ในปัจจุบันประเทศไทยเริ่มมีการให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการแล้ว ถึงตอนนี้จะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม เนื่องจากตอนนี้คลื่นที่เอามาปล่อยให้บริการกันเป็นคลื่น 2600MHz เพียงคลื่นเดียง แถมผู้ที่ให้บริการคลื่น 5G ในปัจจุบันมีเพียง AIS และ TRUE เท่านั้น ซึ่งเราจะมาบอกวิธีเปิดใช้งาน 5G รวมถึงเครื่องที่ทาง AIS และ TRUE ให้การรับรองแล้วว่าสามารถใช้งาน 5G ได้อย่างแน่นอน ถ้าอย่างงั้นเราไปเริ่มกันเลย
เงื่อนไขในการใช้งาน 5G
ในการจะเปิดใช้งาน 5G ของ AIS และ TRUE นั้นเราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อน โดยจะมีเงื่อนไขในการดังนี้
1. อยู่ในพื้นที่ให้บริการ 5G
อย่างแรกเลยที่จะต้องเช็คว่าจะสามารถใช้ 5G ได้ไหมนั่นก็คือการเช็ตพื้นที่ให้บริการ เพราะต่อให้มีเครื่องพร้อม แพ็กเกจพร้อม แต่ไม่อยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการก็เท่านั้น ซึ่งวิธีการเช็คพื้นที่ให้บริการนั้นก็ง่าย ๆ โดยการเข้าไปเช็คให้หน้าเว็บของผู้ให้บริการ หรือในที่นี้ก็คือ AIS และ TRUE แต่หากไม่สามารถเช็คได้ก็ให้สันนิษฐานง่าย ๆ ได้เลยว่าพื้นที่ ๆ มีคนอยู่เยอะ โดยเฉพาะตามห้างและแหล่งธุรกิจจะมีให้ใช้แน่นอน
2. มีเครื่องที่รองรับ 5G
อีกอย่างที่จำเป็นต้องมีในการจะใช้ 5G ก็คือเครื่องที่รองรับ 5G ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มมีเข้ามาขายบ้างแล้ว ซึ่งเครื่องที่เอาเข้ามาขายในไทยนั้นจะรองรับ 5G ทุกคลื่นที่ทำการประมูลไป และเพื่อความมั่นใจเราสามารถเข้าไปเช็คในหน้าเว็บผู้ให้บริการได้ แต่ถึงอย่างนั้นมือถือที่รองรับ 5G และวางขายในไทยอย่างเป็นทางการนั้นก็รองรับ 5G ทั้งหมดแน่ ๆ อยู่แล้ว ทว่าในปัจจุบันยังมีอยู่หลายเครื่องที่ยังไม่สามารถใช้งาน 5G ได้เนื่องมาจากซอร์ฟแวร์ยังไม่รองรับ ส่วนเครื่องที่ทสงผู้ให้บริการอย่าง AIS และ TRUE ให้การยืนยันมาแล้วว่าสามารถใช้งาน 5G ได้จะมีดังนี้
AIS
- HUAWEI Mate Xs 5G
- HUAWEI nova 7 SE 5G
- HUAWEI P40 Pro+ 5G
- HUAWEI P40 Pro 5G
- HUAWEI P40 5G
- HUAWEI Mate 30 Pro 5G
- Samsung Galaxy S20 Ultra 5G
- Samsung Galaxy A71 5G
- OPPO Find X2 Pro 5G
- OPPO Find X2 5G
TRUE
- OPPO Find X2 Pro 5G
- HUAWEI Mate 30 Pro 5G
- Samsung Galaxy S20 Ultra 5G
ในส่วนของ TRUE นั้นปัจจุบันในหน้าเว็บยืนยันเอาไว้แค่ 3 เครื่อง แต่ทว่าเอาจริง ๆ แล้วจำนวนเครื่องที่รองรับก็ไมไ่ด้ต่างจาก AIS เนื่องมาจากทั้ง 2 ฝ่ายนั้นใช้คลื่นแบบเดียวกัน และเครื่องเหล่านี้ก็รองรับทั้งหมดด้วย แต่หากไม่มั่นใจสามารถเช็คได้ด้วยการกดรหัสตรวจสอบที่อยู่ด้านล่างได้เลย
3. มีซิมที่รองรับ 5G
เรื่องซิมการ์ดเองก็สำคัญเพราะหากตัวซิมไม่สามารถรับคลื่น 5G ได้ก็จะไม่สามารถใช้ได้ ซึ่งในปัจจุบันซิมใหม่ ๆ นั้นรองรับ 5G อยู่แล้ว ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนซิมให้เสียเวลาแค่หาเครื่องที่รองรับ 5G มาให้ได้ก็พอ แต่หากเป็นซิมรุ่นเก่าหรือซิมที่ใช้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว ซิมเหล่านี้อาจจะไม่รองรับ และจะต้องเข้าไปทำเรื่องเปลี่ยนซิมกับทางผู้ให้บริการ โดยหากไม่รู้ว่าซิมที่เราใช้นั้นรองรับ 5G ได้หรือไม่สามารถกดรหัสตรวจสอบที่อยู่ด้านล่างได้เลย
