สำหรับมือถือใรช่วงราคาไม่เกิน 10,000 บาท หรือช่วงราคาประมาณ 5,500 – 10,000 บาท ณ ตอนนี้ได้กลายเป็นโทรศัพท์มือถือที่หลายคนให้ความสนใจไปแล้ว เนื่องจากเป็นช่วงราคาที่หลายคนรับได้กับการจ่ายไปเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ และโทรศัพท์มือถือในช่วงราคาดังกล่าวก็มีสเปคที่ดีกว่าราคาต่ำกว่า 5,000 บาทพอสมควร ทั้งในเรื่องของ CPU, Ram, หน้าจอใหญ่, แบตเตอรี่อึด รวมถึงกล้องหน้า-กล้องหลังด้วย หรือพูดง่ายๆ ก็คือเป็นช่วงราคาที่โทรศัพท์มือถือครบเครื่องที่สุด สำหรับตลาดบ้านเราก็แล้วกัน
และวันนี้ผมก็มีโทรศัพท์มือถือจำนวน 5 รุ่น มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ใช้เป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ รับรองว่า 5 รุ่นที่คัดมาแล้วเนี่ย เด็ดๆ และคุ้มค่าด้วยกันทุกรุ่น ใครถูกใจยี่ห้อไหนก็จัดไปได้เลย
ว่าแต่เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่โทรศัพท์มือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาทก็ให้ Ram มาถึง 4 GB เนี่ย!!
1. Lenovo K4 Note ราคา 7,590 บาท
เปิดมารุ่นแรกก็ว้าวไปเลย สำหรับ Lenovo K4 Note โทรศัพท์มือถือ Ram 3 GB หน้าจอใหญ่ 5.5 นิ้ว แบตเตอรี่สุดอึด 3000 mAh ขับเคลื่อนด้วย MediaTek MT6753 ซีพียูแบบ Quad Core ความเร็ว 1.3 GHz ซึ่งดูจากสเปคต่อราคาแล้วถือว่าโหดกว่ารุ่นอื่นในช่วงราคาใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Ram 3 GB ที่ช่วยให้ Lenovo K4 Note สามารถเปิดใช้งานแอปพลิเคชันได้มากกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องแรมหมดแล้วเครื่องจะอืด แถมยังมีการ Bundle ขายร่วมกับแว่น VR ที่ช่วยให้ Lenovo K4 Note ตอบโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิงได้อย่างเต็มสูบ อีกทั้ง Lenovo K4 Note ยังมีฟีเจอร์ที่พิเศษกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ คือมาพร้อมกับโหมด VR ที่จะทำให้คอนเท้นทุกอย่างบน Lenovo K4 Note สามารถขยายขึ้นแว่น VR ได้ โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าวีดีโอ, หรือคอนเท้นนั้นๆ จะทำมาเพื่อรองรับ VR หรือไม่
แต่ข้อสังเกตของ Lenovo K4 Note จะสืบเนื่องมาจากการประหยัดพลังงานของมือถือเครื่องนี้นี่แหละครับ ด้วยความที่ Lenovo ต้องการให้ Lenovo K4 Note เป็นมือถือที่เน้นด้านความบันเทิง และในทางกลับกันก็ต้องการให้ใช้งานได้อย่างยาวนานด้วย หวยจึงมาออกที่ CPU MediaTek MT6753 ซึ่งเป็นรุ่นประหยัดพลังงาน ทำให้การเล่นเกมจึงไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่ มีอาการกระตุกอย่างเห็นได้ชัดในบางเกม หรืออาจจะต้องปรับกราฟฟิคเป็นแบบความละเอียดต่ำในบางเกมเพื่อให้เล่นเกมได้ลื่น
2. Acer Liquid Z630S ราคา 8,990 บาท
โทรศัพท์รุ่นที่ 2 ที่จะมาแนะนำกันในวันนี้ก็คือ Acer Liquid Z630s มือถือดีที่โลกลืมอีกหนึ่งรุ่น ด้วยสเปคที่ให้มาแบบจัดหนักตามแบบที่ถูกจริตคนไทย จอใหญ่ แบตอึด สเปคแจ่ม ราคาต่ำหมื่น อยู่ในมือถือรุ่นนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น CPU MediaTek 6753 Octa Core ความเร็ว 1.3 Ghz พร้อม Ram 3 GB บนหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ให้ความจุมาที่ 32 GB เพียงพอสำหรับบางคนแบบไม่ต้องพึ่ง MicroSD Card และทีเด็ดอย่างแบตเตอรี่ความจุสูง 4000 mAh อึดแบบข้ามวันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ราคาของ Acer Liquid Z630s เมื่อซื้อผ่าน Online ที่ Jaymart จะเหลือเพียง 6,990 บาทเท่านั้น พูดกันตามตรง กับราคาเปิดตัว 8,990 บาทอาจจะดูไม่ว้าว แต่ถ้าลดลงมาเหลือ 6,990 บาทนี่มีหลายยี่ห้อร้องเลยล่ะครับ
