รีวิว iQOO Z7 Series 5G ที่แบ่งออกเป็น iQOO Z7 5G และ iQOO Z7x 5G สมาร์ตโฟนสองรุ่นนี้เน้นไปที่ประสิทธิภาพตัวเครื่องเป็นหลัก ให้ชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Snapdragon 782G 5G ในสมาร์ตโฟนราคาหมื่นต้น ๆ รวมถึงระบบชาร์จไวระดับเรือธง 120W Flash Charge ชาร์จไฟเต็ม 100% ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ว่าแต่ให้สเปคมาเต็มขนาดนี้ พอใช้งานแล้วเป็นอย่างไร เลื่อนลงไปอ่านรีวิวได้เลยครับ
สเปก iQOO Z7 5G
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.64 นิ้ว HDR10, DCI-P3 ความละเอียด Full HD+ 120Hz
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 782G
- RAM 8 / 12GB
- ROM 128GB / 256GB
- กล้องหน้าความละเอียด 16MP
- กล้องหลังคู่ ความละเอียด 64MP OIS + 2MP Depth Camera
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 13 (base on Android 13)
- รองรับ 5G + Wi-Fi 6
- สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ Dual Cell ความจุรวม 5000 mAh
- รองรับชาร์จไว 120W Flash Charge
- สีที่วางจำหน่าย Metallic Grey / Matrix Blue
สเปก iQOO Z7x 5G
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 120Hz
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G
- RAM 8GB
- ROM 128GB / 256GB
- กล้องหน้าความละเอียด 8MP
- กล้องหลังคู่ ความละเอียด 50MP + 2MP Depth Camera
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 13 (base on Android 13)
- รองรับ 5G + Wi-Fi 5
- สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ 6000 mAh
- รองรับชาร์จไว 80W Flash Charge
- สีที่วางจำหน่าย Metallic Grey / Tropical Blue
Performance – ประสิทธิภาพ
จุดเด่นหลัก ๆ ของ iQOO Z7 Series ทั้งสองรุ่น คือเน้นไปที่ประสิทธิภาพของตัวชิปเซ็ต โดยเฉพาะ iQOO Z7 5G ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวแรง Qualcomm Snapdragon 782G ชิปเซ็ตระดับกลางที่รองรับการเล่นเกมได้หลากหลาย และไม่ใช่แค่เล่นเกมได้ แต่ยังเล่นแบบปรับตั้งค่าระดับสูง เฟรมเรตสูงอีกด้วย ส่วนเรื่องความแรง เมื่อเทียบกับชิปเซ็ตรุ่นก่อนหน้าอย่าง Snapdragon 778G ชิปรุ่นใหม่ใน iQOO Z7 5G ให้ความแรงที่มากกว่าราว ๆ 12%
ไม่เพียงชิปประมวลผลที่เร็วแรง ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับ Extended RAM 3.0 ที่สามารถเปลี่ยนความจุในตัวเครื่อง (ROM) ให้กลายเป็น Virtual RAM เพิ่มแรมในตัวเครื่องเข้าไปอีก โดย iQOO Z7 5G จะมีแรมให้ใช้งานสูงถึง 12 + 8GB หรือเทียบเท่ากับแรม 20GB สามารถเปิดแอปพร้อมกันแบบ Active ได้สูงถึง 36 แอปพลิเคชั่น
ด้านการทดสอบประสิทธิภาพของ iQOO Z7 5G ผมทดสอบด้วยการเล่นเกมยอดนิยมหลาย ๆ เกม ได้ผลการทดสอบดังนี้ครับ
