มือถือ Samsung 5G ราคาเริ่มต้นแค่หมื่นนิดๆ แถมได้สเปคแรง รุ่นไหนน่าใช้ในปี 2020

สำหรับมือถือ Samsung 5G ราคาเริ่มต้นแค่หมื่นนิดๆ ไปจนถึงราคาสูงๆ ในปี 2020 ก็มีรุ่นที่ทำออกมาให้ใช้งานอยู่หลายรุ่นพอสมควร และยังมีสเปคที่แรง รองรับทุกการใช้งานอีก หรือถ้าซื้อร่วมกับแพ็กเกจเน็ตจากค่ายต่างๆ ก็ยิ่งราคาค่าเครื่องได้อีกเยอะเลยด้วย ใครที่กำลังมองหามือถือที่รองรับการใช้งาน 5G ของ Samsung อยู่ในตอนนี้ ก็ลองมาดูกันได้เลยว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง

ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ การเชื่อมต่อแบบ 5G ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนที่ลองใช้งานแล้ว และยังคงไม่เห็นถึงความแตกต่าง หรือว่ายังไม่ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานมากนัก จึงทำให้การใช้เน็ต 5G ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่ถึงอย่างไรก็ตามโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนหลายๆ ยี่ห้อ และก็มีหลายรุ่นที่ทำออกมา ให้รองรับการใช้งานกับ 5G เพื่อให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ได้เข้าถึงความเร็วนี้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยี่ห้อสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung ที่ได้ทำมือถือ Samsung 5G ราคาเริ่มต้นแค่หมื่นต้นๆ ไปจนถึงระดับเรืองธงราคาสูงๆ เลย แถมสเปคแต่ละรุ่นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ใครที่มองหามือถือ 5G ของ Samsung อยู่ และยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อตัวไหนดี วันนี้ Specphone จะมาแนะนำมือถือ Samsung 5G ในแต่ละรุ่นให้ได้รู้กันว่ามีตัวไหนน่าสนใจ มีสเปคแบบไหน และมีราคาเท่าไหร่บ้าง ไปดูกันเลย

• Samsung Galaxy A42 5G
• Samsung Galaxy A71 5G
• Samsung Galaxy S20 FE 5G
• Samsung Galaxy S20 Ultra 5G
• Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G

ตารางเปรียบเทียบสเปคมือถือ Samsung 5G

มือถือ Samsung 5G

จากตารางด้านบนนั้น จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่น ก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ตามราคา และสเปคชิปเซ็ตของแต่ละตัว ที่มีความเร็ว และการใช้งานที่ไม่เหมือนกันด้วย ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และการใช้งานของตัวเองด้วย ว่าอยากใช้งานแบบไหน ใช้ทำอะไรเป็นหลัก แต่ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้อีก ลองไปดูสเปคลึกๆ กันได้เลยว่าแต่ละรุ่นเป็นยังไงบ้าง

1. Samsung Galaxy A42 5G

เริ่มกันที่รุ่นแรกกันเลย สำหรับมือถือ Samsung 5G ที่มีราคาถูกที่สุดแล้วก็ว่าได้ โดยรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวออกมาได้ไม่นานมากนัก แต่ก็เป็นรุ่นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ทั้งสเปคที่มาพร้อมความแรง และยังมีราคาที่ไม่สูงมากนัก รวมไปถึงดีไซน์ภายนอก ที่ทำออกมาได้สวยและน่าใช้งานเป็นอย่างมาก มีทั้งหมด 3 สีให้เลือกคือ Black, White และ Gray

