เรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมประจำของ Apple ที่จะทำการเปิดตัว iOS, watchOS 5 และซอฟต์แวร์อื่นๆ ในงาน WWDC ช่วงเดือนมิถุนายนเป็นประจำทุกปี ในครั้งนี้ iOS 12 ที่เปิดตัวออกมาเป็นไปตามข่าวลือที่ออกมา ในเรื่องของการปรับแต่งให้ใช้งานทรัพยากรเครื่องได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้เครื่องรุ่นเก่าๆ ใช้งานได้ลื่นไหลขึ้น ส่วน watchOS 5 จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างไปชมกันได้เลย
อย่างที่ผมได้เกริ่นไปว่า iOS 12 ในภาพรวมจะทำให้ใช้งานทรัพยากรเครื่องได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพในการใช้งาน และความเสถียรภาพในการใช้งาน โดยยังบอกอีกว่า จะทำให้เปิดใช้งานแอปพลิเคชันได้เร็วขึ้นถึงสองเท่า และจะเห็นผลมากในเครื่องรุ่นเก่าอย่าง iPhone 5S อย่างไรก็ตามความแรงที่ได้เพิ่มมาก็ต้องแลกกับการใช้แบตเตอรี่ที่จะเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นอีกข้อสังเกตว่า Apple จะทำได้ดีแค่ไหนในเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจด้วยเช่น การจัดระเบียบการแจ้งเตือนให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น และ Face Time แบบกลุ่ม สำหรับใครที่กำลังหวั่นใจว่าเครื่องตัวเองจะได้อัพเดทไหม ให้ลองดูจากรายการรุ่นด้านล่างนี้ได้เลย ซึ่งบอกเลยว่า iPhone 5S ก็ได้อัพเดทนะ
รุ่นที่รองรับ iOS 12 มีดังนี้
iPhone
- iPhone X
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone 7
- iPhone 7 Plus
- iPhone 6S
- iPhone 6S Plus
- iPhone 6
- iPhone 6 Plus
- iPhone SE
- iPhone 5S
iPad
- iPad Pro 12.9 (gen2)
- iPad Pro 12.9 (gen1)
- iPad Pro 10.5
- iPad Pro 9.7
- iPad 2018
- iPad 2017
- iPad Air 2
- iPad Air
- iPad mini 4
- iPad mini 3
- iPad mini 2
iPod
- iPod Touch Gen 6
ส่วนรุ่นที่รองรับ watchOS 5 จะรองรับแค่ Apple Watch Series 2 และ Apple Watch Series 3 เท่านั้น ส่วน Apple Watch Series 1 ไม่รองรับ และฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นใน watchOS 5 ที่ Apple นำเสนอจะเป็นในเรื่องของการใช้งานแบบ walkie-talkie และการใช้งาน cellular ที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับวันที่จะเปิดให้ดาวน์โหลด iOS 12 และ watchOS 5 ในช่วงแรกจะเปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะนักพัฒนา หรือ developer beta ก่อน (ดาวน์โหลดได้แล้ว แต่ต้องเป็น Dev ID) ตามมาด้วย public beta ในภายหลัง (ปลายเดือนมิถุนายน) และตัวเต็ม general public ในช่วงเดียวกันกับที่เปิดตัว iPhone ตัวใหม่ ช่วงเดือนกันยายน เหมือนเดิม สำหรับใครที่อยากจะลองของใหม่เลย ณ ตอนนี้ ก็สามารถทดลองแบบ developer beta ได้ก่อน แต่บอกเลยว่ามีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะหาย และบั๊กอีกเป็นเข่ง ส่วนใครที่ไม่ชอบความเสี่ยงก็แนะนำว่าให้รอ general public ช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ อดใจรอกันอีกนิดนะครับ
ที่มา phonearena