iQOO Z9 5G และ iQOO Z9x 5G สมาร์ทโฟนเกมมิ่งรุ่นใหม่สำหรับชาวเกมเมอร์งบไม่เยอะด้วยขุมพลังไร้ขีดจำกัด หลังจากที่ iQOO เปิดตัว iQOO Z7 5G / Z7x 5G ไปเมื่อปีที่แล้วด้วยสเปคแบบอลังการงานสร้าง ตอนนี้ iQOO ก็ได้ส่งผู้สืบทอดออกมาแล้วครับ โดยในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างเลยครับ บอกเลยว่าหลายๆ จุดน่าสนใจขึ้นเยอะเลยทีเดียว
สำหรับใครที่อยากรู้ว่า iQOO Z7 5G และ iQOO Z7x 5G เป็นอย่างไร ลองอ่าน รีวิว ดูได้ครับ
รีวิว iQOO Z9 5G
สเปคของ iQOO Z9 5G
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.78 นิ้ว, ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล (1.5K), Refresh Rate 144Hz, PWM Dimming 3840Hz, 10.7 พันล้านสี, ขอบเขตสี DCI-P3, รองรับการแสดงผล HDR, ความสว่างสูงสุด 4500nits
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3
- แรม : 8GB / 12GB ชนิด LPDDR4X
- หน่อยความจำ : 256GB ชนิด UFS 2.2
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.79 (wide)
- ตัวที่ 2 : 2MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 16MP, f/2.45 (wide)
- แบตเตอรี่ : 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
- ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
- การเชื่อมต่อ :
- 5G Dual Standby
- Wi-Fi 6
- Bluetooth 5.4
- GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, GNSS
- NFC
- USB Type-C 2.0
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Fingerprint (บนหน้าจอ)
- Gyroscope
- Proximity
- E-Compass
- IR Blaster
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP64
- ขนาด : 163.72 x 75.88 x 7.98 มม.
- น้ำหนัก : 194.6 กรัม
- สี : Phantom Black, Breeze Green
- ราคา :
- 8GB / 256GB ราคา 11,499 บาท
- 12GB / 256GB ราคา 12,499 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องของ iQOO Z9 5G นั้นทาง iQOO กล่าวว่า “กำหนดนิยามใหม่ให้ความงดงาม ด้วยสไตล์พรีเมียมไร้ขีดจำกัด” ด้วยการออกแบบให้ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.98 มม. และเบาเพียง 194.6 กรัม และยังได้โมดูลกล้องแบบเดียวกับ iQOO 12 5G ที่เป็นรุ่นเรือธงอีกด้วย โดยหลังตัวเครื่องจะมีดีไซน์ที่เรียกได้ว่าเรียบร้อยและหรูหรา ในเรื่องของการจับถือบอกเลยสบายมือมาก เพราะมีการลบขอบมาอย่างดี
สำหรับสีสันนั้นจะมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำแฟนทอม แบล็ค (Phantom Black) และ สีเขียวบรีซ กรีน (Breeze Green) ซึ่งทาง iQOO ได้นิยามสีทั้ง 2 เอาไว้ดังนี้
สีเขียวบรีซ กรีน (Breeze Green)
สีเขียวบรีซ กรีน สื่อถึงพลังแห่งชีวิต และความหวังอันไม่สิ้นสุด ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสายลมที่พัดผ่านทุ่งหญ้าและทุ่งข้าวสาลีเปรียบดั่งช่วงฤดูใบไม้ผลิแรกที่งดงาม
สีดำแฟนทอม แบล็ค (Phantom Black)
สีดำแฟนทอม แบล็ค สะท้อนถึงความลึกลับ ชวนให้ค้นหา และความปรารถนาอันแรงกล้า โดดเด่นด้วยฝาหลังเคลือบฟลูออไรต์ระดับ Micro-level มอบภาพลักษณ์ที่เปล่งประกายราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน
ซึ่งแน่นอนว่าทางทีมงานเรามาทำรีวิวทั้ง 2 สีเลยครับ
