
Apple Care+ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ควรซื้อดีไหมสำหรับ iPhone, iPad, Watch, Mac และอื่นๆ ในปี 2023
หลายคนที่ใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ จาก Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Apple Watch หรืออีกหลายๆ อุปกรณ์ เมื่อซื้อมาแล้วสิ่งหนึ่งที่ติดมาด้วยก็คือการรับประกัน ซึ่งเป็นตัวช่วยให้เราอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะถ้าหากมีการเสียหาย หรือว่าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาแล้วยังอยู่ในความคุ้มครองก็จะสามารถส่งซ่อม หรือส่งเคลมเครื่องใหม่ได้เลยภายในเวลาที่ทางร้านคุ้มครอง โดยการคุ้มครองจาก Apple นั้นจะมีทั้ง AppleCare และ AppleCare+ ที่ยกระดับความคุ้มครองขึ้นไปอีกขั้น เพื่อให้ผู้ใช้งานอย่างเราได้อุ่นใจขึ้น หากว่าเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ สำหรับคนที่ยังไม่เคยซื้อ หรือว่าวางแผนที่จะซื้อความคุ้มครองแบบ AppleCare+ แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อดีหรือไม่ หรือคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาบอกให้ว่า Apple Care+ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ควรซื้อดีไหมสำหรับ iPhone, iPad, Watch, Mac และอื่นๆ ในปี 2023
Apple Care+ คืออะไร ต่างจาก Apple Care ปกติอย่างไร
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า Apple Care+ นั้นคืออะไรและต่างจากตัวที่เป็น Apple Care ปกติอย่างไรบ้าง โดยแบบแผนการคุ้มครองจาก Apple Care นั้นจะติดเครื่องมาด้วยเลยตั้งแต่เราซื้ออุปกรณ์ของ Apple ซึ่งจะมีการคุ้มครอง และการรับประกันแบบจำกัดรวมไปถึงการคุ้มครองการซ่อมฮาร์ดแวร์ เป็นเวลา 1 ปี และบริการช่วยเหลือด้านเทคนิคโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเป็นเวลาสูงสุด 90 วัน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม)

แต่ว่าตัวของ Apple Care+ นั้นจะเพิ่มความคุ้มครองขึ้นไปอีกขั้นคือ จะขยายระยะเวลาคุ้มครองเป็น 2 ปี นับจากวันที่เราได้ทำการซื้อ AppleCare+ และเพิ่มความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ว่าจะมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ ตามแต่ละอุปกรณ์ที่กำหนด อย่างเช่น หน้าจอหรือกระจกด้านหลังตัวเครื่องของ iPhone หรือ Apple Pencil และคีย์บอร์ดของ iPad และของอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษในการติดต่อกับฝ่ายบริการช่วยเหลือด้านเทคนิค และความคุ้มครองการให้บริการด้านแบตเตอรี่อีกด้วย
วิธีซื้อแผน AppleCare+ บนอุปกรณ์ต่างๆ
สำหรับการซื้อ AppleCare+ นั้นโดยปกติแล้วประเทศเราสามารถซื้อได้เลยทันทีตั้งแต่ซื้ออุปกรณ์อย่าง iPhone, iPad และอื่นๆ มาใช้ หรือว่าจะทำการซื้อย้อนหลังก็ได้ แต่จะต้องไม่เกิน 60 วันนับจากวันที่ซื้ออุปกรณ์มา ซึ่งการซื้อแบบแผน Apple Care+ ย้อนหลังนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่าน iPhone, iPad หรือ Mac ได้เลยด้วยตัวเอง ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ สามารถเข้าไปซื้อเพิ่มเติมจากช่องทาง ออนไลน์, Apple Store ทั้งสองสาขาเลยก็ได้เช่นกัน (ต้องนำหลักฐานการซื้อไปด้วยนะ) หรือโทร 1800 019 900 ส่วนการซื้อ AppleCare+ ย้อนหลังด้วยตัวเองสามารถเข้าไปเช็คว่า iPhone, iPad และ Mac เข้าเกณฑ์หรือไม่ มีวิธีการซื้อและเช็คได้ดังนี้

1. ใน iPhone, iPad ให้เข้าไปที่การตั้งค่า ส่วนใน Mac ให้เลือกเมนู Apple จากนั้นเลือกการตั้งค่าระบบ (ถ้าหาไม่เจอให้เข้าไปที่ เกี่ยวกับ Mac เครื่องนี้ -> บริการช่วยเหลือ และกดปุ่ม เพิ่ม)
2. หลังจากเข้ามาแล้วให้เลือกไปที่ ทั่วไป -> เกี่ยวกับ ก็จะมีช่อง “มีความคุ้มครอง AppleCare+” ขึ้นมาให้กด และให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อซื้อแบบแผนที่ต้องการ จากนั้นก็จ่ายเงินก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
**ทั้งนี้ถ้าหากเข้าไปแล้วไม่มีช่อง “มีความคุ้มครอง AppleCare+” ขึ้นมาให้กด ก็หมายถึง iPhone หรือ iPad เครื่องนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะซื้อ AppleCare+ แล้วเนื่องจากเกิน 60 วัน หรือว่าไม่เข้าเกณฑ์นั่นเอง หรือตรวจสอบได้ที่นี่**
Apple Care+ ราคาเท่าไหร่ และคุ้มครองอะไรบ้างในแต่ละอุปกรณ์
มาดูที่ราคาของ Apple Care+ ว่ามีราคาเท่าไหร่กันบ้างตามแต่ละอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์อยู่ในตอนนี้ทั้ง iPhone, iPad, Mac, Apple Watch, Apple Display, AirPods และ Apple TV พร้อมกับค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมของแต่ละแบบนั้นมีราคาเท่าไหร่ และมีการคุ้มครองอะไรเข้ามาบ้างทั้งด้านฮาร์ดแวร์ และบริการช่วยเหลือด้านซอฟต์แวร์ ดังนี้
iPhone

รุ่น | ราคา |
iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max | 8,290 บาท |
iPhone 14 Plus | 7,790 บาท |
iPhone 14 | 6,490 บาท |
iPhone 13 และ iPhone 13 mini | 6,490 บาท |
iPhone 12 | 6,490 บาท |
iPhone SE (รุ่นที่ 3) | 2,990 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 2 ปี
- iPhone, แบตเตอรี่ และสาย USB-C เป็น Lightning ที่มาพร้อมกับเครื่อง
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 1,000 บาท สำหรับความเสียหายกับหน้าจอ หรือกระจกด้านหลังตัวเครื่อง และ 3,300 บาทสำหรับความเสียหายอื่นๆ จากอุบัติเหตุ
- ดูเพิ่มเติม iPhone
iPad

รุ่น | ราคา |
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว | 6,290 บาท |
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว | 5,190 บาท |
iPad Air (รุ่นที่ 5) | 2,990 บาท |
iPad และ iPad mini | 2,590 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 2 ปี
- iPad, แบตเตอรี่ และสาย USB และอะแดปเตอร์แปลงไฟที่มาพร้อมกับเครื่อง
- Apple Pencil, คีย์บอร์ด iPad ของ Apple
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 1,600 บาทสำหรับ iPad และ 1,000 บาทสำหรับ Apple Pencil หรือคีย์บอร์ด iPad ของ Apple
- ดูเพิ่มเติม iPad
Mac และ จอภาพ

รุ่น | ราคา |
MacBook Air (ชิป M2) | 7,500 บาท |
MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว | 9,500 บาท |
MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว | 9,900 บาท |
MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว | 13,900 บาท |
Mac mini | 3,200 บาท |
Mac Studio | 5,890 บาท |
Apple Studio Display | 5,490 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 3 ปี
- สำหรับ Mac
- Mac, แบตเตอรี่ และสาย USB และอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกับเครื่อง
- หน่วยความจำ Apple (RAM), Apple USB SuperDrive
- สำหรับจอภาพ
- จอภาพ, สายไฟที่มีมาให้ และฐานตั้งจอภาพของ Apple หนึ่งตัว และตัวยึดของ Apple หนึ่งตัวที่ซื้อพร้อมกัน
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 3,300 บาทสำหรับความเสียหายกับหน้าจอหรือตัวเครื่องภายนอก และ 10,000 บาทสำหรับ ความเสียหายอื่นๆ จากอุบัติเหตุ
- ดูเพิ่มเติม Mac และ จอภาพ
Apple Watch

รุ่น | ราคา |
Apple Watch Ultra | 4,090 บาท |
Apple Watch Series 8 | 3,290 บาท |
Apple Watch SE | 2,200 บาท |
Apple Watch Hermès | 5,890 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 2 ปีสำหรับทุกรุ่น และ 3 ปีสำหรับ Apple Watch Hermès
- Apple Watch, แบตเตอรี่
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 2,300 บาทสำหรับ Apple Watch, Apple Watch Nike และ 2,600 บาทสำหรับ Apple Watch Edition, Apple Watch Hermès และ Apple Watch Ultra
- ดูเพิ่มเติม Apple Watch
AirPods และ หูฟัง

รุ่น | ราคา |
AirPods และ AirPods Pro | 1,400 บาท |
Beats | 1,400 บาท |
AirPods Max | 2,600 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 2 ปี
- AirPods, หูฟัง Beats หรือเฮดโฟน Beats
- แบตเตอรี่ และสายชาร์จ USB ที่มาพร้อมเครื่อง
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 1,000 บาท
- ดูเพิ่มเติม AirPods
Apple TV

รุ่น | ราคา |
Apple TV | 990 บาท |
การคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์
- คุ้มครอง 3 ปี
- Apple TV, Apple TV Remote และสายไฟที่มีมาให้
- ความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 490 บาท
- ดูเพิ่มเติม Apple TV
สรุปว่าควรซื้อ Apple Care+ ดีไหม
สำหรับคนที่คิดว่าควรซื้อ Apple Care+ ดีไหม หรือว่าไม่ต้องซื้อและใช้งานไปโดยไม่ต้องมีความคุ้มครองเพิ่มเติมเลยดีกว่ากัน ตรงนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่ความสะดวกใจของแต่ละคนเลย แต่ถ้าถามเรื่องความคุ้มค่าและความอุ่นใจสำหรับ iPhone, iPad และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราซื้อมาใหม่ๆ ก็ต้องบอกว่าคุ้มมาก คิดง่ายๆ ได้ว่าถ้าสมมติเราซื้อมาใช้งานได้ 1 ปีขึ้นไป แล้วดันทำหน้าจอแตก แต่จะไปเปลี่ยนร้านนอกก็กลัวของปลอม ถ้าเข้าไปเปลี่ยนหน้าจอกับ Apple แต่ไม่มี Apple Care+ ของ iPhone 14 Pro Max ก็ 14,990 บาทเข้าไปแล้ว แต่ถ้าเราซื้อ Apple Care+ เอาไว้ก็จ่ายเพียงแค่ค่าบริการเพียง 1,000 บาทเท่านั้น รวมถึงค่าเปลี่ยนกระจกด้านหลังด้วย

หรือในอีกกรณีที่เราใช้งาน iPhone, iPad มาใช้งานเกิน 1 ปีแล้วแบตเก็บประจุได้น้อยกว่า 80% ถ้าหากเข้าไปเปลี่ยนกับ Apple จะต้องเสียค่าเปลี่ยนสำหรับ iPhone 14 Pro Max ถึง 3,850 บาท แต่ถ้าซื้อ Apple Care+ เอาไว้ก็เข้าไปเปลี่ยนได้เลยฟรี! หรือถ้าเกิดอุบัติเหตุอื่นๆ ก็เสียเพิ่มเพียง 3,300 บาทเท่านั้น ถ้าใครที่อยากซ่อมอุปกรณ์ Apple ที่ใช้งานพร้อมกับคำแนะนำที่ดี รวมไปถึงอยากได้ของแท้จาก Apple เลยโดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนหลอก ก็แนะนำได้เลยว่าคุ้มและดีแน่นอน