวเครื่องออกแบบมาหรูหรา สวยงาม ถือจับง่ายแม้จะมากับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น
- ติดฟิล์มกันรอยมาเลย และมีเคสให้ พร้อมใช้งานหลังจากแกะกล่องทันที
จุดสังเกต
- ไม่มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
- น้ำหนักตัวเครื่องเมื่อรวมกับเคสที่ให้มาถือว่าค่อนข้างหนัก