รีวิว OPPO Mirror 3
สัมผัสประสบการณ์ความแรง ชาร์จเร็ว และคุ้มค่า ในราคาต่ำหมื่น
ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพแรงคุ้มค่าในราคาต่ำกว่าหมื่นบาทไม่ควรมองข้าม OPPO Mirror 3 ด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการใช้งาน 2 ซิมการ์ด รองรับการเชื่อมต่อ 4G เลือกใช้ CPU ที่มีประสิทธิภาพและความเสถียรอย่าง Qualcomm Snapdragon 410 สี่แกนประมวลผล 1.2GHz และจุดขายที่โดดเด่นเหนือสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกันคือระบบ VOOC (โว๊ค) Fast Charge ที่ทำให้ Mirror 3 ชาร์จแบตฯ เร็วกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป 60% และชาร์จแบตเต็มภายในเวลาแค่ 90 นาทีเท่านั้น และอีกฟีเจอร์ที่เด็ดมากคือเทคโนโลยี Smart Remote 2.0+ ที่ทำให้ Mirror 3 กลายเป็น Universal Remote ใช้งานแทนรีโมทของเครื่องปรับอากาศ หรือ LCD-TV ได้หมด เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นมากๆ ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีจุดเด่นมากมายในราคาขายเพียง 7,990 บาท
Specification: OPPO Mirror 3
ขนาดหน้าจอ | 4.7” IPS |
ความละเอียดหน้าจอ | HD 1,280×720 จุด (312 ppi) |
ระบบปฏิบัติการ | ColorOS 2.0.1 (บนพื้นฐานของ Android 4.4 KitKat) |
CPU | Qualcomm Snapdragon 410 – Quad Core 1.2GHz |
RAM / หน่วยความจำภายใน | 1GB / 8GB (ขยายเพิ่มด้วยการ์ด microSD ได้อีก 128MB) |
กล้อง | กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล |
ระบบ 2 ซิม | รองรับ (ใช้ซิมขนาดไมโครทั้ง 2 ซิม) |
เครือข่าย 3G | 850 / 900 / 1900 / 2100MHz (รองรับ 3G ของ DTAC, Truemove H, AIS, my by CAT) |
เครื่องข่าย 4G | รองรับ |
Battery | 2,000mAh (แบบถอดเปลี่ยนได้) |
สีให้เลือกซื้อ | ตัวเครื่องขาว, ตัวเครื่องเทาเข้ม |
*************************************************************************************************
จุดเด่นของ OPPO Mirror 3
* ประสิทธิภาพคุ้มราคา
* ถ่ายภาพและถ่ายเซลฟี่สวยด้วยกล้องหลัง 8 ล้าน กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
* ใช้งานง่าย และทำอะไรได้มากกว่าด้วยระบบปฏิบัติการ ColorOS 2.0.1
* ชาร์จเร็วกว่าปกติ 60% ด้วยเทคโนโลยี VOOC Fast Charge
* ใช้งานแทนรีโมทด้วยเทคโนโลยี Smart Remote 2.0+
*************************************************************************************************
แกะกล่อง OPPO Mirror 3
OPPO Mirror 3 บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษขนาดพอเหมาะและมีการคาดขอบข้างกล่องด้วยสีเขียวเด่น ซึ่งเป็นสีนำโชคของค่าย OPPO โครงสร้างของตัวกล่องต้องบอกว่าแข็งแรงแน่นหนาดีทีเดียว เปิดกล่องออกมาก็พบกับ OPPO Mirror 3 และอุปกรณ์ประกอบการใช้งานอื่นๆ ก็มี อะแดปเตอร์แบบ VOOC Fast Charge ที่มีขนาดกะทัดรัด, สาย USB สำหรับเสียบชาร์จ หรือถ่ายโอนไฟล์กับคอมพิวเตอร์, หูฟัง Small Talk สำหรับการฟังเพลงและสนทนาโทรศัพท์ และสุดท้ายคือหนังสือคู่มือเล่มเล็กๆ ครับ
ดูดีในขนาดเหมาะมือ
สำหรับผู้หญิงที่ฝ่ามือค่อนข้างเล็ก หรือคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนที่ขนาดหน้าจอไม่ต้องใหญ่โต พกง่าย หยิบใช้สะดวก OPPO Mirror 3 คือสมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อคุณ ด้วยขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้วที่ไม่เล็กจนเกินไป ทำให้หยิบจับใช้งานได้สะดวกด้วยมือข้างเดียว ทำให้เล่นโซเชียลหรือแชทได้ในทุกอิริยาบถโดยไม่ต้องใช้มืออีกข้างมาคอยประคองตัวเครื่อง
ด้วยขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว แต่กลับมีความละเอียดที่สูงถึงระดับ HD ทำให้ค่าความอิ่มแน่นของเม็ดสีสูงถึง 312ppi (จุดต่อตารางนิ้ว) ทำให้แสดงรายละเอียดต่างๆ บนหน้าจอได้คมชัดเนียนตา และแสดงสีสันได้อิ่มเข้มสวยงามดีมากๆ ใช้เปิดดูภาพถ่ายหรือภาพในโซเชียลเน็ตเวิร์กได้สวยดี และเป็นจอที่สว่าง เปิดจอดูกลางแจ้งก็สู้แสงแดดได้ดี เป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นที่สอบผ่านในเรื่องคุณภาพการแสดงผลของหน้าจอได้อย่างสบายๆ ใครที่ชอบสมาร์ทโฟนจอสวย รับรองว่า OPPO Mirror 3 ไม่ทำให้ผิดหวัง
เครื่องที่เราได้รับมาทดสอบเป็นตัวเครื่องเวอร์ชั่นสีเทาที่ดูหล่อเข้มและน่าจะเหมาะกับผู้ชาย แผ่นหลังตัวเครื่องประดับด้วยลวดลายจุดเล็กๆ ที่ถูกเคลือบทับไว้ด้วยอะคริลิกใสอีกชั้นหนึ่งทำให้ผิวมันวาวสะท้อนแสง เป็นรายละเอียดการออกแบบที่ดูสวยงามลงตัวดี
ขอบล่างใต้หน้าจอ เป็นตำแหน่งของ 3 ปุ่มมาตรฐาน ไล่เรียงจากซ้ายไปขวา ก็มีปุ่ม Menu, Home และ Back ส่วนขอบด้านล่างของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของพอร์ต USB สำหรับเสียบชาร์จ หรือเสียบถ่ายโอนข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ และมีช่องไมค์สำหรับการรับเสียงสนทนาโทรศัพท์
ขอบบนเหนือหน้าจอ เป็นตำแหน่งของช่องลำโพงสำหรับการสนทนาโทรศัพท์ ซึ่งการสนทนาโทรศัพท์ด้วย OPPO Mirror 3 ให้เสียงที่ชัดเจนดีทั้ง 2 ฝั่งครับ และข้างๆ ช่องลำโพงเป็นเลนส์ของกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล ส่วนขอบบนของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของช่องแจ็คเสียบสายหูฟัง และช่องพอร์ตปล่อยลำแสงอินฟราเรดสำหรับการใช้งานเป็นรีโมท
OPPO Mirror 3 มีทรวดทรงเพรียวบางเมื่อมองจากด้านข้าง โดยที่ปุ่ม Power สำหรับการเปิด/ปิดหน้าจอ กับปุ่ม Volume สำหรับการเพิ่ม/ลดเสียง มารวมกันอยู่บนขอบด้านขวาตัวเครื่อง
ถอดแผ่นฝาหลังของตัวเครื่องออกพบกับก้อนแบตเตอรี่ขนาด 2,000mAh แบบถอดเปลี่ยนได้ ช่องใส่ซิมการ์ดหมายเลข 1 และ 2 ที่สามารถสลับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านซิมหมายเลข 1 หรือ 2 ได้อย่างอิสระ และช่อง microSD ที่สามารถใส่การ์ดขยายความจุได้สูงสุดถึง 128GB
ชาร์จไวกว่า 60% แบตเต็มเร็วใน 90 นาที
เทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Fast Charge ทำให้ OPPO Mirror 3 เหนือกว่าสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ที่มักใช้เวลาในการชาร์จนานเกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ด้วยเทคโนโลยี ที่ใช้กระแสในการชาร์จ 2A บวกกับความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ OPPO ทำให้ Mirror 3 ใช้เวลาชาร์จแบตฯ เต็มเพียงแค่ 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือเพียง 90 นาทีเท่านั้น
นอกจากจะชาร์จแบตเต็มเร็วกว่า 60% แล้ว ก็ยังทำให้การเสียบชาร์จในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ สามารถเติมพลังให้แบตฯ ได้มากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป ลองนึกถึงเช้าวันทำงานที่เราตื่นขึ้นมาแล้วนึกได้ว่าลืมชาร์จแบตฯ ก็แค่เพียงเสียบชาร์จไว้ครึ่งชั่วโมงในเวลาที่เตรียมตัวออกไปทำงาน แบตฯ ของ OPPO Mirror 3 ก็มีพลังงานพอให้เดินทางถึงที่ทำงานได้แบบสบายๆ ไม่ต้องคอยลุ้นว่าแบตฯ จะหมดกลางทาง ชีวิตดีขึ้นเห็นๆ
เรามาลองจับเวลาการชาร์จของ OPPO Mirror 3 ให้เห็นกันจะๆ ไปเลยดีกว่าครับว่าจะเร็วสมคำร่ำลือจริงหรือไม่ จากภาพด้านล่างเราเริ่มเสียบชาร์จแบตฯ ที่เวลา 0 นาฬิกา 0 นาที ระดับแบตฯ เหลืออยู่ที่ 2% >>> เวลาผ่านไป 40 นาที แบตฯ เต็มขึ้นมา 50% >>> เวลาผ่านไป 58 นาที แบตฯ เต็มขึ้นมา 75% >>> เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงกับอีก 37 นาที แบตฯ เต็ม 100% คิดเป็นเวลาที่ OPPO Mirror 3 ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มประมาณ 97 นาที ซึ่งก็ถือว่าใกล้เคียงกับเวลาที่เคลมเอาไว้ในสเปกที่ 90 นาทีครับ คือชาร์จเร็วกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปจริง
และจากการลองใช้งานมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็ต้องบอกว่า OPPO Mirror 3 แบตฯ อึดใช้ได้ โดยถ้าใช้งานแบบปกติไม่ได้หยิบเครื่องมาเปิดเล่นตลอดเวลาก็อยู่ครบวันได้แบบสบายๆ ครับ ชาร์จแค่วันละรอบพอ
ชีวิตง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีรีโมทอัจฉริยะ
ฟีเจอร์ที่เจ๋งมากของ OPPO Mirror 3 คือเทคโนโลยีรีโมทอัจฉริยะ 2.0+ เพราะชีวิตของเราทุกวันนี้มีรีโมทให้ต้องใช้หลายตัว ไม่ว่าจะเป็นรีโมททีวี, รีโมทเครื่องเล่น DVD, รีโมทแอร์ และรีโมทอื่นอีกสารพัด ลองคิดดูว่าชีวิตจะง่ายขึ้นขนาดไหนถ้ายุบรวมรีโมททุกตัวของที่บ้าน และที่ทำงานมารวมอยู่ในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ด้วย OPPO Mirror 3 จะทำให้เราสั่งงานอุปกรณ์ทุกชิ้นในบ้านได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านแอปรีโมท
และเพื่อให้ง่ายกับการตั้งค่าในครั้งแรก แอปรีโมทของ OPPO N3 มีการแบ่งอุปกรณ์ที่สามารถสั่งงานด้วยรีโมทออกเป็น 5 รูปแบบ ได้แก่ โทรทัศน์, STB (Set Top Box กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล หรือสัญญาณดาวเทียม), เครื่องปรับอากาศ, DVD และ โปรเจ็กเตอร์ โดยที่ได้มีการตั้งค่าเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าไว้แล้วกว่า 100 ยี่ห้อ เพื่อให้ง่ายในการติดตั้งรีโมทในครั้งแรก
