หลังจากที่เปิดตัวไปไม่นาน Microsoft ก็ได้ส่ง Nokia Lumia 630 ลงมาสู้ศึกในตลาดระดับล่างที่กำลังคึกคักอยู่ในช่วงเวลานี้ จุดเด่นนอกจากจะมาพร้อม Windows Phone 8.1 ตัวเต็มตั้งแต่แรกแล้ว ยังเปิดราคามาได้น่าประทับใจ ที่ราคาเพียง 4,990 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชัน 2 ซิม ขายควบคู่ไปด้วยในราคา 5,190 บาท โดยถือว่า Nokia Lumia 630 Dual Sim เป็นสมาร์ทโฟนในระบบ Windows Phone ตัวแรกเลยที่รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม แต่ในตัวที่นำมารีวิวนี้จะเป็นตัวซิมเดียวนะครับ การใช้งานโดยรวมไม่แตกต่างกัน เว้นแต่ว่า Nokia Lumia 630 ซิมเดียวจะรองรับการใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย (850/900/2100) แต่ใน Nokia Lumia 630 Dual Sim หรือสองซิมจะรองรับการใช้งาน 3G แค่เครือข่าย 900/2100 (AIS)?
สเปคของ Nokia Lumia 630
- หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว FWVGA (854 x 480) 221 ppi,? ClearBlack, IPS LCD, Gorilla Glass 3
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 400 Quad-core 1.2Ghz?
- กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล, Auto focus, ไม่มีแฟลซ
- Ram 512 MB
- หน่วยความจำภายใน 8 GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 128 GB
- Bluetooth 4.0
- แบตเตอรี่ 1830 mAh
- ขนาดตัวเครื่อง 129.5 x 66.7 x 9.2 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 134 กรัม
- รองรับซิมการ์ดแบบ MicroSIM?
- Nokia Lumia 630?ราคา Single Sim 4,990 บาท,?Dual Sim (2 ซิม) 5,190 บาท
- สเปค Nokia Lumia 630 แบบเต็มๆ
การออกแบบกล่องของ Nokia Lumia 630 จะมีความแตกต่างจาก Windows Phone รุ่นอื่นๆ ของ Nokia อย่างเห็นได้ชัดนะครับ กล่องมีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ส่วนอุปกรณ์ที่ให้มานั้นมีเพียงตัวเครื่องกับที่ชาร์จเท่านั้น ไม่แน่ใจว่าตัวที่วางขายจริงจะมีสาย USB และหูฟังแถมมาให้ด้วยหรือไม่ เพราะเครื่องรีวิว Nokia Lumia 630 ที่ทางทีมงานได้รับมานั้นอาจจะเป็นเครื่องทดสอบก็ได้จึงไม่ได้ใส่พวกอุปกรณ์เสริมอย่างอื่นมาให้เพิ่มเติม
Design
งานประกอบของ Nokia
ยังคงไว้ใจได้เสมอ
สัมผัสแรกที่ได้ลองจับ Nokia Lumia 630 นี่ต้องบอกเลยว่าตัวเครื่องของมันมีน้ำหนักเบามากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Nokia Lumia 625 โดยวัสดุของตัวเครื่อง Nokia Lumia 630 ก็แน่นอนครับว่ามันทำมาจากพลาสติก ส่วนการออกแบบโดยรวมถือว่าไม่ได้มีความแตกต่างไปจากรุ่นอื่นๆ มากนัก เรียกว่าเป็นซิกเนเจอร์ของ Nokia ประมาณว่าพอเราเห็นปุ๊บ ก็รู้ทันทีเลยว่านี่แหละ สมาร์ทโฟนของ Nokia ด้านหน้าของตัวเครื่องโล่งๆ เลยครับ ไม่มีปุ่มเหมือนอย่างรุ่นก่อนๆ เพราะว่า Nokia Lumia 630 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการณ์ Windows Phone 8.1 ตั้งแต่เกิดทำให้ปุ่มควบคุมของตัวเครื่องอาทิ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Windows และปุ่มค้นหา เป็นแบบทัชสกรีนบนหน้าจอแทน ทำให้ตัวเครื่องด้านหน้ามีเพียงโลโก้ Nokia ลำโพงและไมค์สำหรับสนทนาเท่านั้นครับ ก็ถือว่าเป็นข้อดีไปอีกแบบที่ทำให้มันดูเรียบๆ ให้ความรู้สึกหรูหราไปอีกแบบ
ส่วนปุ่มกดทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Power, ปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ทางด้านขวามือของตัวเครื่องทั้งหมดเลยครับ แต่ใน Nokia Lumia 630 จะไม่มีปุ่มชัตเตอร์เหมือนรุ่นก่อนอย่าง Nokia Lumia 625 ด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นช่องเสียบหูฟัง และแน่นอนว่าช่องเสียบสาย USB ก็ต้องอยู่ทางด้านล่างของตัวเครื่อง โดย Nokia Lumia 630 รองรับสาย USB แบบ Micro USB ครับ
วัสดุด้านหลังของ Nokia Lumia 630 เป็นพลาสติกที่ให้สัมผัสแบบด้าน ข้อดีของวัสดุแบบนี้คือมันจะช่วยเซฟตัวเครื่องในระดับหนึ่งไม่ให้ลื่นหลุดจากมือเราง่ายๆ ด้านหลังก็จะมีกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม Auto Focus แต่ไม่มีไฟแฟลชมาให้ มีลำโพงหลักของตัวเครื่องอยู่ทางด้านล่างให้เสียงที่ดังพอสมควร แต่รายละเอียดอาจจะไม่เป๊ะเท่าไหร่ และฝาหลังกับแบตเตอรี่ก็สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วย นอกจากนี้ Nokia ยังขายฝาหลังแยกอีกต่างหาก เหมาะสำหรับผู้ที่เบื่อง่าย โดยฝาหลังที่ขายแยกจะเป็นลักษณะผิวสัมผัสแบบมันวาว มีทั้งหมดด้วยกัน 3 สีได้แก่สีเหลือง, ส้ม และสีเขียว สนนราคาชิ้นละ 479 บาท?ด้านงานประกอบของตัวเครื่อง Nokia Lumia 630 มีความแน่นหนาดีครับ ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน ตามสไตล์ของ Nokia เลย
ส่วนรูปตัวเครื่องในมุมอื่นๆ สามารถรับชมได้ทาง Gallery ครับผม
Software
เหมือน Windows Phone 8.1
จะรู้ว่าผู้ใช้อยากได้อะไร
Nokia Lumia 630 เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกในประเทศไทยที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการณ์ตัวใหม่ล่าสุดจากแพลทฟอร์ม Windows Phone ซึ่งก็คือ Windows Phone 8.1 ตัวเต็มนั่นเองครับ โดยระบบปฏิบัติการณ์ Windows Phone 8.1 จะมีความเปลี่ยนแปลงไปจากตัว Windows Phone 8 ค่อนข้างเยอะทีเดียว เพราะถือเป็นการอัพเดตระบบครั้งใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดอย่างแรกเลยก็คงจะเป็นอินเตอร์เฟสหน้าตาของตัวระบบเอง ที่สามารถเพิ่มหน้า Live Tiles ได้สูงสุดถึง 3 แถว (Show More Tiles) จากเดิมที่จะถูกล็อกเอาไว้ และจะใช้ Tiles แบบ 3 แถวได้เฉพาะรุ่นที่มีความละเอียดหน้าจอระดับ FullHD เท่านั้น
