หนึ่งในปัจจัยที่หลายคนให้ความสำคัญมาก ในการเลือกซื้อมือถือมาใช้งานซักเครื่อง นอกจากเรื่องสเปคที่ต้องใช้งานได้ดีไม่มีกระตุกแแล้ว เรื่องกล้องก็เป็นอีกสิ่งที่เรียกว่าเป็นจุดขายของมือถือได้เลย และหลังๆ มานี่เราก็เริ่มเห็นการจับเทคโนโลยีที่เคยเห็นในกล้องถ่ายรูป มาใส่ในกล้องมือถือบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบกันภาพสั่นไหว OIS, ระบบโฟกัสด้วยอินฟาเรด รวมถึงจำนวนพิกเซลที่ให้มามากพอๆ กับกล้องถ่ายรูปบางรุ่นเลยทีเดียว
และมือถือที่เราจะมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นมือถือที่เน้นเรื่องกล้องมากเป็นพิเศษ หรือจะเรียกว่าเป็น “มือถือกึ่งกล้อง” เลยก็ว่าได้ ทั้งสเปคของกล้องหลัง ไปจนถึงการออกแบบตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอล ก็น่าจะเป็นการยืนยันได้ว่า lenovo VIBE Shot มือถือเรือธงของ lenovo ในปี 2015 (ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปี) มีความน่าสนใจ และมีจุดยืนของตัวเองอย่างเห็นได้ชัด
สเปค lenovo VIBE Shot
- หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด Full HD
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 615 Octa-Core ความเร็ว 1.7 GHz แบบ 64 Bit
- Ram 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 128 GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
- กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS เซนเซอร์ BSI
- อัตราส่วนภาพ 16:9 แบบเต็มเฟรม พร้อมระบบเลเซอร์ช่วยโฟกัส ซึ่ง lenovo เคลมว่าไวกว่าแบบปกติ 2 เท่า
- กล้องหลังมาพร้อมกับแฟลช 3 ดวง 3 สี ปรับแสงได้อัตโนมัติ
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Panorama Selfie
- มีปุ่มชัตเตอร์ พร้อมกับปุ่ม PRO Mode ที่เปลี่ยนโหมดกล้องได้อย่างรวดเร็ว
- แบตเตอรี่ความจุ 2900 mAh
- รองรับการใช้งาน 4G LTE และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
- สเปคเต็มๆ lenovo VIBE Shot
- ราคา 11,990 บาท
ดูจากสเปคของ lenovo VIBE Shot แล้วก็ต้องบอกว่าเป็นสเปคที่ดี เพียงพอต่อการใช้งาน ณ ตอนนี้ได้สบายๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็น CPU Snapdragon 615 รุ่นความเร็ว 1.7 GHz กับ Ram 3 GB และสเปคกล้องหลัง ที่กล้องดิจิตอลจริงๆ บางรุ่นต้องอายเลยทีเดียว
ก่อนที่จะเข้าสู่การรีวิว lenovo VIBE Shot เราก็มากันก่อนว่า ในกล่องของ lenovo VIBE Shot ให้อะไรมาบ้าง โดยมือถือรุ่นนี้ก็คงให้อุปกรณ์เสริมมาครบครันเหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็นหูฟัง, สาย USB > Micro USB, อแดปเตอร์ และยังแถมเคสแท้ขนาดพอดีกับตัวเครื่อง พร้อมฟิล์มกันรอยแบบตรงรุ่น เรียกว่าให้มาครบ จบตั้งแต่ในกล่องเลยครับ
จุดเด่น
– วัสดุที่เลือกใช้ ทั้งเฟรมอลูมิเนียม และฝาหลังกระจกนิรภัย หรูหรา สวยงาม สมราคา
– สเปคที่ให้มาค่อนข้างสมดุล ไม่ว่าจะเป็น CPU, Ram, Rom, แบตเตอรี่ และหน้าจอ
– กล้องหลังที่ชูให้เป็นจุดเด่น การใช้งานจริงทำได้ในระดับที่ประทับใจเลย
– แฟลช LED 3 สี ไม่ใช่แค่กิมมิค แต่มันใช้งานได้จริง
– โหมด Auto ค่อนข้างฉลาด รวมถึงระบบโฟกัสก็รวดเร็ว แถมยังจับภาพได้ไวอีกต่างหาก
– ปุ่มชัตเตอร์และปุ่มสลับโหมด ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงฟิลลิงในการจับถือก็เหมือนใช้งานกล้องคอมแพค
ข้อสังเกต
– การกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้เพื่อเข้าโหมดกล้อง ทำได้ช้ากว่าการกดปุ่มลดเสียงติดกันซะอย่างนั้น
– กระจกหน้าจอกับตัวทัชสกรีนมีช่องว่างพอสมควร กดหน้าจอแรงๆ จะรู้สึกได้ถึงช่องว่าง
– กระจกทั้งด้านหน้า และด้านหลังเป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก
– ขอบอลูมิเนียมค่อนข้างคม
บทสรุป
BEST CAMERA SMARTPHONE
Design
ดีไซน์ของ lenovo VIBE Shot ก็อย่างที่ได้เกริ่นไปตั้งแต่ตอนแรก ว่าออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับกล้องดิจิตอล รวมถึงการใช้งานขณะที่ถ่ายรูป ก็ให้ความรู้สึกเหมือนจับกล้องดิจิตอลเลยล่ะครับ แต่ความแตกต่างของ lenovo VIBE Shot กับกล้องดิจิตอลคือในเรื่องของการพกพา แน่นอนว่า lenovo VIBE Shot นั้นสะดวกกว่าการพกกล้องดิจิตอลอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนจะไปเจาะลึกในส่วนของการดีไซน์ เรามาพูดถึงวัสดุของ lenovo VIBE Shot ก่อนดีกว่า โดยวัสดุหลักของ lenovo VIBE Shot มีด้วยกัน 2 อย่าง คืออลูมิเนียม กับกระจก วัสดุภายนอกของ lenovo VIBE Shot ถ้าไม่นับเคสที่แถมมาในกล่องก็ไม่มีอะไรเป็นพลาสติกเลยครับ ถือว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่ผมประทับใจใน lenovo VIBE Shot มากๆ กับมือถือราคาหมื่นนิดๆ สเปคก็ใช้ได้ สเปคกล้องก็ดูดี แถมวัสดุยังหรูหรา คุ้มค่าคุ้มราคาอีกต่างหาก
เฟรมหรือกรอบเครื่องของ lenovo VIBE Shot ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม โดยจะวางขายด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีแดง (ขายเฉพาะ Lazada), สีเทา และสีขาว (ยังไม่วางจำหน่าย) ซึ่งความแตกต่างของแต่ละสีก็อยู่ที่ตรงเฟรมด้านข้างนี่แหละครับ เรื่องความแข็งแรงนี่ไม่ต้องพูดถึง ยังไงก็ทนทานกว่าพลาสติกอยู่แล้ว ส่วนเรื่องสัมผัส กรอบเครื่องอลูมิเนียมให้ความรู้สึกที่ดีกว่ามาก แต่ก็แอบขอบคมไปนิดนึง
ส่วนวัสดุอีกอย่างซึ่งก็คือกระจก จะถูกใช้ที่ด้านหน้าและด้านหลังของตัวเครื่อง lenovo VIBE Shot ซึ่งทาง lenovo บอกว่าใช้เป็นกระจกนิรภัยแบบลดรอยนิ้วมือ แต่เท่าที่ลองใช้งานพบว่ามันไม่ได้ลดรอยนิ้วมือแม้แต่น้อย จริงอยู่ที่ฝาหลังแบบกระจกช่วยเสริมให้ lenovo VIBE Shot ดูสวยและหรูหรา แต่ความสวยก็มาพร้อมความยากในการดูแลรักษาเช่นกัน เอาเป็นว่าจะให้สวยเช้งตลอดวัน ถ้าไม่เช็ดเครื่องบ่อยๆ ก็ต้องใส่ถุงมือเล่นมือถืออะครับ เพราะฝาหลังของ lenovo VIBE Shot เนี่ยเป็นรอยนิ้วมือง่ายจริงๆ
ฝาหลังกระจกก็สวยดีนะ แต่เก็บรอยนิ้วมือง่ายไปไหม?
