Samsung Galaxy S Duos 2 เป็นมือถือรุ่นต่อยอดความสำเร็จ? จาก Samsung Galaxy S Duos รุ่นแรก โดยมีการอัพเกรดสเปคให้สูงขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น CPU แบบ Dual Core และ Ram ที่เพิ่มมาเป็น 768 MB (Galaxy S Duos รุ่นแรกใช้ CPU Single Core และแรม 512 MB) ส่วนรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้แตกต่างจาก Galaxy S Duos รุ่นแรกมากมายนัก โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 4,900 บาท อันที่จริงเจ้า Samsung Galaxy S ?Duos เนี่ยวางขายมานานพอสมควรแล้ว แต่เครื่องรีวิว Samsung Galaxy S Duos 2 ที่เราได้รับมานั้นไม่ธรรมดา เพราะมันเป็นรุ่นพิเศษ Samsung Galaxy S Duos 2 Line Edition ซึ่งตอนแรกผมจินตนาการไปไกลมากว่ามันจะมาพร้อมกับกรอบฝาหลังที่เป็นตัวละครในไลน์ เอาเป็นว่าก่อนจะบอกว่าความแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy S Duos 2 รุ่นปกติกับ Line Edition แตกต่างกันอย่างไร เรามารับชมสเปคของ Samsung Galaxy S Duos 2 กันก่อนครับ
สเปค Samsung Galaxy S Duos 2
- ชิปประมวลผล?Broadcom BCM21664?Dual-Core ความเร็วสูงสุด 1.2 GHz
- แรม 768 MB
- หน้าจอ TFT ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 800?480 พิกเซล
- รอมในตัว 4 GB
- Android 4.2.2 Jelly Bean ครอบมาดัวยอินเตอร์เฟส TouchWiz
- ใช้งานได้ 2 ซิมแบบ Always on
- รองรับ 3G แยกเครือข่าย (มี 2 โมเดล)
- กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล Auto Focus พร้อมแฟลช
- กล้องหน้าความละเอียด VGA
- แบตเตอรี่?1500 mAh
- ราคาอยู่ที่ 4,900 บาท
- สเปค Samsung Galaxy S Duos 2 เต็มๆ
สิ่งแรกที่แตกต่างสำหรับ Samsung Galaxy S Duos 2 Line Edition คือมันหาซื้อได้ที่ Dtac Store และเป็นเครื่องรุ่นรองรับ 3G ความถี่ 850/2100 เท่านั้น และกล่องจะถูกครอบด้วยปลอกสีเขียวพิมพ์รูปตัวละครฟรุ้งฟริ้งจากไลน์อย่างหมีบราวน์และเจ้ากระต่ายโคนี่ เมื่อถอดปลอกลายการ์ตูนออกก็จะพบกับซิมการ์ดจาก Happy Dtac ที่จะมีสิทธิพิเศษคือเล่นไลน์ฟรี 1 ปี (ไม่เสีย Data) แต่ก็มีเงื่อนไขเล็กน้อยข้างหลังกล่องเขียนอยู่ครับ สรุปคร่าวๆ ได้ว่าฟรีค่าดาต้าตอนเล่นไลน์ฟรีในเดือนแรก ส่วนเดือนถัดมาต้องเติมเงินในระบบไว้ขั้นต่ำเดือนละ 100 บาท และรับสิทธิ์ได้นาน 12 เดือน ซึ่งนอกจากปลอกสีเขียวพิมพ์ตัวการ์ตูนไลน์และซิม Happy Dtac ที่แถมมาให้แล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอะไรแตกต่างกับ Samsung Galaxy S Duos 2 รุ่นปกติแม้แต่น้อยเลยครับ
Design