นอกจาก Windows Phone 8.1 จะเพิ่ม Live Tiles ได้เป็น 3 แถวได้แล้ว มันยังสามารถตั้งค่าพื้นหลังของ Start Background ให้เป็นรูปอื่นๆ ที่เราต้องการได้อีกด้วย แถมพื้นหลังของ Live Tiles ยังเป็นแบบโปร่งใสมองทะลุเห็นรูปที่เราตั้งค่าเป็น Start Background อีกต่างหาก เก๋สุดๆ ไปเลยครับ แต่จะใช้ได้กับ Tiles บางตัวเท่านั้นนะครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงสำหรับ Windows Phone 8.1 คือเราสามารถย้าย App ไปยัง SD Card ได้แล้ว ด้วยแอพ Storage Sense ทำให้หมดปัญหาเรื่องหน่วยความจำในตัวเครื่องเต็ม ไม่เหมือนอย่างใน Windows Phone 8 ที่ไม่สามารถย้ายแอพพลิเคชันไปยัง SD Card ได้ หรือแม้แต่เว็บเบราเซอร์คู่บุญอย่าง Internet Explorer ก็ได้รับการอัพเดตให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง Internet Explorer 11 ที่มีความเสถียรและลื่นกว่าเดิมเยอะ อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี WebGL อีกด้วย
ระบบ Multitasking ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นเดียวกัน แต่จะว่าไปหน้าจอ Multitasking แบบนี้ก็มีมาตั้งแต่ Windows Phone 8 GDR3 แล้วนะครับ แต่ใน Windows Phone 8.1 มันจะได้รับการอัพเกรดให้ดีขึ้นเพราะผู้ใช้สามารถปิดการทำงานของ App ได้ด้วยการกดที่เครื่องหมายกากบาทเหมือนเดิม หรือจะปาดนิ้วลากหน้าต่างแอพลงมาที่ขอบจอด้านล่างก็ได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีการปรับไอคอนของแอพในหน้าจอ Multitasking ให้ดูทันสมัยและเข้าตัว UI ด้วย
นอกจากนี้เมื่อเทียบกับช็อตต่อช็อตสำหรับ Windows Phone 8.1 กับ Windows Phone 8 นี่ต้องบอกว่าแตกต่างกันพอสมควรเลยครับ โดยรวมแล้ว Windows Phone 8.1 จะให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่เสถียร, ลื่นไหล และตอบโจทย์ของผู้ใช้มากขึ้นครับ อารมณ์ประมาณว่าใช้ Windows Phone 8 แล้วอยากให้มีอะไร พอมาใช้ Windows Phone 8.1 นี่ก็มีตามที่ต้องการแทบทั้งหมดเลยครับ ทำให้รู้สึกว่า Microsoft ใส่ใจกับคอมเม้นท์จากผู้ใช้งานแล้วนำมาปรับปรุงระบบปฏิบัติการณ์ให้ดียิ่งขึ้น
Feature
ฟีเจอร์ของ Nokia Lumia 630 ก็ยังคงวนเวียนอยู่ใน Key Feature ของทาง Nokia เองกับ Key Feature ของตัวระบบปฏิบัติการณ์ Windows Phone 8.1 ครับ โดยเรามาเริ่มที่ Key Feature ของตัวระบบปฏิบัติการณ์ Windows Phone 8.1 ก่อนเลยดีกว่า จะได้ไม่ขาดตอนจากในส่วนของ Software?
Cortana
ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้สำหรับเลขาส่วนตัวอัจฉริยะอย่าง Cortana ที่ Microsoft ทำมาท้าไฟว้กับ Siri ของฝั่ง iOS และ Google Now ของฝั่ง Android แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า Cortana ณ เวลานี้รองรับการใช้งานเพียงแค่ 2 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ สหรัฐอเมริกาและประเทศจีน แต่เราสามารถเรียกใช้งาน Cortana ได้ด้วยการเข้าไปเปลี่ยนค่า Region แล้วเลือกเป็น United States ครับ ส่วนการใช้งานในประเทศไทยนั้น ทาง Nokia ประเทศไทยแอบกระซิบมากำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอยู่ครับ รับรองว่ารอไม่นานแน่นอน โดยวิธีการเรียกใช้ Cortana ก็ไม่ยากครับแค่กดเข้าที่สัญลักษณ์แว่นขยายเท่านั้นเอง สำหรับการสั่งงานก็สามารถสั่งได้ทั้งการพิมพ์ และการสั่งด้วยคำสั่งเสียง แม้ว่าในตอนนี้จะรองรับภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่ได้ต้องการสำเนียงที่สวยหรูเหมือนอย่าง Siri นะครับ พูดสั่งกันแบบสำเนียงบ้านๆ Cortana ก็สามารถเข้าใจคำสั่งได้ครับ
โดย Cortana รองรับคำสั่งได้หลายอย่างมากครับไม่ว่าจะเป็นคำสั่งเบสิคๆ อย่างการค้นหาแอพในเครื่องด้วยคำสั่ง Go to + ชื่อแอพ หรือจะใช้เข้าถึงการตั้งค่าในตัวเครื่องก็ใช้คำสั่งเดิมคือ Go to+ การตั้งค่าที่ต้องการ หรือจะแอดวานซ์ขึ้นมาอย่างการสั่งนำทางโดย Cortana สามารถทำงานร่วมกับแอพอื่นๆ อย่างเช่น Here Maps ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Cortana ยังมีการเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับผู้ใช้ได้อีกต่างหาก อย่างที่ต่างประเทศเห็นว่าสามารถปลุกแล้วเตือนให้รีบไปทำงานได้ด้วยครับ
Action Center
“ฟีเจอร์นี้แค่ฟีเจอร์เดียวก็คุ้มสำหรับกับการอัพเป็น Windows Phone 8.1 แล้ว” เป็นคำที่หลุดออกมาจากปากผู้ใช้ Windows Phone 8 เจ้า Action Center หรือ Notification Center หรือศูนย์การแจ้งเตือนของตัวเครื่องที่เรียกใช้ง่ายแสนง่าย เพียงปัดหน้าจอจากด้านบนลงมาด้านล่างเท่านั้น ภายใน Action Center ของ Windows Phone 8.1 บน Nokia Lumia 630 จะมีปุ่ม Shortcut ทั้งหมด 4 ปุ่มด้วยกัน (สำหรับรุ่นจอใหญ่จะมี 5 ปุ่ม) โดยไม่สามารถเพิ่มปุ่ม Shortcut ได้ แต่สามารถเลือกเปลี่ยนได้ว่าต้องการจะให้อะไรขึ้นมาเป็นปุ่มทางลัด ส่วนการแจ้งเตือนก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้แอพพลิเคชันใดบ้างแสดงการแจ้งเตือนบน Action Center ทำให้การใช้งาน Windows Phone 8.1 สะดวกสบายขึ้นเยอะเลยครับเมื่อเทียบกับตัว Windows Phone 8
แต่ก็มีข้อตินิดหน่อยสำหรับ Action Center ตรงที่น่าจะทำให้การกดที่ไอคอน Shortcut ค้างไว้แล้วสามารถเข้าไปที่การตั้งค่าได้โดยตรงเลย แต่นี่ทำได้เพียงเปิด – ปิดการตั้งค่าเท่านั้น และที่สำคัญเลยคือ Shortcut ใน Action Center ไม่มีปุ่มเปิด – ปิดดาต้าโทรศัพท์ หวังว่าในการอัพเดตครั้งหน้า Microsoft จะจัดให้นะครับ
Battery Saver
แอพพลิเคชันตัวนี้ก็ตามชื่อเลยครับ มันก็คือโหมดประหยัดพลังงานนั่นเอง แต่ความเจ๋งของมันอยู่ที่สามารถเข้าไปดูผ่านตัวแอพได้เลยว่า ณ เวลานี้ในเครื่องของเรามี App ตัวไหนกำลังทำงานอยู่เบื้องหลังและคอยสูบแบตของเราอยู่บ้าง นอกจากนี้มันยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะอนุญาตให้แอพดังกล่าวทำงานอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เรียกว่าตัวเดียวเอาอยู่เลยครับสำหรับการจัดการพลังงาน
มาถึง Key Feature ของตัวเครื่อง Nokia Lumia 630 บ้างครับ
Here Maps?
คงไม่ต้องพูดอะไรมากสำหรับ Here Maps แอพพลิเคชันแผนที่ มีทีเด็ดที่เราสามารถดาวน์โหลดแผนที่ลงเครื่องได้ ทำให้เวลาใช้งานแผนที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมการอัพเดตซึ่งก็คือการแสดงผลแบบ 3 มิติ แถมยังทำงานร่วมกับแอพพลิเคชัน Here Drive+ เพื่อใช้สำหรับนำทางแทน GPS ได้อีกต่างหาก
Nokia MixRadio
บริการฟังเพลงแบบสตรีมจาก Nokia ที่มีเพลงให้เลือกฟังกว่า 18 ล้านเพลง ที่สำคัญคือมันไม่ได้ต้องการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในการสตรีม ใช้แค่เพียง Edge ก็สามารถฟังเพลงได้อย่างลื่นไหลไม่ขาดตอนแล้ว นอกจากนี้หากเสียเงินอัพเกรดเป็น MixRadio+ ก็จะสามารถเปลี่ยนเพลงได้เรื่อยๆ แถมยังแสดงเนื้อร้องของเพลงนั้นๆ ได้อีกด้วย?
Camera
สำหรับกล้องของ Nokia Lumia 630 เมื่อใช้ผ่าน Nokia Camera ก็ต้องบอกว่าใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว การจับโฟกัสทำได้รวดเร็วทันใจ แต่การถ่ายภาพผ่าน Nokia Lumia 630 จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมครับ ถ้าถ่ายในที่ๆ มีแสงเพียงพอก็จะค่อนข้างทำได้ดีเลย สีสันของภาพสวยงาม คมชัด แต่ถ้าเจอสภาพที่แสงไม่เพียงพออย่างเช่นในอาคาร หรือตอนกลางคืน อย่าว่าแต่ Nokia Lumia 630 เลยครับ สมาร์ทโฟนที่ราคาแพงกว่านี้ในระดับหมื่นยังเจอปัญหาเลยครับ ส่วนคุณภาพของรูปถ่ายตอนที่ทดสอบผมจับทดสอบพร้อมๆ กับรุ่นเก่าอย่าง Nokia Lumia 625 ผลการใช้งานโดยรวมต้องยอมรับว่า Nokia Lumia 630 ถ่ายรูปได้ดีกว่าพอสมควรเลย แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยสำหรับ Nokia Lumia 630 เพราะว่ามันไม่มีแฟลชมาให้นี่แหละครับ สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยก็ถือว่ามันทำงานได้ดีเกินคาด เผลอๆ จะถ่ายภาพได้เร็วกว่าตัวท็อปบางรุ่นอีก โดยรูปถ่ายจากกล้องหลังสามารถรับชมได้จาก Gallery ด้านล่างเลยครับ
สำหรับการถ่ายวีดีโอ Nokia Lumia 630 รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ HD 720p ที่ 30 fps คุณภาพก็กลางๆ ไม่ได้แย่และก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรครับ จัดว่าพอใช้ได้
Performance
Nokia Lumia 630 พูดกันตรงๆ มันก็ไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่แรงอะไรมากมายครับ ทุกสิ่งที่ทุกอย่างที่ให้มาต้องบอกว่าพอดีกับการใช้งานอย่าง CPU Snapdragon 400, Ram 512 MB แต่ข้อได้เปรียบที่สุดของมันที่จะเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกันก็คือการใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Windows Phone 8.1 ที่เป็นระบบปิดและเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Microsoft นี่แหละครับ เพราะตัว Windows Phone 8.1 ก็มีการปรับปรุง OS เองให้มีความเสถียรมากขึ้น ทำให้สเปคระดับ Nokia Lumia 630 ทำงานได้ลื่นไหลพอๆ กับมือถือ Android ในเรทราคา 8,000 บาทขึ้นไปเลยหล่ะ?
ในเรื่องของการเล่นเกม จากที่ได้ทดสอบเล่นเกม Asphalt 8 ที่ค่อนข้างจะกินสเปคเครื่องพอสมควรก็ต้องบอกว่า Nokia Lumia 630 เล่นได้สบายบรื๋อ ลื่นๆ เลยครับ เพราะฉะนั้นเกมอื่นๆ ก็น่าจะเล่นได้ดีไม่แพ้กันเลย และคลิปวีดีโอด้านล่างก็เป็นการทดสอบการเล่นเกม Asphalt 8 บน Nokia Lumia 630 ครับ
ส่วนการจัดการแบตเตอรี่นั้นยังทำได้ไม่ดีพอ เพราะเท่าที่ลองใช้งานดูพบกว่าตัวระบบสูบแบตเตอรี่ค่อนข้างไวเลยทีเดียว บางทีอาจจะเป็นบั๊กจากตัวระบบ Windows Phone 8.1 ก็เป็นได้ และหวังว่าจะได้รับการแก้ไขในอนาคตครับ
Overall
สำหรับ Nokia Lumia 630 สมาร์ทโฟนตัวแรกในระบบปฏิบัติการณ์ Windows Phone 8.1 จัดเป็นสมาร์ทโฟนที่เรียกได้ว่า “คุ้มค่า” ตัวหนึ่งเลยครับ ด้วยราคาที่เปิดมา 4,990 บาทสำหรับตัวซิมเดียว และ 5,190 บาทสำหรับตัว Dual-Sim ได้สมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงขณะใช้งาน กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซลพร้อมออโต้โฟกัสที่ถ่ายรูปได้ดีในระดับหนึ่งเลยหล่ะ ระบบปฏิบัติการณ์ตัวล่าสุดอย่าง Windows Phone 8.1 ก็มีความเสถียรและตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเลย อะไรที่เคยอยากได้ใน Windows Phone 8 บอกเลยว่ามีใน Windows Phone 8.1 ทั้งหมดครับ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อน
- งานประกอบตามสไตล์ Nokia แข็งแรง ทนทาน
- เซอร์วิสจากไมโครซอฟท์ให้มาไม่แพ้รุ่นใหญ่
- ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Windows Phone 8.1?
- ความลื่นไหลเกินราคา
ข้อสังเกต
- ไม่มีกล้องหน้า
- ไม่มีเซนเซอร์ปรับระดับแสงหน้าจออัตโนมัติ
- ไม่มีแฟลช
- แอพพลิเคชันมีให้เลือกใช้น้อยกว่าแพลทฟอร์มอื่น
- การจัดการแบตเตอรี่ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ น่าจะเป็นบั๊กจากตัวระบบ
สำหรับตัวเลือกเพิ่มเติมในช่วงราคาที่ใกล้เคียงกับ Nokia Lumia 630 ก็มีดังนี้ครับ
Nokia XL ราคา 5,650 บาท
สำหรับ Nokia XL ถึงแม้จะมีราคาแพงกว่า Nokia Lumia 630 แต่ก็ได้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่าเป็นจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว แถมยังสามารถโหลดแอพได้มากกว่าเพราะ Nokia XL เองสามารถรันแอพ Android ได้ ถึงแม้จะไม่สามารถใช้งาน Play Store เนื่องจาก Nokia เอาออกไป (แต่ถ้าอยากใช้มันก็พอมีวิธีอยู่) แต่ก็ยังมีแอพจาก Nokia Store และบรรดา 3rd Party Store?
Lenovo A680
ถ้าจะหาคู่แข่งข้ามแพลทฟอร์มเป็นฝั่งของ Android ละก็ Lenovo A680 ก็ดูจะเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว CPU Quad-Core แรมที่ให้มาถึง 1 GB แถมยังมีราคาที่ถูกกว่าแต่ก็ต้องแลกมากับความไม่เสถียรของแอนดรอยระดับล่าง ไม่เหมือนอย่าง Windows Phone ที่การใช้งานโดยรวมจะเสถียรกว่าถึงแม้จะมีสเปคไม่แรงเท่า?
ส่วนการเปรียบเทียบสเปคก็ตามนี้เลยครับ วัดกันไปเลยระหว่าง Nokia Lumia 630, Nokia XL และ Lenovo A680
ขอบขอบคุณเครื่องรีวิว Nokia Lumia 630 จาก Nokia ประเทศไทย