สเปคและการดีไซน์ภายนอกนั้น จะใช้วัสดุเป็นพลาวติก พร้อมหน้าจอกระจกแข็ง และที่ทำให้รุ่นนี้ดูเด่นขึ้นมาก็คือ ลวดลายแบบ holographic ที่เมื่อโดนแสงกระทบแล้วจะสะท้อนแสงเป็นสีรุ้ง และแบ่งเลเยอร์ชั้นออกเป็น 4 ชั้น ช่วยให้ตัวฝาหลังดูเด่น และสวยงามเป็นอย่างมาก หน้าจอของรุ่นนี้ จะเป็นแบบ Super AMOLED ที่มีขนาดกว้าง 6.6 นิ้ว ใช้งานได้อย่างจุใจ จะดูหนัง หรือเล่นเกมก็สะดวก และยังเสริมความแรงให้เครื่องด้วย Snapdragon 750G มาพร้อมกับ GPU ของ Adreno 619 ที่เข้ามาช่วยเสริมให้เครื่องนี้เล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด แถมยังฟีเจอร์ Game Booster ที่ช่วยให้การเล่นเกมมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยจัดการพลังงานให้เหมาะกับการเล่นเกมของเรามากขึ้นด้วย

มาที่เรื่องกล้องของรุ่นนี้กันบ้าง ซึ่งตัวนี้ได้ทำกล้องหลังออกมาถึง 4 ตัว ความละเอียดเลนส์ไวลด์ 48MP อัลตร้าไวลด์ 8MP มาโคร 5MP และเลนส์ Depth 5MP หยิบขึ้นมาถ่ายตอนไหนก็ชัดแน่นอน แถมยังมีฟีเจอร์อีกหลายอย่างที่ใส่เข้ามาให้ได้เล่นกันด้วย ส่วนกล้องหน้ารุ่นนี้ มีความละเอียดอยู่ที่ 20MP ถ่ายมุมกว้างได้ด้วย ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่สนุกมากยิ่งขึ้น ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน และไม่ต้องกลัวว่าความจำของเครื่องจะเต็ม เพราะรุ่นนี้มี RAM ให้เลือก 2 รุ่นคือ 6GB กับ 8GB และมีหน่วยความจำเครื่อง 64GB กับ 128GB ใช้งานได้อย่างเต็มที่ไปเลย แบตเตอรี่ของรุ่นนี้ ก็ไม่ธรรมดา เพราะมีความจุมาให้มากถึง 5,000 mAh กันเลยทีเดียว พร้อมกับการรองรับ Fast Charging 15W ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชาร์จเร็วมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าชาร์จเต็มแล้วก็ใช้งานได้ทั้งวันแน่นอน รวมไปถึงการเชื่อมต่อได้ถึง 5G และรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด พร้อมกับรองรับ microSD การ์ดสูงถึง 1TB

ราคาของ Samsung Galaxy A42 5G มีราคาเปิดตัวเครื่องเปล่าอยู่ที่ 11,990 บาท หรือเมื่อซื้อร่วมกับแพ็กเกจ 5G ก็จะได้ลดราคาเครื่องสูงสุดเหลือเพียงราคาเครื่อง 6,490 บาทเท่านั้น (บนแพ็กเกจ 1,199 บาทขึ้นไป) ทั้งเครือข่าย AIS dtac และ truemove H ซึ่งก็ถือว่าคุ้มมากนะสำหรับรุ่นนี้ ที่มีราคาไม่แพงมากนัก แต่ได้ใช้งาน 5G แบบเต็มรูปแบบ ใครที่กำลังมองหามือถือ 5G ในราคาที่ไม่สูงมาก แต่ได้สเปคเทพ รุ่นนี้ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย (อ่านต่อ…รีวิว Samsung Galaxy A42 5G)

2. Samsung Galaxy A71 5G

มาถึงตัวต่อมากันเลย ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นรุ่นที่คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสเปคมาแรงสุดๆ บวกกับการรองรับการใช้งาน 5G จึงทำให้ A71 5G เป็นมือถือ Samsung 5G ที่น่าใช้งานที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งรุ่นนี้ได้อัพเกรดมาจากรุ่นเดิมคือตัว A71 ธรรมดาให้รองรับ 5G ได้ และยังเพิ่มสเปค และรูปแบบภายนอกให้น่าใช้งานมากขึ้นด้วย รุ่นนี้มีให้เลือก 3 สีคือ Silver, Black และ Blue

สเปคภายนอกของรุ่นนี้ จะใช้วัสดุเป็นเมทัลเฟรม และใช้ฝาหลังเป็นพลาสาติก ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น และดีกว่าตัว 4G พร้อมจอกระจก Corning Gorilla Glass 3 ขนาดตัวเครื่องกำลังดีไม่เทอะทะ ทำให้ถือใช้งานได้อย่างสะดวก แถมยังบางกว่าตัวเดิมด้วย และเพิ่มความแรงให้กับตัวเครื่องด้วยชิปเซ็ต Exynos 980 และใส่ชิปกราฟิก Mali-G76 MP5 ที่ให้ทั้งความเร็ว และยังสามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นสุดๆ เรื่องของหน้าจอจะเป็นแบบ Super AMOLED Plus ที่ความชัดระดับ Full HD+ ได้สีสันสวยงาม และมีความกว้าง 6.7 นิ้ว ใช้งานได้เต็มที่ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือดูหนังก็ใช้งานได้อย่างเต็มที่

มาที่เรื่องกล้องของรุ่นนี้กันบ้าง โดยกล้องของ A71 5G นั้นจะมีกล้องหลังถึง 4 ตัวที่ความละเอียดเลนส์ไวลด์ 64MP อัลตร้าไวลด์ 12 MP เลนส์ Depth 5MP และเลนส์มาโคร 5MP ถ่ายได้ชัดเจนสวยงาม ไม่ว่าจะถ่ายกลางวันหรือกลางคืน ก็สามารถถ่ายออกมาได้สวยงามมาก ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้หมด หรือจะถ่ายภาพย้อนแสง รุ่นนี้ก็ยังทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้ RAM 8GB กับหน่วยความจำสูงถึง 128GB ใช้งานได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวความจำเต็มก่อนเลย แบตเตอรี่ของตัวนี้จะมีความจุอยู่ที่ 4,500 mAh และรองรับ Super – Fast Charging มากถึง 25W ถือว่าชาร์จได้เร็วมาก ถึงแม้จะใช้งานอย่างหนัก และแบตหมดไวก็สามารถชาร์จใหม่ได้ไม่นาน แถมชิปของรุ่นนี้ก็ช่วยประหยัดพลังงานอยู่แล้วด้วย หายกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย

ราคาของ Samsung Galaxy A71 5G มีราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 19,990 บาท ซึ่งสามารถซึ่งร่วมกับแพ็กเกจได้ด้วย ซึ่งของ AIS มีราคาเครื่องพร้อมกับแพ็กเกจลดสูงสุดเหลือเพียง 9,490 บาทเท่านั้น แต่ต้องใช้งานร่วมกับแพ็กเกจราคา 1,199 ขึ้นไป ถ้าซื้อเครื่องและอยากใช้งาน 5G ไปด้วย จะซื้อแพ็กเกจไปด้วยเลยก็คุ้มอยู่เหมือนกัน หรืออยากซื้อเครื่องเปล่าราคาก็อยู่ที่กลางๆ ไม่ได้สูงมากนัก แต่ได้สเปคแรงยังไงก็คุ้มอยู่ดี ดูพรีวิวเครื่อง กดที่นี่

3. Samsung Galaxy S20 FE 5G

ยกระดับขึ้นมาอีกหน่อย กับมือถือ Samsung 5G รุ่นที่ทำออกมาเอาใจแฟนๆ ของ Samsung S20 โดยเฉพาะซึ่งรุ่นนี้จะมีตัวปกติ ที่ไม่ได้เป็น 5G ด้วย (อ่านต่อ…เปรียบเทียบ S20 FE) ซึ่งตัวนี้ทำออกมาได้อย่างลงตัว และน่าใช้งานมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีสเปคเท่ากับตัวพี่ใหญ่อย่าง S20 Ultra 5G แต่ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งดีไซน์ภายนอก และสเปคภายใน รุ่นนี้มีให้เลือกอยู่ 6 สีคือ White, Red, Green, Blue, Purple และ Orange

