เวลาที่เราจะซื้อมือถือซักรุ่นเนี่ย เชื่อว่าสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ นอกจากสเปคจะต้องใช้งานได้ดีแล้ว ระบบปฏิบัติการ หรือซอฟท์แวร์ก็ต้องดี ใช้งานได้เสถียร รวมถึงได้รับการอัพเดตอย่างต่อเนื่อง อาจจะไม่ต้องอัพเดตกันจนกัลปวสาน แต่อย่างน้อยก็ซัพพอร์ทบ้าง มีอัพเดตแก้บั๊ก หรือถ้าจะให้ดีก็ต้องมีอัพเดตข้ามรุ่น เช่นอัพเดตจาก Android 4.4 ไปเป็น Android 5.0 เป็นต้น
ส่วนมากปัญหาเรื่องการอัพเดตซอฟท์แวร์ มักจะเกิดขึ้นกับมือถือราคาไม่แพง บรรดามือถือราคาหลักพันส่วนมากมักจะถูกลอยแพกันเป็นประจำ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติแหละครับ ขนาดมือถือตัวแพงๆ ราคาหลักหมื่นยังไม่ค่อยรอดเลย นับประสาอะไรกับมือถือราคาหลักพัน แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าบางทีอัพเดตไปแล้วอาจแย่กว่าเดิม เนื่องจากฮาร์ดแวร์ไม่รองรับ ทางผู้ผลิตเลยจำเป็นที่จะต้องปล่อยลอยแพไป
แต่มือถือที่เราจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ เป็นมือถือที่ราคาหลักพัน จริงๆ คือราคาไม่ถึง 5,000 บาทด้วยซ้ำ แต่มีจุดเด่นหลักที่ความเสถียรของซอฟท์แวร์ รวมถึงการการันตีอัพเดตซอฟท์แวร์ต่อเนื่อง 2 ปี เวลาที่มี Android เวอร์ชันใหม่ๆ ปล่อยออกมา มือถือรุ่นนี้จะได้อัพเดตไปพร้อมๆ กับลูกหม้อของ Google อย่าง Google Nexus คือเป็นการยิง OTA จาก Google โดยตรง จะบอกว่า Android One เป็นมือถือ Nexus ในราคาย่อมเยาก็คงไม่เวอร์จนเกินไป
มือถือรุ่นดังกล่าวก็คือ i-mobile IQ II มือถือ Android One รุ่นแรกที่วางขายในประเทศไทย โดย Android One จัดเป็นหนึ่งในโปรเจคของ Google ภายใต้แนวคิดที่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของมือถือ Android ได้ ซึ่ง Google เองก็จะหาพาร์ทเนอร์ที่เป็น House Brand ของแต่ละประเทศที่คิดว่าจะไปทำตลาด แล้วจากนั้น Google ก็จะเป็นคนจัดการเลือกสเปคมือถือ, ออกแบบดีไซน์ตัวเครื่อง รวมถึงจัดการเรื่องซอฟท์แวร์ด้วยตัวเอง เอาเป็นว่า i-mobile IQ II เนี่ย Google เป็นคนจัดการทุกอย่าง i-mobile มีหน้าที่แค่ผลิตมือถือ i-mobile IQ II ตามสเปคที่ Google กำหนด แล้วก็เป็นคนจัดการเรื่องการจำหน่ายสินค้าในประเทศไทย
สเปค i-mobile IQ II
- หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 410 Quad Core ความเร็ว 1.2 GHz
- Ram 1 GB
- หน่วยความจำภายใน 16 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 32 GB
- รองรับ 3G: 850/2100 MHz (AIS/ Dtac/ True/3GX)
- รองรับ 4G LTE
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (BSI)
- แบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh
- ราคา 4,444 บาท
- สเปคเต็มๆ i-mobile IQ II
i-mobile IQ II มาพร้อมกับกล่องแบบลิ้นชัก และยังคงอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์เสริมไม่แพ้มือถือรุ่นอื่นๆ ของ i-mobile ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานอย่างสาย USB, อแดปเตอร์ กับหูฟัง ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ เคส TPU และฟิล์มกันรอยแถมมาให้ในกล่องด้วย ตอนซื้อก็แนะนำให้ตรวจเช็คอุปกรณ์ให้ครบด้วยนะครับ ถ้าร้านที่ขายบอกว่าติดฟิล์ม i-mobile IQ II ต้องเสียเงินเพิ่มนี่แนะนำให้โวยวายได้เลย ว่าเขาแถมมาให้ในกล่องตั้งแต่แรกแล้ว (โว้ย) อย่ามาเนียน!!!