เกม ปรับตั้งค่า เฟรมเรต (fps) PUBG Mobile High 59 – 60 Call of Duty Mobile Ultra 45 Genshin Impact High 53 Ragnarok Origin UHD 60 RoV Ultra 60
ภาพรวมสำหรับการเล่นเกมด้วย iQOO Z7 5G หากเทียบกับสมาร์ตโฟนในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ผมมองว่าโทรศัพท์รุ่นนี้ตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดีเลยครับ เพราะสามารถเล่นเกมยอดนิยมต่าง ๆ แบบปรับตั้งค่าระดับสูง – สูงมาก ให้กราฟฟิกที่สวยงาม ในขณะเดียวกันก็เล่นเกมต่อเนื่องได้ลื่นไหล แม้จะเป็นการปรับตั้งค่าระดับเฟรมเรตสูง ส่วนเกมอย่าง Genshin Impact แม้จะมีเฟรมตกบ้างถ้ามีการอัดสกิลในฉากเยอะ ๆ แต่ก็ยังลงมาในระดับที่รับได้ เพราะโดยปกติ Genshin Impact เป็นเกมที่กินสเปกเครื่องมากกว่าหลาย ๆ เกมอยู่แล้ว
ด้านการตอบสนองของหน้าจอขณะที่เล่นเกม หน้าจอของ iQOO Z7 Series 5G ทั้งสองรุ่นก็ให้การตอบสนองสูงในระดับ 1200Hz (รองรับเกม Garena Free Fire, Mobile Legends, PUBG MOBILE, Garena ROV, Call of Duty, and Genshin Impact) แต่มีข้อสังเกตเล็กน้อย หากต้องการความแม่นยำในการสัมผัสหน้าจอ หรือเน้นเล่นเกมที่ค่อนข้างจริงจัง ต้องการทัชสกรีนที่แม่นยำ ผมแนะนำว่าควรลอกฟิล์มกันรอยที่ติดมาจากโรงงานออกครับ จะทำให้การสัมผัสหน้าจอมีการตอบสนองที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ตัวช่วยในการเล่นเกมของ iQOO Z7 Series 5G จะมาในรูปแบบของ Ultra Game Mode ที่ช่วยทั้งในเรื่องการจัดการชิปเซ็ต ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ, ปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ เพื่อให้โฟกัสกับเกมได้มากขึ้น รวมถึงตัวช่วยอื่น ๆ อย่างการเปลี่ยนเสียงเวลาเปิดไมโครโฟนในเกม
นอกจากประสิทธิภาพชิปเซ็ตที่ดีทั้งสองรุ่นแล้ว (iQOO Z7 5G – Snapdragon 782G | iQOO Z7x 5G – Snapdragon 695 5G) ในด้านระบายความร้อน สมาร์ตโฟนทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับระบบระบายความร้อน VC Cooling System ที่ปกติมักจะเห็นในสมาร์ตโฟนเรือธง หรือสมาร์ตโฟนที่มีราคาสูงกว่านี้ ซึ่งระบบระบายความร้อนดังกล่าวก็ช่วยให้อุณหภูมิของตัวเครื่องลดลงได้สูงถึง 15 องศาเซลเซียส ทำให้เล่นเกมได้ต่อเนื่อง โดยที่ CPU ไม่ต้องลดความเร็วลงจากปัญหาความร้อนสะสม
Design & Display – การออกแบบตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
iQOO Z7 5G มาพร้อมกับหน้าจอ 120Hz Eye Protection ขนาด 6.64 นิ้ว Full HD+ ให้ขอบเขตสี 100% ตามมาตรฐาน DCI-P3 และรองรับ HDR10 (เฉพาะ iQOO Z7 5G) ในเรื่องสีสันหน้าจอ ความสว่าง ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป เล่นอินเทอร์เน็ต, โซเชียลมีเดีย หรือจะเป็นการรับชมภาพยนตร์ผ่านแอปพลิเคชั่น Streaming
ด้านการออกแบบตัวเครื่อง iQOO Z7 Series 5G มาในดีไซน์ และขนาดตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกัน วัสดุตัวเครื่องแม้จะเป็นพลาสติก แต่ก็ให้สัมผัสที่ดี มีการออกแบบที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ด้านหลังตัวเครื่องมีความโค้งเล็กน้อยบริเวณขอบด้านข้าง ช่วยในการจับถือตัวเครื่องได้สะดวก รายละเอียดด้านหลังของทั้งสองรุ่น จะมีโมดูลกล้องหลังขนาดใหญ่แบบ Dual Halo Ring วางบนฐานสี่เหลี่ยมแบบ Cloud Step
พอร์ตเชื่อมต่อก็ให้มาอย่างครบครัน มีพอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C และพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร แต่จะมีตำแหน่งการวางแตกต่างกันเล็กน้อย iQOO Z7 5G จะวางพอร์ตหูฟังไว้ด้านบนตัวเครื่อง ส่วน iQOO Z7x 5G พอร์ตหูฟังจะอยู่บริเวณด้านล่างตัวเครื่อง และยังมี IR Blaster หรือเซ็นเซอร์อินฟาเรด สำหรับใช้ในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน Smart Remote (เฉพาะ iQOO Z7 5G)
ส่วนเรื่องลำโพง iQOO Z7 5G มาพร้อมกับลำโพงคู่ Stereo ที่นอกจากจะให้เสียงดังแล้ว ยังมาพร้อมกับ Sound Field Expansion Algorithm รองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งอย่าง Netflix, Amazon Prime และ Youtube ให้ระบบเสียงรอบทิศทางที่กว้างสูงสุดถึง 120 องศา
Camera – กล้องถ่ายภาพ
ด้านการถ่ายภาพ iQOO Z7 Series 5G ก็ให้กล้องถ่ายภาพมาในระดับที่ผมมองว่าเพียงพอต่อการใช้งาน กล้องถ่ายภาพให้ระยะในการใช้งานเท่ากัน โดยความแตกต่างระหว่าง iQOO Z7 5G กับ iQOO Z7x 5G จะมีดังนี้
- iQOO Z7 5G – กล้องหน้า 16MP f/2.45 | กล้องหลังคู่ 64MP f/1.79 OIS + กล้อง DoF 2MP f/2.4 | รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K UHD / Full HD 60fps
- iQOO Z7x 5G – กล้องหน้า 8MP f/2.0 | กล้องหลังคู่ 50MP f/1.8 + กล้อง DoF 2MP f/2.4 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 30fps
สำหรับโหมดถ่ายภาพ ก็จะมีบางโหมดที่มีเฉพาะแค่ iQOO Z7 5G ได้แก่ โหมด Super Moon, โหมดกีฬา (Sport Mode 3.0) และสามารถถ่ายวิดีโอด้วยโหมดกันสั่นได้ ส่วนโหมดอื่น ๆ ที่เหลือก็มาในรูปแบบเดียวกันครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง iQOO Z7 5G และ iQOO Z7x 5G
Battery & Charging – แบตเตอรี่และการชาร์จไฟ
อีกหนึ่งจุดเด่นของ iQOO Z7 Series 5G โดยเฉพาะรุ่น iQOO Z7 5G ที่มาพร้อมกับระบบชาร์จเร็วระดับเรือธง เพราะรุ่นนี้รองรับระบบชาร์จเร็วสูงถึง 120W FlashCharge ส่วนรุ่นรอง iQOO Z7x 5G ก็ไม่น้อยหน้า เพราะได้ระบบชาร์จไว 80W FlashCharge ที่ชาร์จไฟได้เร็วไม่แพ้กัน
สำหรับความเร็วในการชาร์จไฟของ iQOO Z7 5G ที่ใช้ระบบชาร์จ 120W FlashCharge ผมทดสอบด้วยการชาร์จไฟจาก 1% ไปจนเต็ม 100% ได้เวลาในการชาร์จออกมาตามตารางครับ สรุปง่าย ๆ ก็คือรุ่นนี้ ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ได้เต็มในเวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ถือว่าชาร์จได้เร็วมาก ๆ เลยล่ะ
