เปรียบเทียบ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini รุ่นใหม่ชิปแรงกว่าหรือรุ่นเก่าแต่สเปคยังแน่น ควรซื้อรุ่นไหนดี?
จากการเปิดตัวของ Apple Event “Peek Performance” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้ง iPad Air 5 ตัวแรง และยังมีชิปตัวใหม่อย่าง M1 Ultra พร้อมเดสก์ท็อปสำหรับสตูดิโอกับหน้าจออีกหนึ่งรุ่น (ดูเปรียบเทียบ iPad Air 5 กับ iPad Air 4 ที่นี่ หรือ เปรียบเทียบ iPad Air 5 กับ iPad Pro 11 ที่นี่) อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เปิดตัวออกมาด้วย และหลายคนก็รอคอยความหวังว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง นั่นก็คือ iPhone SE 3 นั่นเอง ถึงแม้ว่าการเปิดตัว iPhone SE 3 จะมีหน้าตาคล้ายคลึงกับรุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างมาก จนแทบจะไม่ได้ต่างอะไรกันเลยทางด้านการดีไซน์ แต่ว่าสเปคภายในตัวเครื่อง ก็ถือว่าทำออกมาได้เร็วแรง การีนตีจากชิปตัวแรงของ iPhone 13 ที่ได้ใส่เข้ามาอยู่ใน iPhone SE 3 รุ่นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย สำหรับใครที่กำลังรอการมาถึงของ iPhone SE รุ่นใหม่รุ่นที่ 3 นี้ และยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อรุ่นนี้ หรือว่ารุ่นไหนดีที่มีราคาพอๆ กัน อย่าง iPhone 11 (ดูเปรียบเทียบ iPhone SE 3 กับ iPhone 11 ที่นี่) หรือว่า iPhone 12 mini วันนี้ทาง Specpone จะมาเปรียบเทียบ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini จะซื้อรุ่นใหม่ชิปแรงกว่า หรือว่าจะเลือกเป็นตัวเก่าแต่สเปคยังแน่นครบจบทุกการใช้งาน ในราคาที่ใกล้เคียงกันควรซื้อรุ่นไหนดี ไปดูกันเลย
- ตารางเปรียบเทียบสเปค iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini
- ดีไซน์ของตัวเครื่องของ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini
- หน้าจอของ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini
- การเชื่อมต่อ และชิปประมวลผลของ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini
- กล้องหน้าและกล้องหลัง iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini
- ตารางเปรียบเทียบราคา iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini
- สรุปเปรียบเทียบ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini
ตารางเปรียบเทียบสเปค iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini
ข้อมูล\รุ่น | iPhone SE 3 | iPhone 12 mini |
หน้าจอ | Retina HD กว้าง 4.7 นิ้ว | Super Retina XDR กว้าง 5.4 นิ้ว |
ขนาด | 138.4 x 67.3 x 7.3 มม. | 131.5 x 64.2 x 7.4 มม. |
น้ำหนัก | 144 กรัม | 133 กรัม |
