ในปีนี้ Vivo ได้ทำการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อย่าง Vivo V7+ ซึ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นแรกจาก Vivo ที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบ FullView 5.99 นิ้ว โดยมีจุดเด่นในเรื่องของกล้องหน้าที่มีความละเอียดมากกว่าเดิมถึง 24 ล้านพิกเซล และชิปเสียง Hi-Fi AK4376A มาพร้อมกับการดีไซน์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ วันนี้เราก็จะพามาทำความรู้จักกับ 7 จุดเด่นที่ทำให้เราต้องเลือกซื้อ Vivo V7+ มาใช้งานจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยดีกว่า
1.หน้าจอ Full View
Vivo V7+ มาพร้อมกับดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาใหม่พร้อมกับหน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD + ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่ามันจะใหญ่ไปหรือเปล่ากับจอขนาด 5.99 นิ้วอันนี้ของบอกเลยว่ามีขนาดที่ไม่ใหญ่หรือแตกต่างไปจากโทรศัพท์ที่มีขนาดจอ 5.5 นิ้วเลย เพราะว่า Vivo V7+ ได้ลดพื้นที่หน้าจอบนและล่างลงไปทำให้เราได้พื้นที่หน้าจอเพิ่มมากขึ้นในขนาดที่มีตัวเครื่องเท่าเดิม
2. กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล
มาดูที่จุดเด่นของ Vivo V7+ กับกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 ที่มีจุดเด่นเรื่องความคมชัดและการจัดการภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นกว่าเซนเซอร์รุ่นก่อน จากที่ลองใช้มากล้องหน้าของ Vivo V7+ สามารถถ่ายออกมาได้ดีมาก ๆ ให้ความคมชัดที่สูง มาพร้อมกับการเกลี่ยผิวของตัวซอฟท์แวร์ที่ทำออกมาได้ดีมาก รับรองว่าปรับสุดก็ดูไม่ปลอมอย่างแน่นอน นอกจากนี้กล้องหน้ายังรองรับ Face Beauty แบบ VDO Call อีกด้วย
ถ่ายด้วยกล้องหน้าของ Vivo V7+ ฝั่งซ้ายไม่เปิดแฟลช ฝั่งขวาเปิดแฟลช จะเห็นได้ว่าไม่เปิดแฟลชก็สามารถทำภาพออกมาได้ดีอยู่แล้วพอเปิดยิ่งทำให้หน้าของเรานั้นเนียนผ่องมากขึ้นกว่าเดิม
3.กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล
กล้องหลังของ Vivo V7+ มีเซนเซอร์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED การถ่ายรูปโฟกัสภาพทำได้รวดเร็วดี มีโหมดการใช้งานให้เลือกใช้เยอะดีเช่น HDR ถ่ายกลางคืน,ULTRA HD,PPT,ภาพถ่ายมืออาชีพ,ภาพเคลื่อนไหว ภาพต่อเนื่อง,พาโนรามา โดยภาพที่ได้ถือว่าทำออกมาได้ดีมีความคมชัดให้สีสันที่สวยงาม
4.ชิพเสียง Hi-Fi Ak4376A
ขาดไม่ได้เลยสำหรับมือถือจาก Vivo นั่นก็คือฟีเจอร์ระบบเสียง Hi-Fi ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของทางค่าย โดย Vivo V7+ มาพร้อมกับชิปเสียง Hi-Fi AK4376A ที่ Vivo ได้ร่วมมือกับทาง Asahi Kasei Microdevices Corporation บริษัทเครื่องเสียงชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น โดยการฟังเพลงผ่านหูฟังนั้นระบบก็จะเปิดใช้งานระบบเสียงแบบ Hi-Fi ให้โดยอัตโนมัติ ทำให้เราได้เสียงที่ดีและมีมิติมากกว่าเดิม
5.Game Mode
โหมดเกมส์ของ Vivo สามารถป้องกันสายโทรเข้าและข้อความที่เข้ามารบกวนระหว่างการเล่นเกมส์ได้ทำให้เราไม่ถูกขัดจังหวะในการเล่นเกม
6.ระบบจดจำใบหน้า
ฟังก์ชั่นใหม่ของ Vivo V7+ มีการสแกนหลายจุดบนใบหน้าและจะปลดล็อกเครื่องได้โดยการกดปุ่มเปิดหน้าจอ 1 ครั้งแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจอเพียงเท่านี้ฟังก์ชั่นการปลดล็อคด้วยใบหน้าก็จะเริ่มทำการปลดล็อกทันที
7.วัสดุการออกแบบที่ดีในราคาเพียง 11,990 บาท
ตัวเครื่อง Vivo V7+ ถูกออกแบบมาแบบ Unibody ไร้รอยต่อให้สัมผัสที่เรียบเนียนมาก ด้านบนและล่างจะมีเส้น ๆ เสาอากาศที่ทาง Vivo ออกแบบมาให้มีความบางกว่าเดิมดูแล้วไม่รบกวนสายตา ตัวเครื่องโดยรวมแล้วถือว่าคุ้มค่ากับราคาค่าตัวมาก ๆ เพราะ Vivo V7+ มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 11,990 บาทเท่านั้น โดยตอนนี้คนที่สนใจเจ้า Vivo V7+ ก็สามารถไปหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าใกล้บ้านหรือในงาน TME ที่กำลังจัดอยู่ก็ได้เพราะตอนนี้มีแถมของแถมต่าง ๆ มากมายเช่น Boxset , กระเป๋าเดินทาง , Premium Set และอื่น ๆ อีกมากมาย