- สเปค Acer Liquid Z630s
- รีวิว Acer Liquid Z530s (สามารถอ่านแทนกันได้ สองรุ่นนี้ต่างกันที่ขนาดหน้าจอกับแบตเตอรี่เท่านั้น)
3. ASUS Zenfone 2 Deluxe ราคา 9,990 บาท
ถัดมาจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากโทรศัพท์มือถือขวัญใจมหาชนอย่าง ASUS Zenfone 2 Deluxe รุ่นปัดฝุ่น ปรับสเปคนิดหน่อย ใส่ฝาหลัง Crystal Cut แบบรุ่น Deluxe ลดความจุลงมาเหลือ 32 GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้อีก 64 GB และกดราคาลงมาเหลือเพียง 9,990 บาท (แต่ก่อนคือรุ่นที่เคยขายเฉพาะที่ dtac สมัยเปิดตัว Zenfone 2 ใหม่ๆ) กลายเป็นมือถือ Ram 4 GB ราคาถูกที่สุดไปโดยปริยาย
ด้านสเปคอื่นๆ ก็เหมือน ASUS Zenfone 2 Ram 4 GB เลยครับ ทั้งหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD, CPU Intel Atom Z3580 ความเร็ว 2.3 GHz จะเล่นเกมหนักก็ไม่มีหวั่น ติดที่จะซดแบตเตอรี่เยอะไปหน่อย แต่ก็ถูกชดเชยด้วยระบบ Fast Charging ที่ชาร์จไฟจาก 0 – 60% ในเวลาเพียง 39 นาที ถือว่าเติมไฟได้เร็วมากสำหรับมือถือแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
4. OPPO F1 ราคา 8,990 บาท
รุ่นที่ 4 สำหรับโทรศัพท์มือถือน่าซื้อราคาไม่เกิน 10,000 บาท ได้แก่ OPPO F1 มือถือจาก OPPO ที่มาพร้อมสโลแกนใหม่ OPPO Camera Phone หรือมือถือเน้นกล้อง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ OPPO F1 ไม่ได้มีดีแค่กล้องหน้า – กล้องหลัง เพราะตัวสเปคเองก็ให้มาเต็มเหมือนกัน ทั้ง Ram 3 GB, ซีพียู Snadragon 615 Octa Core ความเร็ว 1.5 GHz รองรับการใช้งานหนักๆ และแน่นอนว่าเป็น Snapdragon 615 ที่เล่นเกมได้ลื่นรุ่นหนึ่ง ต้องยกความดีความชอบให้กับการปรับแต่ง ColorOS ซอฟท์แวร์ของ OPPO F1 ให้สามารถดึงความสามารถของชิปเซ็ตออกมาได้อย่างเต็มที่
กล้องหลังของ OPPO F1 ก็จัดเต็มสมกับเป็น Camera Phone ด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสแบบ PDAF (Phase Detection Auto-Focus) จับภาพได้รวดเร็ว ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี ด้วยรูรับแสง f/2.2 และฟีเจอร์ที่จัดเต็มไม่แพ้รุ่นท็อป โหมดไหนรุ่นท็อปของ OPPO มี ก็สามารถหาได้ใน OPPO F1 เช่นกัน ส่วนกล้องหน้าของ OPPO F1 ไม่ต้องพูดอะไรมากครับ ยี่ห้อนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นเจ้าแม่เซลฟี่อยู่แล้ว
5. Huawei GR5 ราคา 8,990 บาท
รุ่นสุดท้ายในบทความแนะนำโทรศัพท์มือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท [มีนาคม 2016] ก็จะเป็นรุ่นไหนไปไม่ได้ นอกจาก Huawei GR5 มือถือที่เปิดตัวมาพร้อมๆ กับ Huawei Mate 8 โดย Huawei จัดให้ Huawei GR5 เป็นหนึ่งในเรือธงตัวทำตลาดกลางในปี 2016 ด้วยจุดเด่นเรื่องวัสดุตัวเครื่องที่ทำมาจากโลหะ, หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ขอบจอบางเฉียบ และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือระดับเทพ ที่สแกนนิ้วได้เร็วในเสี้ยววินาที แม้แต่นิ้วเปียกน้ำก็ยังสามารถสแกนนิ้วได้ แถมยังสามารถใช้งานเป็นทางลัดในการเข้าแอปพลิเคชันได้อีกต่างหาก
ส่วนสเปคของ Huawei GR5 แม้จะดูไม่แรงเท่ากับรุ่นอื่น เพราะให้ Ram มาเพียง 2 GB แต่ในการใช้งานจริง จากที่ได้รีวิว Huawei GR5 มาก็พบว่ามันเพียงพอต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี การจัดการทรัพยากรในเครื่องของ EMUI 3.1 ทำได้ดีมาก สามารถเล่นเกมได้แบบลื่นๆ และในขณะเดียวกันก็สามารถจัดการพลังงานได้เป็นอย่างดี