สี | มิดไนท์, สตาร์ไลท์, (Product)Red | (Product)Red, ม่วง, น้ำเงิน, เขียว, ขาว, ดำ |
ชิปประมวลผล | Apple A15 Bionic | Apple A14 Bionic |
RAM/ ROM | 4GB / 64GB 4GB / 128GB 4GB / 256GB | 4GB / 64GB 4GB / 128GB 4GB / 256GB |
กล้องหน้า | FaceTime HD 7MP | TrueDepth 12MP |
กล้องหลัง | 12MP (ไวด์) | 12MP + 12MP (ไวด์ และอัลตร้าไวด์) |
กันน้ำ | IP67 ความลึก 1 เมตร | IP68 ความลึก 6 เมตร |
การเชื่อมต่อ | 5G LTE Advanced Wi-Fi 6 | 5G Gigabit LTE Wi‑Fi 6 |
แบตเตอรี่ | เล่นวิดีโอ นานสูงสุด 15 ชั่วโมง | เล่นวิดีโอ นานสูงสุด 15 ชั่วโมง |
ดีไซน์ตัวเครื่องที่ต่างกันคนละเรื่อง
เริ่มต้นการเปรียบเทียบ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini กันด้วยการดีไซน์ของตัวเครื่อง ที่ต้องบอกว่าต่างกันแทบทุกส่วน เนื่องจากรูปแบบการดีไซน์ของทั้งสองรุ่นนั้น เป็นคนละแบบกันเลยแต่ว่าเคลือบด้วย Ceramic Shield เหมือนกัน โดยตัว iPhone SE 3 รุ่นใหม่นี้จะยังคงใช้แบบการดีไซน์เดิม เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าเป๊ะ หรือจะบอกว่าเหมือนกับ iPhone 8 ก็ไม่ผิดนัก เพราะยังคงเป็นแบบโค้งมนทั้งเครื่อง ตัวเครื่องขนาดเล็กพกพาง่ายเหมือนเดิม รวมไปถึงการปลดล็อคที่ยังใช้เป็นปุ่ม Touch ID อยู่ด้วย ส่วนทางด้านของ iPhone 12 mini ก็เป็นรุ่นที่พกพาได้สะดวกเหมือนกัน แถมยังมีขนาดตัวเครื่องที่เล็กกว่าเล็กน้อยด้วย ซึ่ง iPhone 12 mini จะมีการดีไซน์ตัวเครื่องแบบเหลี่ยม แต่มีขอบมุมเป็นมนๆ คล้ายกันอยู่บ้าง แต่ว่ารุ่นนี้จะมีหน้าจอใหญ่กว่าเนื่องจากไม่มีปุ่มแล้ว แต่เป็นการใช้ Face ID แทน จึงสามารถใช้หน้าจอได้เต็มตากว่านั่นเอง ทั้งนี้ iPhone 12 mini ก็มีน้ำหนักที่น้อยกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงมีโมดูลกล้องหลังที่ใหญ่กว่าเพราะมีกล้อง 2 ตัว และยังกันน้ำได้ดีกว่า iPhone SE 3 ด้วย
หน้าจอที่ไม่ต่างกันแค่ขนาด แต่ยังชัดไม่เท่ากันด้วย
จุดต่อมาของการเปรียบเทียบ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini ที่ดูเผินๆ แล้วอาจจะไม่ต่างกันมาก ถ้าดูจากขนาดหน้าจอ เพราะว่าหน้าจอของ iPhone SE 3 จะกว้าง 4.7 นิ้ว ส่วนของ iPhone 12 mini จะกว้าง 5.4 นิ้วเรียกได้ว่าต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ว่าของ iPhone 12 mini จะมองเห็นได้เต็มจอมากกว่าโดยที่ไม่มีขอบดำมาบังสายตานั่นเอง นอกจากความกว้างหน้าจอที่ไม่เท่ากันแล้ว ทางด้านเทคโนโลยีของหน้าจอ iPhone SE 3 ก็ยังสู้ไม่ได้ด้วย เนื่องจากยังเป็นจอ IPS LCD แบบ Retina HD พร้อมความสว่างสูงสุด 625 นิตอยู่ แต่ว่าของ iPhone 12 mini นั้นจะเป็นหน้าจอ OLED แบบ Super Retina XDR ระดับ HDR พร้อมกับความสว่างทั่วไปสูงสุด 625 นิตและความสว่างแบบ HDR สูงสุดถึง 1,200 นิต ดังนั้นทางด้านของสีสันและความสว่าง iPhone SE 3 จะยังสู้ไม่ได้แน่นอน และเมื่อใช้ดูหนังหรือเล่นเกม iPhone 12 mini ก็จะทำได้ดีกว่าอีกด้วย
การเชื่อมต่อ และชิปประมวลผลที่ยังแรงไม่หนีกันมากนัก
สิ่งต่อมาของ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini ที่หลายคนอยากรู้ของทั้งสองรุ่นนี้ ที่ชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง iPhone SE 3 นั้นได้ชิป Apple A15 Bionic ตัวแรงกว่า iPhone 12 mini ที่เป็น Apple A14 Bionic อยู่ 1 รุ่น หรือพูดง่ายๆ ก็คือได้ชิปของ iPhone 13 เข้ามาใส่ไว้ในรุ่นใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าเทียบกับความแรงของตัวชิป ก็คงจะสู้กันไม่ได้เนื่องจาก A15 Bionic นั้นสร้างมาได้เร็วแรงกว่าอยู่แล้ว ทั้งด้านการใช้งานและการเล่นเกมต่างๆ แต่เชื่อว่า A14 Bionic ของ iPhone 12 mini ก็ไม่ได้ทำให้เครื่องช้ากว่าแต่อย่างใด เนื่องจากชิปของ Apple นั้นมีความแรงพอต่อการใช้งานทั้งเล่นเกม หรือว่าเปิดแอพหลายๆ แอพอยู่แล้ว แต่เรื่องการถ่ายรูปชิป A15 ของ iPhone Se 3 จะทำได้ดีกว่า เพราะว่าได้ชิปตัวเดียวกับ iPhone 13 นั่นเอง
ทั้งนี้เรื่องการเชื่อมต่อของทั้งสองรุ่นจะมีความคล้ายกัน แต่ว่าของ iPhone 12 mini จะสามารถเชื่อมต่อ 5G ได้ดีกว่า ถึงแม้ว่าทั้งสองรุ่นจะใช้งาน WiFi 6 และใช้งาน 5G ได้เหมือนกัน แต่ว่ารุ่นใหม่อย่าง iPhone SE 3นั้นจะเป็นการเชื่อมต่อแบบ 5G พร้อม MIMO แบบ 2×2 LTE Advanced ส่วนของ iPhone 12 mini จะเชื่อมต่อ 5G พร้อม MIMO แบบ 4×4 Gigabit LTE อีกทั้ง iPhone 12 mini นั้นจะสามารถเล่นเสียงตามตำแหน่ง และรองรับ Dolby Atmos พร้อมกับมีการรองรับ MagSafe ได้อีกด้วย ส่วนเรื่องของแบตของทั้งสองรุ่นถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้มีข้อมูลของความจุแบต แต่ทาง Apple ก็บอกว่าสามารถใช้งานได้พอๆ กันด้วย
กล้องหน้า และกล้องหลังก็ยังสู้ไม่ค่อยไหว
จุดแตกต่างจุดสุดท้ายของ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini นั่นก็คือกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่ถึงแม้ว่าชิปตัวแรงอย่าง A15 Bionic ในรุ่น iPhone SE 3 จะทำให้กล้องหน้าและกล้องหลังนั้นถ่ายได้ถึง HDR อัจฉริยะ 4 และมีคุณสมบัติ “สไตล์ภาพถ่าย” อยู่ด้วย แต่ก็ยังเป็นกล้องหน้าแบบ FaceTime HD ความละเอียด 7MP และกล้องหลังเลนส์ไวด์ที่ความละเอียด 12MP ตัวเดียวเท่านั้น ในขณะที่ iPhone 12 mini นั้นมีกล้องหน้าที่เป็น TrueDepth ความละเอียด 12MP ถ่ายโหมดกลางคืนและถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ 4K ส่วนกล้องหลังนั้นจะเป็นกล้องสองตัวคือเลนส์ไวด์ 12MP และอัลตร้าไวด์ 12MP รองรับการถ่ายแบบไทม์แลปส์โหมดกลางคืน และยังถ่ายวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision ได้ถึง 4K พร้อมกับการซูมเสียงได้อีกด้วย ซึ่งตรงนี้ถ้าใครที่ไม่ได้เน้นเรื่องถ่ายรูปมาก iPhone SE 3 ก็ถือว่าทำออกมาให้ใช้งานแบบทั่วไปได้ดีแล้ว แต่ถ้าอยากถ่ายรูปด้วยก็ให้เลือกไปทาง iPhone 12 mini จะดีกว่า
ตารางเปรียบเทียบราคา iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini
ความจุ\ รุ่น | iPhone SE 3 | iPhone 12 mini |
ความจุ 64GB | 15,900 บาท | 21,900 บาท |
ความจุ 128GB | 17,900 บาท | 23,900 บาท |
ความจุ 256GB | 21,900 บาท | 27,900 บาท |
สรุป
จากข้อมูลการเปรียบเทียบ iPhone SE 3 vs iPhone 12 mini ข้างต้นทั้งหมดก็พอจะรู้ได้แล้วว่า iPhone 12 mini นั้นถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมานาน และมีชิปที่อาจจะไม่แรงเท่า iPhone SE 3 แต่ด้วยองค์ประกอบอื่นๆ โดยรวมกันแล้ว ก็ยังเป็นรุ่นที่ทำงานได้แบบครบถ้วน และยังดีกว่า iPhone SE 3 ในเกือบทุกๆ ด้านอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ให้สีสันคมชัดกว่า เชื่อมต่อได้เร็วแรงมากกว่า อีกทั้งยังมีกล้องหน้าและกล้องหลังที่ดีกว่าด้วย แต่ก็ไม่ได้ความว่า iPhone SE 3 นั้นไม่ดีนะ เพียงแต่ว่าถ้าเทียบกับการใช้งานแล้วก็ยังสู้รุ่นพี่อย่าง iPhone 12 mini ไม่ได้นั่นเอง ถ้าใครจะเลือกซื้อรุ่นไหนก็ควรดูจุดประสงค์ในการใช้งานก่อนเลยอันดับแรก เพราะ iPhone SE 3 นั้นจะเหมาะกับคนที่ชอบเครื่องเล็กกะทัดรัด และสามารถใช้งานแบบทั่วไป ใช้เล่นเกมได้แบบเร็วแรง ไม่ได้เน้นการถ่ายรูปมากนักในราคาประหยัด ที่สำคัญเลยคือเหมาะกับคนที่ยังชอบ iPhone แบบที่ยังมีปุ่ม Touch ID อยู่ด้วย ส่วนรุ่น iPhone 12 mini นั้นจะเหมาะกับคนที่ชอบเครื่องเล็กพกพาง่ายเหมือนกัน แต่จะเน้นไปที่การถ่ายรูป หรือว่าใช้งานได้แบบเร็วแรงในราคาที่ห่างกันเพียงเล็กน้อยนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เปิดตัว iPhone SE 3 ได้ชิป A15 Bionic รองรับ 5G แบตอึดขึ้น แถมวัสดุเป็น Ceramic Shield ในราคาเริ่มค้นแค่ 15,900 บาท
- เทียบสเปค iPhone SE 3 vs iPhone 11 ในราคาที่พอๆ กัน จะเลือกตัวไหนดี ระหว่างของใหม่ชิปแรงหรือของเก่าสเปคครบ
- เทียบสเปค iPad Air 5 vs iPad mini 6 ในราคาใกล้ๆ กัน ตัวไหนน่าซื้อกว่า ระหว่าง iPad Pro ย่อส่วนหรือ iPad ขนาดพกพา
- เปรียบเทียบ iPad Air 5 vs iPad Pro 11 ได้ชิป M1 เหมือนกัน แต่มีอะไรต่างกันกันบ้างและควรซื้อรุ่นไหนดี?
- เปรียบเทียบ iPad Air 5 vs iPad Air 4 จะรอซื้อรุ่นใหม่หรือซื้อรุ่นเก่าดีกว่ากัน และรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง?