ในงานสัมมนาออนไลน์ HUAWEI APAC 5G Media Salon นอกจากจะมีข้อมูลเกี่ยวกับ 5G Ecosystem และสมาร์ตโฟน 5G รุ่นใหม่อย่าง nova 7 Series แต่ถ้าจะให้ครบ Ecosystem ก็ต้องมีแท็บเล็ต 5G ด้วย และจะเป็นรุ่นไหนไปไม่ได้นอกจาก HUAWEI MatePad Pro 5G ที่ถือว่าเป็นแท็บเล็ต 5G รุ่นแรกในประเทศไทย และเป็นรุ่นแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเลยก็ว่าได้ครับ
สเปค HUAWEI MatePad Pro
- หน้าจอ LCD ขนาด 10.8 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 DCI-P3 อัตราส่วนหน้าจอ 16:10
- ชิปเซ็ต Kirin 990 5G
- GPU Mali-G76
- RAM 8GB
- ROM 256GB เพิ่มได้สูงสุด 256GB (NM Card)
- กล้องหลังความละเอียด 13MP f/1.8, auto focus พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 8MP f/2.0
- แบตเตอรี่ 7,250 mAh รองรับชาร์จไวสูงสุด 40W, Wireless Charging 15W, Reverse Wireless Charging 7.5W
- Bluetooth 5.1, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C
- WLAN: 802.11 a/b/g/n/ac (wave2), MIMO, VHT160
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Quad Channel & Quad-speaker ปรับจูนโดย Harman Kardon
- ไมโครโฟน 5 ตัว พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 (Android 10 + HMS)
ภาพรวมของ HUAWEI MatePad Pro 5G มีความใกล้เคียงกับ HUAWEI MatePad Pro รุ่น 4G ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาตัวเครื่อง ไปจนถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ล้วนมาในแบบเดียวกัน รวมถึงการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง HUAWEI M-Pencil และ HUAWEI Intelligent Keyboard คีย์บอร์ดที่เชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth
HUAWEI M-Pencil รองรับแรงกดกว่า 4,000 จุด การเชื่อมต่อก็เหมือนเดิม แค่แปะดินสอลงไปบริเวณขอบด้านบนตัวเครื่อง ตัว M-Pencil รองรับ Palm Reject หรือระบบตรวจจับเวลาที่เขียนหน้าจอด้วยดินสอ ต่อให้มือวางบนหน้าจอก็ยังเขียนได้ สามารถเอียงดินสอเพื่อใช้ในการระบายสีได้ ส่วนแอปพลิเคชั่นสำหรับการจดบันทึกก็สามารถใช้ HUAWEI NotePad ที่ Pre-load มาให้ในเครื่องได้เลย
ด้านคีย์บอร์ด HUAWEI Intelligent Keyboard จะเป็นการยึดติดกันด้วยแม่เหล็ก แม้จะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth แต่ข้อดีของมันก็คือไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟคีย์บอร์ดนะครับ เนื่องจากตอนที่แปะ MatePad Pro 5G เข้ากับ Intelligent Keyboard มันจะเป็นการทำ Reverse Wireless Charging จากแท็บเล็ต เข้าไปที่คีย์บอร์ดโดยอัตโนมัติ ตัวคีย์บอร์ดรองรับการพิมพ์ได้สองระดับ คือที่ 60 หรือ 70 องศา
ถึงแม้ผมจะบอกว่าหน้าตาของ HUAWEI MatePad Pro 5G กับ MatePad Pro 4G จะเหมือนกันก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เหมือนกัน 100% เพราะฝาหลังของ MatePad Pro 5G นั้นเป็นวัสดุแบบ Vegan Leather หรือหนังเทียมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ มีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Orange และ Forest Green (ในไทยเหมือนจะจำหน่ายเฉพาะแค่สีเขียว) วัสดุจะเป็นแบบเดียวกับ HUAWEI Mate30 Pro 5G สีส้มครับ
ส่วนเรื่องการประมวลผลของ HUAWEI MatePad Pro 5G นั้นแรงหายห่วง ด้วยชิปเซ็ตรุ่นท็อปสุดอย่าง Kirin 990 5G 7nm + RAM 8GB สเปคแบบเดียวกับ HUAWEI P40 Pro, Mate30 Pro 5G สามารถรันเกมกราฟฟิกสูง ๆ หรือใช้ในการทำงานได้สบาย ๆ ที่สำคัญคือแท็บเล็ตรุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยกราไฟต์สามมิติ เมื่อเทียบกับ MatePad Pro 4G จะระบายความร้อนได้ดีกว่าถึง 30%
ภาครับสัญญาณ 5G ของ HUAWEI MatePad Pro 5G นั้นรองรับการเชื่อมต่อ 5G ได้สูงสุดที่ 2.3Gbps ในขา Downlink รองรับ 5G ทั้งแบบ SA + NSA และแน่นอนว่าสามารถใช้งาน 5G ในประเทศไทยได้เช่นเดียวกับ Mate30 Pro 5G, P40 Series
ระบบปฏิบัติการของ HUAWEI MatePad Pro 5G เป็น EMUI 10.1 ที่มีพื้นฐานบน Android 10 + HMS โดยตัวอินเทอร์เฟสออกแบบมาให้ทำงานในแนวนอนเป็นหลัก มีการปรับให้แอปพลิเคชันบางตัวสามารถรันบนหน้าจอแนวนอนได้ด้วย อย่าง Lazada หากใครใช้แท็บเล็ตแอนดรอยด์จะทราบดีว่ามันไม่สามารถเปิดในแนวนอนได้ แต่ก็สามารถทำได้บน HUAWEI MatePad Pro 5G
EMUI 10.1 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เหมาะกับการทำงานอย่าง App-Multiplier ทำให้เปิดแอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้สูงสุด 4 แอป เมื่อทำงานร่วมกับ HUAWEI Share ที่สามารถแคสภาพจากโทรศัพท์ HUAWEI ขึ้นหน้าจอแท็บเล็ต รวมถึงถ่ายโอนไฟล์ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้ App-Multiplier ได้แก่ TrueMoney Wellet, Line TV, Kaidee, Pantip, CH7 HD, CH7 Lite, The 1, JS 100 เป็นต้น
สำหรับ HUAWEI MatePad Pro 5G นั้นถือเป็นแท็บเล็ตระดับโปร มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ครบถ้วน ตอบโจทย์การใช้งานในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทำงาน เรียน หรือเพื่อความบันเทิง อีกทั้งความสามารถในการรองรับ 5G ทั้งปัจจุบัน (NSA) และในอนาคต (SA) แต่ที่แน่ ๆ คือแกะออกจากกล่องก็น่าจะใช้งาน 5G ในไทยได้ทันทีครับ