ในส่วนของงานประกอบ lenovo VIBE Shot ก็เป็นมือถืออีกรุ่นที่มีงานประกอบแน่นหนา และแข็งแรงไม่แพ้พวกมือถือราคาหมื่นห้า ไปจนถึงสองหมื่นบาทเลยครับ ฝาหลังกระจกไม่มีก๊องแก๊ง เฟรมอลูมิเนียมประกบเข้ากับตัวเครื่องได้อย่างเรียบเนียน จะมีข้อสังเกตก็ตรงกระจกหน้าจอที่ค่อนข้างหนานี่แหละครับ ทำให้เวลาที่กดหน้าจอ lenovo VIBE Shot แบบออกแรงมากกว่าปกติ จะรู้สึกว่ามีช่องว่างระหว่างกระจกหน้าจอ กับตัวทัชสกรีน แต่ถ้าใช้งานทั่วไป แตะมือถือแบบปกติ ก็แทบไม่รู้สึกเลยครับ
กลับมาที่เรื่องการดีไซน์ lenovo VIBE Shot เป็นมือถือที่ lenovo จงใจออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานเป็นกล้องถ่ายรูปมากๆ จะว่าไปเวลาที่มอง lenovo VIBE Shot ก็ชวนให้นึกถึงกล้อง Sony Cybershot TX Series จริงๆ โดยเฉพาะการแบ่งเส้น 2 เส้นทางด้านหลังของตัวเครื่อง รวมถึงลักษณะของกล้องที่ดูโดดเด่นมากเป็นพิเศษ และยังมีจุดเด่นอีก 2 จุดที่ช่วยเสริมให้ lenovo VIBE Shot โดดเด่นกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ในการใช้งานเป็นกล้องถ่ายรูป ซึ่งก็คือปุ่มชัตเตอร์ที่เป็นปุ่มกด 2 ระดับ และไฮไลท์อีกอย่างก็คงหนีไม่พ้นปุ่มสลับโหมดถ่ายภาพ ที่ช่วยให้เปลี่ยนจากการถ่ายภาพด้วยโหมด Smart ไปเป็นโหมด PRO ที่ให้อิสระในการปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ไม่แพ้กล้องดิจิตอลจริงๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องมาคอยกดเปลี่ยนโหมดในแอปกล้องเหมือนมือถือรุ่นอื่น
แต่ข้อสังเกตของปุ่มชัตเตอร์ lenovo VIBE Shot คือการใช้งานขณะที่ปิดหน้าจออยู่ จะต้องกดค้างไว้เป็นเวลานานพอสมควร (ประมาณ 4 วินาที) แอปพลิเคชันกล้องถึงจะเปิดขึ้นมาครับ ต่างจากการกดปุ่มลดเสียงติดกัน 2 ครั้ง ที่สามารถเปิดแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพ และกดถ่ายได้รวดเร็วกว่ากดปุ่มชัตเตอร์ค้างซะอย่างนั้น
ในส่วนของการจับถือ lenovo VIBE Shot ในลักษณะของการใช้งานเป็นโทรศัพท์มือถือ กับหน้าจอขนาด 5 นิ้ว รวมถึงขอบจอที่ค่อนข้างบาง ทำให้การใช้งาน การจับถือ lenovo VIBE Shot ด้วยมือข้างเดียวก็ทำได้สะดวก จัดเป็นมือถือที่คล่องตัวทีเดียวครับ พกพาก็ง่าย จับยัดใส่กระเป๋าเสื้อก็ได้ หรือจะใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์แบบฟิตๆ ก็ใส่ได้สบายๆ เพราะความหนาของ lenovo VIBE Shot ก็ไม่ได้หนาจนน่าเกลียด
ด้วยปุ่มชัตเตอร์ และปุ่มสลับโหมด ใครชอบถ่ายรูปน่าจะหลงรัก VIBE Shot ได้ไม่ยาก
หน้าจอของ lenovo VIBE Shot เป็นหน้าจอแบบ IPS ความละเอียดระดับ Full HD เมื่ออยู่บนหน้าจอขนาด 5 นิ้วก็จะมีความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 441 ppi ซึ่งถือว่าเป็นความละเอียดที่พอให้มองหน้าจอแล้วไม่รู้สึกเห็นเม็ดพิกเซล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หน้าจอของ lenovo VIBE Shot มีโทนสีติดอมฟ้านิดๆ ตอนแรกผมนึกว่าเป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED เหมือนอย่าง lenovo VIBE X2 เสียอีก แต่พอเช็กแล้วก็พบว่าเป็นหน้าจอ IPS ปกตินี่แหละครับ สีสันของหน้าจอสดมาก ถึงมากที่สุด น่าจะถูกใจคนที่ชอบดูหนัง, ดู Youtube บนมือถือเลยล่ะ เพราะได้ทั้งความคมชัดระดับ Full HD และยังได้สีสันที่สดใสอีกต่างหาก แต่ถ้าใครรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบหน้าจอโทนอมฟ้า ก็สามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนโทนสีหน้าจอได้ตามใจเลยครับ มีทั้ง Profile สีที่ทาง lenovo ทำไว้ให้แล้ว หรือจะปรับแต่งเองก็ทำได้เช่นกัน
ภาพรวมของ lenovo VIBE Shot ในส่วนของการดีไซน์ วัสดุ และงานประกอบ โดยส่วนตัวผมให้คะแนนที่ 9 เต็ม 10 เลย ทั้งการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานจริง ทั้งการใช้งานเป็นมือถือ และใช้งานเป็นกล้องถ่ายรูปด้วยปุ่มชัตเตอร์และปุ่มสลับโหมด หน้าตาก็สวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนจับถือกล้องดิจิตอล ส่วนวัสดุนี่ก็ยกนิ้วให้เลยครับ หรูหรา และสมราคา 11,990 บาทเป็นอย่างมาก แต่ที่หักไป 1 คะแนนก็หักเรื่องกระจกหน้าจอที่หนาซะเหลือเกิน รวมถึงกรอบอลูมิเนียมที่ค่อนข้างคม จับแล้วฟินไม่ 100% อ่ะครับ
Software
lenovo VIBE Shot มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติที่สดใหม่สำหรับมือถือปกติทั่วไปที่ไม่ใช่ Google Nexus โดยซอฟท์แวร์ของ lenovo VIBE Shot ถูกครอบด้วย lenovo VIBE UI เช่นเดียวกับ lenovo VIBE Series รุ่นอื่นๆ เช่น lenovo VIBE X2, lenovo S90 เป็นต้น
ลักษณะของ lenovo VIBE UI บน lenovo VIBE Shot ก็จะคล้ายกับมือถือแอนดรอยปกติทั่วไป แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากพวก Pure Android นอกจากหน้าตา UI ที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง lenovo เองแล้ว lenovo VIBE UI ยังทำการตัดหน้า App Drawer ออกไปอีกด้วย แต่สิ่งที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งในเรื่องซอฟท์แวร์ของ lenovo VIBE Shot คือการยัดเยียดแอปพลิเคชันมาให้ตั้งแต่เริ่มต้นเยอะพอสมควร เพราะนอกจาก Google Service ที่มีในรอมแอนดรอบปกติแล้ว ยังมีแอปพลิชันของทาง lenovo เอง เช่น SHAREit, SYNCit แน่นอนว่าแอปพลิชันเหล่านี้ไม่สามารถถอนการติดตั้งได้ ยังดีที่ lenovo VIBE Shot ให้หน่วยความจำภายในมาค่อนข้างมากที่ 32 GB จึงไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวลเท่าไหร่
Feature
อันที่จริงคีย์ฟีเจอร์ของ lenovo VIBE Shot จะอยู่ที่กล้องหลัง และกล้องหน้าซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเราจะไปพูดกันในการรีวิว lenovo VIBE Shot ในหัวข้อ Camera กันครับ แต่ในส่วนของการใช้งานเป็นโทรศัพท์มือถือ ก็ต้องบอกว่าพอมีฟีเจอร์ที่เป็นทางลัดในการเข้าถึงแอปพลิเคชัน หรือโหมดบางโหมดให้ใช้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น
- จับภาพด่วน – ขณะที่ปิดหน้าจอ การกดปุ่มเพิ่ม หรือปุ่มลดเสียงติดกันสองครั้งจะเป็นการเปิดแอปพลิเคชันกล้อง และถ่ายภาพทันที
- เพิ่มความสว่างหน้าจอ – เคาะหน้าจอ 2 ครั้งในขณะที่ปิดหน้าจอเพื่อเปิดหน้าจอ
- ฉากแบบสมาร์ท – เป็นเหมือน Profile การแจ้งเตือน เช่น ตั้งให้ตอน 22.00 – 06.00น. ของทุกวันไม่แสดงการแจ้งเตือน เป็นต้น
ส่วนฟีเจอร์ที่เหลือของ lenovo VIBE Shot เกี่ยวกับเรื่องกล้อง สามารถเลื่อนลงไปอ่านที่หัวข้อ Camera ได้เลยครับ
Camera
มาถึงหัวข้อที่เด่นที่สุดในการรีวิว lenovo VIBE Shot กันแล้วนะครับ แน่นอนว่า lenovo ออกตัวแรงขนาดนี้ว่าเป็นมือถือกึ่งกล้อง เพราะฉะนั้นการใช้งานโหมดกล้องของ lenovo VIBE Shot ก็ต้องพิเศษกว่ามือถือรุ่นอื่นอยู่แล้ว เท่าที่ได้ลองใช้งานตอนรีวิว lenovo VIBE Shot ก็ต้องบอกว่าเลยว่า lenovo VIBE Shot เป็นมือถือที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับกล้องคอมแพคบางรุ่นจริงๆ โดยผมจะขอแยกฟีเจอร์เรื่องกล้องของ lenovo VIBE Shot ออกเป็น 2 ส่วน คือในส่วนของตัวกล้องเอง กับการดีไซน์ให้มือถือใช้งานได้ใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอล
สำหรับข้อมูลทางเทคนิคของกล้องหลัง lenovo VIBE Shot ก็จะแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือตัวเซนเซอร์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซลที่ค่อนข้างพิเศษกว่ากล้องมือถือปกติทั่วไป เพราะนอกจากจะเป็นเซนเซอร์ BSI แล้ว ยังเป็นเซนเซอร์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีอัตราส่วนภาพแบบเนทีฟเป็นอัตราส่วนแบบ 16:9 อีกต่างหาก โดยปกติเซนเซอร์มือถือส่วนมากจะมีอัตราส่วนภาพที่ 4:3 เหมือนกล้องดิจิตอลทั่วไป แต่การที่มีอัตราส่วนภาพเป็น 16:9 แบบเนทีฟที่ความละเอียดสูงสุดของเซนเซอร์เนี่ย เวลาเปิดดูรูปถ่ายบนหน้าจอก็จะแสดงผลได้เต็มจอ ไม่มีขอบข้างนั่นเอง
ถัดมาจะเป็นแฟลช LED แบบ 3 สี เรียกว่าให้มาเยอะกว่าชาวบ้าน เพราะปกติมือถือรุ่นอื่นๆ เต็มที่เราก็จะเห็นแฟลช LED 2 ดวง 2 สี และเอาจริงๆ ตอนแรกก่อนที่จะรีวิว lenovo VIBE Shot เนี่ย ผมมองว่าแฟลช LED 3 สีเป็นเพียงกิมมิคเสียด้วยซ้ำ แต่พอได้ลองใช้งานจริงๆ บอกเลยว่าตอนถ่ายรูปด้วยโหมด Smart ผมไม่เคยปิดแฟลช LED 3 สีเลยครับ เพราะถือว่าเป็นแฟลชที่ค่อนข้างฉลาด การคุมโทนสีทำได้ดีมากๆ จะบอกว่าเป็นมือถือเครื่องแรกที่ตอนถ่ายรูปแล้วเปิดแฟลชออโต้เลยครับ ส่วนตัวผมมองว่าแฟลช 3 สีนี่เจ๋งกว่าแฟลชของ iPhone 6 ซะอีก
ส่วนระบบโฟกัสของ lenovo VIBE Shot ก็โฟกัสได้รวดเร็วสมกับที่ใช้อินฟาเรดในการช่วยโฟกัส แต่จะมีปัญหาในบ้างครั้งเวลาโฟกัสวัตถุที่อยู่ไกลๆ ก็จะมีวืดบ้างอะไรบ้างนิดหน่อย และนอกจากจะโฟกัสได้รวดเร็วแล้ว ก็ต้องชมซอฟท์แวร์ของ lenovo VIBE Shot ด้วยครับ ในการแยกแยะวัตถุที่ทำได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าคน, อาหาร, สถานที่ โดยเฉพาะการถ่ายภาพบุคคล ระบบตรวจจับใบหน้านี่โฟกัสแบบติดตามกันเลยทีเดียว
