ในบรรดามือถือที่เน้นเรื่องกล้อง ผมเชื่อว่ามือถือที่เราจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ก็เป็นหนึ่งในมือถือที่โดดเด่นในเรื่องกล้องเป็นพิเศษ เพราะมาพร้อมกับกล้องหลังถึง 2 ตัว และนอกจากกล้องหลังจะมีด้วยกัน 2 ตัวแล้ว ยังมาพร้อมกับสเปคสุดแรงในชนิดที่ว่าเล่นได้ทุกเกม แล้วก็ใช้งานได้อย่างลื่นๆ อีกต่างหาก
มือถือรุ่นดังกล่าวที่เราจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันก็คือ Huawei Honor 6 Plus นั่นเองครับ โดย Plus ที่เพิ่มขึ้นมาจาก Huawei Honor 6 เนี่ย ไม่ได้ใส่มาเท่ๆ และไม่ได้มีแค่ขนาดหน้าจอที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นนะครับ แต่ Plus ที่ว่าเนี่ย Plus ทั้งสเปคที่แรงขึ้น แล้วก็อย่างที่ได้บอกไปเรื่องกล้อง เนื่องจาก Huawei Honor 6 Plus มีกล้องหลังด้วยกันถึง 2 ตัว รวมกล้องหน้าอีก 1 ตัว Huawei Honor 6 Plus ก็จะเป็นมือถือที่มีกล้องด้วยกัน 3 ตัวเลยทีเดียว
สเปค Huawei Honor 6 Plus
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว Full HD 1920×1080 พิกเซล
- ชิพประมวลผล Kirin 925 Octa-Core 1.8 GHz
- RAM 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB
- รองรับ microSD สูงสุด 128GB
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (กล้อง 2 ตัว)
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- Android 4.4 KitKat มากับ Emotion UI 3.0
- แบตเตอรี่ความจุ 3,600 มิลลิแอมป์
- รองรับ 4G LTE รองรับ 3G ความถี่ 850/900/2100 MHz
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
- ราคาเปิดตัวที่ 13,990 บาท
- สเปค Huawei Honor 6 Plus
**หมายเหตุ เครื่องรีวิว Huawei Honor 6 Plus ที่ผมได้รับมานั้นเป็นเครื่องโมเดล PE-TL10 ซึ่งมีความแตกต่างจาก Huawei Honor 6 Plus เครื่องขายจริงในไทย (โมเดล PE-UL00) ตรงที่ไม่รองรับ 3G คลื่น 850 ครับ ที่เหลือนี่เหมือนกันหมด เพราะฉะนั้น ใครที่จะซื้อ Huawei Honor 6 Plus เครื่องศูนย์ไทยสบายใจได้ มือถือรุ่นนี้รองรับ 3G ของทุกซิมที่มีขายในบ้านเราแน่นอน**
และก่อนที่เราจะเข้าสู่รีวิว Huawei Honor 6 Plus ผมจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับ Huawei Honor 6 Plus นิดหน่อยครับ คือในต่างประเทศเนี่ย Huawei Honor 6 Plus จะขายในชื่อ Honor 6 Plus เนื่องจากแบรนด์ Honor ถือว่าเป็นแบรนด์มือถือแบรนด์หนึ่งเลยหล่ะครับ อย่างไรก็ตาม Honor ก็จัดเป็น Sub-Brand ของ Huawei อีกที แต่พอขายในบ้านเรา เพื่อให้เข้าใจตรงกันและป้องกันความสับสน ก็เลยใช้ชื่อว่า Huawei Honor 6 Plus นั่นเองครับ
