สำหรับมือถือที่เราจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ เป็นมือถือในแพลทฟอร์มที่ SpecPhone ไม่ค่อยได้รีวิวบ่อยนัก ซึ่งแพลทฟอร์มที่เราพูดถึงก็คือ Windows Phone นั่นเองครับ เพราะนับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจาก Nokia มาเป็น Microsoft เนี่ย ถ้าผมจำไม่ผิดมือถือยี่ห้อ Microsoft ที่วางขายแล้วในบ้านเราก็มีด้วยกันแค่เพียง 5 รุ่นเท่านั้นเอง (Microsoft Lumia 535, Lumia 532, Lumia 435, Lumia 640 และ Lumia 640XL)
โดยมือถือ Windows Phone ที่เรานำมารีวิวในวันนี้ก็คือ Microsoft Lumia 532 มือถือ Windows Phone สำหรับผู้เริ่มต้น และเหมาะมากที่จะเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของหลายๆ คน ด้วยเหตุผลเรื่องราคาของ Microsoft Lumia 532 ที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล คือเพิ่มเงินอีกไม่กี่บาทจากฟีเจอร์โฟน (ที่เป็นหน้าจอสัมผัส) ก็สามารถอัพเกรดมาใช้ Windows Phone ได้แล้วอ่ะครับ
สเปค Microsoft Lumia 532
- หน้าจอ LCD ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด WVGA (800×480 พิกเซล) 233 ppi
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 200 Quad-Core ความเร็ว 1.2 GHz
- Ram 1 GB
- หน่วยความจำภายใน 8 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 128 GB
- กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล Fixed Focus
- กล้องหน้า VGA
- ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 กับ Lumia Denim
- รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และรองรับการใช้งาน 2 ซิม
- แบตเตอรี่ความจุ 1560 mAh สามารถถอดเปลี่ยนได้
- สเปคเต็มๆ Microsoft Lumia 532
- ราคา 3,590 บาท
อุปกรณ์ในกล่องของ Microsoft Lumia 532 ให้มาเกือบตามมาตรฐาน เอาจริงๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งานแหละครับ โดยอุปกรณ์ในกล่องของ Microsoft Lumia 532 จะประกอบไปด้วยหูฟังสมอลทอร์ค และที่ชาร์จหัว Micro USB ครับ แต่ไม่ให้สาย Micro USB สำหรับถ่ายโอนข้อมูลกับคอมพิวเตอร์มาด้วย ถ้าใครต้องการเชื่อมต่อ Microsoft Lumia 532 กับคอมฯ ก็ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติมเอาเองครับ
ข้อดี
– ใช้งาน 3G ได้ทุกค่าย รองรับ 2 ซิม
– งานประกอบดีไม่แพ้ตอนเป็น Nokia
– มี Glance Screen ช่วยให้ทันทุกการแจ้งเตือน
– แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
ข้อสังเกต
– หน้าจอไม่ค่อยคมชัด
– ไม่แถมสาย USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์มาให้ในกล่อง
บทสรุป
BEST PRICE
Design
ถ้าบอกว่าเป็น Nokia X2
ลง Windows นี่ผมก็เชื่อนะ!!
Microsoft Lumia 532 จัดเป็นมือถือที่มีขนาดกระทัดรัด จับถือได้สะดวก ด้วยหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ทำให้การควบคุม Microsoft Lumia 532 ใช้มือเถียงข้างเดียวก็สามารถควบคุมได้ทั้งหน้าจอเลยครับ เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งาน ในจุดนี้ Microsoft Lumia 532 ตอบโจทย์มากๆ
วัสดุหลักของตัวเครื่อง Microsoft Lumia 532 ใช้เป็นพลาสติก 100% ครับ ส่วนดีไซน์นั้นเป็นเอกลักษณ์มากๆ ชนิดที่ว่าเห็นปุ๊บ รู้เลยว่าเนี่ย มือถือ Microsoft (Nokia) เพราะดีไซน์ของเจ้า Microsoft Lumia 532 ผมว่ามันเหมือนกับ Nokia X2 มากๆ เลยครับ ถ้าบอกว่าเป็นบอดี้ Nokia X2 ที่ปรับแต่งนิดหน่อย แล้วก็ลง Windows Phone นี่ผมก็เชื่อนะเนี่ย
สำหรับรายละเอียดของ Microsoft Lumia 532 เริ่มจากด้านหน้า ก็จะประกอบไปด้วยหน้าจอ LCD ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด WVGA ด้านบนหน้าจอประกอบไปด้วยโลโก้ Microsoft, ลำโพงสำหรับสนทนา และกล้องหน้า VGA ส่วนด้านล่างของหน้าจอก็เหมือนๆ กับมือถือ Windows Phone ทั่วไปครับ ซึ่งก็คือปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Windows และปุ่มค้นหา
ด้านข้างของ Microsoft Lumia 532 จะเป็นพลาสติกแบบโปร่งใส สีเดียวกับตัวเครื่องครับ ซึ่งแตกต่างจากบริเวณฝาหลังที่เป็นพลาสติกแบบทึบ โดยรายละเอียดในส่วนของด้านข้างนั้น เริ่มจากทางขวาก็จะประกอบไปด้วยปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง, ด้านบนเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และด้านล่างก็จะเป็นช่องเสียบ Micro USB (สำหรับการชาร์จไฟ, เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์)
ด้านหลังของ Microsoft Lumia 532 ประกอบไปด้วยกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล แล้วก็โลโก้ Microsoft กับลำโพงหลักของตัวเครื่องครับ แต่ที่ผมประทับใจคือการออกแบบที่ทำให้ตัวฝาหลังโค้งเหมือนหลังเต่า ทำให้การจับถือทำได้สะดวกมาก แล้วก็สามารถถอดเปลี่ยนฝาหลังได้ด้วยนะ
สำหรับการถอดฝาหลังของ Microsoft Lumia 532 ก็ไม่ยากครับ แต่ห้ามทำการแงะแล้วดึงเหมือนมือถือรุ่นอื่นๆ นะ เพราะอาจจะทำให้สลักแตกได้ โดยวิธีการถอดฝาหลัง Microsoft Lumia 532 ที่ถูกต้อง ให้เรากดไปที่บริเวณกึ่งกลางฝาหลัง แล้วค่อยงัดฝาหลังออกครับ มันจะทำได้ง่ายกว่า และเมื่อถอดฝาหลังออกมาก็จะพบกับแบตเตอรี่ (สามารถถอดเปลี่ยนได้) ด้านล่างของแบตเตอรี่ก็จะเป็นช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง กับช่องเสียบ MicroSD Card โดยเจ้า Microsoft Lumia 532 สามารถรองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุดถึง 128 GB
หน้าจอของ Microsoft Lumia 532 ใช้เป็นหน้าจอ LCD ขนาด 4 นิ้ว กับความละเอียด WVGA ซึ่งถือว่าน้อยไปหน่อย สำหรับมือถือหน้าจอ 4 นิ้ว และถ้าใครที่ใช้มือถือหน้าจอคมๆ ระดับ HD ขึ้นไปมาก่อน จะมองเห็นเม็ดพิกเซลได้ไม่ยากเลยครับ สีสันของหน้าจอไม่ค่อยสดใส มุมมองหน้าจอแคบ เนื่องจากไม่ได้ใช้หน้าจอแบบ IPS แต่ความเจ๋งของ Microsoft Lumia 532 อยู่ที่ฟีเจอร์ติดหน้าจออย่าง Glance Screen ที่จะแสดงข้อมูลตอนเราปิดหน้าจอได้ครับ โดยข้อมูลที่แสดงบน Glance Screen ก็ได้แก่ เวลา, สายที่ไม่ได้รับ, ข้อความ เป็นต้น ซึ่งผมว่ามันสะดวกมากๆ เพราะไม่ต้องทำการกดเปิดเครื่องเพื่อดูตรงๆ ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ไปได้เยอะเลยครับ
ภาพรวมในส่วนของการ Design ของ Microsoft Lumia 532 ก็ถือว่าโอเคเลยสำหรับมือถือราคา 3,590 บาท ในแง่ของวัสดุและงานประกอบนี่ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม ไม่แพ้ตอนที่เป็น Nokia เลยครับ และเห็นถอดฝาหลังได้เนี่ย งานประกอบก็ยังแน่นหนาอยู่นะเออ แต่ถ้าถามถึงสิ่งที่ผมไม่ค่อยปลื้มในส่วนของการรีวิว Design ของ Microsoft Lumia 532 ก็คงจะเป็นตัวหน้าจอที่ความละเอียดน้อยไป ผมว่า WVGA ให้ภาพที่ไม่ค่อยละเอียดครับ เห็นเม็ดพิกเซลได้ง่ายโดยไม่ต้องเพ่งเลย
Software
Microsoft Lumia 532 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows Phone รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Windows 8.1 with Lumia Denim ที่สามารถเปลี่ยนพื้นหลังหน้าจอได้ (ทำได้ตั้งแต่เป็น Windows 8.1 แล้ว) หน้าตาของ UI ยังคงเหมือนกับ Windows Phone รุ่นอื่นอย่าง Live Tiles ที่เพิ่มได้มากสุด 3 แถว แต่ผมว่าหน้าจอของ Microsoft Lumia 532 เล็กไปสำหรับ Live Tiles 3 แถว เพราะฉะนั้นใช้ 2 แถวจะดีที่สุดครับ
สำหรับแอปพลิเคชันที่โหลดติดเครื่องมาให้ตั้งแต่แรกก็ถือว่าครอบคลุมการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปครับ App สายโซเชียลอย่างพวก Facebook, Line นี่อยู่ติดรอมมาตั้งแต่แรกเลย และแน่นอนว่า Lumia Camera, Here Map, MixRadio, Skype กับ Office ก็มีให้เลือกใช้เหมือนเดิม ไม่ต่างจากสมัยยังใช้ชื่อ Nokia ทำให้ Microsoft Lumia 532 ยังคงเป็นมือถือที่ใช้เล่นก็ได้ ใช้ทำงานก็เหมาะครับ
เพราะอย่าง Office บน Microsoft Lumia 532 (รวมถึง Windows Phone ทุกรุ่น) เนี่ย ผมว่าเป็น App จัดการเอกสารที่ทำงานได้ดีที่สุดแล้วละมั้ง เพราะสามารถเปิดและแก้ไขไฟล์ Word, Excel, Powerpoint ได้ดีไม่แพ้ในคอมพิวเตอร์เลยหล่ะ ส่วน Here Map ก็ยังคงเป็นแอปพลิเคชันนำทางที่ไว้ใจได้เสมอ ผมว่าเหมาะกับการใช้เป็น GPS ติดรถซะด้วยซ้ำ เนื่องจากตัวแผนที่เป็นแบบ Offline แล้วก็ทำงานได้ใกล้เคียงกับ GPS ติดรถจริงๆ มีข้อมูลสถานที่เที่ยว, ข้อมูลร้านอาหารด้วยนะ
Camera
กล้องของ Microsoft Lumia 532 ใช้เซนเซอร์ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลครับ ไม่มีแฟลชมาให้ แต่ดันเป็นกล้องแบบ Fixed Focus ซึ่งผมว่ามันทำให้แอปพลิเคชัน Lumia Camera เสียของมากๆ คือต้องบอกก่อนว่า แอปพลิเคชัน Lumia Camera บน Windows Phone เนี่ย เป็นแอปกล้องที่ปรับแต่งได้ละเอียดมากๆ ละเอียดไม่แพ้พวกกล้องคอมแพคเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น White Balance, ISO, Speed Shutter แต่ดันเลือกจุดโฟกัสไม่ได้ซะอย่างนั้น ด้วยข้อจำกัดเรื่องฮาร์ดแวร์
ทำให้การถ่ายของชิ้นเล็กๆ เช่นถ่ายรูปนามบัตร, ถ่ายของกิน ทำได้ก็จริง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะที่ดีที่สุดครับ โดยเฉพาะการถ่ายอาหารให้หน้าชัด-หลังเบลอนี่ยากมาก หรือจะบอกว่าทำไม่ได้เลยก็คงจะไม่ผิดนัก แต่ก็แลกมากับความง่ายครับ กล้อง Fixed Focus หยิบขึ้นมา เล็ง แล้วก็กดถ่ายได้เลย เผลอๆ มันอาจจะดีกว่ากล้องมือถือ Auto Focus บางรุ่นก็เป็นได้นะ เพราะมีโอกาสที่ภาพจะเบลอน้อยกว่านั่นเอง
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด VGA ผมขอละไว้ในฐานที่เข้าใจก็แล้วกันครับ สั้นๆ ง่ายๆ ว่า “เอาไว้ใช้คุย Skype เถอะ”
และนี่คือตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องของ Microsoft Lumia 532 ครับ
Performance
หลายคนเข้าใจว่ามือถือ Windows Phone เนี่ย สเปคไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าจะเป็นรุ่นล่างสุด หรือรุ่นท็อปสุด เวลาที่เราปัดหน้าจอไปมา ความลื่นก็ลื่นพอๆ กัน ซึ่งมันก็จริงครับ ถ้าวัดกันแค่การปัดหน้าจอไปมาอ่ะลื่นเท่ากันแน่นอนครับ แต่ผมจะบอกว่าสเปคข้างในมีผลต่อการใช้งานเยอะเหมือนกันนะเออ โดยเฉพาะการเปิดแอปพลิเคชัน และการใช้งานแอปพลิเคชันนี่สำคัญมากเลยหล่ะครับ
Microsoft Lumia 532 ให้สเปคมาในระดับทั่วไป CPU เป็น Quad Core ก็จริง แต่ก็เป็น Quad Core ตัวเริ่มต้น ความแรงก็มีพอประมาณ สิ่งที่รู้สึกได้เลยคือเวลาเปิดแอปพลิเคชันจะโหลดช้ากว่าพวก Windows Phone รุ่นกลาง และรุ่นสูงๆ แล้วในส่วนของการเล่นเกม Microsoft Lumia 532 ก็พอเล่นเกมได้ครับ ถ้าเป็นพวกเกม Puzzle อะไรพวกนี้สบายๆ เลย แต่ถ้าเป็นเกมแรงๆ อย่าง Asphalt 8 ก็พอเล่นได้ครับ แต่อาจจะมีหน่วงบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติครับ
อย่างไรก็ตาม Microsoft Lumia 532 ก็มาพร้อมกับ Ram 1 GB เลยนะครับ ถือว่าเจ๊ากันไปกับที่ CPU ไม่ค่อยแรงเนอะ เพราะตัว Ram 1 GB บนระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 Denim นี่ถือว่าเหลือกินเหลือใช้เลยหล่ะครับ
แบตเตอรี่ของ Microsoft Lumia 532 ให้มาที่ความจุ 1560 mAh อาจจะดูเหมือนน้อย แต่สำหรับ Microsoft Lumia 532 แบตเตอรี่ความจุ 1560 นี่ถือว่าเกินพอครับ ด้วยตัวสเปคที่ไม่ได้แรงมาก หน้าจอก็ขนาดแค่ 4 นิ้ว จากการที่ได้รีวิว Microsoft Lumia 532 ผมว่ามือถือรุ่นนี้แบตเตอรี่อึดพอควรเลย ถ้าไม่ค่อยหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเท่าไหร่ก็สบายเลยครับ เผลอๆ 2 วันชาร์จทีก็ยังไหว และถ้าเล่นบ่อยๆ ผมว่าก็ชาร์จวันต่อวัน แต่ถ้าสแตนบายนี่ Microsoft Lumia 532 สามารถสแตนบายได้นานมากครับ ตอนรีวิว Microsoft Lumia 532 ผมเคยทิ้งเครื่องไว้เกือบอาทิตย์โดยที่ไม่ชาร์จไฟ ก็พบว่าแบตเตอรี่ลดไปแค่ประมาณ 40% เองครับ เป็นมือถือตัวเล็กที่อึดไม่เบาเลย
Gallery