ในส่วนของการดีไซน์มือถือ lenovo VIBE Shot ให้ใช้งานได้เหมือนกล้องดิจิตอล นอกจากดีไซน์ที่ชวนให้นึกถึง Sony Cybershot TX Series แล้ว ปุ่มชัตเตอร์ก็มีส่วนช่วยให้การถ่ายรูปทำได้สะดวกมากขึ้น เนื่องจากเราได้ถือ lenovo VIBE Shot ในลักษณะของการถือกล้องดิจิตอลจริงๆ โดยปุ่มชัตเตอร์จะเป็นปุ่มกด 2 จังหวะ ในจังหวะแรกที่กดลงไปจะเป็นการโฟกัส และการกดในจังหวะที่สองเป็นการลั่นชัตเตอร์ นอกจากปุ่มชัตเตอร์แล้ว ปุ่มสลับโหมดถ่ายภาพระหว่างโหมด Smart ไปเป็นโหมด PRO ก็เป็นอะไรที่แจ่มไม่แพ้กัน จริงอยู่ที่มือถือหลายรุ่นเดี๋ยวนี้สามารถถ่ายรูปแบบโหมด M ของกล้องดิจิตอล ที่ให้เราเลือกปรับค่าต่างๆ ได้ตามใจชอบได้ แต่การเข้าถึงโหมด PRO ของ lenovo VIBE Shot นั้นทำได้ง่ายกว่ามาก เพียงแค่เลื่อนปุ่มที่อยู่ข้างๆ ปุ่มชัตเตอร์เท่านั้นเอง ไม่ต้องไปจิ้มๆ หน้าจอเพื่อเปลี่ยนโหมดแล้ว
พูดถึงซอฟท์แวร์ของ lenovo VIBE Shot กันบ้าง แต่ในส่วนของโหมด PRO ผมจะขอไม่ลงรายละเอียดลึกมาก เพราะโหมด PRO ก็จะเหมือนกับโหมด M ในกล้องดิจิตอลที่สามารถปรับค่าได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ISO, Speed Shutter, White Balance, ค่า EV แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในโหมด PRO ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปรับได้ดั่งใจจริงๆ นะครับ เพราะอย่าง Speed Shutter ก็ปรับได้แค่ 1/15 ไปจนถึง 1 วินาทีเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นโหมด Smart (หรือโหมด Auto) เนี่ย บอกเลยว่าจัดเต็มมาก มีตัวช่วยในการถ่ายรูปเยอะแยะเต็มไปหมด คือทำให้คนที่ถ่ายรูปไม่เป็นก็ถ่ายรูปสวยได้ เพราะอัลกอริทึมของโหมด Smart สามารถจัดองค์ประกอบในการถ่ายรูปได้ (Smart Compose) ตัวซอฟท์แวร์จะคอยบอกระยะว่าให้เข้าใกล้ตัวแบบ หรือออกห่างจากตัวแบบ แถมเวลาที่ถ่ายคนด้วยโหมด Smart เนี่ย ทุกรูปจะโฟกัสเข้าลูกตาหมดเลยครับ ซึ่งเวลาที่ช่างภาพถ่ายคน ก็มักจะโฟกัสเข้าที่ตาของตัวแบบอยู่แล้ว โดยฟีเจอร์ Smart Compose นอกจากจะใช้กับการถ่ายภาพบุคคลแล้ว ยังใช้ถ่ายรูปอาหารได้ด้วยครับ และในโหมด Smart ยังมีตัวช่วยในการถ่ายภาพ เช่นตัววัดระดับน้ำแบบดิจิตอล ช่วยให้เราทราบได้ว่าตอนนี้ถือกล้องได้ระนาบแล้วหรือยัง เป็นต้น
คุณภาพของรูปถ่ายจากกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลของ lenovo VIBE Shot ก็ทำได้ดีสมกับที่คุยไว้นั่นแหละครับ ได้ไฟล์รูปที่มีขนาดใหญ่พอที่จะอัพขึ้นโซเชียลมีเดียได้สบายๆ หรือจะถ่ายไว้ใช้งานก็พอได้อยู่ครับ เฉลี่ยแล้วขนาดไฟล์จะอยู่ที่ประมาณ 5 mb สำหรับรูปถ่ายที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล การจัดการ Noise การจัดการเรื่องแสง และสีสันของภาพทำได้ดีทีเดียว การถ่ายรูปในเวลากลางคืนก็ถือว่าใช้ได้เลย และยิ่งใช้งานร่วมกับแฟลช LED 3 สี ก็ยิ่งแจ่มเข้าไปใหญ่
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ lenovo VIBE Shot
ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซลของ lenovo VIBE Shot เครื่องรีวิวที่เราได้มานั้นก็มาพร้อมกับโหมดช่วยถ่ายภาพ เช่นการจับใบหน้า, หรือการชู 2 นิ้วแทนการกดชัตเตอร์ รวมถึงโหมดถ่ายภาพที่มีโหมด Beauty หน้าสวยฟรุ้งฟริ้งมาให้ และยังมีโหมดเติมแสง ที่จะเป็นการเร่งแสงหน้าจอมือถือเพื่อช่วยในการถ่ายเซลฟี่ในที่มืด แต่ของ lenovo VIBE Shot จะแอดวานซ์กว่าตรงที่สามารถเลือกสีของไฟหน้าจอได้ด้วย ว่าจะใช้เป็นไฟสีชมพูฟรุ้งฟริ้ง หรือจะเป็นสีโทนอุ่นก็ได้ แล้วก็มีโหมด Panorama Selfie ที่ใช้สำหรับถ่ายรูปเซลฟี่เป็นหมู่คณะ ซึ่งจะได้มุมมองที่กว้างกว่าปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ lenovo VIBE Shot ก็ตามนี้เลย
Performance
พูดถึงเรื่องกล้อง และดีไซน์ของ lenovo VIBE Shot ไปเยอะเลย เรากลับมาที่จุดเริ่มต้นอย่างประสิทธิภาพของ lenovo VIBE Shot กันบ้างครับ ด้วยสเปคที่ให้มาเป็น CPU Qualcomm Snapdragon 615 Octa Core ความเร็ว 1.7 GHz กับ Ram 3 GB และหน่วยความจำภายใน 32 GB รองรับ MicroSD Card อีก 128 GB จัดว่าเป็นสเปคที่เหมาะกับการใช้งาน อาจจะไม่ได้แรงเวอร์ แต่ใช้งานจริงเข้าขั้นดีมากเลยล่ะ
ด้วยสเปคในระดับนี้ ทำให้ lenovo VIBE Shot เป็นมือถือที่เหมาะแก่การเล่นเกมรุ่นหนึ่งเลยครับ ด้วยสเปคที่พอดีไปหมด แถมความละเอียดหน้าจอก็สัมพันธ์กับสเปคซะด้วย และถ้าเล่นเกมได้เนี่ย การใช้งานด้านอื่นๆ ก็ได้ทุกอย่างอ่ะครับ จะเอาไปเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือจะดูหนัง ฟังเพลง ก็ไม่มีปัญหา แถม Ram ที่ให้มาถึง 3 GB ทำให้ lenovo VIBE Shot สามารถเปิดแอปพลิเคชันได้อย่างรัวๆ โดยไม่ต้องมาคอยเคลียร์ Recent App บ่อยๆ และโดยเฉลี่ย lenovo VIBE Shot จะเหลือ Ram ให้ใช้ประมาณ 1 GB ครับ รับรองว่าลื่นๆ อยู่แล้ว
ส่วนการใช้งานด้านแบตเตอรี่ หรือการจัดการพลังงานของ lenovo VIBE Shot เห็นว่าให้แบตเตอรี่มาไม่มากที่ 2900 mAh แต่ในการใช้งานจริงแบบเปิด 4G/3G ไว้ตลอด (สลับไปใช้ Wifi บ้าง) หยิบมือถือมาเล่นบ่อยพอสมควร เน้นถ่ายรูปเป็นหลัก ก็พบว่า lenovo VIBE Shot เป็นมือถือที่ต้องชาร์จไฟทุกวัน เช่นเดียวกับมือถือรุ่นอื่น แต่ lenovo VIBE Shot เป็นมือถือสามารถใช้งานได้หมดวันแบบสบายๆ โดยไม่ต้องง้อแบตเตอรี่สำรอง เว้นแต่ว่าจะเล่นเกมหนักๆ หรือเปิดหน้าจอไว้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็อาจจะต้องพึ่งพาการเติมไฟด้วย Power Bank เพื่อที่จะให้ใช้งานได้หมดวัน
รอบนี้ต้องชม lenovo ในการเลือกสเปคของ lenovo VIBE Shot เลยล่ะครับ เป็นมือถือที่ให้สเปคมาอยู่ในระดับที่สมดุลมาก ทั้งหน้าจอ, ความละเอียดหน้าจอ, CPU, Ram, Rom ไปจนถึง Battery ทุกอย่างลงตัวไปหมดเลยครับ