จุดเด่น
– ทุกอย่างอยู่ในจุดสมดุล เหมาะสมกับราคา ทั้ง CPU, แรม, หน้าจอ, แบตเตอรี่, กล้อง
– ใช้งาน 3G/4G LTE ได้อย่างไร้ปัญหา
– รองรับการอัพเดตซอฟท์แวร์นานถึง 2 ปี ไม่มีแพ
– โบนัสโทรฟรีก็มา
– ประกันตัวเครื่องจัดเต็มที่ 2 ปี
– กล้องหน้า กล้องหลังใช้งานได้ดี โฟกัสเร็ว ถ่ายเร็วทันใจ
ข้อสังเกต
– เสียงลำโพงยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
บทสรุป
BEST PRICE
Design
ดีไซน์ของ i-mobile IQ II อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่าทาง Google เป็นคนจัดการทุกอย่างหมด เพราะถ้าดูจากมือถือ Android One ที่ประเทศอื่นวางขาย จะเห็นเลยว่าหน้าตาเหมือนกับ i-mobile IQ II เป๊ะ แตกต่างกันที่โลโก้มือถือเท่านั้นเอง เอาเป็นว่าโมเดลเดียว เปรี้ยวทั่วโลกจริงๆ Android One 2015 เนี่ย
ส่วนตัวแอดมินเลยรู้สึกว่า Android One อย่าง i-mobile IQ II มีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับ Google Nexus 5 ที่ LG ผลิตพอสมควร แต่ถ้าเทียบเรื่องวัสดุอาจจะสู้ไม่ได้ (ราคาก็ถูกกว่ากันเยอะ) เรียกว่ามีกลิ่นอายของความเป็น Google พอสมควร ดีไซน์ดูเรียบๆ แต่เป็นความเรียบที่ทันสมัย ไม่ได้เฉิ่มเชยแต่อย่างใด โดยรวมจัดว่าโอเคในแง่ของการออกแบบ คือหยิบมาเทียบกับมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท เฉพาะเรื่องดีไซน์ ผมว่า i-mobile IQ II ก็ไม่เป็นรองใครล่ะ
สิ่งที่ผมค่อนข้างประทับใจในการดีไซน์ของ i-mobile IQ II ก็เป็นเรื่องขนาดตัวเครื่อง เมื่อเทียบกับมือถือหน้าจอ 5 นิ้วรุ่นอื่นๆ i-mobile IQ II จะมีขอบจอที่บางกว่ามือถือทั่วไป ส่งผลให้ขนาดโดยรวมของตัวเครื่องกะทัดรัด และการออกแบบฝาหลังให้มีความโค้งแบบหลังเต่า รับกับอุ้งมือตอนจับถือ ยิ่งทำให้ i-mobile IQ II เป็นมือถือที่มีความคล่องตัวมาก และใช้งานมือเดียวได้สบายๆ เลยล่ะครับ
มาต่อกันที่วัสดุของ i-mobile IQ II กันบ้าง มือถือรุ่นนี้นอกจากงานดีไซน์จะทำได้ดี มีความสวยงามแบบพอดีๆ ไม่เยอะ ไม่ล้นแล้ว วัสดุที่เลือกใช้ก็ถือว่าสอบผ่านเลยเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวที่ 4,444 บาท ถึงวัสดุจะเป็นพลาสติกทั้งเครื่อง แต่คุณภาพของวัสดุที่ใช้ก็ไม่ใช่ไก่กา รวมถึงงานประกอบของ i-mobile IQ II ก็ทำออกมาได้ดีซะด้วย เผลอๆ จะดีกว่ามือถือราคาใกล้เคียงกันอีกต่างหาก
ฝาหลังของ i-mobile IQ II ใช้วัสดุเป็นพลาสติกผิวด้าน มีจุดเด่นที่การดูแลรักษาง่าย ตัวฝาหลังไม่เก็บรอยนิ้วมือ อีกทั้งเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ด้านล่างของฝาหลังมีการสกรีนโลโก้ Android One และสามารถแกะได้ เมื่อถอดฝาหลังออกมาก็จะพบกับแบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh, ช่องใส่ซิมการ์ดขนาดไมโครซิม จำนวน 2 ช่อง และช่องเสียบ MicroSD Card โดย i-mobile IQ II รองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุดที่ 32 GB และแน่นอนว่า i-mobile IQ II ก็เป็นมือถือที่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
สิ่งที่แอดมินรู้สึกแปลกใจคือบริเวณกล้องหลังของ i-mobile IQ II ที่จะมีแหวนครอบกล้องอยู่ ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นแหวนที่จะยกไม่ให้กระจกเลนส์กล้องหลังสัมผัสกับพื้นโดยตรง เวลาที่วางเครื่องไว้บนพื้น แต่เมื่อลองสังเกตดีๆ จะพบว่าตัวแหวนที่อยู่รอบกล้องหลังนั้น ทำระนาบไปกับเลนส์กล้องหลังพอดีเป๊ะ จึงไม่ได้ช่วยปกป้องกระจกเลนส์แต่อย่างใด เวลาจะวางเครื่องให้เพื่อนๆ ระวังหน่อยก็ดีครับ เดี๋ยวกระจกเลนส์เป็นรอยขึ้นมาจะถ่ายรูปไม่สวยเอานะ
i-mobile IQ II มาพร้อมกับความหนาที่ 9.3 มิลลิเมตร (เมื่อนับจุดที่หนาที่สุดของตัวเครื่อง) แต่ด้วยการดีไซน์ให้ฝาหลังมีความโค้งแบบหลังเต่า ทำให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวกมือทีเดียว บริเวณด้านข้างของ i-mobile IQ II มีการเล่นลวดลายเป็นโครเมียมสองเส้น ซึ่งช่วยดึงสายตาได้ดี และทำให้มือถือ i-mobile IQ II ดูหรูหรา และโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น การจัดวางปุ่ม, หรือช่องเสียบสายต่างๆ ทำได้ดี ใช้งานจริงได้ถนัดมือ
ในส่วนของการแสดงผล หน้าจอของ i-mobile IQ II มีขนาด 5 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ IPS ความละเอียดอยู่ที่ระดับ HD ซึ่งเป็นความละเอียดหน้าจอที่กำลังพอดีกับสเปค อาจจะไม่คมชัดเท่ากับหน้าจอความละเอียด Full HD แต่ความละเอียด HD กับหน้าจอ 5 นิ้ว ที่ 294 ppi ก็เพียงพอที่จะให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกว่าจอหยาบ หรือเห็นเม็ดพิกเซลให้หงุดหงิดลูกตา (ถ้าไม่พยายามเพ่งมองแบบจับผิด) การแสดงผลหน้าจอให้สีสันสดใส สีหน้าจอติดโทนสีอมเหลืองนิดๆ แต่ไม่ได้เหลืองจนน่าเกลียด ความสว่างหน้าจอของ i-mobile IQ II บอกเลยว่ามาเต็ม และเมื่อบวกกับพาแนลจอแบบ IPS ก็สว่างพอที่จะใช้งานกลางแดดจัด อย่างแดดเมืองไทยตอนเที่ยงวันได้สบายๆ
ภาพรวมในส่วนการรีวิวเรื่องดีไซน์ วัสดุ งานประกอบของ i-mobile IQ II ก็จัดว่าเป็นหนึ่งในมือถือราคาย่อมเยาที่ออกแบบมาได้ดี ทั้งในเรื่องของความสวยงาม รวมไปถึงการใช้งานจริงก็ไม่ได้ขี้เหร่แต่อย่างใด โดยเฉพาะฝาหลังโค้งแบบหลังเต่า รับกับอุ้งมือขณะที่จับถือใช้งานตัวเครื่อง i-mobile IQ II เป็นการออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้เป็นอย่างดี งานประกอบก็แน่นหนา แข็งแรง ส่วนหน้าจอก็ถือว่าเลือกใช้ความละเอียด และพาแนลได้เหมาะสมกับราคา กับความคมชัดที่ระดับ HD สีสันหน้าจอที่สดใส ความสว่างหน้าจอก็เพียงพอที่จะใช้งานกลางแดดจัดๆ ได้สบาย
บอกตามตรงว่าแอดมินก็เซอร์ไพรส์เล็กๆ เพราะตอนแรกที่เห็นราคาของ i-mobile IQ II บวกกับจุดเด่นที่เน้นนำเสนอในเรื่องของการอัพเดตซอฟท์แวร์อย่างต่อเนื่อง ก็นึกว่าวัสดุ และงานประกอบของ i-mobile IQ II จะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แต่พอได้ลองจับเครื่องจริงแล้ว บอกเลยว่า i-mobile IQ II เป็นมือถือที่งานประกอบดีรุ่นหนึ่งเลยล่ะ
Software
หนึ่งในจุดเด่นที่ i-mobile ชูเป็นจุดขายหลักของ i-mobile IQ II ก็คือ ซอฟท์แวร์ หรือระบบปฏิบัติการของ i-mobile IQ II ที่ได้รับการซัพพอร์ตโดยตรงจาก Google และยังได้รับการการันตีอัพเดตกันอย่างต่อเนื่องนานถึง 2 ปี เท่ากับว่า i-mobile IQ II จะได้รับการอัพเดตซอฟท์แวร์เวอร์ชันใหม่ๆ ไปจนถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2560 ได้ไปต่อถึง Android N กันเลยทีเดียว
โดยซอฟท์แวร์ล่าสุดของ i-mobile IQ II ณ วันที่แอดมินได้ทำการรีวิว i-mobile IQ II นั้น จะเป็นระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ใหม่ที่สุด เท่าที่มีบนโลก Android (ไม่นับ Android 6.0 Marshmallow Preview) ส่วนหน้าตา UI ของซอฟท์แวร์ i-mobile IQ II ก็จะเป็น Material Design ตามแบบฉบับของ Android Lollipop คือมาแบบ Pure Android ของจริงเลยล่ะ
แอปพลิเคชันติดเครื่องของ i-mobile IQ II ส่วนมากจะเป็นแอปพลิเคชันจากทาง Google แต่ก็มีแอพลิเคชันบางตัวที่ทาง i-mobile จับใส่ให้ในรอมของ i-mobile IQ II ได้แก่ Line และแอปพลิเคชัน IQ II Bonus ศูนย์รวมสิทธิพิเศษดีๆ สำหรับผู้ใช้มือถือ i-mobile IQ II เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดค่าอาหาร, ที่พักโรงแรม, สุขภาพและความงาม อย่างแอดมินตอนรีวิว i-mobile IQ II ก็ไปจัด Mister Donut ฟรี 2 ชิ้นเป็นที่เรียบร้อย
อย่างที่ได้บอกไปว่า i-mobile IQ II เป็นมือถือที่ได้รับการอัพเดตซอฟท์แวร์โดยตรงจากทาง Google เพราะฉะนั้นปัญหาเรื่องช่องโหว่ความปลอดภัยที่กำลังเป็นประเด็นในตอนนี้อย่าง Stagefright ทาง Google ก็ได้ปล่อยอัพเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ตรงนี้ให้กับ i-mobile IQ II อัพเดตไปพร้อมๆ กับ Google Nexus ถือว่าเป็นมือถือรุ่นแรกๆ นี่ได้รับการปิดช่องโหว่ Stagefright เลยครับ เอาเป็นว่าใครที่กังวลว่าจะได้อัพเดตจริงหรือไม่ แอดมินกล้าพูดเลยว่าอย่างน้อย Android 6.0 Marshmallow นี่ i-mobile IQ II ได้อัพเดตเวอร์ชันเต็มก่อนใครเพื่อนแน่นอน
Camera
i-mobile IQ II มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กับกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล อาจจะดูเป็นกล้องหลังที่พิกเซลไม่เยอะเหมือนมือถือรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาด แต่ก็นั่นแหละครับ ลำพังกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กับกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซลก็เพียงพอต่อการอัพโหลดรูปภาพขึ้น Social Network ในแบบที่เพียงพอต่อการใช้งาน รวมถีงประหยัดเนื้อที่จัดเก็บข้อมูลภายในตัวเครื่องมากกว่าพวกกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลเสียอีก เพราะไฟล์รูปมีขนาดน้อยกว่า เฉลี่ยก็อยู่ที่ 2 mb สำหรับรูปจากกล้องหลัง และประมาณ 750 kb สำหรับรูปถ่ายจากกล้องหน้า
ซอฟท์แวร์กล้องของ i-mobile IQ II อาจจะไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวา เนื่องจากใช้แอปพลิเคชันติดรอมของทาง Google โหมดที่ให้เลือกใช้จะเพียง 3 โหมดเท่านั้น คือ กล้องถ่ายรูปปกติ, โหมดหน้าชัด-หลังเบลอ แล้วก็การถ่ายวีดีโอ โดยกล้องหลังของ i-mobile IQ II สามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p แต่ถ้าเป็นกล้องหน้าจะถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียด HD 720p
แต่เพื่อนๆ ที่อยากได้กล้องหน้าฟรุ้งฟริ้ง หรือโหมดกล้องอื่นๆ แอดมินก็แนะนำให้ไปดาวโหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ที่ Google Play Store ได้เลยครับ มีให้เลือกใช้เพียบ