Balanced Mode High Speed Mode 1% – 10% 1.32 นาที 1.41 นาที 1% – 30% 6 นาที 5 นาที 1% – 50% 11 นาที 9 นาที 1% – 70% 19 นาที 14 นาที 1% – 100% 31 นาที 26 นาที
ความลับของระบบชาร์จไว 120W FlashCharge ใน iQOO Z7 5G นอกจากจะใช้อะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้สูงแล้ว การจัดวางแบตเตอรี่ของโทรศัพท์รุ่นนี้ ยังเป็นการใช้แบตเตอรี่แบบ Dual Cell แบ่งแบตเตอรี่ออกเป็น 2 ความจุ 2500 + 2500 mAh ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปกติมักจะอยู่ในสมาร์ตโฟนระดับเรือธง
ทั้งสองรุ่นยังรองรับเทคโนโลยี Reversed Charging สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็น Powerbank สำหรับชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น หูฟังไร้สาย หรืออุปกรณ์ Gadget ได้สูงสุดที่กำลังไฟ 7.5W
ด้านการจัดการพลังงาน ด้วยสเปกของแบตเตอรี่ที่ให้ความจุสูงมาทั้งสองรุ่น โดยเฉพาะ iQOO Z7x 5G ที่ได้แบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh การใช้งานทั้งสองรุ่น ให้แบตเตอรี่มาเพียงพอที่จะใช้งาน + เล่นเกมระหว่างวันบ้างได้สบาย ๆ ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดก่อนกลับบ้าน หรือถ้าเล่นเกมต่อเนื่องนาน ๆ ก็สามารถชาร์จไฟกลับเข้าไปเต็ม 100% ได้ในเวลาไม่ถึง 30 นาทีครับ
Price – ราคาและวางจำหน่าย
iQOO Z7 Series 5G วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 7,999 บาท โดยแบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย ดังนี้ครับ
iQOO Z7 5G
- 8GB + 128GB = 10,999 บาท
- 12GB + 256GB = 11,999 บาท
E VIP Card มูลค่า 4,999 บาท (สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่สั่งซื้อในระยะเวลาที่กำหนด)
iQOO Z7x 5G
- 8GB + 128GB = 7,999 บาท
- 8GB + 256GB = 8,499 บาท
E VIP Card มูลค่า 3,999 บาท (สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่สั่งซื้อในระยะเวลาที่กำหนด)
ช่องทางจัดจำหน่าย
- Lazada (vivo & iQOO)
- Shopee (vivo & iQOO)
- Thisshop
- TikTok (vivo)
- vivo online store
- vivo Brand Shop (offline)
สรุปภาพรวม รีวิว iQOO Z7 Series 5G
ภาพรวมของ iQOO Z7 Series 5G ส่วนตัวผมมองว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน คือเน้นประสิทธิภาพของทั้งชิปเซ็ต และการชาร์จไฟเป็นหลัก เพราะอัดสเปกมาให้แบบเน้น ๆ ในราคาหมื่นต้น โดยเฉพาะ iQOO Z7 5G ที่ใช้ชิป Snapdragon 782G กับราคาเริ่มต้น 10,999 บาท เหมาะมากสำหรับคนที่อยากได้สมาร์ตโฟนเล่นเกมแรง ๆ สักเครื่อง ด้วยชิปเซ็ตที่ให้มานั้นสามารถเล่นเกมได้แทบทุกเกม แถมเล่นได้อย่างลื่นไหล บนการปรับตั้งค่าระดับสูงอีกด้วยครับ
สเปกด้านอื่นก็ถือว่าให้มาในระดับที่เพียงพอต่อการใช้งาน กล้องหลักคุณภาพโอเคสำหรับการถ่ายภาพทั่วไป ดีไซน์ก็ออกแบบให้มีความร่วมสมัย