จากการลองใช้งานแอปรีโมทของ OPPO Mirror 3 ต้องบอกว่าสะดวกมากๆ ใช้สั่งงานแทนรีโมทของโทรทัศน์ และเครื่องปรับอากาศได้จริง อย่างเช่นถ้าใช้งานกับโทรทัศน์ก็สามารถ กดเปิด/ปิดเครื่อง เปลี่ยนช่อง เร่ง/ลดสียง เลือกเปลี่ยนแหล่งสัญญาณภาพได้ หรือการใช้งานกับเครื่องปรับอากาศ ก็สามารถกดเปิด/ปิดเครื่อง เพิ่ม/ลดอุณหภูมิ ปรับความเร็วของพัดลม และปรับโหมดการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้
การติดตั้งรีโมทของอุปกรณ์แต่ละประเภทก็ทำได้อย่างง่ายๆ และถ้าแอปรีโมทยังไม่รองรับการสั่งงานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่คุณมีอยู่ ก็สามารถนำรีโมทตัวต้นฉบับมาคัดลอกคำสั่งลงไปในแอปได้ ทำให้ใช้งานแทนรีโมททุกตัวของคุณได้อย่างจริงจัง เป็นอะไรที่โดนใจและเป็นฟังก์ชั่นที่หาได้ยากจากสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น
สะดวกและสนุกกว่าที่เคยด้วย ColorOS 2.0
OPPO Mirror 3 มาพร้อม ColorOS 2.0 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด (บนพื้นฐานของแอนดรอยด์ 4.4 KitKat) ที่มีการอัพเกรดความสามารถขึ้นในหลายๆ จุด โดดเด่นด้วยระบบ Gesture สั่งงานเครื่องได้อย่างรวดเร็วด้วยการเขียนเส้นบนหน้าจอ อย่างเช่นการลากเส้นตรงลงบนหน้าจอในขณะที่จอปิดอยู่ก็จะเป็นการเรียกเปิดแอพ Facebook หรือ Line ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลาเปิดหน้าจอแล้วไล่หาไอคอนแอพ หรือการเปิดล้องถ่ายภาพอย่างรวดเร็วแค่เพียงขยุ้มนิ้วบนหน้าจอ เป็นต้น
อีกหนึ่งสิ่งที่มีการปรับปรุงใน ColorOS 2.0 คือเอฟเฟกต์พื้นหลังหน้าจอแบบ Live Weather 2.0 [ภาพซ้าย] ที่แสดงเอฟเฟกต์สัมพันธ์กับสภาพอากาศในขณะนั้นได้ดูสวยและเพลินตากว่าเดิม อย่างเช่นในวันที่ท้องฟ้าสดใส บนพื้นหลังหน้าจอจะแสดงภาพประกายแดดระยิบระยับ และมีเครื่องบินกระดาษร่อนผ่านหน้าจอในบางจังหวะ หรือในวันที่ฝนฟ้าคะนอง บนพื้นหลังหน้าจอก็จะแสดงภาพฝนตก เมฆดำครึ้ม มีสายฟ้าแลบ
นอกจากนี้ ColorOS 2.0 ยังมีลูกเล่นอื่นๆ ในหน้า Home Screen อีก ได้แก่ Widget เครื่องเล่นเพลงในรูปแบบของเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ดูแล้วก็สวยดี และ Widget ของกล้องถ่ายบันทึกภาพความประทับใจในรูปแบบของโปสการ์ด และสามารถแชร์โปสการ์ดให้เพื่อนๆ ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กได้
ราคาไม่แพง แต่แรงใช้ได้
ถึงจะเป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นแต่ OPPO Mirror 3 ก็ประสิทธิภาพดีเพียงพอสำหรับการรันแอพทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแอพทางด้านความบันเทิง หรือแอพสำหรับการทำงาน ด้วยขุมพลังการประมวลผลจากชิป Qualcomm Snapdragon 410 Quad-Core 1.2GHz ที่ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB ซึ่งอาจจะดูเหมือนว่าขนาดของหน่วยความจำ RAM เล็กไปนิด แต่จากการลองใช้งานจริงด้วยการติดตั้งแอพที่ช่วยเคลียร์หน่วยความจำ RAM ให้โดยอัตโนมัติ (อย่างเช่นแอพ Advanced Task Manager) ก็พบว่า OPPO Mirror 3 ให้การเปิดแอพ หรือการเปิดสลับไปมาระหว่างแอพต่างๆ ทำได้รวดเร็ว และราบรื่นดี การโหลดเปิดหน้าเว็บต่างๆ ด้วยแอพ Chrome ก็ทำได้รวดเร็วดีครับ
การทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ AnTuTu Benchmark ผลปรากฏว่า OPPO Mirror 3 ทำได้ 19,716 คะแนน และได้ 11,787 คะแนนจากการทดสอบด้วยแอพ Quadrant Standard Edition และการทดสอบประสิทธิภาพระบบสัมผัสของหน้าจอ ผลออกมาว่ารองรับการแตะสัมผัสถึง 10 จุด และไม่มีปัญหาการแตะไขว้
OPPO Mirror 3 รองรับการเล่นเกมเล็กๆ กราฟิกน่ารักๆ อย่างเกมในตระกูล Line ได้อย่างสบายๆ และด้วยพลังการประมวลผลจากชิปกราฟิก Adreno 306 ก็ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้รองรับการเล่นเกมกราฟิก 3D สวยๆ ได้อย่างลื่นไหลน่าพอใจ เราทดสอบด้วยเกมที่กราฟิกค่อนข้างหนักอย่างเกมแอคชั่นต่อสู้ Batman Arkham Origins และเกมแนวยิงมุมมองบุคคลที่ 1 อย่างเกม Brothers in Arms 3 ก็เล่นได้ลื่นไหลดีทั้ง 2 เกม แต่กับเกม 3D ที่มีขนาดแอพใหญ่มากๆ และต้องการ RAM เครื่องค่อนข้างเยอะอย่างเกม Asphalt 8: Airborne ก็พบว่ามีอาการสะดุดในระหว่างการเล่นเกม
ดูหนังฟังเพลงกับ OPPO Mirror 3
OPPO Mirror 3 ตอบสนองความบันเทิงทั้งทางด้านภาพและเสียงได้เป็นอย่างดี มีสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ไว้ใกล้ๆ ตัวรับรองว่าคุณจะไม่มีวันเหงาอย่างแน่นอน เรามาคุยกันเรื่องประสิทธิภาพในการฟังเพลงกันก่อน OPPO Mirror 3 เป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่ทำให้คนที่ชอบเสพความบันเทิงจากเสียงเพลงต้องผิดหวัง ชุดหูฟัง Small Talk ที่แถมมากับตัวเครื่องเป็นแบบ Earbud ที่ให้คุณภาพเสียงดีพอสำหรับการฟังเพลง สำหรับคนที่ไม่ได้ซีเรียสว่าต้องการคุณภาพเสียงระดับสูงก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินอัพเกรดหูฟังแต่อย่างใด
และเมื่อเปลี่ยนมาทดสอบฟังด้วยชุดหูฟังคุณภาพสูง ผลปรากฏว่า OPPO Mirror 3 ถ่ายทอดเนื้อเสียงสำหรับการฟังเพลงออกมาได้ดีมาก ให้รายละเอียดเสียงและลูกคอของนักร้องได้ชัดเจน เช่นเดียวกับรายละเอียดเสียงของเครื่องดนตรีในช่วงโทนเสียงสูง และช่วงเสียงเบสทุ้มต่ำก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าฟัง เสียงอะคูสติกกีตาร์ก็มีตัวตนชัดเจน ฟังแล้วมีความสุขสนุกกับเพลงที่ฟัง แต่สำหรับการฟังเพลงผ่านช่องลำโพงทางด้านหลังตัวเครื่อง ให้เสียงที่ค่อนข้างเบาไปนิด ดังนั้นในกรณีที่ไม่อยากฟังเพลงผ่านชุดหูฟัง ให้เสียบกับชุดลำโพงภายนอกจะฟังเพลงได้สนุกสะใจกว่า
การเปิดดูคลิปวิดีโอความละเอียดระดับ HD ผ่านหน้าจอของ OPPO Mirror 3 ก็ให้การรับชมที่ละเอียดเนียนตาสวยงาม และเล่นวิดีโอได้ลื่นไหลไร้อาการสะดุด เมื่อบวกกับระบบเสียงที่ดีของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ด้วยการฟังผ่านชุดหูฟัง ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าได้นั่งดูอยู่ในโรงหนังส่วนตัว เป็นอะไรที่สนุกสนาน
ถ่ายภาพสวยๆ ด้วยกล้องหน้า 5 ล้าน กล้องหลัง 8 ล้าน