4. มีแพ็กเกจที่รองรับการใช้งาน
หลาย ๆ คนคงกังวลกับแพ็กเกจที่ใช้งานอยู่ว่ามันจะสามารถใช้งาน 5G ได้ไหม ซึ่งในปัจจุบันนั้นยังไม่มีแพ็กเกจที่เป็นของ 5G โดยเฉพาะ ทำให้ทางผู้ให้บริการนับจำนวนเน็ต 5G ที่ใช้งานรวมเข้าไปกับแพ็กเกจปกติเลย ดังนั้นไม่ว่าจะใช้แพ็กเกจแบบไหนอยู่ก็สามารถใช้งาน 5G ได้อย่างแน่นอน
วิธีตรวจสอบการใช้งาน 5G
ในปัจจุบันวิธรการตรวจสอบนอกเหนือจากการเช็คอุปกรณืของเราทีละอย่างแล้ว ทางผู้ให้บริการอย่าง AIS และ TRUE ก็ได้ออกหมายเลขรหัสสำหรับช่วยตรวจสอบเอาไว้ให้ ซึ่งรหัสนี้จะสามารถตรวจสอบได้ทั้งซิม, แพ็กเกจ และตัวเครื่องเลย หากสิ่งไหนไม่รองรับ 5G เราก็ต้องไปหาวิธีทำให้รองรับให้ได้นั่นเอง โดยรหัสที่ใช้ในการตรวจสอบจะมีดังนี้
- AIS : *987#
- TRUE : *555*1#
หลังจากที่กดรหัสแล้วระบบจะตอบกลับมาดังภาพด้านล่างนี้ครับ
จากภาพบอกว่า ซิมของผมรองรับ 5G ก็หมายความว่าผมไม่จำเป็นจะต้องไปเปลี่ยนซิมแต่อย่างใด แต่ทว่าเครื่องของผมนั้นไม่รองรับ 5G ก็หมายความว่าหากผมต้องการจะใช้ 5G วิธีที่ต้องทำก็คือหาเครื่องที่รองรับ 5G มาใช้ซะ ก็จะสามารถใช้งานได้แล้ว
วิธีเปิดใช้งาน 5G
หลังจากที่ทำการตรวจสอบทั้งหมดแล้วและเข้าเงื่อนไขในการใช้ 5G ทั้งหมด สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปก็คือการกดรหัสขอเปิดใช้งาน 5G ครับ ซึ่งในการกดรหัสนี้จะได้รับคำตอบกลับมาเป็นข้อความยินดีต้อนรับ และจะได้เน็ตมาให้ทำลองใช้เพิ่มอีกตามแต่ที่ผู้ให้บริการจะกำหนด ซึ่งรหัสในการขอเปิดใช้งาน 5G จะมีดังนี้
- AIS : *212955
- TRUE : *555*2#
หลังจากที่ได้รับข้อความมาแล้ว เน็ตที่ผู้ให้บริการให้มาใช้นั้นจะแตกต่างกันออกไป โดย AIS นั้นจะให้เน็ตมา 10GB และสามารถใช้ได้นาน 30 วัน ส่วน TRUE จะให้เน็ตมาเพียง 500MB แต่จะได้รับทุกวัน ต่อเนื่องนาน 30 วัน ซึ่งเมื่อเน็ตที่ให้มานี้หมดลงแล้วระบบก็จะกลับไปนับเน็ตตามแพ็กเกจปกติ ใครที่มีเน็ต Unlimited ก็สามารถใช้งาน 5G ได้อย่างเต็มที่ ( ใช้ได้จนถึง 31 ตุลาคม 2563 เท่านั้น ) ส่วนใครที่มีแพ็กเกจเน็ตความเร็วสูงสุดแบบมีโควต้าก็จะสามารถใช้งานได้เท่าที๋โควต้ามีอยู่ และแพ็กเกจที่มีการจำกัดความเร็วก็จะยังคงใช้ได้ที่ความเร็วเท่าเดิม
ทั้งนี้เรื่องความเร็วในปัจจุบันนั้นมีหลายที่ยังคงไม่สามารถทำได้สูงสุดตามที่เหล่าผู้ให้บริการได้โฆษณาเอาไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากเครื่องที่รองรับ 5G นั้นอาจมีความเร็วสูงสุดแตกต่างกัน รวมถึงความหนาแน่นของผู้ใช้งานในเวลานั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น ผมได้ลองทดสอบ 5G ที่ตึก G Tower ด้วย 5G ของ TRUE แล้วสามารถทำความเร็วได้เพียง 200 Mbps กว่า ๆ เท่านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะที่ G Tower นั้นมีผู้ใช้งานอยู่มาก และยิ่งช่วงเวลาที่ทดสอบเป็๋นช่วงเลิกงานพอดีอีกด้วย (ภาพทดสอบอยู่ด้านล่าง)
