Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Android Platform»[Review] รีวิว Samsung Galaxy Core 2 Duos มือถือ Quad Core ใช้งาน 2 ซิม ในราคา 6,590 บาท
    Android Platform

    [Review] รีวิว Samsung Galaxy Core 2 Duos มือถือ Quad Core ใช้งาน 2 ซิม ในราคา 6,590 บาท

    Jamikorn SingnamthiengBy Jamikorn Singnamthieng11 สิงหาคม 2014Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    Samsung มักจะใช้ชื่อรุ่นมือถือเป็นรุ่นต่อยอดจากรุ่นเดิม อาทิเช่น Samsung Galaxy S รุ่นต่อมาก็เป็น S2, S3, S4 และ Samsung Galaxy S5 ตามลำดับ Samsung Galaxy Core 2 Duos ก็เช่นกันครับ มันมีเจนเนอร์เรชันที่ 1 เป็น Samsung Galaxy Core นั่นเอง โดย Samsung Galaxy Core 2 Duos เปิดตัวมาด้วยคอนเส็ปจั่วหัวไว้ว่า “ลื่นกว่าเดิม” เพราะเจ้า Samsung Galaxy Core 2 Duos ได้อัพเกรด CPU จากรุ่นแรกที่เป็น Dual Core เป็น CPU Quad Core อีกทั้งยังมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แต่ปัญหาอยู่ที่สเปคอื่นๆ กลับลดลงจากรุ่นแรก ไม่ว่าจะเป็น Ram ที่เหลือ 768 MB จากรุ่นแรกที่ให้แรมมาที่ 1 GB เป็นต้น สำหรับสเปคของ Samsung Galaxy Core 2 Duos ก็จะประมาณนี้ครับ

    สเปค Samsung Galaxy Core 2 Duos

    • ชิปประมวลผล Spreadtrum SC8830 Quad-Core ความเร็วสูงสุด 1.2 GHz
    • แรม 768 MB
    • หน้าจอ TFT ขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด 800×480 พิกเซล
    • รอมในตัว 4 GB
    • Android 4.4.2 Kitkat?ครอบมาดัวยอินเตอร์เฟส TouchWiz
    • ใช้งานได้ 2 ซิมแบบ Always on
    • รองรับ 3G แยกเครือข่าย (มี 2 โมเดล)
    • กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล Auto Focus พร้อมแฟลช
    • กล้องหน้าความละเอียด VGA
    • แบตเตอรี่ 2000 mAh
    • ราคาอยู่ที่ 6,590 บาท
    • สเปค Samsung Galaxy Core 2 Duos เต็มๆ

    Review-Samsung-Galaxy-Core-2-Duos-SpecPhone 005

     

    วีดีโอรีวิว Samsung Galaxy Core 2 Duos

    Design

    Review-Samsung-Galaxy-Core-2-Duos-SpecPhone 006 จอ 4.5 นิ้วกำลังพอดีมือ
    Review-Samsung-Galaxy-Core-2-Duos-SpecPhone 007

    การออกแบบของ Samsung Galaxy Core 2 Duos เนี่ยเรียกว่าจับ Samsung Galaxy Note 3 มาย่อส่วนของย่อส่วนอีกทีได้เลยครับ (ย่อส่วนครั้งแรกเป็น Samsung Galaxy Note 3 Neo Duos ไง) ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงเหลี่ยม, ขอบเครื่องที่ออกแบบมาให้คล้ายกับสมุด และฝาหลังที่มี Texture เหมือนเครื่องหนัง แต่จะบอกว่าเหมือนทั้งหมดก็คงไม่ได้ครับ เอาจริงๆ Samsung Galaxy Core 2 Duos แค่ออกแบบมาได้ “ดูเหมือน” Samsung Galaxy Note 3 เพราะด้วยช่วงราคาที่แตกต่างกันมาก ทำให้วัสดุของเจ้า Samsung Galaxy Core 2 Duos ยังห่างชั้นกับ Galaxy Note 3 หลายเท่า เอาง่ายๆ คือสัมผัสของ Texture ที่ฝาหลังก็คนละเรื่องแล้ว

