ตอนที่ OPPO เปิดราคา OPPO Find X2 Series 5G ที่ประกอบไปด้วย OPPO Find X2 5G | OPPO Find X2 Pro 5G ผมเชื่อว่ามีหลายคน รวมถึงตัวผมเองที่ตั้งคำถามเลยว่าทำไม OPPO ถึงได้กล้าที่จะตั้งราคาสมาร์ตโฟนเรือธงสูงขนาดนี้ อย่างรุ่นท็อปสุด Find X2 Pro 5G ราคาพุ่งไปถึง 40,990 บาท แต่เมื่อได้มีโอกาสทดลองใช้ OPPO Find X2 Series 5G เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนตัวผมมองว่า 40,990 บาท กับนวัตกรรมที่มีในสมาร์ตโฟนเครื่องนี้ถือว่า “ไม่แพง” เลยครับ
สเปค OPPO Find X2 Pro 5G
- หน้าจอ Ultra Vision AMOLED 6.7″ ความละเอียด QHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz, HDR10+, 10-Bit Color Depth, 240 Hz Touch Sampling Rate
- มีชิปประมวลผลหน้าจอ O1 Ultra Vision Engine
- CPU: Qualcomm Snapdragon 865 Kyro 585 ความเร็ว 2.84 GHz
- GPU: Adreno 650
- Cellular Modem: Qualcomm Snapdragon X55 5G
- RAM 12GB LPDDR5
- ROM 512GB UFS 3.0
- รองรับการใช้งาน 5G ในประเทศไทย คลื่นความถี่ n41, n28
- การเชื่อมต่อไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6
- กล้องหลัง 48MP IMX689 + 48MP Ultra wide-angle IMX586 + 13MP Periscope Telephoto
- กล้องหลังรองรับการซูม 10x Hybrid Zoom | 60x Digital Zoom
- กล้องหน้า 32MP
- ระบบปฏิบัติการ Color OS 7.1 base on Android 10
- ลำโพงคู่ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และรองรับ Hi-Res Audio
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นาน 30 นาที
- แบตเตอรี่ความจุ 4,260 mAh
- ระบบชาร์จเร็ว Super VOOC 2.0 65W ชาร์จไฟ 100% ได้ใน 38 นาที
- ราคา 40,990 บาท
สเปค OPPO Find X2 5G
- ใกล้เคียงกับ OPPO Find X2 Pro 5G ที่แตกต่างได้แก่
- ROM 256GB UFS 3.0
- กล้องหลัง 48MP IMX568 + 12MP Ultra wide-angle IMX708 + 13MP Telephoto
- กล้องหลังรองรับการซูม 5x Hybrid Zoom | 20x Digital Zoom
- แบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP54
- ราคา 33,990 บาท
ในรีวิว OPPO Find X2 Series 5G ผมจะขอรวบทั้ง OPPO Find X2 และ OPPO Find X2 Pro 5G เข้าไว้ในบทความเดียว เพราะมีหลายสิ่งที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล Snapdragon 865 5G, หน้าจอ, ระบบชาร์จเร็ว ส่วนความแตกต่างระหว่างสองรุ่นนี้ กับส่วนต่างราคา 7,000 บาท ผมมองว่า OPPO วางราคาได้ดีเลยล่ะ
เอาเป็นว่าหากต้องการสมาร์ตโฟนเรือธงที่ทำทุกอย่างได้ดีตามมาตรฐาน (บางอย่างก็ยังสูงเกินมาตรฐานอยู่ดี) ชอบถ่ายรูปประมาณหนึ่ง ในงบประมาณสามหมื่นบาทบวกลบเล็กน้อย ผมมองว่า OPPO Find X2 5G เป็นตัวเลือกที่ดีเป็นอันดับต้น ๆ ในตอนนี้ แต่ถ้าต้องการความเป็นที่สุด อยากได้กล้องที่ประสิทธิภาพดีขึ้น อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่เป็นอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน จัดไปกับ OPPO Find X2 Pro 5G รับรองไม่ผิดหวังครับ
Display – หน้าจอ
OPPO Find X2 Series 5G มาพร้อมกับหน้าจอ Ultra Vision Screen ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ที่ 120Hz Refresh Rate พาแนลแบบ AMOLED ขอบเขตสี DCI P3 100% และเป็นหน้าจอ 10-Bit Color depth แสดงสีสันได้กว่า 1 พันล้านสี (True Billion Color) รองรับวิดีโอมาตรฐาน HDR 10+ ความสว่างสูงสุด 1,200 nits
ความแม่นยำในของสีหน้าจอ OPPO Find X2 Series 5G นั้นเทียบเท่าจอแสดงผลในระดับมืออาชีพ โดยแต่ละเครื่องจะได้รับการ Calibrate เพื่อให้ได้ค่าสีที่ถูกต้องโดยเฉลี่ย 0.4 JNCD อีกทั้งมีการปรับแต่งสีสันหน้าจอโดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับแต่งสีชั้นนำ นอกจากนี้หน้าจอของ OPPO Find X2 Series 5G ยังมีอัตราการสะท้อนที่ต่ำเพียง 4.4% ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การอ่าน การรับชมคอนเทนต์ แต่ยังทำให้การแสดงผลสีดำออกมาดำเข้มสมจริงอีกด้วย
การที่หน้าจอของ OPPO Find X2 Series 5G เป็นหน้าจอแบบ 120Hz refresh rate ช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสกับหน้าจอที่ไหลลื่นยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์การเล่นเกมให้สมจริงมากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมกับการตอบสนองหน้าจอที่รวดเร็ว 240Hz touch sampling rate เพียง 4.2ms ทำให้ในการเล่นเกมด้วย OPPO Find X2 Series 5G มีทั้งความลื่นไหล และการตอบสนองที่เร็วกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไป
ส่วนในการใช้งานปกติ หน้าจอแบบ 120Hz ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลตั้งแต่การปัดหน้าจอ, การเลื่อน Feed ยาว ๆ ไปจนถึงการรับชมคอนเทนต์วิดีโอที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว เช่น การรับชมกีฬา, รับชมภาพยนตร์แอ็กชั่น เป็นต้น
ณ ชั่วโมงนี้ ผมว่าหน้าจอของ OPPO Find X2 Series 5G ถือเป็นที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน
หน้าจอของ OPPO Find X2 Series 5G ถือเป็นที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน เพราะไม่ใช่แค่เป็นหน้าจอสเปคสูง แต่ยังถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้จริง ด้วยการใส่ชิป O1 Ultra Vision Engine ช่วยให้ทุกคอนเทนต์ที่แสดงผลบนหน้าจอ OPPO Find X2 Series มีทั้งความลื่นไหล และสามารถแปลงวิดีโอธรรมดา ให้เป็น HDR ได้อีกด้วย (SDR to HDR) ส่วนการการันตีความเทพของหน้าจอ OPPO Find X2 Pro 5G และ OPPO Find X2 5G นั้นได้รับคะแนน Grade A+ จาก DisplayMate ครับ
O1 Ultra Vision Engine ใน OPPO Find X2 Series มีหน้าที่หลัก ๆ ดังนี้
- Motion Clear: ฟีเจอร์นี้ทำให้หน้าจอของ OPPO Find X2 Series 5G แตกต่างไปจากหน้าจอ 120Hz ของแบรนด์อื่นที่มีในท้องตลาด เพราะเป็นการแทรกเฟรมเข้าไปในขณะที่รับชมวิดีโอ ต่อให้รับชมวิดีโอที่ถ่ายทำมาเพียง 30 fps หรือ 60 fps เมื่อเปิดบนหน้าจอของ OPPO Find X2 Series 5G ก็จะแสดงผลได้ลื่นไหลเหมือนเป็น 120 fps ซึ่งจะเห็นผลมากเวลารับชมวิดีโอที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว ๆ โดยในตอนนี้สื่อสตรีมมิ่งหลักที่ทำงานร่วมกับ Motion Clear ได้แก่ YouTube (60fps/ 120fps), Tencent Sports (60fps/ 120fps), Amazon (60fps), Netflix (60fps) และอื่น ๆ อีกในอนาคต
- HDR Video Enhancement: อีกหนึ่งจุดเด่นของ O1 Ultra Vision Engine ที่ช่วยให้หน้าจอของ OPPO Find X2 Series 5G มีความสามารถในการแปลงวิดีโอ SDR เป็นวิดีโอ HDR เพื่อให้ได้คุณภาพวิดีโอที่ดีขึ้น รวมถึงมีการแสดงผลที่ชัดเจน สีสดใส และช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นอีกด้วย
สรุปง่าย ๆ เกี่ยวกับชิป O1 Ultra Vision Engine ก็คือตัวช่วยในการแสดงผลของ OPPO Find X2 | OPPO Find X2 Pro 5G ให้มีความลื่นไหลมากกว่าปกติ (120 fps) และในการรับชมวิดีโอ ยังสามารถแปลงทุกวิดีโอให้เป็น HDR ได้แม้จะไม่ได้ถ่ายมาแบบ HDR ก็ตาม
ด้านความปลอดภัยในการใช้งานหน้าจอ Ultra Vision Screen ของ OPPO Find X2 | OPPO Find X2 Pro 5G หน้าจอของสมาร์ตโฟนดังกล่าว ผ่านมาตรฐาน TÜV Rheinland Eye Care certification ลดแสงสีฟ้าได้ถึง 40% ลดปัญหาเรื่องกระพริบของหน้าจอ AMOLED ในความสว่างต่ำ อีกทั้งมีฟีเจอร์ถนอมดวงตาอย่าง AI Adaptive พร้อมการรับรองจาก TÜV Rheinland Full Care Display Certification
นอกจากหน้าจอที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ในเรื่องของระบบเสียง OPPO Find X2 Pro 5G และ OPPO Find X2 5G ยังมาพร้อมกับลำโพงคู่ กับระบบเสียง Dolby Atmos และยังรองรับไฟล์เพลงคุณภาพสูง Hi-Res อีกด้วย
Camera – กล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปของ OPPO Find X2 Pro 5G ถือเป็นไฮไลท์ของสมาร์ตโฟนซีรี่ส์นี้ ถึงแม้ตัวเลขความละเอียดของกล้องถ่ายรูปอาจดูไม่หวือหวา ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 48MP Wide Angle, เลนส์มุมกว้าง 48MP Ultra Wide Angle และกล้องซูม Telephoto 13MP แบบ Periscope แต่ในแง่ของเทคโนโลยีกับนวัตกรรมนั้นจัดอยู่ในระดับท็อปของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนในตอนนี้เลยก็ว่าได้
48MP Wide Angle Camera กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์รุ่นท็อป Sony IMX689 ขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ถึง 1/1.43 นิ้ว f/1.7 ขนาดพิกเซลเดียว 1.12μm โดยเซ็นเซอร์รุ่นนี้ออกแบบมาให้ทำงานแบบ Pixel Binning ในการถ่ายภาพโหมด Auto จะเป็นการรวม 4 พิกเซลเป็น 1 พิกเซลขนาดใหญ่ 2.24μm ที่ความละเอียด 12MP มีไฮไลท์ที่น่าสนใจดังนี้ครับ
- All Pixel Omni-Directional PDAF: ระบบโฟกัสแบบใหม่ที่สามารถโฟกัสได้ในทุกจุด ทุกพิกเซลสามารถโฟกัสได้หมด เพราะฉะนั้นการโฟกัสจุดเล็ก ๆ ในการถ่ายภาพจึงไม่ใช่ปัญหา อีกทั้งยังสามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วแม้จะมีแสงน้อยก็ตาม (มีการใช้ Laser Focus ช่วยในที่แสงน้อยมาก ๆ) แตกต่างจากระบบโฟกัสแบบ PDAF แบบปกติ ที่ความเร็วในการโฟกัสจะลดลงเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย
- Dual Native ISO: สามารถตรวจจับแสงได้โดยอัตโนมัติตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน แบ่งชุดวงจรไฟฟ้าแยกระหว่าง ISO สูงในที่แสงน้อย เพื่อให้ได้ภาพที่สว่าง และลด Noise ส่วน ISO ต่ำ ใช้ในที่แสงมากพอเพื่อเพิ่ม Dynamic Range, ความอิ่มตัวของสี รวมถึงรายละเอียดในภาพถ่าย
- 12-bit True Capture: ในการบันทึกไฟล์ RAW ด้วย OPPO Find X2 Pro 5G จะได้ไฟล์ RAW 12-bit ที่มี Dynamic Range กว้างกว่าการบันทึกไฟล์ RAW 10-bit ถึง 4 เท่า เหมาะกับการนำมาแต่งภาพต่อในโปรแกรมระดับ Professional
- Ultra Night Mode 3.0: โหมดถ่ายภาพกลางคืนใน OPPO Find X2 Pro 5G ถูกอัพเกรดให้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า รองรับการทำงานร่วมกับเลนส์ทั้ง 3 ระยะ
- Live HDR Video: การบันทึกวีดีโอแบบ 10-Bit Live HDR ใช้ในกรณีถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อย (จำกัดแค่ 30 fps) จะทำให้สามารถเห็นทั้งไฮไลท์ และแสงเงาได้ชัดเจน ยิ่งขึ้น
- Ultra Steady 2.0: เซ็นเซอร์หลักนอกจากรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps ยังมาพร้อมกับความสามารถในการกันสั่น จากที่ได้ทดสอบมา หากเป็นการเดินถ่ายวิดีโอ ไปจนถึงเดินเร็ว ความนิ่งอยู่ในระดับที่น่าประทับใจทีเดียวครับ
48MP Ultra Wide Angle เลนส์มุมกว้างพิเศษของ OPPO Find X2 Pro 5G ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ใช่แล้วครับ เซ็นเซอร์ตัวเดียวกับที่อยู่ในกล้องหลักของเรือธงหลายรุ่นที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่ OPPO จับมาใช้ทำกล้องเลนส์มุมกว้างซะอย่างนั้น มีขนาดเซ็นเซอร์อยู่ที่ 1/2 นิ้ว รูรับแสง f/2.2 ถ่ายภาพได้มุมกว้าง 120 องศา พร้อม Anti-Distortion หรือป้องกันภาพบิดเบี้ยว
- Ultra Macro Mode: เลนส์มุมกว้างพิเศษของ OPPO Find X2 Pro 5G สามารถถ่ายมาโครได้ใกล้สุดที่ 3 เซนติเมตร ใกล้ในระดับที่เก็บหยดน้ำตรงแก้วกาแฟ หรือสามารถเก็บรายละเอียดเกสรดอกไม้ได้สบาย ๆ อีกทั้งความละเอียดที่ได้สูงถึง 48MP
- Ultra Steady Video Pro: หากต้องการถ่ายวิดีโอที่ต้องเคลื่อนไหวเร็วขึ้นมาหน่อย เช่น วิ่งถ่ายวิดีโอ หรือปั่นจักรยาน การเลือกโหมด Ultra Steady Video Pro เป็นทางเลือกที่ดีครับ เพราะจะให้ความนิ่งที่มากกว่า Ultra Steady Video ปกติ แต่จะถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 1080p 60 fps เท่านั้น
13MP Periscope Telephoto เลนส์ซูมที่สามารถซูมได้ไกล 10x Hybrid Zoom เท่ากับว่าระยะในการใช้งานปกติของกล้อง OPPO Find X2 Pro 5G จะเทียบเท่ากับการมีเลนส์ระยะ 16 – 160 มิลลิเมตร และสามารถซูมได้ไกลสุด 60x Digital Zoom (ซูมวิดีโอ 30 ได้เท่า) โดยระยะซูมดังกล่าวแม้จะเทียบเท่ากับเมื่อตอน OPPO Reno 10x Zoom แต่จากที่ได้ลองใช้งานจริง ผมว่ามันซูมได้สมูท แล้วก็นิ่งกว่าพอสมควรครับ
ในการถ่ายภาพด้วย OPPO Find X2 Pro 5G ส่วนตัวผมมองว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ตอบโจทย์การถ่ายภาพได้ในทุกระยะ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ซอฟต์แวร์ปรับแต่งมาดี ถ่ายสวย ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน อันที่จริงก็สามารถหยิบ ยก ถ่ายได้เลยครับ ระบบโฟกัสแบบ All Pixel Omni-Directional PDAF รวดเร็ว และแม่นยำในทุกสถานการณ์จริง ๆ หรือถ้าใครที่ต้องการแต่งภาพเอง ก็สามารถถ่ายด้วยโหมด Expert ได้เช่นกัน ไฟล์ RAW 12-Bit ที่ได้จาก OPPO Find X2 Pro 5G ผมลองเอามาแต่งเพิ่มผ่านโปรแกรม Adobe Lightroom ในคอมพิวเตอร์ สามารถดึงรายละเอียดต่าง ๆ ได้มากพอตัวเลยครับ เมื่อเทียบกับไฟล์ RAW จากสมาร์ตโฟนยี่ห้ออื่น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง OPPO Find X2 Pro 5G
ส่วนการถ่ายวิดีโอด้วย OPPO Find X2 Pro 5G ส่วนตัวผมชอบที่สามารถถ่าย 60 fps ได้แทบจะทุกโหมดวิดีโอ แม้จะเป็นกันสั่นระดับเทพอย่าง Ultra Steady Video Pro ก็ถ่ายได้ที่ 1080p 60 fps และยังมาพร้อมกับไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียงถึง 3 ตัวด้วยกัน เก็บเสียงได้อย่างชัดเจน พร้อมฟีเจอร์อย่าง Audio Zoom หรือการซูมเสียงในขณะที่ซูมวิดีโอ
นอกจากนี้ OPPO Find X2 Series 5G ยังมีแอปพลิเคชั่น SoLoop ที่ช่วยในการตัดต่อวิดีโอแบบง่าย ๆ ในระดับที่ผู้ใช้แทบไม่ต้องกดอะไร SoLoop ก็จะทำการตัดวิดีโอให้โดยอัตโนมัติ พร้อมใส่ Transition และ Text ให้พร้อมแชร์บน Social ทันที
