เปรียบเทียบ iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro ต่างกันยังไง มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ควรเปลี่ยนรุ่นใหม่ดีไหมในปี 2023
สำหรับคนที่ใช้งาน iPhone และติดตามข่าวรุ่นใหม่ๆ อยู่เป็นประจำจะเห็นได้ว่าถ้าเป็นรุ่นต่อรุ่นที่ออกมาใหม่ในแต่ละปี อาจจะดูไม่ค่อยมีอะไรใหม่ หรืออาจจะมีการอัพเกรดนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นจะต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่ตามทุกปี แต่คงไม่ใช่สำหรับรุ่นที่ห่างกันนาน 2-3 ปีขึ้นไปอย่าง iPhone 12 Series ที่ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะมี iPhone 12 รุ่นปกติวางขายอยู่ แต่รุ่นโปรก็ถูกถอดไปจากหน้าร้านไปนานแล้ว ดังนั้นคนที่ใช้ iPhone 12 Pro ก็คงจะต้องคิดเยอะหน่อยแล้วว่าควรจะเปลี่ยนรุ่นใหม่หรือไม่ โดยเฉพาะรุ่นที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่นานอย่าง iPhone 15 Pro หลังจากผ่านมานานถึง 3 ปีมีอะไรอัพเกรดมาใหม่ และคุ้มหรือไม่ที่จะเปลี่ยนรุ่นในตอนนี้ เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาลองเปรียบเทียบสเปค iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro ว่ารุ่นใหม่และเก่าต่างกันยังไง มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง และควรเปลี่ยนรุ่นใหม่ดีหรือไม่ในปี 2023 (ดูสเปค iPhone 15 และ iPhone 15 Pro)
**สเปค iPhone 15 Pro เป็นสเปคจากข่าวลือเท่านั้น**
เปรียบเทียบ iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro
- ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอ
- ชิปประมวลผล และการเชื่อมต่อ
- กล้องหน้า และกล้องหลัง
- แบตเตอรี่ และราคา
- สรุปควรเปลี่ยนรุ่นใหม่เลยดีไหม
ตัวเครื่องต่างกัน หน้าจอก็ไหลลื่นต่างกันเยอะ
เริ่มต้นเปรียบเทียบสเปค iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro ด้วยรูปแบบตัวเครื่องกันก่อนเลย ที่ทั้งสองรุ่นนี้ตัวเครื่องน่าจะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน แต่ว่ารูปแบบตัวเครื่องนั้นต่างกันเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นความหนาและน้ำหนัก กับรูปแบบตัวเครื่องที่ iPhone 12 Pro จะเป็นขอบแบนแต่ iPhone 15 Pro นั้นจะมีความโค้งเล็กน้อย (ไม่คมเหมือนรุ่นก่อน) และมีการลดขอบจอให้เล็กลงด้วย ส่วนตัวโมดูลกล้องของ iPhone 15 Pro จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า iPhone 12 Pro มาก เพราะมีทั้งเซ็นเซอร์และกล้องที่ดีกว่านั่นเอง นอกจากนี้วัสดุยังใช้ต่างกันทั้งกระจกที่แข็งแรงกว่า และมีกรอบเป็นไทเทเนียมที่แกร่งกว่าทุกรุ่นที่มีมาด้วย
การเปลี่ยนแปลงของ iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro ที่จะเห็นได้อีกก็คือพอร์ตชาร์จที่ iPhone 15 Pro จะเปลี่ยนมาใช้ USB-C ที่ถ่ายโอนข้อมูลและชาร์จได้เร็วกว่าของ iPhone 12 Pro ที่ใช้แบบ Lightning อยู่ อีกทั้งยังมีปุ่มเปิด-ปิดเสียงที่เป็นสวิตช์ที่เปลี่ยนไปจากการเลื่อนเปิด-ปิด ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นแบบปุ่มกด Action ที่สามารถตั้งค่าคำสั่งเองได้ไม่ว่าจะถ่ายรูป เปิด-ปิดเสียง หรือตั้งค่าอะไรก็ตาม และยังเลื่อนปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงลงมาเล็กน้อยด้วย โดยทั้งสองรุ่นกันน้ำและฝุ่นได้ IP68 เหมือนกัน และคาดว่า iPhone 15 Pro จะมีสีใหม่คือ Deep Red (Dark Red) ที่เป็นสีแดงเข้มกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งในด้านตัวเครื่อง iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro นี้รุ่นใหม่ก็ยังกินขาดในหลายๆ ด้านเลย
ส่วนเรื่องของหน้าจอของ iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro ก็มีความแตกต่างกันเยอะตั้งแต่ iPhone 14 Pro แล้ว ถึงแม้ว่าหน้าจอจะเป็น Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้วเท่ากันแต่ว่า iPhone 15 Pro จะมีขอบจอที่บางลงอีกเยอะ มาพร้อมรูกล้องหน้าแบบ Punch-Hole และใช้งานด้วย Dynamic Island ที่ปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งาน รวมไปถึงความไหลลื่นของหน้าจอที่ iPhone 15 Pro จะมี ProMotion 120Hz ไหลลื่นกว่าและ Always-on หน้าจอเปิดตลอดเวลา ทำความสว่างได้มากกว่าด้วย ในขณะที่ iPhone 12 Pro ยังเป็นหน้าจอแบบปกติที่ยังไม่มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เลย และยังมีรูกล้องหน้าแบบรอยบากด้วย ส่วนที่เหมือนกันคือ Face ID อย่างเดียว ในส่วนนี้รุ่นเก่าก็ยังคงสู้ไม่ได้อยู่ดี
ชิปตัวใหม่แรงกว่าแน่นอน
การเปรียบเทียบสเปค iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro ในส่วนต่อมาเป็นจุดที่ iPhone ต้องเปลี่ยนทุกรุ่นโดยเฉพาะรุ่นโปร นั่นก็คือชิปประมวลผลที่ iPhone 12 Pro นั้นใช้ชิป A14 Bionic ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2020 ในขณะที่ iPhone 15 Pro จะเปลี่ยนมาใช้ A17 Bionic แบบ 3nm รุ่นแรกที่ดีกว่าในหลายๆ ด้านทั้งกราฟฟิก การถ่ายรูปและประหยัดพลังงานได้ดีกว่ามาก รวมไปถึงความเร็วแรงในการใช้งานก็มีความต่างกันเยอะ
นอกจากนี้ iPhone 15 Pro ก็จะมีการอัพเกรด RAM 8GB ในขณะที่ iPhone 12 Pro มี RAM 6GB เท่านั้น ดังนั้นทางด้านการเล่นเกมและอื่นๆ ก็จะเห็นได้ถึงความแตกต่างแน่นอน รวมไปถึงการอัพเกรดความจุเริ่มต้นของ iPhone 15 Pro ในมี 256GB และอาจจุได้สูงสุด 2TB เลยทีเดียว ที่ใช้ได้เหมือนกันก็น่าจะเป็น iOS17 รองรับ 5G/ WiFi 6 ซึ่งรุ่นใหม่ก็ไปถึง WiFi 6E แล้ว รวมไปถึง Bluetooth ต่างกันที่เวอร์ชั่น 5.0 กับ 5.3 ตามลำดับ ที่สำคัญเลยก็คือ iPhone 15 Pro มีฟีเจอร์ทั้งการตรวจจับการชนกัน ไจโรช่วงไดนามิกสูงและตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบแรง g สูง
กล้องหน้าและกล้องคมชัดสูงกว่า มีฟีเจอร์ครบกว่าด้วย
จุดสำคัญที่เปลี่ยนไปสำหรับสเปค iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro อย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือตัวกล้อง ถึงแม้ว่ากล้องหน้าจะเป็น TrueDepth 12MP เท่ากันแต่รูรับแสงนั้นต่างกันตั้งแต่ iPhone 14 Pro แล้วจาก f/2.2 เป็น f/1.9 ถ่ายเซลฟี่กลางคืนได้ดีกว่า มีออโต้โฟกัสด้วย รองรับทั้ง Photonic Engine/ สไตล์ภาพถ่าย และวิดีโอ ProRes สูงสุด 4K@30fps ทั้งหมดนี้ iPhone 12 Pro ยังไม่มีทั้งสิ้น ส่วนกล้องหลังถึงแม้ว่าจะมีกล้อง 3 ตัวเท่ากัน แต่ว่าความละเอียดของ iPhone 12 Pro ทั้งสามตัวเป็น 12MP เท่ากันหมด
ในขณะที่รุ่นใหม่อย่าง iPhone 15 Pro ก็อัพเกรดกล้องด้วยเลนส์ไฮบริดจากแก้วพลาสติก มีรูรับแสงกว้างขึ้น และมีความละเอียดหลักไปถึง 48MP อัลตร้าไวด์ 12MP ที่ปรับปรุงให้ถ่ายได้ดีกว่า ถ่ายมาโครได้ และเทเลโฟโต้ 12MP ที่ซูมได้ 3 เท่าดีกว่าด้วย (iPhone 12 Pro ซูมได้ 2 เท่า) ซึ่งการถ่ายภาพทั่วไปหรือถ่ายตอนกลางคืน iPhone 15 Pro จะทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมี Photonic Engine กับการถ่ายวิดีโอระดับโปรที่แท้จริงอย่างโหมดแอ็คชั่น/ ถ่ายวิดีโอมาโคร และโหมดภาพยนตร์ที่ถ่ายได้ถึง 4K HDR@30fps ทั้งหน้าและหลัง ดังนั้นเรื่องกล้อง iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro รุ่นใหม่ตอบโจทย์สายถ่ายรูปได้ดีกว่าแบบเห็นๆ เลยทีเดียว
แบตอึดกว่า ราคาสูงกว่าด้วย
ปิดท้ายการเปรียบเทียบ iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro กันด้วยเรื่องของแบตเตอรี่ ซึ่งแน่นอนว่ารุ่นใหม่นั้นทำได้ดีกว่าด้วยชิปประมวลผลที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น และถ้าเทียบจากรุ่นก่อนหน้าที่ผ่านมาทั้ง iPhone 13 Pro/ 14 Pro จะเห็นได้ว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าอย่างเห็นได้ชัดอย่างการเล่นวิดีโอของ iPhone 12 Pro ทำได้สูงสุด 17 ชม. แต่ของ iPhone 14 Pro ทำได้ถึง 23 ชม. แล้ว โดยตัว iPhone 15 Pro จะมีความจุมากกว่า 14 Pro ขึ้นไปอีก ถ้าเทียบกันจะพบว่าความจุแบตนั้นก็ต่างกันเยอะเลยโดย iPhone 15 Pro มีความจุถึง 3,650 mAh จาก iPhone 12 Pro ที่มีความจุ 2,815 mAh เท่านั้น ที่สำคัญก็คือรุ่นใหม่นั้นเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C โอนถ่ายข้อมูลเร็วขึ้นด้วย USB 3.2 และอาจชาร์จเร็วขึ้นถึง 23W (ปกติ 20W) ส่วนแบบไร้สายน่าจะเท่ากันแบบ MagSafe 15W และมีราคา iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro ที่ต่างกันเยอะพอสมควร ดูได้จากตารางด้านล่างนี้เลย
iPhone 12 Pro iPhone 15 Pro ราคา 128GB: 36,900 บาท
256GB: 40,900 บาท
512GB: 48,900 บาท256GB: 47,900 บาท
512GB: 56,900 บาท
1TB: 62,900 บาท
2TB: 72,900 บาท (ถ้ามี)
สำหรับการเปิดตัว iPhone 15 และ iPhone 15 Pro จะเกิดขึ้นในงาน Apple Event 2023 ที่ทาง Mark Gurman ของ Bloomberg ได้ออกมาเผยล่าสุดว่าจะเปิดตัวในวันที่ 12 ก.ย. 2023 และจะเปิดพรีออเดอร์ในวันที่ 15 ก.ย. 2023 พร้อมวางขายทุกรุ่นในวันที่ 22 ก.ย. 2023 นี้สำหรับประเทศแรกๆ รวมถึงไทยด้วย โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
สรุปควรเปลี่ยนรุ่นใหม่เลยดีไหม
iPhone 12 Pro | iPhone 15 Pro | |
ขนาดและน้ำหนัก | 146.7 x 71.5 x 7.4 มม. 189 กรัม | ไม่มีข้อมูล คาดว่าใหญ่กว่าและหนักกว่าเล็กน้อย |
หน้าจอ | Super Retina XDR (OLED), 60Hz 6.1 นิ้ว | Super Retina XDR (OLED), ProMotion 120Hz/ 6.1 นิ้ว Dynamic Island |
ชิป | A14 Bionic (5nm) | A17 Bionic (3nm) |
RAM/ROM | 6GB (LPDDR4.1)/ 128/256/512GB | 8GB (LPDDR5)/ 256/512GB/1TB/2TB (ถ้ามี) |
กล้องหน้า | TrueDepth 12MP | TrueDepth 12MP Photonic Engine/ ProRes 4K@30fps |
กล้องหลัง | Wide: 12MP Ultra-Wide: 12MP Telephoto: 12MP (2x) | Wide: 48MP Ultra-Wide: 12MP (Macro) Telephoto: 12MP (3x) โหมดแอ็คชั่น/ วิดีโอมาโคร/ โหมดภาพยนตร์ 4K HDR@30fps |
แบต | 2,815 mAh Lightning 20W MagSafe 15W | 3,650 mAh USB-C 23W MagSafe 15W |
จากข้อมูลการเปรียบเทียบจากสเปค iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro ที่เป็นข่าวลือทั้งหมดแล้ว ถ้าใครไม่ได้ใช้ iPhone 12 Pro อยู่แล้วก็ซื้อรุ่นใหม่ได้เลยเพราะรุ่นเก่าไม่มีขายแล้ว แต่ถ้าหากใครใช้งาน iPhone 12 Pro อยู่แล้วลังเลว่าเปลี่ยนใหม่จะคุ้มมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องบอกว่าคุ้มมากที่จะเปลี่ยนรุ่นมาเป็น iPhone 15 Pro เพราะมีการเปลี่ยนแปลงสเปคการใช้งานไปค่อนข้างเยอะ ตอบโจทย์การใช้งานได้มากกกว่าในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องที่ดีไซน์ใหม่ มีฟังก์ชั่นการใช้งานดีกว่า หน้าจอที่ไหลลื่นและฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Dynamic Island กับ Always-on พร้อมกับชิปประมวลผลที่ดีขึ้นเยอะมากๆ ต่างกันถึง 3 Gen ทำให้การเล่นเกมและใช้แอพต่างๆ ดีขึ้น ประหยัดแบตได้มากขึ้นและมีแบตอึดกว่าเยอะ รวมไปถึงกล้องที่ถ่ายได้คมชัดกว่า ซูมได้ดีกว่า และมีฟีเจอร์การใช้งานที่ครบเครื่องสำหรับความเป็นโปร แถมยังเปลี่ยนมาเป็น USB-C แล้วด้วย สรุปให้ได้เลยว่า iPhone 12 Pro vs iPhone 15 Pro ยังไงแล้วเปลี่ยนใหม่ก็ดีกว่าและคุ้มกว่าแน่นอน
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก Apple