จุดเด่น
– ทุกอย่างอยู่ในจุดสมดุล ทั้ง CPU, แรม, หน้าจอ, แบตเตอรี่, กล้อง
– ใช้งาน 4G LTE ได้ รองรับ 2 ซิมด้วย
– หน้าจอสวยมาก ความละเอียด Full HD ก็กำลังเหมาะสมกับหน้าจอ 5.5 นิ้ว
– กล้องคู่ Eagle Eye ถ่ายภาพหลังละลายได้สะใจมาก
ข้อสังเกต
– ถ้าจะใช้งาน 2 ซิมก็เพิ่ม MicroSD Card ไม่ได้ (ใช้ถาดเดียวกัน)
– GPU ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ เล่นเกมบางเกมปรับได้แค่ Medium
บทสรุป
BEST INNOVATION
Design
ถ้าถามว่า Huawei Honor 6 Plus กับ Huawei Honor 6 มีความแตกต่างและ Huawei Honor 6 Plus มีการพัฒนาตรงไหนบ้าง ผมบอกเลยครับว่า ดีไซน์ของ Huawei Honor 6 Plus พัฒนาขึ้นเยอะ ส่วนวัสดุก็เหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ก็นั่นแหละครับ ราคาของ Huawei Honor 6 Plus ก็แพงกว่า Honor 6 พอสมควร จัดว่าตามราคานั่นแหละครับ
หน้าตาของ Huawei Honor 6 Plus ออกแบบมาได้เรียบหรู อย่างเครื่องรีวิว Huawei Honor 6 Plus ที่ผมได้รับมาจาก Huawei เป็นเครื่องสีทอง จัดว่าเป็นมือถือที่หน้าตาดีเครื่องหนึ่งเลยหล่ะ ขอบจอบางใช้ได้ ทำให้หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วของ Huawei Honor 6 Plus ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการพกพาเท่าไหร่ ถ้าใช้งานมือถือหน้าจอ 5 นิ้วได้ ผมก็เชื่อว่าสามารถใช้งาน Huawei Honor 6 Plus ได้โดยที่ไม่รู้สึกว่าตัวเครื่องนั้นใหญ่เทอะทะ
ความหนาของ Huawei Honor 6 Plus อยู่ที่ 7.5 มิลลิเมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติทั่วไป ด้านข้างขวาของ Huawei Honor 6 Plus ประกอบไปด้วยปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power, ช่องใส่ซิมการ์ด (ช่องล่างสุด) และช่องใส่ MicroSD Card ที่เป็นช่องใส่ซิม 2 ในตัวด้วย (รองรับ Nano Sim) เอาง่ายๆ ก็คือให้เลือกครับ จะใช้ซิมเดียวก็ใส่ MicroSD Card เพิ่มความจุได้ แต่ถ้าจะใช้ 2 ซิมก็ใส่ MicroSD Card ไม่ได้เท่านั้นเอง
จุดเด่นอีกอย่างของ Huawei Honor 6 Plus คือมาพร้อมกับอินฟาเรด ทำให้สามารถใช้ Huawei Honor 6 Plus ในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ด้วย โดยอินฟาเรดของ Huawei Honor 6 Plus จะอยู่ทางด้านบนของตัวเครื่อง ข้างๆ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรนั่นแหละครับ วิธีการใช้ก็เปิดแอปพลิเคชัน Smart Controller จากนั้นก็เพิ่มอุปกรณ์ เท่านี้ก็ไม่ต้องง้อรีโมทอีกต่อไป ใช้มือถือนี่แหละ คุมได้ทุกอย่าง
ฝาหลังไฟเบอร์กลาส เข้ากั้น เข้ากันกับขอบอลูมิเนียม!!