OPPO Mirror 3 มาพร้อมซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพอัจฉริยะ Pure Image 2.0+ ทำให้มีโหมดการถ่ายภาพที่หลากหลายกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป อย่างเช่น โหมดการถ่ายภาพแบบ ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ (Slow Shutter) สำหรับการถ่ายภาพเส้นไฟสวยๆ บนท้องถนนยามค่ำคืน, โหมดการถ่ายแบบ รับแสง 2 ครั้ง (Double Exposure) สร้างสรรค์ภาพถ่ายแนวใหม่ด้วยการนำ 2 ภาพมาซ้อนกัน, โหมดการถ่าย HDR (High Dynamic Range) ที่เก็บรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างของภาพได้ดีกว่าปกติ, โหมดผู้เชี่ยวชาญ (Manual Mode) ควบคุมค่าการถ่ายได้ใกล้เคียงกล้องโปร ไม่ว่าจะเป็นการปรับค่า White balance การปรับความเร็วชัตเตอร์ (ปรับได้เป็นสเตปอยู่ในช่วง 0.5 – 8 วินาที) ปรับความไวแสง (ปรับได้ในช่วง 100-1,600) ปรับชดเชยแสง และปรับโฟกัสแบบ Manual ได้ด้วย ทำให้ OPPO Mirror 3 เป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นที่โดดเด่นมากในเรื่องการถ่ายภาพ เรามาดูตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO Mirror 3 กันครับ
2 ภาพนี้ ภาพบนถ่ายด้วยโหมดปกติ ส่วนภาพล่างถ่ายด้วยโหมด HDR จะเห็นว่าการถ่ายแบบ HDR จะทำให้ส่วนมืดของภาพสว่างขึ้น เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น
สร้างสรรค์ภาพถ่ายที่สามารถเก็บเส้นไฟของรถที่วิ่งบนท้องถนนยามค่ำคืนด้วยโหมดการถ่ายแบบ ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ (Slow Shutter)
แม้จะไม่มีโหมดการถ่ายแบบมาโคร แต่ OPPO Mirror 3 ก็ถ่ายดอกไม้ออกมาได้สวยดี แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่สักหน่อย
สร้างสรรค์ภาพถ่ายแนวใหม่ด้วยโหมด การรับแสงสองครั้ง (Double Exposure)
กล้องของ OPPO Mirror 3 มาพร้อมโหมด “ถ่ายรูปพร้อมแต่งสวย” ที่มีฟิลเตอร์หน้าเนียนให้เลือกแต่งสวยแต่งหล่อกันได้ถึง 8 แบบ มีฟิลเตอร์แบบ ธรรมชาติ, ความทรงจำ, ญี่ปุ่น, วาเลนเซีย, ผู้เชี่ยวชาญ, ทะเลทราย, สายรุ้ง และ โมโน โดยที่ฟิลเตอร์แต่ละแบบยังเลือกระดับความเนียนได้ตั้งแต่ 0-100 อยากให้เนียนมากเนียนน้อยก็ปรับเอาได้ตามใจชอบ ใครได้ลองเซลฟี่ด้วย OPPO Mirror 3 ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าถูกใจ เพราะถ่ายออกมาแล้วดูสวยเนียน หล่อเนียนกว่าตัวจริง แต่ภาพก็ยังดูแล้วเป็นธรรมชาติไม่เนียนจนเว่อร์ เรามาดูตัวอย่างภาพเซลฟี่สวยๆ ของ OPPO Mirror 3 กันครับ
บทสรุป OPPO Mirror 3
OPPO Mirror 3 ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟน 4G สองซิม ประสิทธิภาพคุ้มค่า ถ่ายภาพ ถ่ายเซลฟี่สวยในราคาแค่ 7,990 บาท แถมยังมีลูกเล่นเรื่องระบบการชาร์จเร็ว VOOC Fast Charge และเทคโนโลยีรีโมทอัจฉริยะ 2.0+ ที่หาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่ราคาขายระดับเดียวกัน ทำให้ OPPO Mirror 3 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มค่าครับ