ในส่วนของฝั่งหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอแบบแบนขอบบาง ให้พาแนลมาเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูงถึง 1.5K 1 พันล้านสี และยังมีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 144Hz ด้วย (ระดับเดียวกับเรือธงเลย) นอกจากนี้ยังรองรับการสัมผัสในขณะที่มือเปียกน้ำด้วย บอกเลยถ้าฟังแค่สเปคหน้าจออย่างเดียวต้องมีคนบอกว่าเป็นรุ่นเรือธงแน่ๆ
สำหรับขอบด้านข้างตัวเครื่องนั้นปุ่มทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียงหรือปุ่มเปิด-ปิดจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวา ส่วนที่ฝั่งซ้ายจะไม่มีอะไรเลย ที่ด้านบนจะมีรูไมโครโฟนและเซ็นเซอร์อินฟราเรดอยู่ ส่วนด้านล่างจะมีลำโพงตัวเครื่อง, พอร์ต USB Type-C, รูไมโครโฟน และช่องสำหรับใส่ซิม
ประสิทธิภาพ
ในเรื่องประสิทธิภาพในการใช้งานนั้น ในส่วนของการใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เล่นโซเชียล บอกเลยว่าสบายใจหายห่วง เพราะสีสันหน้าจอก็สวย ทัชลื่นติดนิ้ว ภาพลื่นไหลไม่แตก ลำโพงคู่ที่ให้มาก็เสียงใช้ได้ แถมด้วยหน่วยความจำขนาด 256GB ที่ให้มานั้นก็สามารถเอาไปเก็บไฟล์ต่างๆ ได้อย่างจุใจเลยทีเดียว
ในเรื่องการเล่นเกมนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของตัวเครื่องเลยก็ว่า ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 7 Gen 3 ที่แรงน้องๆ ชิปเรือธง ทำให้สามารถรันได้ทุกเกม และยังมีระบบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ 6K Vapor Chamber ที่มีขนาด 6,043 ตร.มม. ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า 1 เท่าตัว ครอบคลุมตั้งแต่เมนบอร์ดไปจนถึงบริเวณกล้องถ่ายภาพ ทำให้สามารถเล่นเกมได้แบบลื่นๆ แม้ตัวเครื่องจะร้อนขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี ‘Core Cooling’ เพิ่มความเสถียรภาพของกราฟฟิกในเกมให้สามารถเล่นได้แบบไม่มีสะดุดแถมยังรองรับเฟรมเรทสูงสุดถึง 144Hz ด้วย
ซึ่งเกมที่เราได้ลองเล่นนั้นจะมีเกม RoV, PUBG Mobile, Call of Duty Mobile และ Genshin Imapct ซึ่งทุกเกมสามารถเล่นได้แบบลื่นๆ เลย ถึงบางเกมจะไม่สามารถปรับกราฟิกสูงๆ ได้ก็ตาม อย่าง Genshin Imapct สามารถปรับกราฟิกได้อย่างมากแค่ระดับกลาง แต่ถ้าจะเอาลื่นจริงๆ ก็ต้องปรับเป็นต่ำแทน แต่ๆ สำหรับเกม Genshin Impact นั้นจะมีความพิเศษกว่าใครเขาหน่อย เพราะตัวเครื่องมีฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับเกมนี้โดยเฉพาะ นั่นก็คือ 4D Game Vibration ที่จะจำลองการสั่นสะเทือนที่หลากหลายให้สอดคล้องกับสกิลตัวละครทั้ง 68 ตัว และเนื้อหาของเกมในสถานการณ์ต่างๆ ด้วย บอกเลยว่าทำให้การเล่นดูมีสีสันขึ้นเยอะ
สำหรับในเรื่องของการชาร์จนั้นด้วยตัวแบตเตอรี่ขนาด 6000mAh ทำให้สามารถใช้งานได้นานกว่ารุ่นอื่นๆ แต่ก็แลกมาด้วยการที่ต้องใช้เวลาชาร์จนานขึ้น แต่ๆ ใน iQOO Z9 5G ก็ให้ชาร์จเร็วมาค่อนข้างจัดเต็มทีเดียว โดยตัวเครื่องจะรองรับการชาร์จที่กำลังไฟ 80W โดยหลังจากที่เราได้ลองจับเวลาชาร์จแล้วนั้น เราจะเริ่มชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือ 1% แล้วเครื่องบังคับปิดตัวไป ใน 10 นาทีแรกจะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 14% และถึง 50%ภายในเวลา 31 นาที ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็ว ส่วนระยะเวลาชาร์จรวมตั้งแต่เครื่องดับจนเต็มจะใช้เวลาไป 1 ชั่วโมงแบบพอดิบพอดี ซึ่งก็นับว่าเป็นเวลาที่ไม่ได้นานเลยสำหรับเครื่องที่มีแบตเตอรี่ขนาด 6000 mAh
กล้องถ่ายภาพ
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพนั้นตัวเครื่องจะมาด้วยกล่องหลัง 2 ตัวความละเอียด 50MP + 2MP ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 16MP เมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนเกมมิ่งแล้วหลายๆ คนอาจจะมองว่ากล้องบนสมาร์ทโฟนเกมมิ่งอาจจะไม่ค่อยดี แต่บอกเลยว่าใช้กับ iQOO Z9 5G ไม่ได้ ถึงแม้ตัวกล้องหลังที่ใช้ได้จะมีแต่กล้องหลัก แต่ก็สามารถถ่ายภาพวิว ภาพพอร์ตเทรต หรือภาพกลางคืนออกมาได้สวย รายละเอียดครบถ้วน การตัดขอบเนียนกริ๊บ ไม่มีกินเข้าไปในตัวแบบหรือเหลือพื้นที่รอบตัวแบบเลย แถมยังมีฟิลเตอร์ให้เล่นหลายแบบด้วย เรียกได้ว่าไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนปกติที่เน้นกล้องเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพถ่าย
รีวิว iQOO Z9x 5G
สเปคของ iQOO Z9x 5G
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.78 นิ้ว, ความละเอียด 2408 x 1260 พิกเซล (FHD+), Refresh Rate 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1000nits
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 6 Gen 1
- แรม : 8GB / 12GB ชนิด LPDDR4X
- หน่อยความจำ : 128GB / 256GB ชนิด UFS 2.2
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 50MP, f/1.79 (wide)
- ตัวที่ 2 : 2MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 8MP, f/2.05 (wide)
- แบตเตอรี่ : 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
- ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
- การเชื่อมต่อ :
- 5G Dual Standby
- Wi-Fi 5
- Bluetooth 5.1
- GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, GNSS
- NFC
- USB Type-C 2.0
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer
- Fingerprint (ข้างตัวเครื่อง)
- Gyroscope
- Proximity
- E-Compass
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP64
- ขนาด : 165.70 x 76.00 x 7.99 มม.
- น้ำหนัก : 199 กรัม
- สี : Mystic Black, Northern Green
- ราคา :
- 8GB / 128GB 7,999 บาท
- 8GB / 256GB 8,999 บาท
- 12GB / 256GB ราคา 9,999 บาท
ดีไซน์ตัวเครื่อง
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องของ iQOO Z9x 5G นั้นทาง iQOO กล่าวว่า “กำหนดนิยามใหม่ให้ความงดงาม ด้วยสไตล์พรีเมียมไร้ขีดจำกัด” ด้วยการออกแบบให้ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.99 มม. และเบาเพียง 199 กรัม และยังได้โมดูลกล้องแบบเดียวกับ iQOO 12 5G ที่เป็นรุ่นเรือธงอีกด้วย โดยหลังตัวเครื่องจะมีดีไซน์ที่เรียกได้ว่าโดดเด่นสะดุดตาพอสมควร ส่วนเรื่องของการจับถือบอกเลยว่าเข้ามือมาก เพราะมีการลบขอบมาอย่างดี แต่ตัวขอบเครื่องด้านหลังจะมีความเหลี่ยมมากกว่า iQOO Z9 5G ทำให้ตอนถืออาจรู้สึกไม่สบายมือนิดๆ
สำหรับสีสันนั้นจะมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำมิสติก แบล็ค (Mystic Black) และ สีเขียวนอร์ทเทิร์น กรีน (Northern Green) ซึ่งทาง iQOO ได้นิยามสีทั้ง 2 เอาไว้ดังนี้
สีเขียวนอร์ทเทิร์น กรีน (Northern Green)