คุณภาพของรูปถ่ายจากกล้องหลังของ i-mobile IQ II ถือว่าทำได้ดีสำหรับมือถือราคา 4,444 บาท ถึงแม้ว่าการจัดการแสงในพื้นที่ๆ มีแสงน้อย รวมถึงการถ่ายย้อนแสงอาจจะทำได้ไม่ดีนัก แต่กล้องของ i-mobile IQ II ก็มีจุดเด่นในเรื่องของความรวดเร็วในการเปิดกล้อง, การจับโฟกัส และการลั่นชัตเตอร์ที่ทำได้รวดเร็วดั่งใจ เอาเป็นว่าถ้าเทียบกับมือถือรุ่นอื่นในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ผมว่า i-mobile IQ II ทำได้ดีกว่าบางรุ่นเสียอีก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ i-mobile IQ II
ส่วนกล้องหน้าที่เห็นว่าให้ความละเอียดมาเพียง 2 ล้านพิกเซล อาจจะดูน้อยเมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่นที่เดี๋ยวนี้มักจะมาพร้อมกับกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล แต่กล้องหน้าของ i-mobile IQ II ก็เป็นกล้องหน้าที่ถ่ายรูปได้ดีไม่แพ้พวกความละเอียดสูงเลยครับ การคุมโทนสีผิวหนังทำได้ดี ถ่ายรูปในที่แสงน้อยก็ค่อนข้างสว่าง ติดอยู่ที่ไม่มีโหมดหน้าสวยฟรุ้งฟริ้งเท่านั้น ซึ่งเราก็สามารถไปหาโหลดได้เองจาก Google Play Store ครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า i-mobile IQ II
Performance
ประสิทธิภาพของ i-mobile IQ II ถ้าวัดกันที่หน้าสเปค หรือผลการ Benchmark อาจจะรู้สึกว่าไม่ว้าวเท่าไหร่ เพราะสเปคก็หาได้ทั่วไปตามท้องตลาด แต่ถ้าวัดกันที่การใช้งานจริง แบบลงแอปพลิเคชันเต็มเครื่อง, เล่นโซเชียล, เล่นเกมหนัก, เปิดแอปพลิเคชันทิ้งไว้ใน Recent App เป็นสิบๆ แอปพลิเคชัน ก็ไม่ได้ทำให้การใช้งาน i-mobile IQ II แย่ลง หรือเครื่องหน่วงแต่อย่างใด
พูดไปจะหาว่าแอดมินโม้ มือถือ CPU Snapdragon 410 กับ Ram 1 GB จะแน่แค่ไหนเชียว เปิดแอปพลิเคชันไม่เท่าไหร่ก็น่าจะมีการเครื่องหน่วงให้หงุดหงิดใจแล้ว แต่ไม่ใช้กับ i-mobile IQ II มือถือ Android One เครื่องนี้ เพราะว่าซอฟท์แวร์ของ i-mobile IQ II มีการจัดการฮาร์ดแวร์ที่ดี และรีดประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย สำหรับการทดสอบเล่นเกม ตั้งแต่เกมเบาๆ เช่น Candy Crush Soda Saga, Line Cookie Run หรือจะเกมหนักๆ อย่าง Asphalt 8 หรือเกม Marvel Future Fight รวมถึงการเปิดแอปพลิเคชัน การสลับแอปพลิเคชันในหน้า Recent App ก็สามารับรับชมได้จากวีดีโอ “ทดสอบเล่นเกม i-mobile IQ II” ได้เลยครับ
ด้านการจัดการพลังงาน i-mobile IQ II มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh เท่าที่ลองใช้เครื่องตอนรีวิว i-mobile IQ II แบบเปิด 3G/4G ไว้ตลอดเวลา มีการใช้งาน Social Network ได้แก่ Facebook, Instagram, Line, Twitter มีหยิบขึ้นมาเล่นเกมบ้างเล็กน้อย แบตเตอรี่ของ i-mobile IQ II ก็สามารถใช้งานได้หมดวันแบบกลับบ้านไปค่อยชาร์จไฟก็ยังทัน หรือถ้าไม่ทันจริงๆ i-mobile IQ II ก็มีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกใช้ ตามสเปคการเปิดโหมดประหยัดพลังงานก็จะทำให้ยืดอายุการใช้งาน i-mobile IQ II ไปได้อีก 90 นาที เอาเป็นว่า ใช้งาน i-mobile IQ II จะพก Power Bank ก็ได้ หรือจะไม่พกก็ยังพอไหวครับ