หลังจากเปิดตัวสมาร์ตโฟน 5G รุ่นแรกของค่ายอย่าง realme X50 Pro 5G ไปเมื่อไม่นานมานี้ realme ก็ได้ส่งสมาร์ตโฟน 5G อีกรุ่นลงสู้ในตลาดสมาร์ตโฟนระดับกลาง realme X50 5G ราคาค่าตัวไม่ถึง 15,000 บาท ไม่เพียงแต่รองรับ 5G ในไทย แต่ด้านสเปคอื่น ๆ ก็ยังมีความน่าสนใจอีกด้วย ว่าแต่จะเป็นอย่างไรนั้น เลื่อนลงไปอ่านรีวิว realme X50 5G กันได้เลยครับ
สเปค realme X50 5G
- ชิปประมวลผล Snapdragon 765G octa-core 7nm EUV ความเร็วสูงสุด 2.4 GHz
- GPU Adreno 620
- RAM 8GB LPDDR4x
- พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB UFS 2.1
- หน้าจอ 120Hz Ultra Smooth Display ขนาด 6.57″ ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080)
- กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
- Android 10 ครอบด้วย realme UI
- กล้องหลัง 4 ตัว รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K/ 30fps
- กล้องหลัก 48MP f/1.8
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP f/2.3
- กล้องมาโคร 2MP f/2.4 ระยะโฟกัสใกล้ที่สุด 4cm.
- กล้อง B&W Portrait 2MP f/2.4
- กล้องหน้าคู่ 16MP f/2.0 Sony IMX471 + 2MP Portrait Lens f/2.4
- ระบบเสียง Dolby Atmos และลำโพงเดี่ยว Super linear speaker
- ใส่ได้ 2 นาโนซิม (4G + 4G Dual standby หรือ 5G Single standby)
- รองรับ 5G NR (n77/78/38/40/41/1/3/5/7/8/20/28)
- สามารถใช้งาน 5G ในไทยได้ทันที ทดสอบกับ TrueMove H และ AIS
- แบตเตอรี่ 4200 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 30W DartCharge ผ่านช่อง USB-C
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณด้านข้าง พร้อมปลดล็อกด้วยใบหน้า
- รองรับ Wi-Fi 5 (802.11a/b/g/n/ac)
- Bluetooth 5.1
- สเปคเต็ม ๆ realme X50 5G
- ราคาเปิดตัว 12,990 บาท
สเปคโดยรวมของ realme X50 5G เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนในช่วงราคาใกล้เคียงกัน รุ่นนี้ถือว่าให้หลายสิ่งเหนือกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ 5G NR ได้หลายความถี่, ชิปประมวลผลในรุ่น Snapdragon 765G ที่แรงในระดับเล่นได้ทุกเกม หรือจะเป็นหน้าจอ 120Hz Ultra Smooth Display ให้อัตรารีเฟรชที่สูงกว่า รวมถึงการชาร์จไฟที่มาพร้อม 30W Dart Charge
รีวิว realme X50 5G – การออกแบบตัวเครื่อง
ดีไซน์ตัวเครื่อง realme X50 5G บริเวณด้านหน้ามีจุดเด่นตรงที่เป็นหน้าจอแบบเกือบเต็ม กล้องหน้าคู่ถูกวางไว้ตรงตำแหน่งมุมซ้ายบนของหน้าจอ ส่วนลำโพง และเซ็นเซอร์อื่น ๆ จัดวางไว้บริเวณขอบด้านบนได้อย่างแนบเนียน ด้านล่างก็มีคางนิดหน่อย อัตราส่วนหน้าจอต่อพื้นที่ทั้งหมดคิดเป็น 90.4% กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 5 รวมถึงหน้าจอก็ติดตั้งฟิล์มกันรอยมาให้ตั้งแต่แรก
หน้าจอ 120Hz Ultra Smooth Display ของ realme X50 5G มีขนาดหน้าจอ 6.57 นิ้ว ก็ให้สีสันที่สวยงาม ภาพสว่างสู้แสงกลางแจ้งได้ (เร่งสุดได้ถึง 480nits) และด้วยอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 120Hz ทำให้การใช้งานทั่วไป แค่ปัดหน้าจอก็ให้ความรู้สึกที่ลื่นไหลกว่าหน้าจอปกติ และจะเห็นผลมากขึ้นเมื่อเล่นเกมที่รองรับอัตรารีเฟรชสูง ๆ อย่าง PUBG Mobile
ฝาหลังของ realme X50 5G มีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Ice Silver และ Jungle Green (สีเครื่องรีวิว realme X50 5G ในบทความ) ทั้งสองสีได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ป่า และน้ำแข็ง ฝาหลังใช้วัสดุโค้งมนแบบกระจก 3D สะท้อนให้ลวดลายที่แตกต่างตามแสงตกกระทบ
ฝั่งบนและฝั่งด้านล่างของเครื่องก็จะมีพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ด้านบนมีช่องรับเสียงของไมค์ช่วยตัดเสียงรบกวน ด้านล่างเป็นช่องรับเสียงของไมค์สนทนา ช่อง USB-C ถาดใส่ซิม และก็ช่องลำโพง ส่วนฝั่งซ้ายของ realme X50 5G ก็จะมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ส่วนฝั่งขวาก็มีเพียงปุ่ม Power ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องก็จะมีเข็มจิ้มถาดซิม เอกสารคู่มือ เคส TPU สีรมดำ อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 30W Dart Charge จ่ายและสายชาร์จแบบ USB-C ที่อีกปลายเป็น USB-A จุดสังเกตตรงด้านในขั้วต่อจะเป็นสีเหลืองครับ
ซอฟต์แวร์ realme X50 5G
realme X50 5G มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบมาด้วย realme UI ที่ทำออกมาให้ใช้งานได้ง่าย ส่วนแอปติดเครื่องมาก็มีให้มาพอสมควร ทั้ง Facebook, Lazada และก็แอปของทาง realme อีกนิดหน่อย โดยพื้นที่เก็บข้อมูลของตัวเครื่องที่ให้มาตามสเปค 128GB นั้นใช้งานสบาย ๆ
นอกจากนี้ realme UI ยังมาพร้อมกับ Dark Mode ที่เปลี่ยนโทนสีหน้าจอให้เข้มขึ้น รวมถึงเปลี่ยนหน้าการตั้งค่าให้เป็นพื้นหลังสีดำ ตัวหนังสือสีขาว เหมาะกับการใช้งานตอนกลางคืน เพราะคุมให้แสงหน้าจอไม่จ้าจนเกินไป
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ realme X50 5G
realme X50 5G มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือบริเวณด้านข้างตัวเครื่อง ที่ปลดล็อกได้ในเวลาเพียง 0.25 วินาที หรือถ้าใครไม่ถนัด จะใช้การสแกนใบหน้าในการปลดล็อกก็ได้เช่นกัน แต่ส่วนตัวผมค่อนข้างที่จะชอบการสแกนนิ้วด้านข้าง เพราะทำให้สมาร์ตโฟนพร้อมใช้งานตลอดเวลา
นอกจากนี้ realme UI ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- Dual Mode Music Share – สามารถเชื่อมต่อหูฟ้งไร้สายได้พร้อมกัน 2 เครื่อง
- Focus Mode – เป็นโหมดที่จะช่วยให้โฟกัสกับการทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น โดยตัวเครื่องจะให้เลือกแอปพลิเคชั่นที่ต้องการปิดชัวคร่าว เมื่อเปิด Focus Mode จะไม่สามารถใช้งานแอปดังกล่าว รวมถึงปิดการแจ้งเตือนให้โดยอัตโนมัติ
- 3-Finger Selected Screenshot – ใช้ 3 นิ้วแตะค้างไว้ที่หน้าจอ เพื่อแคปหน้าจอ
- Personal Information Protection – ระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัว
- การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ได้แก่
- การประมวลผล – ระยะเวลา App Booting ลงลด 25% ความลื่นไหลเพิ่มขึ้น 20%
- แบตเตอรี่ – อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 10%; ลดการใช้พลังงานเมื่อเปิดสแตนด์บายข้ามคืน 35%
- ประสิทธิภาพการทำงาน – ลดความดีเลย์ระบบสัมผัส 35% ประสิทธิภาพการเล่นเกมเพิ่มขึ้น 20%
ประสิทธิภาพและการเล่นเกมบน realme X50 5G
ด้วยชิปประมวลผลที่จัดอยู่ในระดับสูงอย่าง Qualcomm Snapdragon 765G ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 2.4 GHz กับ RAM 8GB LPDDR4x ส่งผลให้ภาพรวมในการใช้งาน รวมถึงการเล่นเกม realme X50 5G ทำออกมาได้ดีเยี่ยม สามารถเล่นเกมบน Play Store ได้ทุกเกมแบบปรับตั้งค่าสูงสุดเท่าที่เกมจะให้ปรับแต่งได้
ด้านการเล่นเกม ผมทดสอบด้วย PUBG Mobile ซึ่งกราฟิกที่ปรับได้สูงสุดในเกม เฟรมเรตสูง ทำงานผ่าน Game Space ที่ช่วยจัดสรรทรัพยากรระบบให้สามารถเล่นเกมได้ดีขึ้น ภาพที่ได้ก็ไหลลื่น ไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด เช่นเดียวกับเกม CoD Mobile และ RoV ที่ปรับทุกอย่างได้สุด และเล่นได้อย่างลื่นไหลไม่มีกระตุก
ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอะแดปเตอร์และสาย 30W Dart Charge ที่ให้มาในกล่องนั้นก็เร็วทันใจมาก ๆ ครับ การชาร์จไฟจนเต็ม 100% ใช้เวลาราว ๆ 57 นาทีเท่านั้น ส่วนการชาร์จไฟขณะเล่นเกมในเวลา 30 นาที จะสามารถชาร์จไฟเข้าได้ถึง 70% และเช่นเคยในเรื่องระบบความปลอดภัยขณะชาร์จไฟก็มีมากถึง 5 ขั้นตอน ตั้งแต่อะแดปเตอร์ไปจนถึงตัวแบตเตอรี่ เพราะฉะนั้นแม้จะชาร์จเร็ว แต่ก็มั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้ ด้านของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ก็ทำได้ดี ใช้งานทั่วไป + เล่นเกมนิดหน่อยได้เกินวันแบบสบาย ๆ
การเชื่อมต่อ 5G NR ของ realme X50 5G นั้นรองรับ 5G ทั้งซิม AIS 5G และ TrueMove H 5G ในย่านใจกลางเมือง (อโศก, ชิดลม, สยาม) ระดับสัญญาณเต็ม 4 ขีด ทำความเร็วในการดาวน์โหลดได้ประมาณ 300Mbps ขึ้นไป มีข้อสังเกตเล็กน้อยเกี่ยวกับรูปแบบการรับ 5G ที่จะมีฟีเจอร์อย่าง Smart 5G คอยสลับไปใช้การสแตนบายบน 4G เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น แต่พอมีการเรียกใช้อินเทอร์เน็ต ก็จะสลับไปใช้ 5G ทันที
อ่านเพิ่มเติม: วิธีเปิดใช้งาน 5G ในไทย ต้องทำอย่างไร เงื่อนไขอะไรบ้าง รวมอยู่ที่นี่แล้ว
กล้องถ่ายรูป realme X50 5G
กล้องหลัง realme X50 5G มีด้วยกันทั้งหมด 4 กล้อง ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์รับภาพความละเอียดสูง 48MP พร้อมกับกล้อง Ultra wide-angle 8MP กับกล้องมาโคร 2MP ถ่ายได้ใกล้สุด 4 เซนติเมตร และกล้องตัวสุดท้ายเป็นเลนส์ Portrait 2MP พร้อมฟิลเตอร์ B&W
เรื่องกล้องหลักที่ความละเอียดสูงถึง 48MP ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดของไฟล์ภาพนะครับ เพราะว่าถ้าถ่ายด้วยโหมดออโต้ตามปกติ ระบบจะประมวลผลในการรวมพิกเซล (Pixel Binning) แล้วบันทึกภาพลงมาเหลือที่ความละเอียดระดับ 12MP เท่านั้น ซึ่งข้อดีของการรวมพิกเซลแบบนี้ก็คือการรับแสง การเก็บรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ของภาพจะทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนถ้าต้องการถ่ายรูปแบบใช้ความละเอียดเต็ม ๆ 48MP ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน
สรุปสั้น ๆ ว่าในการใช้งานทั่วไป ผมมองว่าไฟล์ภาพ 12MP ที่ได้จากการรวมพิกเซลนั้นเพียงพอต่อการใช้งานมากกว่า 90% แล้วครับ ไฟล์ใหญ่พอที่จะอัพลงโซเชียลมีเดีย หรือต่อให้เอาไปล้างรูปผมว่าก็เกินพอ
โหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจอย่าง Nightscape 3.0 ที่อยู่ใน realme X50 5G โดยปกติโหมดดังกล่าวจะเป็นการถ่ายกลางคืนแบบที่ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการความสว่าง ต้องการความคมชัดขึ้นไปอีกระดับ หรือถ่ายในที่แสงน้อยแบบแทบจะไม่มีแสงจริง ๆ ก็มีตัวช่วยอย่าง Ultra Nightscape Mode + Tripod Mode หรือการใช้ขาตั้งกล้องเข้ามาช่วย หน้าที่ของผู้ใช้ก็คือยึด realme X50 5G เข้ากับขาตั้งกล้อง แล้วกดถ่าย ที่เหลือ AI ประมวลผลให้ทั้งหมดครับ
ส่วนกล้องหน้าของ realme X50 5G เป็นกล้องหน้าคู่ ความละเอียดของเลนส์หลักกล้องหน้าอยู่ที่ 16MP ใช้เซ็นเซอร์ IMX471 กล้องหน้าอีกตัวที่เป็นเลนส์ Portrait ความละเอียด 2MP ช่วยในการทำโบเก้เมื่อถ่ายด้วยโหมด Portrait
โหมดถ่ายภาพในกล้องหน้า realme X50 5G จะว่าไปก็มีมาให้ไม่แพ้กล้องหลังเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นโหมด HDR หรือจะเป็น Nightscape Selfie ที่ใช้กล้องหน้าถ่ายกลางคืนก็ทำได้เช่นกัน
สำหรับการถ่ายวิดีโอของ realme X50 5G จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันระหว่างกล้องหน้ากับกล้องหลัง โดยกล้องหน้าจะรองรับที่ความละเอียดสูงสุด 1080p / 30fps และถ่ายสโลโมได้ที่ 1080p / 120fps มีฟีเจอร์ในการเบลอฉากหลังเมื่อถ่ายวิดีโอ
ส่วนวิดีโอกล้องหลังจะบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K / 30 fps มีระบบกันสั่นวิดีโอทั้งแบบ UIS และ UIS Max และฟีเจอร์ Bokeh เช่นเดียวกับกล้องหน้า
อย่างไรก็ตามในการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลัง ผมแนะนำว่าให้ตั้งค่าความละเอียดไว้ที่ 1080p / 30 fps น่าจะเหมาะสมที่สุดครับ เพราะสามารถใช้งานฟีเจอร์วิดีโอต่าง ๆ ได้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการซูม, การสลับเลนส์ไปใช้ Ultra wide-angle รวมถึงระบบกันสั่นทั้ง Ultra Steady และ Ultra Steady Max
สรุปภาพรวม รีวิว realme X50 5G
ภาพรวมของ realme X50 5G กับการเป็นสมาร์ตโฟนราคาหมื่นต้น ๆ ผมมองว่ารอบนี้ realme ทำราคาออกมาได้ดุทีเดียว เพราะรุ่นนี้ใส่สเปค และฟีเจอร์ต่าง ๆ มาให้ครบครัน ทั้งชิปประมวลผลรุ่นแรง Snapdragon 765G, RAM 8GB LPDDR4x, ROM 128GB UFS 2.1 รวมถึงแบตเตอรี่ 4,200 mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 30W Dart Charge ที่ชาร์จเต็มในเวลาครึ่งชั่วโมง
ยิ่งรวมกับไฮไลต์อย่างการรองรับ 5G ที่สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น AIS หรือ TrueMove H อีกทั้งโมเด็มก็ยังรองรับคลื่นความถี่อื่น ๆ ที่จะถูกนำมาใช้เป็นคลื่น 5G ในประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย ยิ่งทำให้ realme X50 5G มีความน่าสนใจเข้าไปอีก หรือต่อให้พื้นที่ ๆ ไม่รองรับ 5G แต่ภาครับสัญญาณ 4G ของรุ่นนี้ก็รองรับได้สูงสุด 3CA ในด้านการเชื่อมต่อต้องบอกว่าไม่แพ้พวกรุ่นท็อป ๆ เลยล่ะครับ
สำหรับรายละเอียดเพิ่ม และข้อมูลโปรโมชั่น realme X50 5G สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Facebook realme TH และ realme.com/th