    สำหรับรายละเอียดของตำแหน่งต่างๆ บน Samsung Galaxy Core 2 Duos เริ่มจากด้านหน้าก็จะประกอบไปด้วยหน้าจอ TFT ขนาด 4.5 นิ้ว ด้านบนหน้าจอประกอบไปด้วยโลโก้ Samsung, ลำโพงสำหรับใช้สนทนา, กล้องหน้าความละเอียด VGA สำหรับใช้งาน Video Call และโลโก้ Duos แสดงว่ารองรับการใช้งาน 2 ซิมแบบ Dual Sim Always on ได้แน่นอน (จุดเด่นของการใช้งาน 2 ซิมแบบ Always on คือสามารถรับสายเรียกเข้าขณะที่กำลังเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งในกรณีที่กำลังพูดสายโดยใช้ซิมการ์ดอีกอันหนึ่ง ทำให้ไม่พลาดทุกการติดต่อ) ถัดมาที่ด้านล่างของหน้าจอจะประกอบไปด้วยปุ่มกด 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่ม Recent App (ตรงนี้เป็นจุดสังเกตของมือถือ Samsung ที่เกิดมาพร้อมกับ Android 4.4 Kitkat เพราะถ้าเป็นรุ่นก่อนๆ จะเป็นปุ่ม Menu), ปุ่มโฮม และปุ่ม Back ครับ

    ขอบข้างของ Samsung Galaxy Coe 2 Duos จะใช้เป็นแบบเดียวกับใน Galaxy Note 3 คือจะมีการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับหนังสือ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือขอบเครื่องที่เป็นโครเมียมนี่แหละครับ เพราะมันเสี่ยงต่อการลอกมากๆ ทางที่ดีใส่เคสป้องกันไว้จะดีที่สุด ส่วนตำแหน่งของปุ่มต่างๆ บริเวณขอบเครื่องไล่จากทางด้านขวาก็จะเป็นปุ่ม Power ด้านบนเป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาทางด้านขวาจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นช่องเสียบสาย USB กับไมค์สำหรับใช้สนทนาโทรศัพท์ครับ

    จับ Galaxy Note 3 ย่อส่วน 2 ทีก็เป็น Samsung Galaxy Core 2 แล้ว

    Review-Samsung-Galaxy-Core-2-Duos-SpecPhone 013

    พูดถึงด้านหน้า และด้านข้างไปแล้ว เรามาดูกันต่อที่ด้านหลังของ Samsung Galaxy Core 2 Duos กันบ้าง สำหรับ Samsung Galaxy Core 2 Duos สามารถแกะฝาหลังได้ และเมื่อเปิดฝาหลังมาก็จะพบกับแบตเตอรี่ความจุ 2000 mAh, ช่องใส่ซิม 1 พร้อมช่องใส่ MicroSD Card และช่องใส่ซิม 2 โดย Samsung Galaxy Core 2 Duos จะรองรับซิมแบบไมโครซิมทั้ง 2 ซิมครับ และยังมีข้อสังเกตนิดหน่อยตอนซื้อ เพราะเจ้า Samsung Galaxy Core 2 Duos จะมีด้วยกัน 2 โมเดลครับ คือรุ่นที่รองรับ 3G ความถี่ 900/2100 และความถี่ 850/2100 สำหรับใครที่ใช้บริการของ 365 หรือ My by Cat ต้องเลือกเป็นรุ่นรองรับ 3G ความถี่ 850/2100 นะครับ ถ้าไปใช้รุ่นที่รองรับ 3G คลื่น 900/2100 จะใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้เลย โดยเครื่องรีวิว Samsung Galaxy Core 2 Duos ของเราจะเป็นโมเดลที่รองรับ 3G คลื่น 900/2100 แต่สามารถใช้อ้างอิงกับอีกโมเดลได้เช่นกันครับ ไม่ได้มีความแตกต่างในด้านอื่นๆ