กล้องหน้าของ OPPO Find X2 Series มีความละเอียด 32MP เซ็นเซอร์ IMX616 ทำงานร่วมกับ AI ในการถ่ายภาพ และมีโหมดกลางคืน Ultra Night Mode รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 1080p
ส่วนกล้องหลังของ OPPO Find X2 5G จะมีความแตกต่างจากรุ่น OPPO Find X2 Pro 5G ประกอบไปด้วยกล้องหลัก 48MP เซ็นเซอร์ IMX568 + 12MP Ultra wide-angle IMX708 + 13MP Telephoto ที่รองรับการซูม 5x Hybrid Zoom และ 20x Digital Zoom
Performance – ประสิทธิภาพ
OPPO Find X2 Series มาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวท็อปสุดของ Qualcomm ในรุ่น Snapdragon 865 พร้อมโมเด็ม Snapdragon X55 ที่รองรับการใช้งาน 5G ทั้งแบบ SA / NSA อีกทั้งการันตีว่าสามารถใช้งาน 5G ในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน ทั้ง AIS, TrueMove H และ dtac แต่ต้องรอการอัพเดตเฟิร์มแวร์เพื่อให้สามารถใช้งาน 5G ได้ และนอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานแบบซิมคู่ 5G + 4G ได้พร้อมกัน
ความแรงของ Snapdragon 865 + Adreno 650 GPU อยู่ในระดับที่สามารถเล่นได้ทุกเกมที่มีให้ดาวน์โหลดบน Google Play Store แบบปรับสุดทุกเกมได้สบาย ๆ อีกทั้งแรมของ OPPO Find X2 Series ยังเป็นแบบ LPDDR5 ที่มี Bandwidth เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 30% ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลโดยรวมดีขึ้น 25% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นท็อปของปีที่แล้วอย่าง Snapdragon 855
ความแตกต่างเดียวของ OPPO Find X2 กับ OPPO Find X2 Pro ในด้านประสิทธิภาพมีเพียงอย่างเดียว คือความจุในตัวเครื่องที่ไม่เท่ากัน โดย OPPO Find X2 5G มาพร้อมกับความจุในตัวเครื่อง 256GB ส่วน OPPO Find X2 Pro 5G มีความจุสูงถึง 512GB ทั้งคู่เป็นแบบ UFS 3.0
การเชื่อมต่อ Wi-Fi ของ OPPO Find X2 Series 5G รุ่นนี้รองรับ Wi-Fi 6 – 802.11ax มีความเร็วในการเชื่อมต่อสูงสุดที่ 1.4 Gbps นอกจากความเร็วที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับมาตรฐาน 802.11ac ยังมีความเสถียรที่มากกว่าอีกด้วย
แบตเตอรี่ของ OPPO Find X2 5G มีความจุสูงถึง 4,200 mAh และความจุ 4,260 mAh ใน OPPO Find X2 Pro 5G และเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ Tandem dual cell จากที่ได้ใช้งานมา ถือว่าการจัดการพลังงานที่ดีเยี่ยม สามารถใช้งานได้หมดวันแบบไม่ต้องพก Powerbank ก็ยังไหว
ส่วนการชาร์จไฟ รุ่นนี้รองรับการชาร์จไฟแบบ 65W Super VOOC 2.0 (10V, 6.5A) ผ่านพอร์ต USB Type-C มีความเร็วในการชาร์จไฟสูงมาก ใช้เวลาเพียง 38 นาทีก็สามารถชาร์จไฟเต็ม 100% หรือในกรณีที่ใช้เวลา 30 นาที จะสามารถชาร์จไฟได้ถึง 97% เลยทีเดียว เรื่องความปลอดภัยก็หายห่วง เพราะ Super VOOC 2.0 มีการรักษาความปลอดภัยถึง 5 ระดับ นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จด่วนร่วมกับอะแดปเตอร์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น VOOC 20W, PD 18W และ Quick Charge 18W อีกด้วยครับ
Design – การออกแบบ
ในด้านการออกแบบ OPPO Find X2 Series เป็นสมาร์ตโฟนที่มีความพิถีพิถันในรายละเอียด อย่างหน้าจอที่เป็นจอโค้ง แต่มีความโค้งอยู่ที่ 67.8 องศา เป็นความโค้งที่ OPPO วิจัยมาแล้วว่าให้ความสมดุลทั้งการมองเห็นและการสัมผัส รวมถึงเหมาะสมกับการใช้งานในแบบ Gesture Control ขอบหน้าจอด้านบนล่างเพียง 2.9 มิลลิเมตร
