ใช่ว่า Apple จะได้รับประโยชน์เรื่องสิทธิบัตรแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะในผลิตภัณฑ์หลายๆ ชิ้นก็ต่างโดนกล่าวหาและฟ้องร้องเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรกันไปไม่น้อยทีเดียว โดยในรายล่าสุดศาลมีคำสั่งให้ Apple ต้องจ่ายค่าปรับให้กับบริษัท VirnetX เนื่องด้วยการละเมิดสิทธิบัตรจำนวน 4 ใบที่เกี่ยวข้องกับเครือส่วนบุคคล (Private network) ซึ่งซอฟต์แวร์ที่โดนกล่าวหาเต็มๆ ก็คือระบบ FaceTime ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกใน iPhone 4
โดยทาง VirnetX ให้การว่าสาเหตุที่ต้องดำเนินการฟ้องร้องให้ถึงที่สุดก็เนื่องมาจากความละเลยในฝั่ง Apple เอง ทั้งการไม่ตรวจสอบให้รอบคอบในระหว่างการพัฒนาว่าเทคโนโลยีนี้จะไปซ้ำกับสิทธิบัตรที่มีอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ รวมไปถึงเมื่อทาง VirnetX แจ้งไปแล้วว่ามีการละเมิดสิทธิบัตร ทาง Apple ก็ยืนกรานว่าไม่ได้เป็นการละเมิดแต่อย่างใด เนื่องด้วยเป็นการใช้เทคโนโลยีและระบบในการทำงานที่ต่างไปจากสิทธิบัตรของ VirnetX ทำให้ต้องมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น โดยในครั้งแรก VirnetX เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 708 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ก็ถูกศาลตัดสินลงมาให้เลือกเพียง 368 ล้านเหรียญเท่านั้น
และตัวบริษัท VirnetX นี้ ก็เคยได้รับค่าเสียหายจาก Microsoft ถึงกว่า 100 ล้านเหรียญเมื่อปี 2010 เนื่องด้วยข้อฟ้องร้องเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรคล้ายๆ กับกรณีของ Apple ในครั้งนี้
ที่มา : Macgasm