    สำหรับฝาหลังของ Samsung Galaxy Core 2 Duos อย่างที่ได้บอกไปว่ามันถูกออกแบบให้มี Texture หรือผิวสัมผัสคล้ายกับหนัง แต่ความเป็นจริงก็คือพลาสติกนี่แหละครับ สำหรับผมแล้ว นอกจากการป้องกันรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ ก็ยังไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไร เนื่องจากมันให้สัมผัสที่กระด้างมือพอตัวเลย ไม่เหมือนอย่างใน Samsung Galaxy Note 3 เอาเป็นว่ายังเทียบกับฝาหลังของ Samsung Galaxy Grand 2 ไม่ติดเลยดีกว่าครับ ตรงนี้ก็พอเข้าใจว่าคงเป็นเรื่องของราคาที่แตกต่างกันพอสมควรนั่นเอง ส่วนรายละเอียดด้านหลังของ Samsung Galaxy Core 2 Duos จะประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, แฟลช LED, ลำโพงหลักของตัวเครื่องและโลโก้ Samsung ครับ

    แต่เอาเข้าจริง Galaxy Core 2 ก็แค่ “ดูเหมือน” Galaxy Note 3 เท่านั้นแหละ

    Review-Samsung-Galaxy-Core-2-Duos-SpecPhone 018

    หน้าจอของ Samsung Galaxy Core 2 Duos สำหรับผมแล้วเป็นอะไรที่ “ไม่ผ่านอย่างแรง” โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาค่าตัว 6,590 บาทของมันด้วยแล้ว ทั้งความละเอียดหน้าจอที่ให้มาเพียง 800×480 พิกเซล (ไม่ถึง HD) แถมพาแนลที่ใช้ยังเป็นแบบ TFT ที่ต้องบอกว่า “จอไม่สวย” เอาซะเลย ทั้งสีซีดและจอสะท้อนแสงมากเป็นพิเศษ เอาเป็นว่าถ้าใช้งานกลางแจ้งที่มีแสงแดดจัดๆ ไม่ต้องพยายามเพ่งจอเลยครับ มองแทบไม่เห็นอะไรเลยดีกว่า อันที่จรงมือถือที่ใช้จอภาพที่มีคุณภาพประมาณนี้ก็มีให้เห็นเยอะแยะทั่วไป แต่ประเด็นคือมือถือเหล่านั้นไม่ได้มีราคา 6,590 บาทไงครับ ตรงนี้ผมรู้สึกแปลกใจมากๆ เพราะเทียบกันกับรุ่นที่ราคาถูกกว่าอย่าง Samsung Galaxy S Duos 2 ยังรู้สึกได้เลยว่ารุ่นหลังทำหน้าจอออกมาได้ดีกว่าเยอะ

    สำหรับภาพรวมของการออกแบบและวัสดุใน Samsung Galaxy Core 2 Duos ความจริงมันก็มีข้อดีนะครับ เพราะผู้ใช้จะได้ดีไซน์แบบเดียวกับเรือธงอย่าง Samsung Galaxy Note 3 ย่อส่วนของย่อส่วนอีกทีในราคาไม่ถึงหมื่นบาท ถ้าใครที่ชอบดีไซน์ของ Samsung Galaxy Note 3 ก็คงจะหลงรักเจ้า Samsung Galaxy Core 2 Duos ได้ไม่ยากนัก แต่ก็ด้วยราคาที่แตกต่างกันมากเกินไป ทำให้วัสดุที่เลือกใช้แตกต่างกันพอสมควร ส่วนข้อสังเกตที่ทำให้ต้องคิดดีๆ ก่อนจะซื้อ Samsung Galaxy Core 2 Duos ก็คงไม่พ้นเรื่องหน้าจอนี่แหละครับ ส่วนตัวผมมองว่ามือถือราคา 6,590 บาทเนี่ย ไม่ต้องให้จอ IPS ก็ได้ (แต่ถ้าได้ก็จะดีมาก) แต่อย่างน้อยควรเลือกใช้พาเนลจอที่ดีกว่านี้ครับ

    Software

    Screenshot_2014-08-10-13-54-42-horz

    Samsung Galaxy Core 2 Duos มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 Kitkat ครอบด้วย TouchWiz UI ที่มองๆ แล้วก็คล้ายกับ Samsung Galaxy S5 ครับ ซึ่งอันที่จริงมือถือ Samsung ถ้าอัพเดตเป็น Android 4.4 Kitkat ก็จะมีหน้าตาของ UI ประมาณนี้นั่นแหละ การใช้งานทั่วไปก็ต้องบอกว่าใช้งานได้ง่ายครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนการตอบสนองของตัวซอฟท์แวร์ยังไม่เข้าขั้นประทับใจเท่าไหร่ มีอาการหน่วงให้เห็นบ้าง ตามสเปคของตัวเครื่อง แต่ข้อดีของ TouchWiz UI เวอร์ชั่น Android 4.4 Kitkat คือจะไม่มีปัญหาเรื่อง App ที่ทาง Samsung บังคับใส่ไว้ในตัวเฟิร์มแวร์แล้ว ซึ่งตรงนี้หากผู้ใช้ต้องการจะดาวโหลดแอพของ Samsung ก็สามารถเข้าไปดาวโหลดผ่านแอพพลิเคชัน Galaxy App Center และเลือกโหลดเฉพาะแอพที่ต้องการใช้จริงๆ ทำให้ผู้ใช้ได้ใช้พื้นที่หน่วยความจำได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นครับ

    Screenshot_2014-08-10-15-30-10-horz

    ความพิเศษของของแอพพลิเคชันใน Galaxy App Center ที่เป็นประโยชน์อย่างมากในชีวิตจริงก็คือ แอพพลิเคชัน Galaxy Gift ครับ โดยแอพพลิเคชันดังกล่าวจะรวมส่วนลดจากร้านอาหารชั้นนำ รวมถึงส่วนลดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นความงาม, ท่องเที่ยว ไปจนถึงการออกกำลังกาย เป็นต้น?นอกจากนี้แอพพลิเคชัน Galaxy App Center ยังมีสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า Samsung เช่น แอพพลิเคชันลดราคา หรืออย่างเกมดังๆ ก็มีลดราคาให้เลือกซื้อกันด้วยครับ

    Camera

    Review-Samsung-Galaxy-Core-2-Duos-SpecPhone 017

    กล้องหลังของ Samsung Galaxy Core 2 Duos จะเป็นกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Auto Focus และแฟลช LED ซึ่งประเด็นอยู่ที่ระบบออโต้โฟกัสของเจ้า Samsung Galaxy Core 2 Duos นี่แหละครับ เพราะตอนรีวิว Samsung Galaxy Core 2 Duos เวลาถ่ายภาพนี่ต้องเลือกจุดโฟกัสให้มันตลอดเลย ตามความเข้าใจของผมคือกล้อง Samsung Galaxy Core 2 Duos ยังไม่ฉลาดพอที่จะหาจุดโฟกัสด้วยตัวเอง ผู้ใช้เลยต้องกำหนดจุดโฟกัสให้มันครับ และเมื่อได้จุดโฟกัสที่เราต้องการแล้วถึงจะคิดต่อได้ด้วยตัวมันเอง

    Screenshot_2014-08-10-13-55-45

    ซึ่งตรงนี้จะกลายเป็นข้อเปรียบเทียบกับมือถือรุ่นอื่นๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกับค่าตัวของ Samsung Galaxy Core 2 Duos ไปทันที เพราะมือถือส่วนมากในช่วงราคา 6,000 – 7,000 บาทเนี่ย ถ้าให้กล้องแบบออโต้โฟกัสมา อย่างน้อยตัวแอพฯ กล้องเองก็จะทำการหาจุดโฟกัสอัตโนมัติให้ครับ ส่วนโหมดถ่ายรูปก็มีให้เลือกมากมาย เรียกว่ามีมาให้ไม่แพ้รุ่นใหญ่ๆ เลยครับ

    สำหรับตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องหลังของ Samsung Galaxy Core 2 Duos สามารถรับชมได้จาก Gallery เลยครับ

    Performance

    Review-Samsung-Galaxy-Core-2-Duos-SpecPhone 019

    ประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy Core 2 Duos สำหรับการใช้งานทั่วไปก็ถือว่าตอบโจทย์ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเล่น Social Network, เล่นอินเทอร์เน็ต, การใช้งานเป็นโทรศัพท์ หรือแม้แต่จะเล่นเกมยอดฮิตในเวลานี้อย่าง Line เกมเศรษฐีก็ยังพอไหวครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องหมั่นเคลียร์ Ram บ่อยๆ เพราะตัว Samsung Galaxy Core 2 Duos เองก็ไม่ได้ให้แรมมาเยอะพอที่จะใช้งานหนักๆ สิ่งที่ผมคาใจคือทำไมไม่ใส่แรมมาให้ 1 GB ไปเลย กลับให้แรมมาครึ่งๆ กลางๆ ที่ 768 MB ถึงแม้จากการทดสอบหลายๆ ที่ว่ากันว่าแรม 768 MB กับแรม 1 GB เวลาใช้งานจริงแตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งตัว UI จากผู้ผลิตมากกว่า แต่ความรู้สึกที่จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสักเครื่องมันต่างกันมากครับ ระหว่างแรม 768 MB กับแรม 1 GB เนี่ย

    อย่าเอา Ram ชั้นไป !!!

    อีกทั้ง CPU ก็ยังไม่ค่อยประทับใจ แม้จะปรับมาใช้เป็น CPU Quad Core แล้วก็ตาม แต่ดันเลือกใช้ CPU Spreadtrum ซึ่งเป็นซีพียูที่อาจจะไม่คุ้นหูนัก เพราะส่วนมากมันจะอยู่ในมือถือแอนดรอยจากจีนครับ ความลื่นก็ไม่ต้องพูดถึง เอาเป็นว่าจะซื้อ Samsung Galaxy Core 2 Duos อาจจะต้องทำใจล่วงหน้าเรื่องอาการหน่วงเวลาเปิด-ปิดแอพเลยหล่ะ และนอกจาก Ram กับ CPU แล้ว หน่วยความจำภายในก็เป็นจุดสังเกตของมือถือรุ่นนี้เช่นกัน เพราะให้มาแค่เพียง 4 GB เท่านั้นเอง ใส่แอพอะไรนิดหน่อยก็แทบจะไม่มีพื้นที่เหลือแล้วครับ ยังดีที่สามารถเพิ่มการ์ดความจำภายนอกได้ แต่ก็นั่นแหละครับ ราคาระดับนี้น่าจะให้ความจุสัก 8 GB จะดูดีกว่าเยอะ

    Screenshot_2014-08-10-13-54-36

    ส่วนการจัดการพลังงานของ Samsung Galaxy Core 2 Duos ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มา 2000 mAh ถ้าใช้งานจริงๆ เปิด 3G ไว้ตลอด คงต้องพก Powerbank เอาไว้ เพราะไม่น่าจะอยู่รอดหมดวันแน่ๆ แต่ก็ยังถือว่าทำได้ดีกว่าบางแบรนด์นะครับในจุดนี้

    Overall

    Review-Samsung-Galaxy-Core-2-Duos-SpecPhone 015

    มาถึงส่วนก่อนสุดท้ายของบทความรีวิว Samsung Galaxy Core 2 Duos ก็คือในส่วนของการสรุปภาพรวมอีกที หลังจากที่เราได้ทำการรีวิว Samsung Galaxy Core 2 Duos ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับค่าตัวที่ 6,590 บาท เมื่อเทียบกับมือถือที่มีราคาใกล้เคียงกัน (ช่วงราคา 5,000 – 7,000 บาท) บอกเลยครับว่างานหนักแน่ๆ หากถามผมว่า Samsung Galaxy Core 2 Duos เหมาะกับใคร คำตอบก็คงจะเป็นผู้ใช้ที่ชื่นชอบในการออกแบบสไตล์ Samsung และต้องการใช้งานมือถือ 2 ซิมแบบ Always on นั่นแหละครับ

    ข้อดี

    • การออกแบบทำออกมาได้ดี หน้าตาเหมือน Note 3 ย่อส่วนในราคา 6,590 บาท
    • รองรับการใช้งาน 2 ซิมแบบ Always on
    • ให้แบตเตอรี่มาถึง 2000 mAh
    • แอพพลิเคชัน Galaxy Gift ให้ส่วนลดค่าอาหารเยอะดี ^^

    ข้อสังเกต

    • สเปคโดยรวมยังดูกั๊กๆ อยู่ อาทิเช่น Ram 768 MB เป็นต้น
    • การใช้งานพบอาการหน่วงตอนเปิด-ปิดแอพบ่อยมาก
    • หน้าจอทำออกมาได้ไม่ประทับใจ จอสะท้อน, สีซีด
    • วัสดุตัวเครื่องโดยรวมยังไม่ค่อยประทับใจ
    • ราคา 6,590 มีคู่แข่งเพียบ

    Compare

    มาถึงส่วนสุดท้ายจริงๆ ของรีวิว Samsung Galaxy Core 2 Duos ซึ่งก็คือการเปรียบเทียบกับมือถือรุ่นอื่นๆ ที่มีราคาใกล้เคียงกับ Samsung Galaxy Core 2 Duos ที่ราคา 6,590 บาท จำนวน 5 รุ่นด้วยกัน

    Compare Galaxy Core 2 Duos

    ถ้าเทียบบรรดาคู่แข่ง 5 รุ่นของ Samsung Galaxy Core 2 Duos ก็ต้องบอกว่า Samsung อาจจะต้องปาดเหงื่อหลายรอบหน่อยครับ เพราะมือถือในช่วงราคาประมาณนี้ล้วนแต่ให้อะไรเยอะกว่า Samsung Galaxy Core 2 Duos ด้วยกันทั้งนั้น เอาเป็นว่าสิ่งที่ Samsung Galaxy Core 2 Duos เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ก็คงจะเป็นคอนเท้นพิเศษจากทาง Samsung อย่างแอพ Galaxy Gift และการเป็น Android 4.4 Kitkat นี่แหละครับ แต่ถ้าให้พูดกันตรงๆ หากมีงบประมาณเท่านี้ซื้อรุ่นอื่นจะสบายใจกว่าครับ

    ส่วนตัวเลือกอื่น นอกเหนือจาก Samsung Galaxy Core 2 Duos ก็ขอสรุปง่ายๆ ดังนี้ครับ

    • Asus Zenfone 5 ถ้าตัดปัญหาเรื่อง Wifi ออกไปก็ถือว่าตีตลาดมือถือในช่วงราคานี้แตกกระจายครับ ให้ทุกอย่างคุ้มค่าจริงๆ
    • ถ้าต้องการมือถือดูทีวีดิจิตอลได้ก็จัด I-Mobile IQ 6.9 DTV ไปครับ สเปคก็พอตัวเลย
    • Huawei Honor 3C สเปคอัดมาให้แรงไม่แพ้ Asus Zenfone 5 เลยครับตัวนี้ แถมแบตเตอรี่ยังให้มาเยอะที่สุดในบรรดา 5 รุ่นด้วย
    • Vivo Y22 สำหรับขาเซลฟี่ต้องรุ่นนี้เลยครับ ด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูงและเลนส์ Wide มั่นใจว่าเก็บภาพได้ครบแน่นอน
    Review Samsung
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Jamikorn Singnamthieng

    Related Posts

    แนะนำ 10 โทรศัพท์เล่นเกมไม่เกิน 10000 บาทปี 2025 สเปคแรง เล่นเกมได้ไหลลื่นในราคาคุ้มๆ

    23 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ OPPO ใหม่ล่าสุดทุกรุ่นปี 2025 มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้างช่วงกลางปีนี้

    22 พฤษภาคม 2025

    สเปค Infinix GT 30 Pro มือถือเกมมิ่งพร้อมชิป Dimensity 8350 Ultimate ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,990 บาท

    21 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    วิธีซื้อวัน AIS ปี 2568 กดอะไรถึงจะเติมวัน AIS เพิ่ม 30, 180 วัน และ 1 ปี ซื้อแบบไหนคุ้มที่สุด!

    24 พฤษภาคม 2025

    วิธีซื้อวันทรู เติมวันทรู 30/ 90/ 180/ 356 วัน (1 ปี) กดอะไร ราคาเท่าไหร่สำหรับซิมเติมเงิน true อัพเดท 2025

    24 พฤษภาคม 2025

    วิธีซื้อวัน dtac กดอะไร ซื้อวันดีแทค 30, 90, 180 วันถึง 1 ปีทำยังไงได้บ้างสำหรับซิมเติมเงิน อัพเดทปี 2025

    24 พฤษภาคม 2025

    เช็คราคาเปลี่ยนแบต iPad ทุกรุ่นในปี 2025 แต่ละรุ่นมีราคาแบตและค่าบริการเท่าไหร่ เปลี่ยนที่ไหนได้บ้างเช็คเลย!

    23 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X