ด้านการกันน้ำกันฝุ่น OPPO Find X2 Pro 5G มีความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ที่ความลึก 1.5 เมตรนาน 30 นาที ส่วน OPPO Find X2 5G กันละอองน้ำในระดับ IP54
วัสดุฝาหลังของ OPPO Find X2 Pro 5G มีทั้งแบบผิวสัมผัสแบบเซรามิก และหนังไมโครไฟเบอร์ แต่เบื้องต้นรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มีเพียงสีดำ Ceramic Black ส่วนสี Orange ของ OPPO Find X2 Pro 5G ที่เป็น Limited Edition จะวางจำหน่ายประมาณสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ทางด้าน OPPO Find X2 5G วางจำหน่าย 2 สี ได้แก่ Black และ Ocean Blue และที่เห็นฝาหลังโล่ง ๆ แบบนี้ เนื่องจาก OPPO Find X2 Series 5G ใช้ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า กับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ภาพรวมในด้านการออกแบบของ OPPO Find X2 Series 5G ผมมองว่า OPPO ทำได้ดีตามมาตรฐานของแบรนด์นี้ครับ ดีไซน์มีความสวยงาม วัสดุหรูหรา การใช้งานถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่จับถือตัวเครื่องได้สะดวกทีเดียว น้ำหนักตัวเครื่องไม่มากจนเกินไปอีกด้วย
Software – ระบบปฏิบัติการ
สำหรับระบบปฏิบัติการของ OPPO Find X2 Series 5G ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ ColorOS 7.1 ที่มีพื้นฐานบน Android 10 ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงจาก ColorOS เวอร์ชั่นก่อน ๆ พอสมควร โดยเฉพาะในด้านการออกแบบ มีรูปแบบไอคอนให้เลือกใช้มากขึ้น รวมถึงสีที่มีความอิ่มตัวน้อยลง ทำให้ใช้งานได้สบายตามากยิ่งขึ้น และยังรองรับ Dark Mode หรือโหมดมืด
ColorOS 7.1 มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง OPPO Relax ที่เป็นการเล่นเสียงเพื่อช่วยผ่อนคลาย หรือเพิ่มสมาธิให้กับการทำงาน มีเสียงหลายรูปแบบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงธรรมชาติ ไปจนถึงดนตรีที่ให้บรรยากาศแบบร้านกาแฟ
ด้านความปลอดภัยของข้อมูล ColorOS 7.1 มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Multi-user Mode สามารถแยกข้อมูลผู้ใช้ในบัญชีที่ต่างกัน โดยแต่ละบัญชีสามารถตั้งค่ารหัสผ่าน ตั้งค่าระบบของตนเองได้ และมีการแยกข้อมูลออกจากกัน หรือฟีเจอร์อย่าง Private Safe พื้นที่พิเศษสำหรับปกป้องเอกสาร รูปภาพ วิดีโอไม่ให้ถูกเข้าถึงได้โดยง่าย
ราคา และโปรโมชั่น Pre-Order
OPPO Find X2 Series 5G พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 20 มีนาคมนี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สำหรับราคาของ OPPO Find X2 Series 5G จะเป็นดังนี้ครับ
- OPPO Find X2 5G ราคา 33,990 บาท
- OPPO Find X2 Pro 5G ราคา 40,990 บาท
ส่วนโปรโมชั่นพรีออเดอร์ OPPO Find X2 Series 5G เริ่มตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 19 มีนาคม 2563 พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ กับส่วนลดสูงสุดถึง 15,000 บาท เมื่อซื้อพร้อมแพ็คเกจกับผู้ให้บริการเครือข่าย
สำหรับผู้ที่ทำการซื้อ OPPO Find X2 Series 5G ทั้งรุ่น OPPO Find X2 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G รับฟรีของสมนาคุณมูลค่ารวม 15,739 บาท ประกอบด้วย OPPO Enco Free True Wireless Headphones, 50W SuperVOOC Car Charger และ VIP Card