“แอดมินครับ อยากได้มือถือจอใหญ่ ๆ สเปคแรง ๆ เล่นเกมลื่น กล้องแจ่ม บอดี้งาม ๆ งานประกอบแน่น…แต่ราคาไม่เกิน 10,000 บาทมีไหมครับ?” เป็นคำถามที่คนทำเว็บไซต์อย่างผมต้องเจอเป็นประจำ ทั้งในเว็บไซต์และแฟนเพจ SpecPhone ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่ามันก็มีมือถือแบบนั้น ติดอยู่ตรงที่จะให้ราคาไม่เกินหมื่นเนี่ย…หายากแน่นอน
Nubia Z11 Max เป็นมือถือที่มีทุกอย่างที่มือถือดี ๆ เครื่องหนึ่งควรจะมี ในราคาไม่ถึง 10,000 บาท และไม่ใช่ราคา “หมื่นนึงทอนสิบบาท” แน่นอน โดยราคาของ Nubia Z11 Max เปิดราคามาที่ 8,990 บาทเท่านั้น อันดับแรกเราไปรู้จักสเปคของ Nubia Z11 Max ก่อนเลย
สเปค Nubia Z11 Max
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD 368 ppi กระจก 2.5 D Gorilla Glass 3
- Android 6.0 ครอบทับด้วย Nubia UI 4.0
- CPU Qualcomm Snapdragon 652 octa-core 1.8 GHz
- GPU Adreno 510
- Ram 4 GB
- Rom 64 GB รองรับ microSD ได้สูงสุด 200GB
- รองรับ OTG
- กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ IMX298 รูรับแสง f/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED แบบ Dual Tone
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล BSI f/2.4 สามารถถ่ายมุมกว้างได้ 80 องศา
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับ Quick Charge 3.0
- สเปคเต็ม ๆ Nubia Z11 Max
- ราคาจำหน่าย 8,990 บาท
อุปกรณ์ในกล่องของ Nubia Z11 Max ให้มาเพียง 3 ชิ้น ได้แก่ ตัวเครื่อง Nubia Z11 Max, สาย USB Type-A to USB Type-C และอะแดปเตอร์รองรับ Fast Charge จ่ายไฟได้แรงสุดที่ 3A ส่วนหูฟังไม่มีแถมมาให้ครับ
จุดเด่น
– ความจุตัวเครื่อง 64 GB แทบไม่ต้องซื้อ MicroSD Card ก็ได้
– งานประกอบดีเกินราคา ดีไซน์ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี
– หน้าจอใหญ่ 6 นิ้ว ในขนาดบอดี้ประมาณมือถือ 5.5 นิ้วเท่านั้น
– ฟีเจอร์ที่ให้มาใช้งานได้จริง ทั้ง Split Screen 2.0 รวมถึง Super Screenshot และอื่น ๆ
– แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้นาน เล่นเกมกราฟฟิคโหด ๆ ได้ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
– ถาดซิมเป็นแบบ Hybrid Slot
– อุปกรณ์ในกล่องไม่แถมหูฟังมาให้
บทสรุป
BEST PRICE
Design
Nubia Z11 Max มาพร้อมกับบอดี้ที่ใช้วัสดุเป็นโลหะกับกระจก ซึ่งเป็นอะไรที่เข้ากันและเป็นสูตรสำเร็จของสมาร์ทโฟนในยุคนี้ โดยโลหะที่ใช้ใน Nubia Z11 Max เป็นอลูมิเนียมอัลลอยซีรี่ส์ 6000 เกรดเดียวกับที่ใช้ในการผลิตอากาศยาน เพราะฉะนั้นจึงมีจุดเด่นทั้งความแข็งแรง และความเบาบาง มีการออซิเดชันป้องกันการกัดกร่อนที่ผิวตัวเครื่อง
ความรู้สึกแรกเมื่อสัมผัส Nubia Z11 Max คือมัน Smooth ไปทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุตัวเครื่อง ที่ผ่านกระบวนการมากมาย ตั้งแต่การขึ้นรูป CNC, การขัด, ยิงทราย และการออกซิเดชันอย่างดี รวมถึงการออกแบบให้มีความบางอยู่ที่ 7.4 มิลลิเมตร และมีความโค้งมน ที่มีชื่อเรียกเก๋ ๆ ว่า nubiArc 4.0 คือการปรับแต่งส่วนโค้งอย่างปราณีตในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อ Nubia Z11 Max อยู่บนมือของผู้ใช้แล้วจะให้ความรู้สึกที่ดีที่สุด ซึ่งก็ต้องบอกว่าทำได้จริงอย่างที่โฆษณาเอาไว้ล่ะครับ ทุกอย่างก็ดูลงตัวไปหมด
หน้าจอของ Nubia Z11 Max มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ความหนาแน่นของพิกเซลอยู่ที่ 368 ppi ค่าความอิ่มของสี 100% NTSC เทคโนโลยีหน้าจอ SuperAMOLED จาก Samsung ส่วนกระจกหน้าจอใช้เป็นกระจกนิรภัย Gorilla Glass 3 แบบโค้ง 2.5D แข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วน ตัวขอบจอเองถือว่าบางใช้ได้ที่ 1.32 มิลลิเมตร มีอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอของ Nubia Z11 Max คิดเป็น 83% ของพื้นที่ทั้งหมด
รายละเอียดทางด้านหน้าของ Nubia Z11 Max เริ่มจากด้านบนหน้าจอ ประกอบไปด้วยลำโพงสำหรับสนทนาโทรศัพท์, เซนเซอร์วัดแสง และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนด้านล่างหน้าจอประกอบไปด้วยปุ่มโฮมวงกลมสีแดง (มีไฟ LED) อันเป็นเอกลักษณ์ของ Nubia ข้าง ๆ จะมีปุ่มกดด้วยกัน 2 ปุ่ม สามารถปรับแต่งค่าได้เองทั้งซ้ายและขวา (Menu กับ Back)
หน้าตาแบบนี้ สเปคแบบนี้ บอกว่าราคาหมื่นห้าก็เชื่อนะ!!
ด้านข้างของ Nubia Z11 Max มีความบางอยู่ที่ 7.4 มิลลิเมตร ตัวขอบมีการขัด, ยิงทราย และออกซิเดชันอย่างดีเช่นเดียวกับฝาหลัง รายละเอียดด้านข้างเริ่มจากด้านขวามือ จะมีปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง ตัวปุ่มทั้งสองกดง่าย ไม่แข็งจนเกินไป ตำแหน่งของปุ่ม Power อยู่เลยกึ่งกลางมาเล็กน้อย ซึ่งมันลงตัวตอนใช้งานมาก ๆ ตำแหน่งของปุ่มจะพอดีนิ้วตอนจับถือตัวเครื่องพอดี
ด้านบนของ Nubia Z11 Max มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร เส้น ๆ ที่คาดผ่านจะเป็นเสาอากาศ และก็มีไมโครโฟนตัดเสียงจำนวน 1 ตัวทางด้านบน ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง และพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB Type-C สำหรับการชาร์จและ Sync ข้อมูล
ถาดใส่ซิมของ Nubia Z11 Max จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง ตัวถาดซิมจำเป็นต้องใช้เข็มจิ้มซิมในการดึงถาด รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด เป็นซิมการ์ดแบบ Micro Sim ทั้ง 2 ซิม แต่จะต้องเลือกระหว่างซิม 2 กับ MicroSD Card (เป็นถาดซิมแบบ Hybrid Slot) แล้วก็รองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุด 200 GB
ด้านหลังของ Nubia Z11 Max ประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ IMX298 มีทั้งหมด 6 ชิ้นเลนส์ ตัวกระจกเลนส์ใช้วัสดุเป็น Sapphire เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน โดยโมดูลกล้องจะนูนออกมาจากฝาหลัง แต่ Nubia ก็ออกแบบให้มันดูเท่ด้วยการใส่สีแดงเข้าไปบริเวณรอบ ๆ กลายเป็นว่าเพิ่มความโดดเด่นไปซะอย่างนั้น ถัดลงมาจากกล้องหลังก็จะเป็นแฟลช Dual LED แบบ 2 สี และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ส่วนบริเวณด้านล่างก็จะเป็นตัวหนังสือโลโก้ Nubia ครับ
ส่วนตัวผมค่อนข้างประทับใจกับภาพรวมการดีไซน์ของ Nubia Z11 Max ครับ ด้วยราคาที่ขายไม่แพง 8,990 บาท แต่ได้สมาร์ทโฟนที่ใช้วัสดุเป็นโลหะอย่างดี สัมผัสตัวเครื่องที่น่าประทับใจ และยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม ใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องที่มีขอบจอบางเฉียบ และมีความบางเพียง 7.4 มิลลิเมตร ทั้ง ๆ ที่ใส่แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4000 mAh
Software
Nubia Z11 Max มาพร้อมกับ Nubia UI 4.0 ที่มีพื้นฐานบน Android 6.0.1 Marshmallow โดยตัว UI ของ Nubia Z11 Max จะแตกต่างจาก UI ของ Pure Android อย่างชัดเจน จุดเด่นของระบบปฏิบัติการ Nubia UI 4.0 บน Nubia Z11 Max คือมันออกแบบมาสำหรับมือถือหน้าจอใหญ่โดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด และแน่นอนว่าฟีเจอร์ของ Nubia Z11 Max นั้นก็แน่นไม่แพ้ขนาดตัวเครื่องเลยล่ะครับ
Feature
อันที่จริง Nubia Z11 Max มีฟีเจอร์เยอะแยะมากมาย แต่ผมจะคัดมาเฉพาะที่แจ่ม ๆ และคิดว่าเพื่อน ๆ น่าจะได้ใช้งาน หรือทำให้ใช้งานสมาร์ทโฟนได้สะดวกมากขึ้น ได้แก่
Split Screen 2.0
หรือการแบ่งหน้าจอ ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับมือถือจอใหญ่อย่าง Nubia Z11 Max เพียงแค่ทำการปัดหน้าจอจากล่างขึ้นบน (ได้ทั้งแนวตั้งแต่แนวนอน) ก็จะเป็นการแบ่งหน้าจอทันที โดยจุดเด่นของการแบ่งหน้าจอใน Nubia Z11 Max คือมันเหมือนกับการมีสองหน้าจอจริง ๆ ครับ แล้วก็รองรับแอปพลิเคชันแทบทั้งหมด จะเล่น Facebook ไปพร้อม ๆ กับเล่นเกม หรือจะเล่นเกมไป ดูยูทูปไปก็ทำได้อย่างไม่มีปัญหา
Super Screenshot
ฟีเจอร์การจับภาพหน้าจอ ที่ทำได้มากกว่าแค่การจับหน้าจอปกติ วิธีการเรียกใช้ Super Screenshot สามารถทำได้โดยกดไปที่การเซ็นเซอร์การจดจำลายนิ้วมือหรือกดไปที่ปุ่ม Power และปุ่ม Volume พร้อมกัน โดยมีจุดเด่นดังนี้ครับ
- สามารถจับภาพหน้าจอแบบยาวได้
- จับภาพหน้าจอได้แบบอิสระ ไม่ว่าจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทรงรีและทรงรูปหัวใจห
- บันทึกวิดีโอหน้าจอการทำงานและสร้างวิดีโอคลิปขนาด 1080P/720P สำหรับการอัพโหลดและแชร์อย่างง่าย ๆ ไม่ต้องลงแอปเพิ่ม
Camera
Nubia Z11 Max มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล จำนวน 6 ชิ้นเลนส์ ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.0 กระจกเลนส์เป็น Sapphire ที่ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี ส่วนซอฟท์แวร์กล้องเป็น NeoVision 5.9 หน้า UI ใช้งานไม่ยาก สามารถตั้งค่ากล้องได้อย่างละเอียดในโหมดโปร ที่ปรับได้ตั้งแต่การโฟกัส, White Balance, ISO, ความเร็วชัตเตอร์ และยังมีโหมดกล้องให้เลือกใช้งานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปซ้อน 2 ครั้ง, การถ่ายไฟ, ถ่ายดาว, ถ่ายมาโคร หรือจะถ่ายไฟล์ Raw นามสกุล DNG ก็ทำได้ และยังมีโหมดฟิลเตอร์แบบเรียลไทม์อีกด้วย
การถ่ายวีดีโอ กล้องหลังของ Nubia Z11 Max สามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K (ถ่าย Full HD แบบ 60 fps ได้) ส่วนกล้องหน้าของ Nubia Z11 Max มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมมองกว้าง 80 องศา มาพร้อมกับฟีเจอร์ Skin Retouching 2.0 ที่ยกระดับความสวยได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ โดย Nubia Z11 Max สามารถวีดีโอคอลในโหมด Beauty ได้ และถ่ายวีดีโอกล้องหน้าได้ความละเอียดสูงสุด Full HD
สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Nubia Z11 Max ก็ตามนี้เลยครับ ส่วนตัวผมว่าเป็นมือถือที่ถ่ายรูปได้สนุกรุ่นหนึ่งเลย ไฟล์ภาพเนียนใช้ได้ แต่ทีเด็ดอยู่ที่โหมดกล้อง ที่ให้มาแบบแน่น ๆ เลย
Performance
ประสิทธิภาพของ Nubia Z11 Max กับชิปเซ็ต Snapdragon 652 + Ram 4 GB คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากกับชิปเซ็ตรุ่นนี้ ซึ่งถือว่าเป็นชิปเซ็ตที่ดีรุ่นหนึ่งในปี 2016 เลยก็ว่าได้ เพราะได้ทั้งความแรง และการประหยัดพลังงาน โดยชิปเซ็ต Snapdragon 652 เป็นชิปเซ็ตแบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8 GHz ชิปกราฟฟิคเป็น Adreno 510 รองรับเกม 3 มิติที่กินสเปคได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็น N.O.V.A.3, HIT, Seven Knight หรือเกมอื่น ๆ ก็เล่นได้อย่างไม่มีปัญหา เมื่อรวมกับ Ram 4 GB ก็ไม่น่าจะต้องกังวลเรื่องการใช้งานแอปพลิเคชันแล้วล่ะครับ
การจัดการพลังงานของ Nubia Z11 Max ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4000 mAh กับชิปเซ็ต Snapdragon 652 จากที่ได้ลองเล่นเครื่องรีวิว Nubia Z11 Max ก็พบว่ามันมีสถิติการจัดการแบตเตอรี่ได้ดีทีเดียว สามารถเล่นเกม 3 มิติได้ต่อเนื่องนานถึง 6 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นการใช้งานปกติทั่วไปก็ทิ้ง Powerbank ไว้ที่บ้านได้เลยครับ และมือถือรุ่นนี้ยังรองรับฟีเจอร์ Quick Charge 3.0 ที่รับไฟจากอะแดปเตอร์ได้สูงสุดถึง 3A