สีเขียวนอร์ทเทิร์น กรีน ได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลาย และประกายแสงสีอันยากที่จะลืมเลือนของปรากฏการณ์แสงเหนือ ให้ความรู้สึกงดงาม น่าหลงใหล เหนือคำบรรยาย
สีดำมิสติก แบล็ค (Mystic Black)
สีดำมิสติก แบล็ค สื่อถึงความมืดมิดยามราตรีบนพื้นที่บริเวณละติจูดสูง มีดวงดาวระยิบระยับ ประกอบกับเส้นแสงที่ทับซ้อนกันอย่างสวยงาม ก่อนจะเลือนหายไป ทิ้งไว้เพียงความประทับใจและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
โดย iQOO Z9x 5G ที่ทางทีมงานได้มาใช้ทำรีวิวจะเป็นสีเขียวนอร์ทเทิร์น กรีน (Northern Green) ครับ
ในส่วนของหน้าจอนั้น iQOO Z9x 5G จะได้หน้าจอแบบแบนขอบจอบาง พาแนลที่ใช้เป็น IPS-LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ FHD+ มีอัตรารีเฟรชสูง 120Hz มีความสว่างของหน้าจอสูงสุดถึง 1000nits และการันตีมาตรฐานถนอมสายตาจาก TÜV Rheinland
สำหรับขอบด้านข้างตัวเครื่องนั้นปุ่มทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียงหรือปุ่มเปิด-ปิดจะรวมกันอยู่ที่ฝั่งขวา ส่วนที่ฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมอยู่ ที่ด้านบนจะมีรูไมโครโฟนอยู่ ส่วนด้านล่างจะมีลำโพงตัวเครื่อง, พอร์ต USB Type-C, รูไมโครโฟน และช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
ประสิทธิภาพ
ในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานนั้น สำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นโซเชียล ฟังเพลง ดูหนัง ก็สามารถทำได้ดี ถึงจะน่าเสียดายตรงที่หน้าจอเป็นจอ IPS แต่ก็กินพลังงานน้อย ทำให้สามารถเล่นได้นานขึ้น ลำโพงเองก็ไม่ธรรมดา เพราะตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอที่สามารถบูสระดับเสียงขึ้นไปได้ถึง 300% แถมยังรองรับเสียงแบบ Hi-Res อีกด้วย เรียกได้ว่าจัดเต็มทดแทนส่วนของหน้าจอเลยทีเดียว นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีฟีเจอร์ Extended RAM ที่สามารถเพิ่มแรมขึ้นได้อีก 12GB ทำให้มีแรมสูงสุดถึง 24GB ส่งผลให้สามารถเปิดใช้งาน Background Application พร้อมกันได้มากกว่า 40 แอปฯ เลยทีเดียว
ในส่วนของการเล่นเกมนั้นตัวชิปประมวลผลที่ใส่มาในเครื่องคือ Snapdragon 6 Gen 1 ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบมาให้มีความแรงในขณะที่มีความสามารถในการจัดการพลังงานได้อย่างดีอีกด้วย ซึ่งการที่ iQOO ใช้ชิปตัวนี้ก็ช่วยให้ iQOO Z9x 5G สามารถเอามาใช้เล่นเกมได้ทุกรูปแบบ และยังสามารถเล่นได้ต่อเนื่องนานกว่ารุ่นอื่นๆ อีกด้วย แถมแบตเตอรี่ตัวเครื่องยังมีตั้ง 6000mAh บอกเลยใครที่เป็นสายเล่นเกมต่อเนื่องนานๆ ตัวนี้เองก็น่าสนใจเหมือนกันนะ
สำหรับเกมที่เราเอามาลองเล่นบนเครื่องนี้นั้นจะมีเกม RoV, PUBG Mobile และ Genshin Imapct ใช่ครับ เราลองเล่นเกม Genshin Imapct บนเครื่องนี้ด้วย ซึ่งมันเล่นได้จริง แถมลื่นด้วย แค่ต้องปรับกราฟิกไม่เกินระดับกลางเท่านั้น ส่วนเกมอื่นๆ ก็สามารถเล่นได้ลื่นๆ เช่นเดียวกัน แต่จะมีจุดที่ด้อยกว่า iQOO Z9 5G ที่เป็นรุ่นพี่อยู่ก็คือตัวระบบระบายความร้อนที่ขนาดไม่ได้ใหญ่เท่า แต่ทดแทนด้วยการใส่ระบบระบายความร้อน 3 ชั้นมาแทน
ในเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่นั้นตัวเครื่องที่ใส่แบตเตอรี่มา 6000mAh แน่นอนว่าต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ตัวเครื่องที่รองรับการชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟ 44W ก็พอช่วนทำให้ใช้เวลาชาร์จได้น้อยลงไปเยอะ โดยเราได้ทดลองชาร์จตอนแบตเตอรี่เหลือ 1% แล้วเครื่องบังคับปิด ใน 10 นาทีแรกจะได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 13% และถึง 50% ภายในเวลา 39 นาที (ห่างจาก iQOO Z9 5G ไม่เท่าไร) ส่วนระยะเวลาชาร์จรวมตั้งแต่หมดจนเต็มจะใช้เวลาไปทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 18 นาที ซึ่งก็นับว่าไม่ได้นานเลย
กล้องถ่ายภาพ
ในเรื่องการถ่ายภาพนั้นตัวกล้องจะมาคล้ายๆ รุ่นพี่คือมีกล้องหลัก 50MP กล้อง Depth 2MP ส่วนกล้องหน้าความละเอียดจะลดลงมาเหลือ 8MP แต่จากที่ได้ลองถ่ายก็นับว่าไม่เลวเลยทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถใช้ถ่ายภาพได้ทุกสถานการณ์ ทุกสภาพแสง โดยที่ยังมีความคมชัด รายละเอียดของภาพครบถ้วน เพียงแต่โดยส่วนตัวเมื่อเทียบกับ iQOO Z9 5G แล้วภาพที่ออกมาดูจะจืดไปนิด ซึ่งตรงนี้คาดว่าเป็นเพราะการประมวลผลของ AI นั้นมีความแตกต่างกันครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปการรีวิว
สรุปการรีวิว iQOO Z9 Seires 5G โดยจากที่ได้ลองเล่นมานั้นบอกเลยว่าเป็นเครื่องที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับชาวเกมเมอร์ที่ไม่อยากจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อเรือธงแต่ก็ชื่นชอบการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ทำออกมาได้ตอบโจทย์เกมเมอร์งบน้อยแบบสุดๆ แถมนอกจากจะเอามาใช้เล่นเกมแล้วความสามารถด้านอื่นๆ เองก็ทำได้ดีเช่นกัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องซื้อสมาร์ทโฟนเพื่อเล่นเกมแยกต่างหากเลย
จุดเด่น ข้อสังเกต iQOO Z9 5G 1. ดีไซน์เรียบแต่หรู
2. หน้าจอใส่สเปคมาอย่างกับเรือธง
3. ชิป Snapdragon 7 Gen 3 รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ
4. ให้ความจุ 256GB มาตั้งแต่แรกเลย
5. กล้อง 50MP ที่สามารถใช้ถ่ายได้ทุกสถานการณ์
6. ได้แบตเตอรี่ 6000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 80W
7. แผ่นระบายความร้อนมีขนาดใหญ่ ทำให้ระบายความร้อนได้เร็ว
8. กันน้ำ IP641. ไม่มีกล้อง Ultra-Wide
2. 4D Game Vibration ยังจำลองการสั่นได้ไม่สมบูรณ์เท่าไรiQOO Z9x 5G 1. ดีไซน์เรียบแต่หรู
2. ชิป Snapdragon 6 Gen 1 รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ
3. มีความจุ 256GB มาให้เลือก
4. กล้อง 50MP ที่สามารถใช้ถ่ายได้ทุกสถานการณ์
5. ได้แบตเตอรี่ 6000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 44W
6. ลำโพงคู่ที่บูสเียงได้ถึง 300%
7. แผ่นระบายความร้อน 5 ชั้น
8. กันน้ำ IP64
9. มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.1. หน้าจอที่ได้เป็น IPS
2. ขอบเครื่องมีความเหลี่ยมจับแล้วไม่ค่อยถนัดมือ
3. ไม่มีกล้อง Ultra-Wide
สำหรับราคาและโปรโมชั่นนั้น iQOO Z9 5G ราคาเริ่มต้นที่ 11,499.- รับหูฟัง iQOO TWS 1e มูลค่า 1,299 บาทฟรี (เฉพาะลูกค้าที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 14 – 20 พ.ค. 67 นี้ และ iQOO Z9x 5G ราคาเริ่มต้นที่ 7,999.- โดยทั้ง 2 รุ่น จะได้รับสิทธิพิเศษ E-VIP ประกันตัวเครื่อง 2 ปี พร้อมประกันหน้าจอแตก 1 ปีแรก 1 ครั้ง ซื้อได้ทั้งทางออนไลน์ Shopee, Lazada หรือที่ vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