เทียบสเปค iPhone SE 3 vs iPhone 11 จะเลือกตัวไหนดี สำหรับคนที่ลังเลจนตัดสินใจไม่ได้ เราพอจะช่วยแนะนำให้ได้ ซึ่งในที่นี้ที่เอา iPhone 11 มาเทียบคือจะต้องเป็นเครื่องมือสองที่ราคาขายต่างกัน 1,000 บาทกับอีกนิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งด้วยราคาที่ต่างกันเพียงเล้กน้อยนั้นก็ทำให้เกิดทางเลือกเพิ่มขึ้นมาจนต้องปวดหัว แถมในปัจจุบันนี้ราคาแพ็กเกจ 5G นี่นับว่ายังแพงเกิดกว่าที่จะเข้าถึงได้ทุกคน แถมในด้านการใช้งานแล้ว 4G เองก็เพียงพอ ดังนั้นเราขึ้นได้ลองมาเทียบสเปค iPhone SE 3 vs iPhone 11 ดูว่าทั้งคู่แตกต่างกันตรงไหนบ้าง แล้วจะเลือกซื้อเครื่องไหนดี ซึ่งบทความนี้สามารถใช้เป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจของเพื่อนๆ ได้บ้าง
เทียบสเปค iPhone SE 3 vs iPhone 11
iPhone SE 3 | iPhone 11 | |
---|---|---|
ขนาด | 138.40 x 67.30 x 7.30 มม. | 150.90 x 75.70 x 8.30 มม. |
น้ำหนัก | 144 กรัม | 194 กรัม |
หน้าจอ | Retina (IPS) ขนาด 4.7 นิ้ว 1334 x 750 พิกเซล อัตราส่วน 16:9 | Liquid Retina (IPS) ขนาด 6.1 นิ้ว 1792 x 828 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9 |
ชิปประมวลผล | Apple A15 Bionic (5nm) | Apple A13 Bionic (7nm) |
แรม / ความจุ | 4GB / 64GB 4GB / 128GB 4GB / 256GB | 4GB / 64GB 4GB / 128GB |
กล้องหลัง | 12 MP, f/1.8, OIS (wide) | 12 MP, f/1.8, OIS (wide) 12 MP, f/2.4 (ultrawide) |
กล้องหน้า | 7 MP, f/2.2 | 12 MP, f/2.2 |
แบตเตอรี่ | ยังไม่มีข้อมูล ชาร์จเร็ว 18W | 3,110 mAh ชาร์จเร็ว 18W |
กันน้ำ | IP67 | IP68 |
ราคา* | 64GB : 15,900 บาท 128GB : 17,900 บาท 256GB : 21,900 บาท | 64GB : 19,500 บาท 128GB : 21,500 บาท |
ความแตกต่างเมื่อเทียบ iPhone SE 3 vs iPhone 11
ตัวเครื่อง
iPhone SE 3 vs iPhone 11 ในเรื่องของตัวเครื่องนั้นแน่นอนว่าย่อมแตกต่างกันทุกอย่าง เนื่องจากพื้นฐานดีไซน์ตัวเครื่องเริ่มมาไม่เหมือนกัน ซึ่งสิ่งที่ทาง iPhone SE 3 ดูน่าสนใจกว่า iPhone 11 ก็คือขนาดของตัวเครื่องที่เล็กกระทัดรัดและน้ำหนักที่เบา ช่วยให้พกพาได้สะดวก ถือนานๆ ไม่เมื่อยมือ อีกทั้งตัวเครื่องยังเคลือบด้วย Ceramic Shield แบบเดียวกับ iPhone 13 ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีความทนทานกว่า ในณะเดียวกันทาง iPhone 11 นั้นจะได้ตัวเครื่องที่ใหญ่กว่า ส่งผลให้สามารถใส่หน้าจอและแบตเตอรี่ได้เยอะกว่า นอกจากนี้ยังได้มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่นที่เหนือกว่าเล็กน้อยด้วย ทำให้ iPhone 11 ดูจะทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้มากกว่า iPhone SE 3
หน้าจอ
iPhone SE 3 vs iPhone 11 ในเรื่องของหน้าจอแล้ว แน่นอนว่าหน้าจอทั้งคู่เป็นพาแนล IPS-LCD เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือหน้าจอของ iPhone 11 เป็น Liquid Retina ที่ให้สีสันสวยกว่า Retina ของ iPhone SE 3 ที่เป็นเทคโนโลยีเก่ากว่า นอกจากนี้ขนาดหน้าจอเองก็ต่างกันด้วย โดย iPhone SE 3 จะมีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ที่เป็นอัตราส่วน 16:9 ในขณะที่ iPhone 11 นั้นมีหน้าจอ 6.1 นิ้ว ที่เป็นอัตราส่วนใหม่ 19.5:9 ซึ่งอันนี้อยู่ที่ความชอบของเพื่อนๆ เลยว่าชอบหน้าจอใหญ่หรือหน้าจอเล็ก แต่โดยส่วนตัวของผู้เขียนนั้นหน้าจอของ iPhone 11 น่าสนใจกว่า เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าส ซึ่งให้สีสันที่สวยสดกว่านั่นเอง
ชิปประมวลผล
iPhone SE 3 vs iPhone 11 ในด้านชิปประมวลผลนั้นเรียกได้ว่าต่างกันแบบวุดๆ โดย iPhone SE 3 นั้นมาพร้อมชิป A15 Bionic ที่เป็นชิปตัวล่าสุดแถมยังรองรับ 5G อีกด้วย ในขณะที่ iPhone 11 ใช้ชิปเป็น A13 Bionic ซึ่งเป็นชิป 4G เพราะแบบนั้นหากเทียบกันที่ชิปประมวลผลแล้ว iPhone SE 3 น่าสนใจกว่าเยอะ เพราะได้ทั้งความแรง รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 แถมยังช่วยให้แบตอึดกว่าด้วย ทว่าหากพูดถึงในด้านการใช้งานไม่นับรวม 5G และ Wi-Fi 6 แล้ว ก็มไไ่ด้ต่างกันถึงขนาดเห็นผลมากนัก เนื่องจากชิป Apple นั้นแรงเกินกว่าที่แอปฯ ต่างๆ จำเป็นต้องใช้ แต่ถึงอย่างไรในเรื่องชิปประมวลผลนี้ A15 Bionic ใน iPhone SE 3 ก็ชนะขาด ซึ่งที่น่าสนใจคือความสามารถในการเชื่อมต่อ 5G ที่มีความเร็วสูงกว่าจะช่วยให้การใช้งานคล่องตัวมากขึ้น
กล้องถ่ายรูป
iPhone SE 3 vs iPhone 11 ในด้านกล้องถ่ายภาพนั้นกล้องหลังที่เป็นกล้องหลักของทั้ง คู่เรียกได้ว่าเป็นกล้องตัวเดียวกัน ซึ่งคุณภาพรูปก็จะใกล้เคียงกัน แต่ทว่าใน iPhone SE 3 ที่ใช้ชิป A15 Bionic นั้นมีความสามารถในการประมวลผลสูงกว่า ทำให้สามารถใส่ฟีเจอร์กล้องเพิ่มเข้าไปได้ แถมยังประมวลผลได้อย่างรวดเร็วกว่าด้วย ในขณะที่ทาง iPhone 11 นั้นกล้องจะมีฟีเจอร์ที่น้อยกว่าเพราะชิปมีความสามารถต่ำกว่า ทว่าใน iPhone 11 นั้นก็มีโหมดกลางคืนและกล้อง ultrawide ที่ iPhone SE 3 ไม่มี ซึ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปแล้วทาง iPhone 11 จะน่าสนใจกว่า
นอกจากนี้ในเรื่องของกล้องหน้านั้นทาง iPhone SE 3 นั้นเป็นกล้องหน้าแบบเดิมที่มีความละเอียด 7 MP ในขณะที่ iPhone 11 นั้นมีความละเอียด 12 MP ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงแล้ว iPhone 11 จะได้เปรียบกว่า ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความละเอียดเท่านั้น แต่ฟีเจอร์ก็มีให้ใช้งานหลากหลายกว่าด้วย เรียกได้ว่าในด้านกล้องถ่ายภาพนั้น iPhone 11 เหนือกว่า iPhone SE 3 เต็มตัวเลย
แบตเตอรรี่
iPhone SE 3 vs iPhone 11 ในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นตอนนี้ยังไม่รู้ว่า iPhone SE 3 นัน้มีปริมาณแบตเตอรี่ขนาดเท่าไร แต่ทว่าทาง Apple ก็ได้เคลมออกมาว่า iPhone SE 3 นั้นสามารถใช้ดูวิดีโอได้นานสูงสุดถึง 15 ชั่วโมง, ดูวิดีโอแบบสตรีมมิ่งได้สูงสุด 10 ชั่วโมง และสามารถใช้ฟังเพลงได้นานสูงสุด 50 ชั่วโมง ในขณะที่ทาง iPhone 11 นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3,110 mAh ซึ่งสามารถใช้ดูวิดีโอได้นานสูงสุดถึง 17 ชั่วโมง, ดูวิดีโอแบบสตรีมมิ่งได้สูงสุด 10 ชั่วโมง และสามารถใช้ฟังเพลงได้นานสูงสุด 65 ชั่วโมง ซึ่งจากจำนวนชั่วโมงการใช้งานก็พอจะอนุมานได้ว่าแบตเตอรี่ของ iPhone SE 3 นั้นน้อยกว่า iPhone 11 แน่นอน (ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าเท่าเดิม แค่ชิป A15 Bionic จัดการพลังงานได้ดีขึ้น) ซึ่งเวลาที่ Apple เคลมมานั้นอาจจะไม่สามารถอนุมาณระยะเวลาใช้งานโดยทั่วไปได้เนื่องจากเวลาใช้งานจริงนั้นมีทั้งเล่นโซเชียลหรือเกมเพิ่มเข้าไป แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับกาารใช้งานของเพื่อนๆ ด้วยว่าจะใช้งานแบบไหน เพราะถ้าจัดสรรดีๆ iPhone SE 3 อาจจะอยู่ได้นานกว่า iPhone 11 ก็เป็นได้
สรุปการเทียบสเปค iPhone SE 3 vs iPhone 11 เลือกตัวไหนดี
สรุปการเทียบสเปค iPhone SE 3 vs iPhone 11 สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อนั้น โดยส่วนตัวของผู้เขียนเองมองว่า iPhone 11 ยังน่าสนใจกว่า iPhone SE 3 ถึงแม้ทาง iPhone SE 3 จะได้ชิปที่แรงกว่า ใช้ 5G ได้ และพกพาง่ายกว่าก็ตาม เนื่องจาก iPhone 11 นั้นมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า ให้สีสันที่สวยสดกว่า กล้องที่มากความสามารถ ใช้ได้ทุกสถานการณ์มากกว่า ทั้งนี้ก็อยากจะให้เพื่อนๆ ไปลองเล่นตัวเครื่องจริงๆ ก่อนว่าแบบไหนเข้ามือมากกว่า ซึ่งเกณฑ์ในการตัดสินใจที่ช่วยจำกัดได้มากว่าควรซื้อตัวไหนดีก็คือขนาดของตัวเครื่องและขนาดหน้าจอนั่นเอง ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ชอบเครื่องเล็กๆ พกพาง่ายยังไงก็ต้องไป iPhone SE 3แต่ถ้าเป็นคนชอบมือถือจอใหญ่ๆ ก็ต้องไปทาง iPhone 11 อย่างเดียวเท่านั้น หรือถ้ามีงบมากกว่านั้นอาจจะหันไปมอง iPhone 12 mini แทนก็ได้ เพราะนอกจากตัวเครื่องจะพกพาง่ายแล้วยังได้หน้าจอที่ใหญ่กว่า iPhone SE 3 อีกด้วย