สเปคภายนอกของรุ่นนี้ จะใช้วัสดุเป็นพลาสติก แต่ทำขอบข้างรอบตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม เพิ่มความสวยงามให้กับตัวเครื่องเป็นอย่างมาก และยังได้ความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นด้วย แถมยังได้หน้าจอเป็นกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 กันน้ำและฝุ่นละอองได้ และ Refresh Rate 120Hz กับระบบสัมผัสสูงถึง 240Hz ถือว่าน่าใช้งานเป็นอย่างมาก ตัวนี้ได้ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 865 และชิปกราฟิก Adreno 650 เพิ่มความเร็วแรงในการใช้งานเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม หรือใช้ดูหนังฟังเพลงก็สามารถำได้ดีทั้งหมด หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบ Super AMOLED ความชัดระดับ HDR 10+ ความกว้าง 6.5 นิ้ว ขนาดกำลังดีไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป

กล้องของรุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดาเลย ถึงแม้ว่าจะเลนส์กล้องมาให้เพียง 3 ตัวแต่ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีความละเอียดเลนส์ไวลด์ 12MP อัลตร้าไวลด์ 12MP และเลนส์เทเลโฟโต้อีก 8MP ถ่ายได้ภาพสวยงามสบายๆ แต่ก็เหมือนรุ่นนี้ ไม่ได้เน้นเรื่องกล้องเท่าไหร่นักอยู่แล้วด้วย การถ่ายแบบทั่วไปก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ส่วนกล้องหน้านั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 32MP ถ่ายเซลฟี่ได้สนุกเต็มที่ ทั้งกลางวันและกลางคืน รุ่นนี้มี RAM 8GB แต่มีหน่วยความจำให้เลือก 2 รุ่นคือ 128GB และ 256GB ใช้กันได้อย่างต่อเนื่องเพราะมีแบตมาให้ 4,500 mAh พร้อมรองรับ Fast Charging สูงถึง 25W หายห่วงเรื่องการใช้งานได้เลย

ราคาของ Samsung Galaxy S20 FE 5G จะมีอยู่ 2 ราคาก็คือรุ่น ROM 128GB ราคา 23,900 บาท และรุ่น ROM 256GB จะมีราคา 25,900 บาท หรือถ้าซื้อพร้อมแพ็กเกจเน็ตของเครือข่าย truemove H ลดค่าเครื่องให้เหลือเพียง 8,900 บาทในรุ่นเริ่มต้น รวมไปถึงเครือข่าย dtac และ AIS ก็มีราคาพิเศษเมื่อซื้อร่วมกับแพ็กเกจเน็ตเช่นเดียวกัน ถ้าใช้งานพร้อมกับแพ็กเกจไปด้วย ก็จะยิ่งคุ้มมากขึ้นไปอีก

4. Samsung Galaxy S20 Ultra 5G

มาถึงรุ่นระดับเรือธงอย่างแท้จริงกันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นรุ่นสุดยอดกล้องเทพรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับมือถือ Samsung 5G แน่นอนว่าทั้งรูปแบบการดีไซน์ และสเปคนั้น ทำออกมาได้ดีเยี่ยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบทั่วไป หรือจะใช้งานเพื่อถ่ายรูป ที่เน้นมาเป็นพิเศษ จนตัวกล้องนั้นใหญ่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก็สามารถใช้ได้ดีหมดเลย มาพร้อมระบบกันน้ำ และกันฝุ่นที่ระดับ IP68 รุ่นนี้ทำออกมาให้เลือกกัน 2 สีคือ Black และ Gray

สเปคภายนอกตัวนี้ จะใช้วัสดุเป็น Metal ที่มีความเงาสะท้อน ทำให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น แต่อาจเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย ถ้าใส่เคสก็ไม่มีปัญหาแล้ว ทั้งปกป้องตัวเครื่อง และปกป้องตัวกล้องไปด้วยในตัว ส่วนหน้าจอนั้นจะเป็นแบบกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 6 เป็นแบบ Dynamic AMOLED ความชัดระดับ HDR 10+ ให้สีสันสวยงามสมจริงเป็นอย่างมาก และยังมีขนาดหน้าจอกว้างถึง 6.9 นิ้วเลยทีเดียว ใหญ่เต็มที่พร้อมรองรับการใช้งานทุกรูปแบบ กับการเป็นมือถือเรือธงอย่างแท้จริง รวมไปถึงความเร็วแรงของชิปเซ็ต Exynos 990 และชิปกราฟิก Mali G77 MP11 มาช่วยเสริมให้การใช้งานไหลลื่นมากยิ่งขึ้น พร้อมกับอัตรา Refresh Rate 120Hz

ส่วนเรื่องกล้องของรุ่นนี้มาอย่างเทพแน่นอน โดยมีกล้องหลังมาให้ถึง 4 ตัวคือเลนส์ไวลด์ 108MP อัลตร้าไวลด์ 12MP เลนส์เทเลโฟโต้ 48MP และอีกเลนส์เป็น TOF ซึ่งตัวกล้องหลักนั้นสามารถซูมแบบ Hybrid Optic ได้ถึง 10 เท่า และซูมแบบ Super Resolution Zoom ได้สูงสุดถึง 100 เท่าเลย แถมยังถ่ายวิดีโอได้สูงถึง 8K เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดกล้องอย่างแท้จริง ใครสายถ่ายรูปต้องไม่พลาดรุ่นนี้เลย ส่วนกล้องหน้านั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 40MP จะเซลฟี่แบบไหนก็สวยงามได้ทุกมุม รุ่นนี้มี RAM 12GB และมีหน่วยความจำเครื่อง 128GB หายห่วงเรื่องการใช้งาน เพราะสามารถใช้ได้ยาวๆ ทั้งวันกับความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Fast Charging สูงถึง 45W

ราคาเปิดตัวของ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G มีราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 39,990 บาท และตอนนี้ก็มีขายพร้อมแพ็กเกจของ dtac ลดราคาเครื่องเหลือเพียง 14,900 บาท เมื่อซื้อร่วมกับแพ็กเกจ 1,499 บาทขึ้นไป หรือของ truemove H ก็มีราคาลดลงเหลือ 16,900 บาทเมื่อเปิดเบอร์ใหม่ ถ้าซื้อตอนนี้ราคาพร้อมแพ็กเกจก็ถือว่าไม่ได้สูงมากเท่าไหร่แล้ว ใครที่อยากได้มือถือเรือธง ถ่ายภาพเทพๆ ในราคาพร้อมแพ็กเกจไม่เกิน 20,000 บาท รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลย กดดูรีวิว Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ที่นี่

5. Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G

มาถึงรุ่นสุดท้ายที่เราเอามาฝากกันแล้ว ซึ่งรุ่นนี้ถือว่าเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนของมือถือ Samsung 5G อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสเปคภายใน หรือดีไซน์ภายนอก ที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว รวมไปถึงกล้องที่สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา รวมไปถึง S-Pen ตัวเทพที่ทำออกมาได้เป็นอย่างดี พร้อมรองรับการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ รุ่นนี้มีให้เลือก 2 สีคือ Mystic Black และ Mystic Bronze

สเปคภายนอกของรุ่นนี้ จะใช้วัสดุเป็น Stainless Steel Frame ทั้งหมด ช่วยให้ตัวเครื่องมีสีสันที่โดดเด่น และเป็นเงางามมาก พร้อมกับกระจกหลังเป็น Gorilla Glass Victus และด้านหน้าเป็นกระจกแข็ง Gorilla Glass 7 ที่มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าตัวกล้องของรุ่นนี้จะมีโมดูลที่ใหญ่ แต่ถ้าใส่เคสแล้วก็จะลงตัวสวยงามแบบพอดีเลย หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X ขนาดความกว้าง 6.9 นิ้ว ที่ความละเอียด WQHD+ พร้อมกับอัตรารีเฟรชเรต 120Hz เสริมด้วยความเร็วแรงของชิป Exynos 990 และชิปกราฟิก Mali G77 MP11 มาช่วยให้การเล่นเกมและการใช้งานเป็นไปอย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุดเลย จุดเด่นอีกอย่างก็คงหนีไม่พ้น S-Pen ที่มีความหน่วงเพียง 9ms กับ AirAction ที่เพิ่มมาด้วย ช่วยให้การเขียน และการใช้งานร่วมกันดีขึ้นมากๆ  

เรื่องกล้องของรุ่นนี้กำออกมาได้เทพอีกเช่นกัน โดยมีกล้องหลังมาให้ 3 เลนส์กับความละเอียดกล้องหลักเลนส์ไวลด์ 108MP อัลตร้าไวลด์ 12MP และเทเลโฟโต้ 12MP ที่สามารถซูมได้ 50 เท่าพร้อมกับ Laser Autofocus รองรับการถ่ายวิดีโอได้สูงถึง 8K และยังมีการเก็บเสียงได้ละเอียดมากๆ ในโหมด Pro Video ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 10MP ซึ่งจะบอกว่าไม่ได้เน้นเรื่องกล้องมากนัก แต่ไปเน้นเรื่องการใช้งานอย่างอื่นก็คงไม่ผิดนัก รุ่นนี้จะมี RAM 12 GB และมีความหน่วยความจำให้เลือกอยู่ 2 รุ่นคือ 256GB และ 512 GB ใช้งานได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความจำเครื่องเลย ส่วนแบจมีความจุอยู่ 4,500 mAh รองรับ Fast Charging 25W

ราคาเปิดตัวของ Samsung 5G เรือธงรุ่น Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G มีราคาเครื่องเปล่าอยู่ 42,900 บาทในรุ่น 256GB และราคา 46,900 บาทในรุ่น 512 GB แต่ถ้าซื้อร่วมกับแพ็กเกจของ dtac จะลดเหลือเพียง 27,400 บาทเท่านั้นในรุ่นเริ่มต้น แต่ต้องใช่ร่วมกับแพ็กเกจ 1,499 บาทขึ้นไป รวมไปถึงค่าย truemove H ที่ลดลงมาเหลือเพียง 20,900 เมื่อย้ายค่ายเบอร์เดิมร่วมกับแพ็กเกจด้วย ส่วน AIS นั้นจะมีรุ่น 512GB ขายอยู่พร้อมแพ็กเกจเช่นกัน ใครที่อยากใช้งานอย่างเต็มที่ก็สามารถเลือกซื้อตัวสูงๆ ไปเลยก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ใช้อะไรมากนักจะเลือกซื้อพร้อมแพ็กเกจ ก็คุ้มค่าต่อการใช้งานแน่นอน อ่านพรีวิว Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G ได้ที่นี่

แล้วทั้งหมดนี้ ก็เป็นมือถือ Samsung 5G ราคาเริ่มต้นในรุ่นตัวเล็กอย่าง Samsung Galaxy A42 5G เพียง 11,990 บาทเท่านั้น ถ้าใครอยากใช้งานมือถือ Samsung 5H ในงบประมาณที่ไม่สูงมาก แต่ได้สเปคแรงๆ ก็เลือกซื้อได้เลย หรือจะเพิ่มสเปคขึ้นมาหน่อยในราคากลางก็สามารถซื้อรุ่น Samsung Galaxy A71 5G มาใช้งานได้เหมือนกัน ส่วนถ้าใครที่อยากยกระดับขึ้นมาใช้มือถือระดับเรือธง ก็อัพเกรดขึ้นมาเป็นรุ่น Samsung Galaxy S20 FE 5G ก็ใช้งานได้อย่างเทพแล้ว ส่วนอีกสองรุ่นเทพอย่าง Samsung Galaxy S20 Ultra 5G และ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G ที่มีราคาสูงขึ้นมาพร้อมสเปคสุดแรง แต่ถ้าซื้อพร้อมแพ็กเกจก็จะยิ่งได้ส่วนลดค่าเครื่องลงไปอีก ถ้าซื้อมาใช้งานร่วมกับเน็ตอยู่แล้ว ยังไงก็คุ้มค่าการใช้งาน แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