เปรียบเทียบ iPad Air 5 vs iPad Air 4 จะรอซื้อรุ่นใหม่หรือซื้อรุ่นเก่าดีกว่ากัน และรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง?
หลังจากที่เราได้เปรียบเทียบ iPad ตัวแรงกับ iPad รุ่นใหม่อย่าง iPad Air 5 กับ iPad Pro 11 กันไปแล้ว (ดูเปรียบเทียบที่นี่) คราวนี้ก็มาถึงรุ่นชนรุ่นกันบ้าง กับรุ่นที่เป็นรุ่นเก่าก่อนหน้านี้นั่นก็คือ iPad Air 4 ที่ได้ถูก Apple ปลดออกจากหน้า Apple Store ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เราก็ยังหาซื้อได้จากร้านค้าตัวแทนจำหน่าย หรือว่าค่ายมือถือต่างๆ ที่ยังมีการวางขายพร้อมกับโปรต่างๆ กันอยู่เหมือนเดิม และก็คาดว่าเมื่อมีการวางขายอย่างเป็นทางการของ iPad Air 5 ก็จะทำให้รุ่นเก่าอย่าง iPad Air 4 นั้นลดราคาลงมาบ้าง ไม่ก็ดีดราคาขึ้นเพราะหาซื้อยากขึ้นกันอย่างแน่นอน ซึ่งในตอนนี้ราคาก็ยังไม่ได้ห่างกันมากนัก แต่เรื่องของสเปคนั้นเรียกได้ว่าฉีกจากรุ่นเก่าออกไปเยอะพอสมควรเลย สำหรับใครที่ยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อรุ่นเก่าที่วางขายอยู่แล้วคือ iPad Air 4 หรือว่าจะรอซื้อรุ่นใหม่คือ iPad Air 5 ดีกว่ากัน แล้วซื้อรุ่นไหนคุ้มกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด วันนี้ทาง Specphone จะมาเปรียบเทียบสเปคของ iPad Air 5 vs iPad Air 4 กันว่ามีตรงไหนแตกต่างกันบ้าง และเราจะซื้อรุ่นไหนดีที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ตามไปดูกันได้เลย
- ตารางเปรียบเทียบสเปค iPad Air 5 vs iPad Air 4
- ตารางเปรียบเทียบราคา iPad Air 5 vs iPad Air 4
- การดีไซน์ของตัวเครื่อง
- หน้าจอ
- ชิปประมวลผล และการเชื่อมต่อ
- กล้องหน้าและกล้องหลัง
- สรุปเปรียบเทียบ iPad Air 5 vs iPad Air 4
ตารางเปรียบเทียบสเปค iPad Air 5 vs iPad Air 4
ข้อมูล\ รุ่น | iPad Air 5 (10.9 นิ้ว) | iPad Air 4 (10.9 นิ้ว) |
หน้าจอ | Liquid Retina | Liquid Retina |
ขนาด | 247.6 x 178.5 x 6.1 มม. | 247.6 x 178.5 x 6.1 มม. |
น้ำหนัก | WiFi : 461g Cellular : 462g | WiFi : 458g Cellular : 460g |
สี | เทาสเปซเกรย์, สตาร์ไลท์, ชมพู, ม่วง, ฟ้า | เงิน, เทาสเปซเกรย์, โรสโกลด์, เขียว, สกายบลู |
ชิปประมวลผล | Apple M1 | Apple A14 Bionic |
RAM | 8GB | 4GB |
ROM | 64GB/ 256GB | 64GB/ 256GB |
กล้องหน้า | Ultrawide 12MP | FaceTime HD 7MP |
กล้องหลัง | 12MP | 12MP |
Apple Pencil | Apple Pencil (รุ่นที่ 2) | Apple Pencil (รุ่นที่ 2) |
Keyboard | Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio | Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio |
แบตเตอรี่ | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชั่วโมง ท่องเน็ตสูงสุด 9 ชั่วโมง USB C | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชั่วโมง ท่องเน็ตสูงสุด 9 ชั่วโมง USB C |
การเชื่อมต่อ | 5G, WiFi 6 | 4G, WiFi 6 |
ตารางเปรียบเทียบราคา iPad Air 5 vs iPad Air 4
ความจุ\ รุ่น | iPad Air 5 | iPad Air 4* |
64GB WiFi | 20,900 บาท | 19,900 บาท |
64GB Wi-Fi + Cellular | 25,900 บาท | 24,400 บาท |
256GB WiFi | 25,900 บาท | 24,900 บาท |
256GB Wi-Fi + Cellular | 30,900 บาท | 29,400 บาท |
ตัวเครื่องที่ดีไซน์ไม่ต่างจากเดิม เพิ่มเติมแค่สีใหม่
เริ่มต้นกันที่การเปรียบเทียบ iPad Air 5 vs iPad Air 4 ทางด้านตัวเครื่องกันก่อน ที่บอกได้เลยโดยไม่ต้องคิดเยอะ ว่าทั้งสองรุ่นนี้มันเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออก ถ้าไม่รวมสีของตัวเครื่องนะ เพราะไม่ว่าจะเป็นขนาดความกว้าง ยาว หนาก็เท่ากันเป๊ะไปทุกส่วน รวมไปถึงขอบโค้งมนของทั้งสองรุ่น และโมดูลกล้องหลัง ที่เป็นกล้องตัวเดียวเหมือนกันอีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะภายนอกจะเหมือนกันมากก็ตาม แต่น้ำหนักของ iPad Air 4 นั้นจะเบากว่าเล็กน้อยประมาณ 2-3 กรัมเท่านั้น สิ่งที่ทำให้ดูออกจริงๆ ว่าทั้งสองรุ่นนี้ต่างกันอย่างไร นั่นก็คือสีของตัวเครื่อง ที่ทั้งสองรุ่นนี้มีสีต่างกัน เนื่องจาก iPad Air 5 ได้ปล่อยตัวเครื่องที่มีสีใหม่เพิ่มเข้ามาด้วย และเป็นสีที่ค่อนข้างสวยลงตัวมากเลยทีเดียว โดยรุ่น iPad Air 5 จะมีสี เทาสเปซเกรย์, สตาร์ไลท์, ชมพู, ม่วง และฟ้า ส่วนรุ่น iPad Air 4 จะมีสี เงิน, เทาสเปซเกรย์, โรสโกลด์, เขียว และสกายบลู มีเหมือนกันแค่สีเทาสเปซเกรย์สีเดียว นอกนั้นต่างกันหมดทุกสีเลย
ไม่เพียงตัวเครื่องที่เหมือนกัน หน้าจอก็เหมือนกันด้วย
สิ่งที่ยังคงมีความเหมือนกันอยู่ของ iPad Air 5 vs iPad Air 4 อีกอย่างก็คือหน้าจอของทั้งสองรุ่นนั่นเอง ที่ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมา แต่ก็ยังคงใช้หน้าจอที่เป็นแบบเดิมกับรุ่นเก่าด้วย ทั้งหน้าจอที่เป็น Liquid Retina แบบ Multi Touch และแบ็คไลท์แบบ LED กับขนาดความกว้าง 10.9 นิ้ว และยังมีจอภาพแบบ Full Lamination พร้อมแสดงผลได้แบบ True Tone กับขอบเขตสีที่กว้างระดับ P3 และยังมีความสว่างเท่ากันที่ 500 นิตเหมือนกันทุกอย่างเลย อีกทั้งยังมีปุ่ม Touch ID ที่ด้านบนของตัวเครื่องเหมือนกัน และก็ยังสามารถใช้งานปากกา Apple Pencil (รุ่นที่ 2) กับคีย์บอร์ด Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio ได้เหมือนกันทั้งหมดอีกด้วย
ชิปประมวลผล กับการเชื่อมต่อที่เร็วแรงกว่าเยอะ
สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของ iPad Air 5 vs iPad Air 4 และเป็นสิ่งที่เปิดตัวมาสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย สำหรับคนที่ได้ซื้อรุ่นเก่าไปก่อนหน้าตัวใหม่จะออกมา นั่นก็คือเรื่องของชิปประมวลผลของ iPad Air 5 ที่เร็วแรงกว่าเดิมเยอะมากๆ ด้วยชิป Apple M1 ระดับตัวท็อปอย่าง iPad Pro และ Mac ที่ชิปตัวนี้ที่มี CPU แบบ 8-Core ทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม 60% ทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้นเยอะ อีกทั้งยังมี GPU แบบ 8-Core จึงทำให้การประมวลผลกราฟิกดีกว่าเดิมถึง 2 เท่าจากรุ่นก่อนหน้า จะขีดเขียนหรือสร้างสรรค์ผลงานก็ทำได้ง่ายๆ แถมยังมี Neural Engine แบบ 16-Core ที่ทำให้ระบบเรียนรู้ได้เร็วกว่าเดิมเยอะมากอีกด้วย พร้อมทั้งยังมี RAM ถึง 8GB เลยทีเดียว
ในขณะที่รุ่นเก่าอย่าง iPad Air 4 จะใช้เป็น A14 Bionic ที่มีความเร็วแรงพอสมควร และยังสามารถใช้งานทั่วไป ไปจนถึงการใช้งานแบบหนักได้ดีพอสมควร แต่ก็ยังสู้รุ่นใหม่ไม่ได้อยู่ดี นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นยังได้ความจุตัวเครื่องมาเท่ากันสองรุ่นคือ 64GB และ 256GB แต่ก็ยังมีความแตกต่างในด้านการเชื่อมต่อที่ iPad Air 5 นั้นสามารถเชื่อมต่อ 5G ได้แล้ว ส่วนรุ่นเก่าคือ iPad Air 4 จะเชื่อมต่อได้เพียง 4G และทั้งสองรุ่นก็สามารถต่อ WiFi 6 ได้เหมือนกัน รวมไปถึงการใช้งานของแบตเตอรี่ที่สามารถดูวิดีโอต่อเนื่องได้ 10 ชั่วโมง หรือเล่นเน็ตต่อเนื่องได้ 9 ชั่วโมงเหมือนกันอีกด้วย
กล้องหน้าเปลี่ยนไปแล้ว แต่กล้องหลังยังเหมือนเดิม
จุดสุดท้ายของ iPad Air 5 vs iPad Air 4 ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดก็คือเรื่องของกล้อง ที่ถึงแม้ว่าตัวกล้องหลังของทั้งสองรุ่นนี้จะยังเหมือนเดิม ที่เป็นกล้องไวด์ความละเอียด 12MP และถ่ายภาพ HDR อัจฉริยะ 3 หรือถ่ายวิดีโอระดับ 4K ได้เหมือนกันทั้งหมด แต่ด้วยชิปตัวแรงของ M1 จึงทำให้ถ่ายได้ดีกว่า และถ่ายวิดีโอในช่วงไดนามิกกว้างขึ้นสำหรับวิดีโอที่มีอัตราความเร็วของเฟรม 30 fps ได้ด้วย สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนจริงๆ ก็คือกล้องหน้าที่ iPad Air 4 นั้นยังเป็นกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 7MP ที่สามารถถ่ายและวิดีโอคอลทั่วไปได้ปกติ แต่ว่ารุ่นใหม่อย่าง iPad Air 5 นั้นก็ได้อัพเกรดไปเป็น FaceTime HD แบบอัลตร้าไวด์ที่ความละเอียด 12MP พร้อมกับคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ที่เวลา FaceTime ก็จะจัดตัวเราให้อยู่ตรงกลางเฟรมเสมอเหมือนกับรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ส่วนลำโพงจะยังเป็น 2 ลำโพงในโหมดแนวนอนเหมือนกัน
สรุป
จากข้อมูลที่เราได้นำมาเปรียบเทียบให้เห็นกันแบบจุดต่อจุด ว่ามีตรงไหนเหมือนเดิมบ้าง และมีตรงไหนที่เปลี่ยนไปและแตกต่างกันสำหรับ iPad Air 5 vs iPad Air 4 ที่เราได้นำมาบอกกันในวันนี้ ก็ต้องบอกตามตรงว่ารุ่นใหม่อย่าง iPad Air 5 นั้นมีสเปคที่สูงและดีกว่าตัวรุ่นเก่าเยอะมากเลยทีเดียว อย่างการใช้งานและประสิทธิภาพความเร็วต่างๆ ของชิป M1 ที่ทำให้รุ่นเก่าอย่าง iPad Air 4 ก็สู้ไม่ได้อย่างแน่นอน รวมไปถึงการเชื่อมต่อ การถ่ายรูปและวิดีโอคอลที่เป็นกล้องอัลตร้าไวด์เหมือนกับรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาทั้งหมดแล้ว จึงทำให้รุ่นเก่านั้นยังเทียบกับรุ่นใหม่ไม่ได้
แต่ถ้าพูดถึงด้านการใช้งาน iPad Air 4 ก็ยังคงใช้งานได้ดีและยังคงมีประสิทธิภาพอยู่เหมือนกัน แต่จะเหมาะกับคนที่ไม่ได้ต้องการใช้ความเร็วแรงมากนัก แต่ชอบแท็บเล็ตที่มีน้ำหนักเบาบางพกพาได้สะดวก จะเลือกใช้เป็นรุ่นเก่าที่อาจมีราคาลดลงมาจากเดิมอีกก็ยังใช้ได้นะ แต่ถ้าอยากใช้ iPad ที่มีความเร็ว ออกแบบกราฟิก หรือแต่งรูปสร้างสรรค์ผลงานเทพๆ บวกกับเครื่องเบาบางด้วย ก็รอซื้อ iPad Air 5 ไปเลยคุ้มกว่าเยอะ แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