ด้านหลังของ Huawei Honor 6 Plus ใช้วัสดุคล้ายกระจก แต่ไม่ใช่กระจกนิรภัยไก่กาอาลาเล่แต่อย่างใด เพราะด้านหลังของ Huawei Honor 6 Plus ใช้เป็นไฟเบอร์กลาส 6 ชั้น ความแข็งแรงก็ไม่อะไรมากมาย Huawei เคลมว่าแค่กันกระสุนปืนได้เท่านั้นเอง และแน่นอนว่า Huawei Honor 6 Plus ไม่สามารถถอดฝาหลังได้ครับผม
โดยรายละเอียดทางด้านหลังของ Huawei Honor 6 Plus ประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลจำนวน 2 ตัว เป็นกล้องคู่ที่ทาง Huawei เคลมว่ามีความคมชัดของภาพไม่แพ้กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเลยครับ กล้องหลังมาพร้อมกับแฟลช LED จำนวน 2 ดวงด้วยกัน โดยรายละเอียดของกล้องหลัง Huawei Honor 6 Plus เราจะไปพูดในส่วนของการรีวิวกล้องก็แล้วกันครับ แต่สปอยก่อนเลยว่ากล้องหลัง 2 ตัวของ Huawei Honor 6 Plus เจ๋งกว่ากล้องคู่ของมือถือรุ่นอื่นๆ แน่นอน
หน้าจอของ Huawei Honor 6 Plus ให้มาที่ความละเอียดระดับ Full HD บนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว เป็นหน้าจอที่สวยทีเดียวครับ สีสันสดใส และยังสามารถปรับโทนสีของหน้าจอได้ตามใจชอบด้วย ใครชอบสีโทนไหนก็ปรับแต่งได้ตามสะดวก แต่ถ้าเป็นการตั้งค่าตามมาตรฐาน ผมว่าหน้าจอจะติดอมเหลืองนิดๆ (นิดเดียวจริงๆ) ซึ่งตรงนี้ถ้าใครไม่ถูกใจก็ปรับอุณหภูมิหน้าจอไปทางโทนเย็นซักหน่อยก็ได้ครับ
ส่วนเรื่องความคมชัดของหน้าจอ Huawei Honor 6 Plus บอกเลยว่าความละเอียด Full HD กับหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้วเนี่ย ค่อนข้างลงตัวทีเดียว ไม่ได้เป็นความละเอียดที่เยอะจนกินแบตเตอรี่โดยใช่เหตุ แล้วก็ไม่ใช่ความละเอียดที่น้อยจนรู้สึกว่าจอหยาบ โดยหน้าจอของ Huawei Honor 6 Plus นี่ดูหนัง, เล่นเกม เล่นโซเชียลสบายๆ ครับ จอใหญ่ + ชัดด้วย
ภาพรวมสำหรับ Huawei Honor 6 Plus ในส่วนของการดีไซน์ก็ถือว่าสมราคาอยู่ครับ กับค่าตัว 15,990 บาท วัสดุแจ่ม ดีไซน์สวยงาม ขอบจอบางเฉียบ ทำให้ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วของ Huawei Honor 6 Plus ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการพกพาแม้แต่น้อย เพราะขนาดตัวเครื่องเมื่อเทียบกับมือถือหน้าจอ 5.5 นิ้วยี่ห้ออื่นแล้ว Huawei Honor 6 Plus มีขนาดโดยรวมที่เล็กกว่าอย่างชัดเจนครับ
Software
Huawei Honor 6 Plus มาพร้อมกับซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 Kitkat แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะจุดเด่นของระบบปฏิบัติการบน Huawei Honor 6 Plus คือ EMUI 3.0 ที่ครอบตัว Android 4.4.2 Kitkat มากกว่า โดย EMUI 3.0 จัดเป็นเวอร์ชันที่ค่อนข้างใหม่เลยครับ (ถ้าไม่นับ EMUI 3.1 บน Huawei P8) เอาเป็นว่ามือถือ Huawei ส่วนมาก ณ ตอนนี้ก็จะใช้ซอฟท์แวร์ EMUI 3.0 นี่แหละครับ
หน้าตาของ EMUI 3.0 บน Huawei Honor 6 Plus ออกแบบมาได้สวยงาม หรูหรารับกับตัวเครื่อง และแฝงไปด้วยความเรียบง่าย ไม่รกสายตา โดยการใช้งาน Huawei Honor 6 Plus จะไม่มีหน้า App Drawer เหมือนมือถือแอนดรอยปกติ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึง iOS ของ iPhone ที่มี Notification Bar กับ Widget อ่ะครับ ตัวระบบปฏิบัติการใช้งานไม่ยากด้วยครับ หรือถ้าใครที่ไม่ถนัดหน้าจอแบบ Smartphone จริงๆ Huawei Honor 6 Plus ก็มีโหมดหน้าจอแบบ Simple หรือแบบเรียบง่าย สไตล์ฟีเจอร์โฟนให้เลือกใช้ด้วยนะ
Camera
กล้องของ Huawei Honor 6 Plus จัดว่าเป็นจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้ครับ ด้วยกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่ให้มาแบบแพคคู่ ที่มีชื่อเล่นเก๋ไก๋ว่า Eagle Eye ทำให้กล้องหลังของ Huawei Honor 6 Plus สามารถสร้างสรรค์รูปภาพได้หลายแบบ โดยกล้องหลัง 2 ตัวของ Huawei Honor 6 Plus นั้น ทาง Huawei เคลมว่ามีความคมชัดเท่ากับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว
ที่พิเศษไปกว่านั้น กล้องหลังของ Huawei Honor 6 Plus ยังปรับรูรับแสงได้ตามใจชอบผ่านโหมด Wide Aperture โดยรูรับแสงที่กว้างที่สุดที่ Huawei Honor 6 Plus ทำได้จะอยู่ที่ f/0.95 และค่ารูรับแสงที่แคบที่สุดคือ f/16 ครับ แน่นอนว่าไฮไลท์รูรับแสงที่ f/0.95 เนี่ย ทำให้เราสามารถถ่ายรูปแบบฉากหลังละลายจนกลายเป็นโบเก้ได้ง่ายๆ ไม่แพ้กล้อง DSLR เลยหล่ะ
**หมายเหตุ รูรับแสงยิ่งกว้าง ฉากหลังก็จะยิ่งละลายครับ**
เปรียบเทียบระหว่างรูรับแสงกว้างสุดที่ f/0.95 (ซ้าย) กับรูรับแสงแคบสุดที่ f/16 (ขวา)
แต่ถ้าเราอยากจะปรับโฟกัสหลังถ่ายรูป (เฉพาะถ่ายด้วยโหมด Wide Aperture) ก็สามารถทำได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Gallery ของ Huawei Honor 6 Plus เองครับ โดยเราสามารถเลือกจุดโฟกัสใหม่ได้ และยังสามารถเลือกได้ด้วยนะว่าอยากได้รูปถ่ายที่รูรับแสงกว้างเท่าไหร่ ปรับได้ตามสะดวกเลยครับ ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16
DOF ของรูป (ความชัดลึก) นี่ใช้ได้เลย ถ้ามองผ่านหน้าจอมือถือ หรือโพสลงโซเชียล
โดยค่า f/0.95 รวมถึงค่ารูรับแสงอื่นๆ ที่ Huawei Honor 6 Plus ปรับได้เนี่ย เป็นการปรับผ่านตัวซอฟท์แวร์แน่นอน เพราะผมลองเช็คไฟล์กับโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ เช่น Photoshop, Lightroom ดูแล้วพบว่า Exif File มีอาการมึนๆ เล็กน้อย แต่ถ้าพูดถึงความเบลอก็จัดว่าทำได้ดีกว่าซอฟท์แวร์หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ บน Google Play Store นะ
ภาพชุดนี้เป็นภาพที่เกิดจากการปรับค่ารูรับแสงหลังถ่ายด้วยโหมด Wide Aperture ของ Huawei Honor 6 Plus ครับ ผมถ่ายไว้รูปเดียวนี่แหละ แต่มาเปลี่ยนค่ารูรับแสงทีหลัง โดยรูปบนซ้ายสุดจะเป็น f/0.95 (กว้างที่สุด) แล้วก็ค่อยๆ ปรับรูรับแสงให้แคบลงเรื่อยๆ ครับ สังเกตได้จากฉากหลังที่จะชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยรูรับแสงที่ผมเลือกปรับเรียงจากซ้ายไปขวา บนลงล่างก็ตามนี้ 0.95 > 1.4 > 2.0 > 4.0 > 5.6 > 6.3 > 8.0 > 11 > 13 > 16
ตัวอย่างรูปถ่ายจากโหมด Wide Aperture ครับ ไม่ได้ผ่านการแต่งภาพแต่อย่างใด ผมแค่ย่อรูปกับใส่ลายน้ำเท่านั้นครับ
ส่วนการถ่ายรูปตอนกลางคืน หรือในที่แสงน้อย Huawei Honor 6 Plus ก็มีโหมด Super Night ให้เลือกใช้ครับ แต่ต้องบอกก่อนว่า ตามปกติเนี่ย กล้องหลังของ Huawei Honor 6 Plus ในโหมด Auto จะสามารถถ่ายรูปกลางคืนได้สว่างกว่ากล้องมือถือรุ่นอืนๆ ประมาณ 60% อยู่แล้ว แต่ถ้าจะถ่ายรูปในที่สภาพแสงน้อยจริงๆ เนี่ย แนะนำให้เปิดโหมด Super Night ได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โหมด Super Night ควรใช้คู่กับขาตั้งกล้องด้วยนะครับ เพราะโหมด Super Night เป็นการเปิดชัตเตอร์ค้างไว้ เพื่อให้แสงเข้ามามากขึ้น ซึ่งผลเสียที่ตามมาคือภาพจะเบลอถ้าถือถ่ายด้วยมือเปล่า
แบบนี้เป็นต้น เบลอไปจ้า
นอกจากนี้ โหมด Super Night ยังมีความพิเศษตรงที่เราสามารถเลือกปรับ ISO และ Speed Shutter ได้เองด้วย ทีนี้ก็อยู่ที่เราแล้วหล่ะครับ ว่าอยากจะปรับอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าใช้ขาตั้งกล้องอันนี้ก็แนะนำให้กด ISO ให้ต่ำๆ ไว้ จะได้มี Noise น้อยหน่อย แล้วไปปรับสปีดชัตเตอร์ให้นานแทน อย่างการถ่ายไฟรถที่วิ่งอยู่ก็แนะนำ Speed Shutter ที่ประมาณ 8 วินาที ไม่อย่างนั้นก็ Auto ในโหมด Super Night ง่ายๆ เลย
ตัวอย่างรูปถ่ายจากโหมด Super Night ครับ ไม่ได้ผ่านการแต่งภาพแต่อย่างใด ผมแค่ย่อรูป, ใส่ลายน้ำครับ
นอกจากนี้โหมด Super Night ของ Huawei Honor 6 Plus ยังสามารถถ่ายรูปไฟแบบ Light Painting บน Huawei P8 ได้ด้วยนะ แต่ถ่ายยากกว่าโหมด Light Painting พอสมควรเลย อย่างในภาพตัวอย่างที่ปรับ ISO ที่ 100 แล้วก็สปีดชัตเตอร์ 4 วินาทีครับ (แขนหายเลย 555)
ตัวอย่างรูปถ่ายจากโหมด Auto กับ HDR ครับ ไม่ได้ผ่านการแต่งภาพแต่อย่างใด ผมแค่ย่อรูปกับใส่ลายน้ำเท่านั้นครับ
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลของ Huawei Honor 6 Plus ก็ไม่ธรรมดาครับ มาพร้อมกับโหมด Beauty และเลนส์มุมกว้าง เก็บภาพได้มากกว่ากล้องหน้าแบบปกติ (ซึ่งเดี๋ยวนี้กล้องหน้ามือถือก็ล้วนแต่เป็นเลนส์มุมกว้างทั้งนั้น) ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องหน้าก็ประมาณนี้ครับ
Performance
ถ้าพูดถึงประสิทธิภาพของ Huawei Honor 6 Plus ผมว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะสเปคของ Huawei Honor 6 Plus ก็ถือว่าอยู่ในระดับบนๆ ของโลกสมาร์ทโฟนอยู่แล้วครับ ด้วยชิปเซ็ตแบบ 8+1 Core อย่าง HiSilicon Kirin 925 Octa-Core ความเร็ว 1.8 GHz บวกกับ Smart MicroCore มาพร้อมกับ Ram 3GB แรงหลุดโลก ใช้งานได้ทุกแอปพลิเคชัน ณ ตอนนี้ จะมีข้อสังเกตก็ตรงชิปกราฟฟิค Mali-T624 ที่ไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้การเล่นเกมบางเกม ถ้าอยากให้เล่นลื่นๆ ก็คงต้องอาศัยปรับแต่งกราฟฟิคเป็นระดับกลางแทน แต่ก็ยืนยันว่าเล่นได้ทุกเกมแน่นอนครับ
และตัวชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 925 เองก็รองรับการใช้งาน 4G LTE คลื่น 2100 MHz ด้วยครับ ทำให้ Huawei Honor 6 Plus สามารถใช้งาน 4G LTE ในประเทศไทยได้แน่นอน แถมยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดอีกต่างหาก (เลือกระหว่างใส่ซิมที่ 2 หรือใส่ MicroSD Card) การสนทนาก็ให้เสียงที่คมชัด มีไมค์ตัดเสียงทางด้านบนช่วยตัดเสียงรบกวนได้ดี แต่จะมีข้อสังเกตเล็กน้อยตรง 3G ที่รองรับ โดย Huawei Honor 6 Plus จะรองรับ 3G ความถี่ 900/2100 MHz เท่านั้น เพราะฉะนั้นจะไม่สามารถใช้ซิม My by CAT หรือ 168 ที่เป็น 3G 850 MHz ได้ครับ ส่วนซิม Dtac, Truemove-H นี่ใช้งานได้สบายๆ วิ่ง 4G / 3G ตลอด
**อัพเดตล่าสุด ผมลองเช็คกับทาง Huawei ดูแล้วครับ Huawei Honor 6 Plus โมเดลที่วางขายในบ้านเรา จะเป็นโมเดล PE-UL00 (คนละโมเดลกับเครื่องรีวิว) ซึ่งรองรับการใช้งาน 3G คลื่น 850/900/2100 MHz สามารถใส่ซิม Dtac, Truemove-H, AIS ไปจนถึงซิม My by CAT กับซิม 168 ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน**
แบตเตอรี่ของ Huawei Honor 6 Plus ให้มาที่ 3600 mAh จากการใช้งานจริงก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานของแบตเตอรี่ความจุประมาณนี้ โดยปกติแล้วตอนรีวิว Huawei Honor 6 Plus ผมจะชาร์จไฟทุกวัน แต่ถ้าเอาจริงๆ Huawei Honor 6 Plus สามารถใช้งานได้ประมาณ 1 วันครึ่งโดยไม่ต้องชาร์จไฟ แต่ถ้าไม่ได้ใช้ เน้นสแตนบายเป็นหลัก (ซึ่งไม่ค่อยมีคนทำแบบนี้หรอก) ก็อยู่ได้สบายๆ 2 วัน สรุปให้ง่ายๆ Huawei Honor 6 Plus ซื้อแล้วไม่ต้องพก Powerbank แน่นอน
แต่ถ้าแบตจะหมดจริงๆ ก็สามารถเปิดโหมด Ultra ใน Power Saving ได้ครับ ก็จะทำให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้นมาอีกหน่อย เพราะในโหมด Ultra จะมีการปรับหน้าจอเป็นแบบขาวดำ (ซึ่งไม่ช่วยอะไร) แต่จะมีการจำกัดแอปพลิเคชันที่ใช้งานให้เหลือแค่ข้อความ, การโทร, รายชื่อ และนาฬิกา พร้อมตัดการเชื่อมต่อทุกอย่างที่กินแบตเตอรี่ เช่น GPS, Bluetooth, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้ง 3G/ 4G LTE และ Wifi
ส่วนการชาร์จไฟ อันนี้บอกตามตรงว่าผมไม่มีข้อมูลว่าชาร์จไวแค่ไหน เพราะเครื่องรีวิว Huawei Honor 6 Plus ที่ได้มาก็มีแค่ตัวเครื่องเปล่าๆ แต่เท่าที่ทราบข้อมูล Huawei Honor 6 Plus จะมาพร้อมกับอแดปเตอร์จ่ายไฟได้ 2A ก็น่าจะชาร์จไฟได้เร็วพอสมควร แต่คงไม่เท่าพวก Quick Charge ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะทางหรอกครับ