เปรียบเทียบสเปค iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023 ราคาล่าสุดเท่าไหร่ มีอะไรต่างกันบ้างและซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่า
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้มือถืออย่าง iPhone จะเปิดตัวรุ่นใหม่คือ iPhone 14 Series ไปช่วงปลายปีที่แล้ว และกำลังจะเปิดตัว iPhone 15 Series ภายในปลายปีนี้ด้วย แต่ว่ารุ่นก่อนหน้าหลายๆ รุ่นก็ยังมีคนเลือกซื้อกันอยู่เยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น iPhone 8 Plus หรือ iPhone X Series และยาวต่อเนื่องมาจนถึง iPhone 11 และ iPhone 12 รุ่นที่ยังน่าสนใจและน่าใช้งานทั้งคู่ และก็เป็นรุ่นที่หลายคนตัดสินใจยากว่าจะซื้อรุ่นไหนดี เพราะว่า iPhone 11 ตอนนี้ก็ไม่มีขายอย่างเป็นทางการบน Apple Store แต่ยังมีขายที่ศูนย์อื่นๆ และยังมีสเปคที่น่าใช้งานมากๆ ในราคาหมื่นกลางๆ ส่วน iPhone 12 ก็เป็นรุ่นที่ใหม่กว่า มีฟีเจอร์การใช้งานและราคาที่มากกว่าด้วย วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาเปรียบเทียบสเปค iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023 กันว่ามีราคาล่าสุดเท่าไหร่ มีอะไรต่างกันตรงไหนบ้าง และจะซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่ากันในตอนนี้
เปรียบเทียบสเปค iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023
- เปรียบเทียบราคาล่าสุดทั้งมือ 1 และมือ 2
- รูปแบบตัวเครื่อง
- หน้าจอ
- ชิปประมวลผลและการเชื่อมต่อ
- กล้องหน้าและกล้องหลัง
- แบตเตอรี่
- สรุปซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่ากัน
เปรียบเทียบราคาล่าสุด
ศูนย์บริการ\ รุ่น | iPhone 11 | iPhone 12 |
Apple | – | 64GB: 24,900 บาท 128GB: 26,900 บาท 256GB: 30,900 บาท |
AIS | 64GB: 16,100 บาท 128GB: 18,200 บาท | 64GB: 22,500 บาท 128GB: 24,500 บาท |
Truemove H | 64GB: 17,200 บาท 128GB: 19,200 บาท | 64GB: 24,100 บาท 128GB: 26,100 บาท |
BaNANA | 64GB: 15,900 บาท 128GB: 18,200 บาท | 64GB: 22,900 บาท 128GB: 24,900 บาท |
Shopee | 64GB: 15,900 บาท 128GB: 18,200 บาท | 64GB: 22,900 บาท 128GB: 24,900 บาท 256GB: 35,900 บาท |
Lazada | 64GB: 16,500 บาท 128GB: 18,200 บาท | 64GB: 22,900 บาท 128GB: 24,790 บาท |
ราคามือสอง (โดยประมาณ) | 64GB: 10,900-13,900 บาท 128GB: 11,900-15,500 บาท 256GB: 14,900-16,900 บาท | 64GB: 14,000-17,900 บาท 128GB: 17,900-19,500 บาท 256GB: 17,900-20,990 บาท |
จากการเปรียบเทียบราคาของ iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023 ในตารางนั้น ก็ต้องบอกว่าราคาต่างกันเยอะพอสมควรเลยในปีนี้ จากปลายปีที่แล้วที่ต่างกันไม่มากนัก ซึ่งราคาที่ต่างกันนี้ถ้าเทียบแค่เครื่องเปล่ามือ 1 จากศูนย์บริการต่างๆ ก็มีราคาที่ต่างกันถึง 4,000-6,000 บาทเลยทีเดียว ทำให้ตัวเลือกตัดสินใจในเรื่องของราคานั้น ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละคนว่าต้องการซื้อด้วยงบที่มีอยู่ราคาไหน และความจุของตัวเครื่องที่ต้องการคือเท่าไหร่ เพราะว่า iPhone 11 นั้นจะหารุ่นความจุ 256GB ค่อนข้างยากแล้ว ในขณะที่ iPhone 12 ยังมีขายบน Apple Store Online ครบทุกรุ่นทุกสีเลย
ดีไซน์และความแข็งแรงยังต่างกัน
มาดูที่การเปรียบเทียบ iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023 ในส่วนของตัวเครื่องกันบ้างที่ทั้งสองรุ่นนี้มีความแตกต่างกันเยอะพอสมควรเลย โดยรุ่น iPhone 11 นั้นมีดีไซน์ตัวเครื่องที่ยังเป็นขอบโค้งมน มีด้านหน้าและหลังเป็นแบบกระจก แถมยังมีน้ำหนักและตัวเครื่องที่มากกว่าด้วย ส่วนรุ่นใหม่กว่าอย่าง iPhone 12 นั้นก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบตัวเครื่องเป็นแบบขอบแบนเหลี่ยมๆ อีกครั้ง มาพร้อมด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ที่แข็งแรงกว่า มีขอบจอแคบกว่า กับการใช้งานเคสกระเป๋าและ MagSafe ได้แล้วรุ่นแรก ส่วนตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมและมีโมดูลกล้องเหมือนกันทั้งคู่ และถึงแม้ว่าจะกันน้ำกันฝุ่นได้ที่ระดับ IP68 เหมือนกัน แต่ว่า iPhone 12 นั้นลงได้ลึกไม่เกิน 6 ม. ในขณะที่ iPhone 11 ลงไปได้ไม่เกิน 2 ม.เท่านั้น
หน้าจอเท่ากันแต่ความชัดรุ่นใหม่ยังกินขาด
ในส่วนของหน้าจอของ iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023 ก็ต้องบอกว่ามีความแตกต่างกันเยอะมาก ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีขนาดหน้าจอที่เท่ากันคือ 6.1 นิ้วก็ตาม แต่ว่า iPhone 11 นั้นมีหน้าจอเป็น IPS LCD แบบ Liquid Retina HD พร้อมความละเอียด 1792 x 828 พิกเซลที่สว่างทั่วไปได้ 625 นิต ส่วนทางด้านของ iPhone 12 นั้นก็ได้เปลี่ยนมาเป็นหน้าจอ OLED แบบ Super Retina XDR ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซลและสว่างได้สูงสุดถึง 1,200 นิตแบบ HDR ซึ่งตรงนี้รุ่นใหม่มีหน้าจอที่คมชัดสีสันสดใสกว่าแน่นอน แถมยังรองรับ HDR และมีอายุการใช้งานที่ดีกว่าด้วย แต่ถ้าใครไม่ได้ซีเรียสเรื่องหน้าจอมากนัก iPhone 11 ก็ถือว่ามีหน้าจอที่คมชัดต่อการใช้งานมากแล้ว
ความแรงชิปและการเชื่อมต่อของรุ่นใหม่ดีกว่า
จุดสำคัญของการเปรียบเทียบ iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023 อีกอย่างก็คือชิปประมวลผลที่ต้องบอกว่ารุ่นใหม่ย่อมดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมานานแล้วก็ตาม แต่ความแรงและการใช้งานสำหรับรุ่นนั้นก็ยังแรงเหมือนเดิม โดย iPhone 11 นั้นใช้ชิป A13 Bionic ส่วน iPhone 12 ก็ได้ใช้ตัวใหม่กว่าอย่าง A14 Bionic ที่มี Neural Engine มากกว่า ทำให้การเล่นเกมหรือการใช้งานอื่นๆ ไหลลื่นกว่าแน่นอน ที่สำคัญคือสามารถใช้งาน 5G ได้แล้วเป็นรุ่นแรกของ iPhone ในขณะที่ iPhone 11 ยังใช้ได้เพียง 4G เท่านั้น ส่วนความจุมีให้เท่ากันคือ 64/128/256GB แต่อย่างที่บอกว่า iPhone 11 จะหารุ่นความจุสูงยากมากแล้ว ผิดกับ iPhone 12 ที่ยังมีให้เลือกซื้อครบทุกรุ่น
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 11 iPhone 12 ชิปประมวลผล A13 Bionic
CPU แบบ 6-core
GPU แบบ 4-core
Neural Engine แบบ 8-coreA14 Bionic
CPU แบบ 6-core
GPU แบบ 4-core
Neural Engine แบบ 16-coreRAM 4GB 4GB ROM 64GB / 128GB / 256GB 64GB / 128GB / 256GB การเชื่อมต่อ 4G (LTE), WiFi 6, BT 5.0, NFC 5G, WiFi 6, BT 5.0, NFC
การถ่ายภาพคล้ายกัน
สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อและการเปรียบเทียบ iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023 ที่เป็นตัวเลือกสำคัญก็คือเรื่องของกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่ทั้งสองรุ่นนี้มีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย เริ่มที่กล้องหน้าของทั้งคู่ที่เป็นแบบ TrueDepth 12MP (ƒ/2.2) เหมือนกันเลย แต่ว่า iPhone 12 นั้นมีฟีเจอร์อย่างโหมดกลางคืน/ Deep Fusion/ HDR อัจฉริยะ 3 และถ่ายวิดีโอแบบ HDR ได้ด้วย ส่วนกล้องหลังก็เป็นกล้องคู่เลนส์ไวด์ และอัลตร้าไวด์เหมือนกันที่ 12MP แต่ว่ารุ่นใหม่อย่าง IPhone 12 นั้นตัวกล้องหลักมีรูรับแสงกว้างกว่าที่ ƒ/1.6 ทำให้การถ่ายตอนกลางคืนนั้นทำได้ดีกว่า และยังถ่ายวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision ได้สูงสุดถึง 4K@30 fps เลยด้วย ในส่วนของกล้องหน้าและกล้องหลังนี้ความจริง iPhone 11 ก็สามารถถ่ายได้ดีมากแล้ว แต่ถ้าหากใครที่ต้องการถ่ายตอนกลางคืนสำหรับกล้องหน้าตัว iPhone 12 ยังทำได้ดีกว่า รวมไปถึงคนที่อยากถ่ายวิดีโอแบบ HDR ด้วย
ข้อมูล\ รุ่น iPhone 11 iPhone 12 กล้องหน้า TrueDepth 12MP (ƒ/2.2) TrueDepth 12MP (ƒ/2.2)
วิดีโอ HDR/ โหมดกลางคืน/ Deep Fusionกล้องหลัง Wide: 12MP (ƒ/1.8), OIS
Ultra-Wide: 12MP (ƒ/2.4)
Deep FusionWide: 12MP (ƒ/1.6), OIS
Ultra-Wide: 12MP (ƒ/2.4)
Deep Fusionวิดีโอ บันทึกวิดีโอระดับ 4K@24fps, 25fps, 30fps, 60fps บันทึกวิดีโอระดับ 4K@24fps, 25fps, 30fps, 60fps
HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 4K@30fpsโหมดกลางคืน กล้องหลัง กล้องหน้า
กล้องหลัง
ไทม์แลปส์
การใช้งานของแบตใกล้เคียงกัน
ปิดท้ายกันที่เปรียบเทียบ iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023 เรื่องของแบตเตอรี่ของทั้งคู่ ที่ตามสเปคแล้วทั้งสองรุ่นสามารถดูวิดีโอได้สูงสุด 17 ชั่วโมง ฟังเพลงได้สูงสุด 65 ชั่วโมง และดูสตรีมได้ต่างกันนิดหน่อยที่ 10 ชั่วโมงกับ 11 ชั่วโมงที่ iPhone 12 ใช้ได้นานกว่าเล็กน้อยในส่วนนี้ แต่ความจริงการวัดความอึดในการใช้งาน ก็มีหลายปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องดูด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดใช้งาน 4G หรือ 5G เพราะตัว iPhone 11 นั้นไม่มี 5G ทำให้การใช้งานของ iPhone 12 หากเปิด 5G ก็จะมีการกินแบตมากกว่า นอกจากนี้ก็ต้องดูการใช้งานทั้งเล่นเกม การเปิดแสงที่ iPhone 12 นั้นมีความสว่างกว่าเมื่อดูแบบ HDR ที่หากเปิดนานๆ ก็กินแบตกว่าแน่นอน แต่ถ้าเปิดทุกอย่างเท่ากันทั้งสองรุ่นนั้นรุ่นใหม่ทำได้ดีกว่านิดหน่อย ที่สำคัญคือ iPhone 12 สามารถใช้งาน MagSafe 15W ที่ดีและไวกว่าด้วย
สรุปซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่ากัน
จากการเปรียบเทียบ iPhone 11 vs iPhone 12 ในปี 2023 ทั้งสเปคต่างของตัวเครื่องในแต่ละส่วน จริงๆ ก็สามารถสรุปได้ตั้งแต่ช่วงเปิดตัวแล้วว่ารุ่นใหม่อย่าง iPhone 12 นั้นดีกว่าในหลายๆ ด้านอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องเลือกซื้อจริงๆ แนะนำว่าให้ดูการใช้งานของตัวเองเป็นหลักก่อนเลย เพราะว่าถ้าเราอยากได้รุ่นที่ใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นการถ่ายกลางคืนของกล้องหน้า อยากได้แบตที่ใช้งานได้ยาวนานกว่า ไม่ได้ซีเรียสเรื่องหน้าจอ และไม่ได้ต้องการใช้งาน 5G ตัว iPhone 11 นั้นยังเป็นรุ่นที่น่าสนใจและน่าใช้งานมากๆ ที่สำคัญคือมีราคาที่ต่างกัน 4,000-6,000 เลยด้วย แต่ถ้าหากใครที่อยากได้หน้าจอที่สีสันสดใสกว่า ชอบถ่ายกลางคืนหรือถ่าย HDR พร้อมกับใช้งาน 5G ไปด้วยตัว iPhone 12 ก็ตอบโจทย์ทุกการใช้งานที่บอกไปแน่นอน ทั้งนี้ราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วย แต่ว่ายังหาซื้อได้ง่ายกว่าจากศูนย์ Apple ก็จะมีจุดดีตรงนี้ด้วยแหละ