Samsung Galaxy S Duos 2 เป็นมือถือหน้าจอ 4 นิ้ว ทำให้ขนาดตัวของมันค่อนข้างกะทัดรัด พกพาสะดวก สำหรับการออกแบบก็ต้องยอมรับว่าค่อนข้างออกแบบมาได้ธรรมดา ไม่ได้หวือหวาเหมือนอย่าง Samsung Galaxy Core 2 Duos ที่รายนั้นจะเหมือนจับเอา Samsung Galaxy Note 3 มาย่อส่วน แต่ถ้าพูดถึงงานประกอบ และวัสดุก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นอื่นๆ ในช่วงราคาใกล้เคียงกับ Samsung Galaxy S Duos 2 เลยครับ จัดเป็นมือถือ Samsung ที่ทำให้ผมว้าวพอสมควรเลยนะ ว่าแล้วเรามาเริ่มเจาะกันแต่ละส่วนของ Samsung Galaxy S Duos 2 กันเลยดีกว่า
เริ่มจากด้านหน้าของ Samsung Galaxy S Duos 2 ต้องบอกก่อนนะครับว่าดีไซน์ของเจ้า Samsung Galaxy S Duos 2 จะออกแนวขอบมนๆ ส่วนตัวผมมองว่ามันได้กลิ่นอายของ Samsung Galaxy S3 มาเยอะพอสมควรเลยหล่ะ รายละเอียดส่วนด้านหน้าก็จะประกอบไปด้วยหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ด้านบนหน้าจอจะเป็นโลโก้ ??Samsung, ลำโพงสำหรับสนทนา, กล้องหน้า VGA,?Proximity Sensor สำหรับปิดหน้าจออัตโนมัติเวลาที่เราถือตัวเครื่องแนบหู และโลโก้ Duos การันตีว่ามือถือรุ่นนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิมแบบ Always On ที่จะไม่พลาดทุกการติดต่อ เพราะมันสามารถรับสายซ้อนจากซิมสองได้ แม้ว่าเรากำลังสนทนาด้วยซิมหนึ่งอยู่ก็ตาม ถัดมาที่ด้านล่างของหน้าจอก็จะพบกับปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ โดยปุ่มเมนูและปุ่มย้อนกลับปกติแล้วจะซ่อนอยู่ และจะสว่างเวลาที่เราใช้งานเครื่อง
ด้านข้างขวาของ Samsung Galaxy S Duos 2 จะประกอบไปด้วยปุ่ม Power และช่องใส่ MicroSD Card ด้านบนจะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ด้านซ้ายจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และช่องที่เป็นแรร์ไอเทมอย่างช่องร้อยพวงกุญแจ ซึ่งหาไม่ค่อยได้ในมือถือยุคหลังๆ?ส่วนด้านล่างก็จะเป็นช่องเสียบสาย USB และไมค์สำหรับสนทนา สำหรับขอบข้างของ Samsung Galaxy S Duos 2 จะเป็นส่วนที่ผมค่อนข้างประทับใจ เพราะจะมี Texture เป็นเส้นๆ ที่ช่วยป้องกันปัญหามือลื่นแล้วเผลอทำมือถือร่วงได้ครับ
มาถึงด้านหลังของ Samsung Galaxy S Duos 2 ก็ตามสไตล์มือถือ Samsung ที่จะต้องถอดฝาหลังได้ ซึ่งเมื่อถอดฝาหลังโดยการเริ่มแงะจากร่องทางด้านขวาบนของฝาหลังก็จะพบกับแบตเตอรี่ความจุ 1500 mAh สามารถถอดเปลี่ยนได้, ช่องใส่ซิม 2 ช่อง รองรับซิมขนาดมาตรฐาน (ซิมใหญ่) ข้อสังเกตสำหรับด้านหลังของ Samsung Galaxy S Duos 2 ก็คือพอถอดแบตเตอรี่ออกมาก็จะเจอกับแผงเมนบอร์ดโดยตรงเลย ซึ่งมือถือปกติเนี่ยเขาจะมีอะไรมากั้นระหว่างแบตเตอรี่กับเมนบอร์ด แต่ที่ Samsung ออกแบบมาเช่นนี้คงจะไม่ต้องการให้ Samsung Galaxy S Duos 2 มีขนาดที่หนาจนเกินไป
ย้อนกลับมาที่รายละเอียดด้านหลังของ Samsung Galaxy S Duos 2 ก็จะประกอบไปด้วยโลโก้ Samsung ตัวใหญ่, กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED และลำโพงหลักของตัวเครื่อง สำหรับวัสดุของฝาหลังก็ใช้เป็นพลาสติกที่ออกแนวกึ่งๆ ผิวด้าน แน่นอนว่ามันเก็บรอยนิ้วมือ แต่ก็ไม่ได้มากขนาดพวกซอฟทัช ส่วนข้อเสียเต็มๆ เลย โดยเฉพาะเครื่องรีวิว Samsung Galaxy S Duos 2 ของเราจะเป็นสีขาว จากการใช้งานก็พบว่ามันเลอะง่ายมากครับ วางบนหนังสือพิมพ์นี่บอกเลยว่าเรียบร้อย แต่ก็ยังดีที่เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ถ้าไม่ได้ซีเรียสกับมือถือสีดำ แนะนำให้ซื้อสีดำดีกว่าครับ ดูแลรักษาง่ายกว่าเยอะ
หน้าจอของ Samsung Galaxy S Duos 2 เป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจครับ อาจเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ทำรีวิวเจ้า Samsung Galaxy Core 2 Duos ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะสีสันหน้าจอของ Samsung Galaxy S Duos 2 ถือว่าสดใส และสมจริงกว่า Galaxy Core 2 หลายเท่าครับ รวมถึงความคมชัดหน้าจอก็มีมากกว่าด้วย ตรงนี้คาดว่าเป็นเพราะขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับความละเอียดหน้าจอที่ 480×800 พิกเซลก็ถือว่าเหมาะสมกันดี เอาเป็นว่าถ้าอยากเห็นเม็ดพิกเซลก็ต้องเพ่งกันหน่อยนะครับ ส่วนตัวผมมองว่าหน้าจอของ Samsung Galaxy S Duos 2 เป็นหน้าจอ TFT ที่แจ่มพอตัวเลย และสำหรับการใช้งานกลางแจ้งที่มีแสงแดดจัดๆ ใช้การเปิดแสงหน้าจอสู้ก็พอจะถูไถไปได้ ไม่ได้ถึงกับแพ้แสงอะไรมากมายครับ
ก็ถือว่าสอบผ่านในส่วนของการออกแบบ, วัสดุและงานประกอบนะครับสำหรับ Samsung Galaxy S Duos 2 จัดว่าคุ้มค่าตัวที่ราคา 4,900 บาท จุดเด่นก็คงอยู่ที่ตัวเครื่องขนาดกำลังพอดี พกพาสะดวก งานประกอบก็ทำออกมาได้แน่นหนา แข็งแรง ไม่มีอาการยวบยาบที่ฝาหลัง ที่สำคัญคือหน้าจอของ Samsung Galaxy S Duos 2 นี่จัดว่าสวยพอตัวเลยครับ
Software
Samsung Galaxy S Duos 2 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jellybean ที่ครอบด้วย TouchWiz UI เช่นเดียวกับมือถือ Samsung รุ่นอื่นๆ การใช้งานก็พบว่ามีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย น่าจะด้วยสเปคที่ CPU เป็นเพียง CPU Dual Core และแรมที่ไม่ได้มากมายอะไร (Samsung Galaxy S Duos 2 Ram 768 MB) แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็ถือว่ามันตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอินเทอร์เน็ต, โซเชียลเน็ตเวิร์ค, การใช้งานเป็นโทรศัพท์ หรือจะเอาไปเล่นเกมยอดฮิตอย่าง Line เกมเศรษฐีก็ยังเล่นได้สบายมาก ลื่นปรื๊ดๆ เท่าที่ลองดูยังไม่พบอาการ Force Close ตอนเล่น Line เกมเศรษฐีเลย
ส่วนแอพพลิเคชันที่ลงมาให้ในรอมตั้งแต่แรกเลยก็ไม่ได้มีเยอะแยะเหมือนก่อนแล้ว หลังจากที่ Google ได้สั่งให้ Samsung เพลาๆ การอัดแอพพลิเคชันของตัวเองลงในรอมมือถือ แต่แอพของ Samsung ก็ไม่ได้หายไปไหนนะครับ เพียงแต่ผู้ใช้ต้องเข้าไปเลือกดาวโหลดเพิ่มเติมเอาเองจาก Galaxy?App Center โดยแอพพลิเคชันที่มีให้ดาวโหลดก็อย่างเช่น Samsung Care, Samsung Showtime, Galaxy Kids, Galaxy Horoscope และ Galaxy Gift เป็นต้น การที่ Samsung ให้ผู้ใช้เลือกดาวโหลดแอพพลิเคชันได้เองเช่นนี้ ส่งผลให้พื้นที่หน่วยความจำในตัวเครื่องเหลือเยอะกว่าแต่ก่อนมาก
นอกจาก Galaxy App Center ที่รวบรวมแอพพลิเคชันจากทาง Samsung แล้ว ยังมี GALAXY Apps หรือเมื่อก่อนคือ Samsung Apps โดยจะทำหน้าที่คล้ายกับ Google Play Store แต่ GALAXY Apps จะแนะนำแอพพลิเคชันที่เหมาะสมกับมือถือ Samsung ให้ผู้ใช้เลือกดาวโหลด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานมือถือ Samsung ให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น และใน Samsung Galaxy S Duos 2 ยังมีแอพพลิเคชันบางตัวที่ลงมาให้ตั้งแต่ในรอมเลยก็อย่าง Line แอพพลิเคชันสำหรับแชทยอดนิยมในบ้านเรา และ Dropbox เอาไว้คอยเก็บข้อมูลเพิ่มเติมบน Cloud ครับ
ภาพรวมในส่วนของ Software ของ Samsung Galaxy S Duos 2 ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีในเรื่องของการใช้งานที่ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้มือใหม่ที่ไม่เคยใช้งานสมาร์ทโฟนมาก่อน หรือจะเป็นผู้ใช้ที่เคยใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นมาก็ทำความเข้าใจได้ไม่ยากครับ การใช้งานก็ค่อนข้างโอเค มีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อยตามสเปคที่ไม่ได้แรงหวือหวา ถ้าให้คะแนนก็คงจะเป็น 3 ดาวจาก 5 ดาวครับ ไม่ได้โดดเด่น แต่ก็ไม่ได้แย่จัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ ครับ
Camera
กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลของ Samsung Galaxy S Duos 2 มาพร้อมระบบออโต้โฟกัสที่ต้องอาศัยการแตะเพื่อโฟกัสจากตัวผู้ใช้ก่อน แล้วจากนั้นกล้องจะทำการโฟกัสอัตโนมัติไปยังจุดที่เราได้ทำการแตะไว้ ซึ่งตรงนี้จะไม่เหมือน Auto Focus ของยี่ห้ออื่นที่ตัวกล้องจะทำการหาจุดโฟกัสเองตั้งแต่ทำการเปิดแอพฯ กล้องขึ้นมา ส่วนหน้า UI ของกล้องถ่ายรูปก็จะเป็นประมาณนี้ครับ
สำหรับโหมดต่างๆ ก็มีให้เลือกอย่างจุใจเลยทีเดียว แต่ส่วนมากก็คงจะใช้หลักๆ ไม่กี่โหมดหรอกครับ อย่างผมใช้ตอนรีวิว Samsung Galaxy S Duos 2 บ่อยๆ ก็โหมดอัตโนมัติ, โหมดกลางคืน แล้วก็โหมดกีฬาเมื่อต้องการถ่ายภาพที่มีวัตถุเคลื่อนไหวเร็วๆ ส่วนปัญหาที่พบในการใช้งานกล้องของ Samsung Galaxy S Duos 2 ที่เห็นได้ชัดเลยคือเรื่องของ White balance เพี้ยน ทำให้การชดเชยแสงของมันดูแปลกๆ ไปหน่อย ส่วนการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังก็ถือว่าไม่ยากเท่าไหร่ แต่ต้องมือนิ่งๆ หน่อยครับ และแน่นอนว่าการถ่ายภาพตอนกลางคืนถ้าไม่เปิดโหมดกลางคืนช่วยจะถ่ายออกมาให้สวยได้ยากมาก
ส่วนกล้องหน้า vga ของ Samsung Galaxy S Duos 2 ส่วนตัวผมมองว่าจะเอามาเน้นถ่ายเซลฟี่คงไม่ค่อยเหมาะสมนัก ด้วยความละเอียดที่น้อยเกินไป และจุดประสงค์หลักของการมีกล้องหน้าคงจะเอาไว้สำหรับวีดีโอคอลมากกว่า อย่างการถ่ายกล้องหน้าในอาคารนี่จะให้ภาพที่ค่อนข้างมืดทีเดียวครับ
Gallery ด้านล่างนี้จะเป้นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ Samsung Galaxy S Duos 2 ที่ใช้โหมดอัตโนมัติครับ
Performance
ประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy S Duos 2 ก็อยู่ในเกณฑ์ของมือถือระดับล่าง – กลาง คือใช้งานทั่วไป, เน้นเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก เล่นเกมนิดหน่อย เพราะด้วยสเปคที่ยังไม่ถึงขั้น (CPU Dual Core, Ram 768 MB) จะให้ใช้งานหนักๆ สลับแอพฯ ไปมาอย่างรวดเร็วทันใจก็จะดูไม่ค่อยยุติธรรมกับเจ้า Samsung Galaxy S Duos 2 เท่าไหร่นัก แต่ถ้ามองที่ราคา 4,900 บาท เอาจริงๆ มันก็ควรจะลื่นกว่านี้สักหน่อยนะ
ส่วนผลเทส, การ Benchmark ผมก็คงขอไม่เอามาลงจะดีกว่า เพราะเอาเข้าจริงผลเทสก็ไม่ได้การันตีว่าทำคะแนนออกมาดี จะใช้งานได้ลื่นเสมอไป มันมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องครับ บางเครื่องผลเทสอาจจะพุ่งกระฉูด แต่พอใช้งานจริงกลับพบอาการแอพ Force close บ่อยๆ ก็มีถมไป และเท่าที่ลองใช้งานระหว่างรีวิว Samsung Galaxy S Duos 2 โดยตั้งค่าแบบเดียวกับค่าดังเดิมจากโรงงาน ก็มีคำแนะนำนิดๆ หน่อยๆ สำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อ Samsung Galaxy S Duos 2 มาใช้งาน ว่าอย่างน้อยควรทำการรีสตาร์ทเครื่อง 1 ครั้งทุกเช้า เพื่อเป็นการเคลียร์แอพฯ เคลียร์แรมภายในเครื่องก่อนที่จะเริ่มใช้งาน ก็จะช่วยให้ Samsung Galaxy S Duos 2 ทำงานได้ดียิ่งขึ้นครับ
การจัดการพลังงานใน Samsung Galaxy S Duos 2 เท่าที่ลองสแตนบายเครื่องโดยเปิด 3G ทิ้งไว้ก็พบว่าตัวเครื่องใช้งานแบตเตอรี่น้อยมาก แต่พอได้หยิบมาเล่นก็รู้เลยครับว่าแบตเตอรี่ 1500 mAh ใน Samsung Galaxy S Duos 2 ยังไงก็ใช้ไม่พอแน่นอน เปิดเล่น Line เกมเศรษฐีไป 4 ตารวด (ใช้การเชื่อมต่อ Wifi) พบว่าแบตเตอรี่จากก่อนเล่นที่ 80% ลดลงมาเหลือเพียง 22% โดยตัวการหลักที่กินพลังงานมากเป็นพิเศษก็คงไม่พ้นหน้าจอขนาด 4 นิ้วของมันนี่แหละครับ ในการใช้งานจริงคงต้องอาศัยปรับแสงหน้าจอลงมาหน่อย และคงต้องพก Powerbank สำรองไว้ยามฉุกเฉินจะเป็นการดีครับ
Overall
สำหรับ Samsung Galaxy S Duos 2 ก็จัดเป็นมือถือรุ่นเล็กอีกรุ่นหนึ่งที่ให้อะไรมาค่อนข้างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้า – หลัง CPU Dual Core และแรม 768 MB หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่ พกพาสะดวก?งานประกอบและวัสดุอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แต่ผมก็ยังยืนยันครับว่าค่าตัว 4,900 บาทของ Samsung Galaxy S Duos 2 ควรจะมีอะไรให้มากกว่านี้หน่อย อย่างน้อยก็ Ram น่าจะให้มาที่ 1 GB ไปเลย เพราะมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาทเดี๋ยวนี้การแข่งขันค่อนข้างสูงทีเดียวครับ เชื่อเลยว่าเป็นงานหนักของทาง Samsung แน่นอน
ข้อดี
- งานประกอบค่อนข้างดี ตัวเครื่องขนาดกำลังดี พกพาสะดวก
- หน้าจอค่อนข้างสวย ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมแบบ Always on
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jellybean ใช้งานได้ลื่นพอตัว
ข้อสังเกต
- กล้องหลังและกล้องหน้ายังไม่ค่อยประทับใจ
- สเปคยังกั๊กๆ อยู่ อาทิเช่น Ram 768 MB, CPU Dual Core เป็นต้น
- แบตเตอรี่ไม่ค่อยอึดเท่าไหร่
Compare
มาถึงส่วนสุดท้ายจริงๆ ของรีวิว Samsung Galaxy ?S Duos 2 ซึ่งก็คือการเปรียบเทียบกับมือถือรุ่นอื่นๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกับ Samsung Galaxy S?Duos 2 ที่ราคา 4,900 บาท จำนวน 5 รุ่นด้วยกัน?ดังนี้
ถ้าวัดกันที่ความคุ้มค่าจริงๆ Samsung Galaxy S Duos 2 เมื่อเทียบกับมือถือเหล่านี้คงแพ้หลุดรุ่ย แต่ Samsung เองก็มีดีอยู่ที่คอนเท้นพิเศษเฉพาะผู้ใช้ Samsung Galaxy อย่างแอพพลิเคชัน Galaxy Gift มาช่วยทำให้ดูคุ้มค่ายิ่งขึ้น เพราะแอพพลิเคชันดังกล่าวจะให้ส่วนลดร้านอาหารที่ว้าวพอสมควรเลย และข้อดีอีกอย่างที่ Samsung Galaxy S Duos 2 เหนือกว่ามือถือ 5 รุ่นที่เหลือคือมันมีเคสให้เลือกใช้มากมายเลยครับ และหาซื้อเคสไม่ยากเหมือนรุ่นอื่นๆ ด้วย
ส่วนตัวเลือกอื่น นอกเหนือจาก Samsung Galaxy S?Duos 2 ก็ขอสรุปง่ายๆ ดังนี้ครับ
- Huawei Ascend G730 ในราคาไม่เกิน 5,000 บาทถือว่าให้อะไรมาเยอะที่สุดไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่เยอะที่สุดและหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุด
- Asus Zenfone 4.5 ค่อนข้างอยู่ในระดับกลางๆ คือเด่นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ IPS ขนาดกำลังพอดี กล้องหลังความละเอียดสูง และเป็น Android 4.4 Kitkat
- Lenovo A526 ยกให้เขาเรื่องของงานประกอบที่แน่นหนาและแข็งแรง ส่วนสเปคอื่นๆ ก็ถือว่าเกาะกลุ่ม ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น
- Nokia X2 เหมาะสำหรับสาวกโนเกีย และผู้ที่ต้องการใช้งานมือถือแบบง่ายสุดๆ เพราะอินเตอร์เฟสของ Nokia X เป็นอะไรที่ไม่มีความซับซ้อนเลย สเปคก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้โดดเด่น แต่ก็ให้ Ram มา 1 GB